วันนี้มาเอาใจสายวงสายหวานกันสักหน่อยค่ะ รับรองว่าถ้าใครที่เป็นสาวกพวกขนมหวานหรือเบเกอรี่ต่าง ๆ ต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะสูตรขนมหวานเหล่านี้ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ ขนาดว่าดิฉันเป็นคนไม่ได้เก่งในเรื่องอบขนมหรือสายของหวาน ยังสามารถนำมาดัดแปลงและทำได้เลยล่ะค่ะ แค่มีเตาอบไฟฟ้าสักเครื่องก็สามารถรังสรรค์ขนมต่าง ๆ ได้มากมายหลายเมนู ว่าแต่จะมีอะไรกันบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยจ้า
1. บราวนี่กร๊อบ กรอบ

หากเพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบเมนูบราวนี่แล้วล่ะก็ คงถูกใจเมนูนี้มาก ๆ เลยล่ะค่ะ แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่า บราวนี่สูตรนี้จะไม่ใช่สูตรแบบเค้กบราวนี่ หรือ บราวนี่หนุบหนับธรรมดา แต่จะเป็นบราวนี่แผ่นบางกรอบ ที่รับรองว่าต้องมีคนน้ำลายไหลแน่ ๆ เลยค่ะ
วัตถุดิบบราวนี่กรอบ
- ดาร์กช็อกโกแลต
- เนยจืด
- น้ำตาลทราย
- ผงโกโก้
- กลิ่นวานิลลา
- ไข่ไก่
- นมจืด
- น้ำ
- แป้งอัลมอนด์ หรือ แป้งสาลีอเนกประสงค์
- เบกกิ้งโซดา
- เกลือ
- อัลมอนด์ หรือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์สำหรับโรยหน้า
วิธีทำบราวนี่กรอบ
- นำเนย และดาร์กช็อกโกแลต ใส่ในชามสแตนเลส เพื่อจะนำไปตั้งบนหม้อที่ใส่น้ำร้อน เพื่อให้ช๊อกโกแลตละลาย คนให้ละลายดี
- เมื่อเนยและดาร์กช็อกโกแลตละลายดีแล้ว ให้นำไข่ไก่ 1 ฟอง ไข่ขาว น้ำตาล เกลือ ใส่ในชามผสม และคนให้ทุกอย่างเข้ากันจนกระทั่งน้ำตาลทรายละลายดี จากนั้นค่อยใส่กลิ่นวานิลาเพิ่มความหอม หรือหากเพื่อน ๆ จะไม่ใส่ก็ได้นะคะ
- ทำการร่อนแป้งอัลมอนด์หรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ เบกกิ้งโซดา และผงโกโก ลงไปคนให้เข้ากันในอ่างผสมในขั้นตอนที่สอง
- นำส่วนผสมบราวนี่ใส่ลงในถาด เกลี่ยให้บาง ๆ เท่า ๆ กันทั่วทั้งถาด แล้วก็โรยอัลมอนด์ป่น หรือ เม็ดมะม่วงหิมพานด์ป่นลงไปตามชอบเลยค่ะ
- นำเข้าอบไฟบนและล่าง ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 – 7 นาที ขึ้นอยู่กับเตาอบแต่ละยี่ห้อ
- นำออกมาตัดแบ่งในขณะร้อนอยู่ตามขนาดที่ต้องการ และนำเข้าไปอบต่อประมาณ 15 – 20 นาที
เคล็ดลับ:
- หากเพื่อน ๆ กังวลว่าตัวบราวนี้จะติดบนถาดขนม ให้ใช้กระดาษไขรองอบ หรือ แผ่นซิลิโคนรองอบ จะช่วยให้ตัวบราวนี่ไม่ติดถาดขนมค่ะ
- ตัดบราวนี่ขณะร้อน ๆ นะคะ จะช่วยให้ตัดง่าย และบราวนี่ของเราจะไม่แตกค่ะ
2. มัฟฟินข้าวโอ๊ต

