ลาก่อน เพื่อน ครู และโรงเรียน ความสะดวกสบายที่คุ้นเคย
จากข่าวครูพี่เลี้ยงที่ทำร้ายเด็กนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่เป็นกระแสอยู่ไม่น้อยในตอนนี้ทำให้ผู้ปกครองของเด็กที่ถูกครูทำร้ายต้องการที่จะย้ายโรงเรียน หรือในบางกรณีก็อาจจะมีความจำเป็นในการย้ายออกจากโรงเรียน อาจจะด้วยเหตุของหน้าที่ทางการงานหรือการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ใหม่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดในบางครั้งการที่ต้องให้ลูกย้ายโรงเรียนตามด้วยนั้นอาจจะเป็นการสร้างความกังวลให้แก่เด็ก ๆ โดยไม่รู้ตัว เพราะคงไม่มีใครชอบที่จะเริ่มต้นเข้าสังคมใหม่ตลอดจริงไหมคะ? อีกทั้งคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าลูก ๆ ของคุณจะรู้สึกโอเคกับสถานการณ์ที่ต้องเปลี่ยนแปลงกระทันหันเหล่านี้หรือไม่? หลังจากย้ายไปแล้วเด็ก ๆ ต้องปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ สังคมใหม่ ซึ่งเขาอาจพบว่าตัวเองล้าหลังเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ เด็กหลายคนกังวลเกี่ยวกับการเป็น “เด็กใหม่” และบางคนพบว่าการหาเพื่อนใหม่นั้นเป็นเรื่องยาก
สำหรับครอบครัวข้าราชการ, ทหาร, ตำรวจ, ครู หรือครอบครัวที่พ่อแม่ต้องย้ายที่ทำงานไปในต่างจังหวัดบ่อยครั้งนั้น มีความท้าทายอย่างมากสำหรับเด็กๆ เขามักจะรู้สึกโดดเดี่ยวจากคนรอบ สับสน ต่อต้านต่อการเปลี่ยนแปลง และรู้สึกเครียดกับการไปโรงเรียนใหม่ ดังนั้นหากบุตรหลานของคุณย้ายโรงเรียนสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณทำได้คือเตรียมบุตรหลานให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง คุณสามารถทำได้โดยให้บุตรหลานของคุณมีส่วนร่วมมากที่สุดในกระบวนการย้ายโรงเรียน สิ่งนี้จะช่วยให้บุตรหลานของคุณมองเห็นแง่มุมที่น่าตื่นเต้น เขาจะมีความสุขมากขึ้นถ้าเขารู้ว่าความต้องการของเขาได้ถูกตอบสนองและให้ความสำคัญ
สอนลูกให้ยอมรับการเปลี่ยนแปลง
เคล็ดลับในการทำให้ลูกมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง มีดังนี้
- บอกลูกก่อนล่วงหน้า
ถ้าเป็นไปได้ควรคุยเรื่องการย้ายโรงเรียนกับลูกของคุณก่อนล่วงหน้า อย่าย้ายโรงเรียนโดยไม่ได้บอกให้ลูกรู้ เพราะจะทำให้เขาสับสนเป็นอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขา ทำไมต้องย้ายโรงเรียน - สร้างบรรยากาศ
ตัวคุณเองต้องมีความกระตือรือร้นในการย้ายด้วย (กรณีที่ต้องย้ายถิ่นฐาน) - ให้ลูกบอกสิ่งคาดหวังในที่ใหม่
ให้บุตรหลานของคุณพูดคุยถึงสิ่งที่เขาคาดหวังในการย้ายไปโรงเรียนใหม่ - ให้ลูกบอกสิ่งกังวลในใจ
ให้บุตรหลานของคุณพูดคุยถึงสิ่งที่เขากำลังกังวล ใช้เวลาเพื่อหารือพูดคุยเกี่ยวกับข้อกังวลที่เขามีในแต่ละข้อ เพื่อที่ตัวคุณจะได้ช่วยหาทางแก้ไข คลายความกังวลให้ลูก - หาข้อมูล
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนในพื้นที่ที่คุณกำลังจะย้ายไป ทำรายชื่อโรงเรียนและให้ลูกของคุณดู หากลูกของคุณโตพอที่จะรู้เรื่อง ก็ให้พูดคุยเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของแต่ละโรงเรียน และถ้าเป็นไปได้คุณควรเข้าไปเยี่ยมชมโรงเรียนพร้อมกับบุตรหลานของคุณ - หาเพื่อนใหม่ให้ลูก
