[รีวิว] Lenovo Tab M10 Plus (3rd Gen) แท็บเล็ตงบไม่ถึงหมื่น แต่ได้จอ 2K โทรได้ พร้อมปากกาในตัว

Lenovo Tab M10 Plus (3rd Gen) ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ แต่ดีไซน์สุดหรู จอ 2K ที่คมชัด ปากกาที่เขียนสนุก และมีอายุการใช้งานยาวนาน ทั้งหมดนี้ได้มาในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปมาก ๆ

คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 8.6 เต็ม 10

(ดูเกณฑ์การให้คะแนนได้ที่นี่)

Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE)
รูปภาพจาก lenovo.com
          • ดีไซน์ วัสดุ และงานประกอบที่ยอดเยี่ยม
          • หน้าจอ IPS 10.6 นิ้ว 2K ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส
          • รองรับ 4G LTE ใส่ซืมฯ เพื่อโทรออก รับสายได้
          • ลําโพง 4 ตัว ระบบ Dolby Atmos ที่ให้เสียงดัง มีคุณภาพ
          • มีปากกา Precision Pen 2 ที่มีคุณภาพ ให้มาในกล่อง
      • มีเคส Folio Case ให้มาในกล่อง
      • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
      • รองรับการชาร์จไว 20W ใช้เวลาชาร์จ 2 ชม. (ต้องซื้ออแดปเตอร์แยก)
      • ราคาค่อนข้างประหยัด
    • หน้าจอมีอัตราการรีเฟรช 60Hz
    • ไม่มีการรับรองมาตรฐานการป้องกันน้ำ หรือ IP
    • อแดปเตอร์ในกล่อง จ่ายไฟได้สูงสุด 10W เท่านั้น
    • ใช้เวลาชาร์จค่อนข้างนาน ประมาณ 4 ชม.

แน่นอนครับเมื่อพูดถึง แท็บเล็ต ทุกคนยกให้ iPad เป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะรุ่นไฮเอนด์อย่าง iPad Pro แต่ข้อเสียของ Apple ก็คือ ราคา ครับ ซึ่งถ้าใครเคยเลือกซื้อ iPhone หรือ iPad มาก่อน ทุกคนน่าจะมีความรู้สึกเดียวกันคือ “เลือกยากมาก ๆ” เพราะแต่ละรุ่นย่อยมีสเปกและฟังก์ชันต่างกันมาก ทำให้เรารู้สึกอยากจะจ่ายแพงขึ้น เพื่อเอาสเปก และฟังก์ชันที่ดีกว่า แต่หากเลือกรุ่นเริ่มต้นสเปกและฟังก์ชันจะหายไปอย่างน่าตกใจ จุดนี้แหละครับ ที่แท็บเล็ตแอนดรอยด์จะทำได้ดีกว่า ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้ว ในเรื่องการใส่สเปก และฟังก์ชันมาแบบเกินราคา ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ กําลังมองหาแท็บเล็ตราคาไม่แพง แต่ได้ฟังก์ชันที่ครบครัน แน่นอนครับว่า Android Tablet จะตอบโจทย์นี้ได้ดีกว่า ซึ่งวันนี้เราก็มีแท็บเล็ตจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Lenovo มาแนะนำครับ โดยเพิ่งเปิดตัวออกมาสด ๆ ร้อน ๆ เลย นั่นคือ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen

Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen เป็นแท็บเล็ตระดับกลางที่สเปกกำลังดี ใช้งานได้หลากหลาย อัดแน่นด้วยฟังก์ชันแบบครบครัน แถมยังมีปากกามาให้ในกล่องด้วย เดี๋ยววันนี้เราขอมาเล่าให้ทุกคนฟังครับว่า หลังจากที่เราได้ใช้งานมาประมาณ 2-3 สัปดาห์ เรารู้สึกอย่างไร ? มันมีข้อดีข้อเสียตรงไหน ? และมันเหมาะกับใครบ้าง ? พร้อมทั้งเราจะนำ Tab M10 Plus 3rd Gen ไปเปรียบเทียบสเปกกับคู่แข่งโดยตรงในช่วงราคาเดียวกัน อย่าง Samsung Galaxy TAB A8 (LTE) และ Xiaomi Redmi Pad (Wi-Fi) ด้วย  เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นว่า มันดี หรือด้อยกว่าคู่แข่งอย่างไร ? จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น