เมนูนี้เอาใจสาว ๆ ที่รักสุขภาพ แต่ก็ไม่สามารถตัดของหวานไปจากชีวิตได้เหมือนดิฉัน อิอิ สูตรนี้ทำง่ายมาก ๆ แถมวัตถุดิบก็หาไม่ยาก และ ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง ก็สามารถอบมัฟฟินข้าวโอ๊ตได้แล้วล่ะค่ะ ไปเตรียมส่วนผสมกันเลยจ้า
วัตถุดิบมัฟฟินข้าวโอ๊ต
- ข้าวโอ๊ต
- กล้วยหอมสุก
- นมจืด
- ไข่ไก่
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- ผงฟู
- ดาร์กช็อกโกแลต หรือ ไวท์ช็อกโกแลตสำหรับโรยหน้า
วิธีทำมัฟฟินข้าวโอ๊ต
- นำกล้วยหอมสุก ๆ มาบดให้ละเอียดด้วยส้อม
- นำข้าวโอ๊ตลงไปผสมกับกล้วยหอมที่บดละเอียด
- เทนมจืดลงในอ่างผสม ใส่น้ำตาล เกลือ ผงฟู และคนให้ละลายเข้ากันดี แล้วใส่ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน
- จากนั้นนำส่วนผสมจาก ขั้นตอนที่ 3 ค่อย ๆ เทใส่ลงในส่วนผสมขั้นตอนที่ 2 จากนั้นคนให้เข้ากัน เทใส่ถาดหลมมัฟฟิน ใช้กระดาษคัพเค้กสำหรับอบ หรือ พิมพ์ซิลิโคนรอง โรยหน้าด้วยดาร์กช๊อกโกแลต หรือ ไวท์ช๊อกโกแลตตามใจชอบ
- เข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบประมาณ 15 – 20 นาที
- นำออกจากเตาอบ รอให้เย็น แล้วค่อยแกะออกจากพิมพ์ค่ะ
3. คุกกี้ธัญพืชคอนแฟลกซ์

เมนูนี้ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แถมยังเก็บไว้รับประทานได้นาน อีำทั้งยังไม่มีแป้งเป็นส่วนผสม มากวนใจสำหรับคนที่กำลังควบคุมอาหาร แต่ใช้อาหารเช้าซีเรียสอย่างคอนแฟลกซ์แทนค่ะ
วัตถุดิบ
- อัลมอนด์
- เม็ดมะม่วงหิมพานด์
- เมล็ดทานตะวัน
- งาขาว
- งาดำ
- ลูกเกด
- ถั่ว
- ผลไม้อบแห้งตามชอบ
- น้ำผึ้ง
- ไข่ขาว
- เกลือป่นเล็กน้อย
วิธีทำคุกกี้ธัญพืชคอนแฟลกซ์
- นำคอนแฟลกซ์ ธัญพืชและผลไม้อบแห้งทุกอย่างลงใส่ชามผสม คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- นำน้ำผึ้งเทลงไปผสมเพื่อเพิ่มรสชาติ เติมเกลือป่นเล็กน้อย คนให้เข้ากัน
- ใส่เฉพาะไข่ขาวลงไปในชามผสม คนให้เข้ากัน นำมาอัดใส่พิมพ์ตามรูปต่าง ๆ ที่เพื่อน ๆ ชอบ
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 130 องศาเซลเซียสด้วยไฟบนล่าง เป็นเวลา 15 – 20 นาที
- คุกกี้ที่อบเสร็จแล้ว ควรพักจนเย็นสนิท แล้วรีบแพ็คใส่กล่องหรือภาชนะ และปิดฝาอย่างมิดชิด
เคล็ดลับ:
- หากต้องการจะเก็บคุ้กกี้ไว้รับประทานนาน ๆ ก้สามารถนำไปแช่ตู้เย็น จะเก็บได้นานเป็นอาทิตย์เลยค่ะ
- ถ้าคุกกี้ไม่กรอบหรือกรอบน้อย สามารถนำไปอบรอบสองได้ แต่ต้องรอให้รอบแรกเย็นสนิทก่อน
- เพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยนธัญพืชหรือผลไม้อบแห้งตามความชอบความโปรดปรานได้เลยค่ะ
4. เค้กโรลใบเตย

เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งขนมหวาน ที่ดิฉันโปรดปรานมาก ๆ ทำกี่โรลก็ฟาดเรียบจริง ๆ ค่ะ ด้วยเนื้อเค้กที่ละมุน และวิปครีมสดที่ตีเอง สอดไส้ในเค้กโรลไปอีก คิดแล้วก็อยากกิ๊น อยากกินมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