ลองสอบถามว่ามีเด็กคนอื่นที่จะย้ายไปเรียนโรงเรียนเดียวกับลูกของคุณหรือไม่ พยายามหาโอกาสให้ลูกของคุณพูดคุยกับเด็กเหล่านี้ คุณอาจนัดลูกของคุณไปโรงเรียนพร้อมกับเด็กเหล่านี้ในวันแรก - ขอคำแนะนำ
หากคุณรู้จักครอบครัวหรือเพื่อนที่เพิ่งย้ายไปโรงเรียนนี้ ขอคำแนะนำจากพวกเขาเพื่อแบ่งปันประสบการณ์กับลูกของคุณ
วิธีเตรียมตัวก่อนย้ายโรงเรียนให้ลูก
คุณอาจจะต้องเขียนรายการที่คุณต้องทำเกี่ยวกับการย้ายโรงเรียน จากนั้นคุณสามารถติ๊กถูกเมื่อคุณทำเสร็จ มาดูกันค่ะว่ามีรายการอะไรบ้าง
1. จัดการกับโรงเรียนเก่าของลูก
- ทำเรื่องลาออก / ย้ายโรงเรียน โดยเข้าไปพูดคุยกับผู้อำนวยการ / ครูใหญ่ และครูของโรงเรียนที่ลูกของคุณกำลังจะออก
- จัดทำแฟ้มผลงานของบุตรหลานเพื่อนำไปโรงเรียนใหม่
- ทำสมุดบันทึกเกี่ยวกับกิจกรรม และความทรงจำ (สมุดเฟรนชิป) จากโรงเรียนเก่าของลูกของคุณ
- ทำรายชื่อและเบอร์ติดต่อของเพื่อนจากโรงเรียนเก่าและเพื่อนบ้าน (หากต้องย้ายที่อยู่ด้วย) ของลูกของคุณ
- ให้ที่อยู่บ้านใหม่ของคุณกับผู้ปกครองของเพื่อนสนิทของบุตรหลาน หากลูกโตพอก็สามารถติดต่อกันได้ทางอีเมล ข้อความหรือโซเชียลมีเดียได้
- อาจจะจัดงานปาร์ตี้อำลาเล็กๆ รวมตัวกันเฉพาะเพื่อนสนิทของลูก
- ให้ชุดเครื่องแบบเก่าของลูกกับเพื่อนๆโรงเรียนเก่า
2. จัดการกับโรงเรียนใหม่ของลูก
- สมัครเข้าโรงเรียนใหม่ โดยเข้าไปพูดคุยกับผู้อำนวย / ครูใหญ่ ของโรงเรียนใหม่ คุณสามารถสอบถามเกี่ยวกับกิจกรรมของโรงเรียน ที่สามารถช่วยให้เด็กใหม่ปรับตัวเข้ากับโรงเรียน เพื่อนได้เร็วขึ้น เช่น ระบบเพื่อนช่วยเพื่อน, ชุมนุม เป็นต้น
- ซื้อเครื่องแบบชุดนักเรียนและหนังสือใหม่ (หากจำเป็นต้องซื้อ)
- เดินสำรวจไปบริเวณรอบๆ อาคารของโรงเรียนใหม่กับบุตรหลานของคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกของคุณได้รับรู้ว่าแผนผังโรงเรียนเป็นอย่างไร และจุดสำคัญแต่ละที่ เช่น โรงอาหาร,ห้องน้ำ ,ห้องพักครู, ห้องสมุด เป็นต้น อยู่ที่ไหน คุณและลูกของคุณอาจใช้เวลาสักหนึ่งวันในโรงเรียนก่อนที่ลูกคุณจะเริ่มเรียนวันแรก
- เข้าสำรวจชมสถานดูแลเด็กหลังเลิกเรียน (หากบุตรหลานของคุณจะต้องใช้บริการ)
- ต้องแน่ใจว่าบุตรหลานของคุณรู้วิธีเดินทางไปและกลับจากโรงเรียน เช่นคุณจะไปรับและส่งเขา โดยใช้เส้นทางไหน หากเขาเดินทางไปเอง ต้องไปอย่างไร หรือป้ายรถประจำทาง หรือสถานีรถไฟอยู่ที่ไหน
- พูดคุยกับเพื่อนบ้านใหม่ หรือครูคนใหม่ของลูก บางทีลูกของคุณอาจพบเพื่อนร่วมชั้นใหม่ก่อนวันแรกที่จะไปโรงเรียน
- หากภาษาไทยไม่ใช่ภาษาแรกของลูก ให้ถามโรงเรียนเกี่ยวกับโปรแกรมที่จะช่วยสนับสนุนด้านภาษาของเขาได้
- หากลูกของคุณมีเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (โรคออทิสติกหรือความพิการ เป็นต้น) ให้พูดคุยกับโรงเรียนใหม่เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงการที่มีสามารถสนับสนุนช่วยเหลือลูกของคุณ
วิธีช่วยเหลือลูกหลังจากย้ายโรงเรียน
เมื่อคุณย้ายที่อยู่แล้ว พยายามหาเวลาเพื่อช่วยให้บุตรหลานของคุณปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ของเขาด้วย โดยมีแนวคิดมาแนะนำดังนี้