เช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคม

Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE)

Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE)
รูปภาพจาก lenovo.com

ราคา 9,680 บาท*

หลังจากที่เราได้ใช้งานเจ้ารุ่นนี้มา 2-3 อาทิตย์ ส่วนตัวเราสรุปว่า มันจัดเป็นแท็บเล็ตระดับกลางที่ดีครับ คุ้มค่ากับราคา สำหรับงบไม่เกิน 1 หมื่นบาท โดยรุ่นนี้จะเหมาะกับการใช้งานด้านความบันเทิง มากกว่าการใช้ทำงาน เนื่องจากมีการแสดงผลภาพบนจอ IPS ที่คมชัดระดับ 2K ขับเสียงด้วย Dolby Atmos บนลําโพง 4 ตัว และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานด้วย ส่วนการเล่นเกมรุ่นนี้ก็ทำได้ดีในระดับนึงเลย แต่ไม่เหมาะกับการปรับกราฟิกภาพสูง ๆ นะครับ ซึ่งจากที่ได้ลองมา ถ้าปรับสูงเกินไป จะค่อนข้างกระตุก แนะนำให้ปรับระดับต่ำไปเลย หรือกลาง ๆ จะดีที่สุดครับ

และจุดเด่นอีกอย่างคือ Lenovo Precision Pen 2 ปากกาสไตลัสที่ให้มาในกล่องเลย โดยเป็นปากกาคุณภาพสูง รองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ ช่วยให้เขียนง่ายมาก ๆ ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาแท็บเล็ตรุ่นประหยัด ที่สามารถจะใช้ปากกาสไตลัสได้ดี สามารถจดบันทึก และวาดภาพ ด้วยอารมณ์การเขียนแบบปากกาแพง ๆ รุ่นนี้จะทำให้เพื่อน ๆ รู้สึกประทับใจได้แน่ ๆ ครับ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ให้ความสําคัญกับการทํางาน หรือการเล่นเกมมากกว่า รุ่นนี้ก็อาจจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่

ข้อมูลจำเพาะของ Lenovo Tab M10 Plus Gen 3

Processor Snapdragon SDM680
ระบบปฏิบัติการ Android 13
จอแสดงผล 10.61" 16:10 IPS touchscreen
ความละเอียด 2K (2000 × 1200), 60Hz
RAM 4GB LPDDR4X
ROM 128GB uMCP
แบตเตอรี่ 7,500 mAh (Quick Charge 20W)
อายุการใช้งาน ท่องเว็บ 12 ชม. (จากการทดสอบ)
ระบบเสียง
  • ลำโพง 4 ตัว (Dolby Atmos)
  • ไมโครโฟน
กล้องถ่ายรูป
  • Rear Camera 8MP autofocus
  • Front Camera 8MP fixed focus
พอร์ตเชื่อมต่อ
  • USB Type-C 2.0 (PD)
  • MicroSD card slot (1TB)
  • Nano SIM slot (LTE)
  • 3.5 mm. (Headphone/mic)
เชื่อมต่อไร้สาย
  • WiFi 5 802.11 ac (2.4GHz/5GHz)
  • Bluetooth 5.0
  • Wi-Fi Direct / Wi-Fi Display
  • GPS
ความปลอดภัย การสแกนใบหน้า
อุปกรณ์เสริม Lenovo Precision Pen 2 / Folio Case
ขนาด 7.45 × 251.2 × 158.8 มม.
น้ำหนัก 465 ก.