วัตถุดิบเค้กโรลใบเตย ส่วนผสมส่วนที่ 1
- ไข่แดง
- แป้งเค้ก
- ผงฟู
- น้ำใบเตยคั้น
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- น้ำมันพืช
วัตถุดิบเค้กโรลใบเตย ส่วนผสมส่วนที่ 2
- ไข่ขาว
- ครีมออฟทาร์ทาร์ หรือ น้ำมะนาว
- น้ำตาลไอซิ่ง
วัตถุดิบเค้กโรลใบเตย ส่วนผสมส่วนที่ 3
- วิปปิ้งครีม
- น้ำตาลทราย
วิธีทำเค้กโรลใบเตย
- ทำการร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ และคนให้เข้าด้วยกัน พักรอ
- ใส่ไข่แดงแลน้ำตาลทรายลงในชามผสม ใช้ตะกร้อมือค่อย ๆ ผสมให้ไข่แดงและน้ำตาลทรายละลายเข้าด้วยกัน
- ใส่น้ำใบเตยคั้นสด น้ำมันพืช ลงในส่วนผสมขั้นตอนที่ 2 คนผสมให้เข้ากันดี
- ร่อนแป้งจากขั้นตอนที่ 1 ลงไป และคนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันดี พักรอไว้
- เตรียมส่วนผสมส่วนที่ 2 โดยการตีไข่ขาว ครีมออฟทาร์ทาร์หรือน้ำมะนาว และน้ำตาลทรายลงไปตีให้ไข่ขาวฟูตั้งยอดด้วยตะกร้อตีไฟฟ้า
- แบ่งส่วนผลมของไข่ขาวที่ตีไว้เป็น 2 – 3 ส่วน เพื่อนำไปผสมกับส่วนผสมของไข่แดงที่พักไว้ แล้วใช้ไม้พายค่อย ๆ ตะล่อม ๆ ให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ถาดที่รองด้วยกระดาษไข และเกลี่ยให้หน้าเรียบเสมอกัน
- นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 – 20 นาที
- ยกขนมออกจากถาด วางคว่ำพักไว้บนตะแกรง แล้วค่อย ๆ เอากระดาษไขออก ทิ้งไว้ให้ตัวขนมเย็น
- เตรียมส่วนผสมส่วนที่ 3 โดยตีวิปปิ้งครีมสดและน้ำตาลไอซิ่งจนเป็นเนื้อเดียวและตั้งฟู
- นำวิปครีมที่ได้ มาปาดลงบนเค้ก แล้วม้วนเป็นโรล จากนั้นนำเข้าตู้เย็นให้เซ็ตตัว
- นำออกมาจากตู้เย็นแล้วตัดเสิร์ฟเป็นชิ้นขนาดตามต้องการ
5. โดนัทอบ

หากใครที่กำลังหลีกเลี่ยงของทอดแล้วล่ะก็ ลองมาใช้วิธีอบดู ก็อร่อยไม่แพ้กัน อย่างเช่นเมนูขนมโดนัท ที่หลาย ๆ คนคงชื่นชอบ สูตรนี้ทั้งหอมทั้งนุ่ม ชวนละมุนลิ้นสุด ๆ เลยค่ะ
วัตถุดิบโดนัทอบ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์
- ไข่ไก่
- น้ำตาลทราย
- กลิ่นวานิลลา
- ผงโกโก้
- นมจืด
- น้ำมันพืช
- เนยเค็มละลาย
- ผงฟู
- เจลตกแต่งหน้าโดนัท
วิธีทำโดนัทอบ
- ตอกไข่ไก่ใส่ลงในชามผสม แล้วตามด้วยน้ำตาลทราย ตีกับตะกร้อมือไฟฟ้า จนน้ำตาลทรายละลายดี
- เทนมจืดลงไปในส่วนผสมขั้นตอนที่ 1 ตีให้เข้ากันดี
- ใส่น้ำมันพืช และ เนยเค็มละลายลงไป ตีให้เข้ากัน
- จากนั้นร่อนแป้งอเนกประสงค์และผงฟูลงไป ตีให้เข้ากัน
- ใส่กลิ่นวานิลลา หรือผงโกโก้ โดยการแบ่งแป้งเป็นสองส่วน แยกใส่วานิลลา หรือ ผงโกโก้ตามชอบ ตีจนเข้ากัน