- พบกับผู้อำนวยการ / ครูใหญ่ ครู หรือผู้ประสานงานของโรงเรียน คุณอาจจะต้องขอเข้าพบครูเพื่อสอบถามถึงการปรับตัวของลูก และเรื่องอื่นๆที่คุณกังวล
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกมีอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่ต้องใช้ในโรงเรียนครบหรือยัง เช่น ชุดกีฬาในวันกีฬาสี, ชุดกิจกรรมพิเศษ ชุดลูกเสือ, ชุดเนตรนารี,ชุดยุวกาชาด เป็นต้น รวมถึงหนังสือเรียน, ปากกา, สมุด, ดิอสอกด, ยางลบ, สีไม้, แฟ้มใส่กระดาษ และกระเป๋านักเรียนตามกฎของโรงเรียนหรือกระเป๋าลากล้อสำหรับเด็กก็ได้ค่ะ
- หากเป็นไปได้ขอสำเนาตารางเรียนรายสัปดาห์ของลูกเพื่อให้ทั้งครอบครัวรู้ว่าจะมีกิจกรรมอะไรและลูกของคุณต้องการอะไรในแต่ละวัน
- หาข้อมูลเกี่ยวกับโรงอาหาร, ห้องสมุด ,สนามกีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ของโรงเรียน
- ค้นหาว่าโรงเรียนมีกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ลูกอาจชอบหรือไม่ และพูดคุยกับลูกว่าต้องการเข้าร่วมหรือไม่ เพราะการที่เขาได้เข้าทำกิจกรรมที่เขาชอบอาจช่วยให้เขาปรับตัวได้ง่ายขึ้น
การย้ายโรงเรียน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับเด็กๆ
การย้ายบ้านอาจเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับบุตรหลานและสมาชิกในครอบครัวของคุณ แต่การเปลี่ยนโรงเรียนไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ประเทศต่างๆก็มีความท้าทายหลายประการเช่นกัน
ความท้าทายเหล่านี้รวมถึงสิ่งต่อไปนี้
- ลูกอาจจะพูดเปรียบเทียบโรงเรียนใหม่กับโรงเรียนเก่า ในหลายๆครั้งที่คุณคุยกับลูก อย่าเพิ่งรำคาญนะคะ เหตุการณ์แบบนี้เป็นแค่ช่วงแรกๆเท่านั้นนะคะ เพราะเป็นเรื่องใหม่ของเขา
- ภาษาที่แตกต่างไปจากเดิม หากโรงเรียนใหม่ใช้ภาษาที่แตกต่างจากประเทศที่คุณย้ายมา นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกเกิดการกังวล (หากย้ายประเทศ)
- คิดถึงเพื่อนเก่าจากโรงเรียนเก่า หรือเพื่อนข้างบ้าน (หากย้ายบ้าน) ซึ่งแน่นอนค่ะว่าไม่มีใครสามารถแทนที่ใครได้ง่ายๆ อันนี้ก็ต้องรอให้ลูกใช้เวลาปรับตัว แล้วเขาอาจจะเจอเพื่อนสนิทคนใหม่

เด็กบางคนปรับตัวได้ดีมาก มีการจัดการตัวเองได้ดีกับการย้ายไปโรงเรียนใหม่ แต่อย่าชะล่าใจไปนะคะ คุณยังคงต้องคอยสอดส่องว่าลูกของคุณรู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลง ปรับตัวได้แล้วจริงๆหรือไม่
หากคุณพูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับการย้ายโรงเรียนและให้เขาแสดงคิดเห็น ความกังวล หรือความรู้สึกเชิงลบของเขา สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเห็นมุมมองต่างๆของลูกที่มีต่อกับการย้ายโรงเรียน
ทัศนคติของคุณเองที่มีต่อการย้ายโรงเรียนของลูก อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการจัดการความรู้สึกของเขา หากคุณปล่อยให้เขาเห็นว่าคุณกำลังเครียด โศกเศร้า หรือโกรธที่ต้องย้ายโรงเรียนของเขา เขาอาจจะรู้สึกกังวล ไม่สบายใจไปด้วย ดังนั้นพยายามคิดบวก ถึงแม้ว่าคุณจะรู้สึกหนักใจเพียงใดก็ตามนะคะ