- นำมาใส่ถาดพิมพ์รูปโดนัท แล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 – 20 นาที
- นำแกะออกจากพิมพ์ ตกแต่งหน้าโดนัทตามชอบ
6. เค้กมัพฟินกล้วยหอม

เค้กมัพฟินกล้วยหอมสูตรนี้ ไม่ทำไม่ได้แล้วล่ะค่ะ เพราะพอเอาออกจากเตาอบปุ๊บ ก็ชวนน้ำลายไหลปั๊บ ซึ่งวิธีทำง่าย ๆ แถมเป็นเมนูที่บ้านไหนมีเด็ก ๆ ก็สามารถใช้เวลาทำด้วยกัน ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวด้วยล่ะค่ะ
วัตถุดิบเค้กมัพฟินกล้วยหอม
- กล้วยหอมสุก
- ไข่ไก่
- น้ำตาลทราย
- เนยละลาย
- กลิ่นวานิลลา
- แป้งเค้ก
- เกลือ
- ผงฟู
- เบกกิ้งโซดา
- ผลไม้อบแห้ง ตกแต่งหน้ามัฟฟิน
วิธีทำเค้กมัพฟินกล้วยหอม
- ใช้ส้อมบดกล้วยหอมสุกให้ละเอียด พักไว้
- ตอกไข่ลงไปในชามผสม และใส่กล้วยหอมบดลงไป ตีให้เข้ากัน
- ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น เนยละลาย และกลิ่นวานิล คนให้เข้ากันดีจนน้ำตาลทรายละลาย
- ร่อนแป้งเค้กใส่ลงไป ตามด้วยผงฟู และเบกกิ้งโซดา คนให้ส่วนของเหลวและของแห้งให้เข้ากัน
- นำส่วนผสมเทใส่ลงพิมพ์จนเกือบเต็ม โรยหน้าด้วยผลไม้อบแห้งตกแต่ง เช่น ลูกเกด แครนเบอรี่
- นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25 นาที
- พักให้เย็นสักครู่ รับประทานได้เลยค่ะ
เคล็ดลับ
- ใส่กลิ่นวานิลลาไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความหอม แต่ยังดับกลิ่นคาวของไข่ไก่ค่ะ
7. คุกกี้ช็อกโกแลตไร้แป้ง

ถ้าจะไม่พูดถึงเจ้าขนมแสนอร่อยอย่างคุกกี้เนี่ย คงไม่ใช่ทางสายหวานที่แท้ทรูใช่มั้ยล่ะค่ะ แต่คุ้กกี้ช็อกโกแลตสูตรนี้เอาใจคนลดหุ่นนะคะ เพราะเราจะใช้แป้งอัลมอนด์แทนแป้งสาลีอเนกประสงค์ และใช้น้ำตาลหญ้าหวาน ซึ่งคนที่กำลังลดน้ำหนักแบบคีโตอยู่ ก็สามารถนำไปลองทำได้อีกด้วยล่ะค่ะ
วัตถุดิบคุกกี้ชอกโกแลตไร้แป้ง
- เนยจืด
- น้ำตาลหญ้าหวาน
- เกลือ
- แป้งอัลมอนด์ หรือ แป้งมะพร้าว
- วานิลลา
- ถั่วแอลมอนด์สำหรับตกแต่ง
- ผงคาคาว
วิธีทำคุกกี้ชอกโกแลตไร้แป้ง
- นำเนยจืดมาตีด้วยตะกร้อไฟฟ้าให้เนียน
- เติมน้ำตาลหญ้าหวานลงไป ตีให้เข้ากัน
- ใส่แป้งอัลมอนด์ กลิ่นวานิลลา เกลือ และผงคาคาวลงไป ตีให้เข้ากัน
- นำมาปั้นใส่ถาด ตกแต่งด้วยถั่วอัลมอนด์
- นำเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 – 15 นาที
- รอให้เย็น แพ็คใส่กล่องหรือภาชนะ ปิดฝาให้มิดชิดค่ะ
8. ชีสเค้กแมกคาเดเมียคาราเมล

ถ้าพูดถึงชีสเค้กแล้วล่ะก็ ดิฉันคนหนึ่งล่ะค่ะที่โปรดปรานเป็นอย่างมาก ถึงมากที่สุด จนต้องบอกตัวเองว่า น้ำหนักเพิ่มไม่กลัว แต่กลัวไม่ได้กลิ่นของอร่อย สูตรนี้จะบอกเลยว่าอร่อย หวานน้อย และที่สำคัญชีสเค้กกับตัวทอปปิ้งอย่างแมคคาเดเมียคาราเมล มันช่างเข้ากันเหลือเกินค่ะคุณขา เอาเป็นว่าตามไปดูวัตถุดิบและวิธีการทำเลยดีกว่าค่ะ
วัตถุดิบของ ทอปปิ้งแมคคาเดเมียคาราเมล
- ถั่วแมคคาเดเมีย
- น้ำตาลทราย
- วิปปิ้งครีม
- เนย
- น้ำเปล่า
วัตถุดิบ ส่วนผสมฐานของชีสเค้ก
- แครกเกอร์
- เนยละลาย
- น้ำตาลไอซิ่ง
วัตถุดิบ ตัวชีสเค้ก
- ครีมชีส
- โยเกิร์ต
- ไข่ไก่
- น้ำตาลทราย
- กลิ่นวานิลลา
วิธีทำ ชีสเค้กแมกคาเดเมียคาราเมล
- เริ่มด้วยทอปปิ้งกันก่อนเลยค่ะ ใส่น้ำตาลทรายและน้ำลงในหม้อ เปิดไฟอ่อน คนให้ละลาย และเคี่ยวจนได้เป็นสีคาราเมล จากนั้นให้ใส่เนยและวิปปิ้งครีมลงไป คนเร็ว ๆ แล้วใส่ถั่วแมคคาเดมียลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้
- ทำฐานชีสเค้ก: นำแครกเกอร์ใส่ในถุงซิปล็อค ตีให้ละเอียด จากนั้นเทใส่อ่างผสม ใส่เนยละลาย และน้ำตาลไอซิ่งลงไป แล้วนำไปอัดในพิมพ์เค้ก นำเข้าตู้เย็น
- ตัวชีสเค้ก
- นำครีมชีส น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลามาใส่ในชามผสม ตีให้เข้ากัน
- นำไข่ไก่มาเทใส่ลงในส่วนผสมในขั้นตอนที่ 1 ตีให้เข้ากัน
- ใส่โยเกิร์ตลงไปในครีมชีสของขั้นตอนที่ 2 แล้วตีให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำลงใส่ในพิมพ์เค้กที่เราทำฐานแครกเกอร์ไว้ แล้วนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซีนส ประมาณ 45 นาที หรือจนกกว่าขนมจะเซ็ตตัวดี นำเข้าตู้เย็นให้เซ็ตตัว
- นำชีสเค้กที่เซ็ตตัวแล้ว มาทอปปิ้งด้วยแมคคาเดเมียคาราเมลที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1 และนำเข้าตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
- ตัดเสิร์ฟ พร้อมลิ้มลองความอร่อยกันเลยค่ะ
9. ขนมปังไส้กรอก

ขนมปังไส้กรอก ที่เป็นเมนูล่อตาล่อใจให้กับเด็ก ๆ นี้นั้น ก็ถูกใจผู้ใหญ่อย่างเราไม่น้อยเช่นกันค่ะ ด้วยสูตรนี้ แป้งจะมีผิวเนียน เหนียวนุ่ม เป็นเงา และเก็บไว้ได้นานอีกด้วย ซึ่งอาจจะใช้เวลาในการทำ แต่แน่นอนค่ะว่า อร่อยคุ้มค่ากับการรอคอยอย่างแน่นอนจ้า
วัตถุดิบขนมปังไส้กรอก
- แป้งขนมปัง
- แป้งเค้ก
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- ยีสต์แห้งสำเร็จรูป
- ไข่ไก่
- นมสด
- เนยจืดละลาย
- ไส้กรอก
- น้ำมันพืช
วิธีทำขนมปังไส้กรอก
- นำแป้งขนมปัง แป้งเค้ก น้ำตาลทราย เกลือ และยีสต์ เทลงในอ่างผสม โดยให้ยีสต์อยู่ห่างจากเกลือ ผสมของแห้งให้เข้ากัน
- ใส่ไข่ไก่และนมสดลงในส่วนของแห้งในขั้นตอนที่ 1 จากนั้นคนให้เข้ากันจนเป็นก้อนเดียวกัน พักแป้งไว้ประมาณ 20 -30 นาที
- เกลี่ยแป้งและนวดไปมา จากนั้นเทเนยจืดละลาย คนผสมให้เนยและแป้งซึมเข้ากันดี
- นวดและฟาดแป้งสลับไปมาจนแป้งเนียน เด้ง และดึงเป็นฟิล์มบาง ๆ ได้
- เตรียมภาชนะ ทาน้ำมันพืชบาง ๆ แล้วพักแป้งไว้ 1 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งขึ้นรูปเป็น 2 เท่า
- หลังจากพักแป้งเสร็จแล้ว ก็นำออกมากด เพื่อไล่ฟองอากาศออก
- แบ่งแป้งเป็น 6 ก้อนเท่า ๆ กัน
- นำมานวดและขึ้นรูปตามต้องการ จากนั้นพักแป้งไว้อีก 10 – 15 นาที
- จากนั้น นำแป้งแต่ละก้อนมาคลีงให้บาง เอาด้านหน้าเรียบคว่ำลง ใส่ไส้กรอก แล้วโรล เก็บตะเข็บให้เรียบร้อย พักแป้ง 40 นาที
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 – 18 นาที
- นำออกจากเตา ทาด้วยเนยขณะยังร้อน ๆ และเตรียมพร้อมรับประทานค่ะ
เคล็ดลับ:
- ก่อนนำเข้าอบ ทาด้วยไข่แดงผสมนมสด เพิ่มเงาให้กับขนมปังค่ะ
10. ขนมปังกรอบเนยน้ำตาล

เมนูที่ทั้งหอมเนย หอมน้ำตาล อย่างขนมปังกรอบเนยน้ำตาลนี้ คงเป็นเมนูที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน ซึ่งจะบอกว่าเป็นเมนูที่ง่ายที่สุดในบรรดาทุกเมนูที่เอามาฝากในวันนี้ แถมเก็บไว้รับประทานได้นานมาก ๆ แต่แปลกจังที่ดิฉันไม่เคยเก็บไว้ได้นานเลย เพราะรับประทานหมดเร็วมาก ๆ นั่นเองล่ะค่ะ เลยไม่ได้เหลือเก็บไว้ได้นานซักกะที อิอิ
วัตถุดิบขนมปังกรอบเนยน้ำตาล
- เนยสด
- น้ำตาลทราย
- ขนมปังแผ่นบาง
วิธีทำขนมปังกรอบเนยน้ำตาล
- นำขนมปังมาเรียงใส่ถาด และนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบประมาณ 10 นาที
- ผสมเนยสด และ น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน
- นำขนมปังที่อบเสร็จแล้วมาทาด้วยเนยน้ำตาลที่ผสมไว้ให้ทั่วแผ่น
- นำขนมปังที่ทาหน้าแล้วเรียงใส่ถาดและเข้าอบอีกครั้งที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที
- อบเสร็จ พร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับ:
- การนำขนมปังไปอบในรอบแรกนั้นเพื่อเป็นการไล่ความชื้นของขนมปัง และจะทำให้ขนมปังกรอบนานขึ้นนั่งเองจ้า
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับเมนูขนมหวานที่เราแนะนำกันไป ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ? สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเมนูขนมหวานอื่น ๆ เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของเรา แน่นอนว่าค่ะว่าเรามีมาฝากกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น เมนูขนมหวานจากไมโล, เมนูขนมหวานจากกาแฟ, ขนมหวานคลายร้อน, ขนมหวานคีโต, ขนมหวานไร้แป้ง, ขนมหวานไม่ง้อใช้เตาอบ, เมนูจากขนมปังแผ่น และเมนูขนมไทย สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