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

Lenovo Tab M10 Plus Gen 3
Lenovo Tab M10 Plus Gen 3

เทียบสเปก Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 กับแท็บเล็ตในระดับเดียวกันรุ่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Samsung Galaxy TAB A8 (LTE)

สำหรับคู่นี้จะเป็นรุ่น LTE ที่ใส่ซิมการ์ดได้เหมือนกันครับ ทำให้เวลาพกพาไปข้างนอก เราไม่จำเป็นต้องหา Wi-Fi สาธารณะให้วุ่นวายเลย ส่วนสเปกคู่นี้ก็มีสเปกใกล้เคียงกันมาก ๆ ครับ แต่ถ้าเราเทียบดูสเปกแบบละเอียด เราก็จะเห็นเลยว่า เจ้า Tab M10 Plus ดูจะเหนือกว่าอยู่นิดหน่อย แถมยังมีทั้ง ปากกา และเคส ให้มาในดล่อง ทำให้เราไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่มเลย ส่วน Galaxy TAB A8 ที่มีราคาถูกกว่าเล็กน้อยก็จะได้ในเรื่องของชื่อชั้นครับ ซึ่งเรารู้ดีอยู่แล้วว่า Samsung เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และยังเป็นแบรนด์ตลาดที่ทุกคนรู้จักอีกด้วย ช่วยให้เวลาจะซ่อม หรือจะขายทำได้ง่ายกว่าครับ

ดังนั้นก็อยู่ที่เพื่อน ๆ แล้วล่ะครับว่า ชื่นชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน ? แต่ถ้าพูดในแง้ของการใช้งานจริง ๆ ด้วยสเปกที่ต่างกันนิดเดียวจริง ๆ มันจึงแทบไม่เห็นถึงความแตกต่างเลย

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy TAB A8 (LTE) VS Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE)

Samsung Galaxy TAB A8 (LTE)
Samsung Galaxy TAB A8 (LTE)
Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE)
Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE)
฿8999.00*
฿9680.00*
  • Processor:

    UniSOC T618

  • ระบบปฏิบัติการ :

    Android 11, One UI 3.1

  • จอแสดงผล :

    10.5" 16:10 TFT touchscreen

  • ความละเอียด :

    FHD (1920 × 1200), 60Hz

  • RAM :

    4GB LPDDR4X

  • ROM :

    64GB eMMC

  • แบตเตอรี่ :

    7,040 mAh (Quick Charge 15W)

  • อายุการใช้งาน :

    ท่องเว็บ 14 ชม. (ตามสเปก)

  • ระบบเสียง :

    • ลำโพง 4 ตัว (Dolby Atmos)
    • ไมโครโฟน

  • กล้องถ่ายรูป :

    • Rear Camera 8MP autofocus
    • Front Camera 5MP fixed focus

  • พอร์ตเชื่อมต่อ :

    • USB Type-C 2.0 (PD)
    • MicroSD card slot (1TB)
    • Nano SIM slot (LTE)
    • 3.5 mm. (Headphone/mic)

  • เชื่อมต่อไร้สาย :

    • WiFi 5 802.11 ac (2.4GHz/5GHz)
    • Bluetooth 5.0
    • Wi-Fi Direct
    • GPS

  • ความปลอดภัย :

    เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

  • อุปกรณ์เสริม :

    N/a

  • ขนาด :

    6.9 × 246.8 × 161.9 มม.

  • น้ำหนัก :

    508 ก.

  • Processor:

    Snapdragon SDM680

  • ระบบปฏิบัติการ:

    Android 13

  • จอแสดงผล:

    10.61" 16:10 IPS touchscreen

  • ความละเอียด:

    2K (2000 × 1200), 60Hz

  • RAM:

    4GB LPDDR4X

  • ROM:

    128GB uMCP

  • แบตเตอรี่:

    7,500 mAh (Quick Charge 20W)

  • อายุการใช้งาน:

    ท่องเว็บ 12 ชม. (จากการทดสอบ)

  • ระบบเสียง:

    • ลำโพง 4 ตัว (Dolby Atmos)
    • ไมโครโฟน

  • กล้องถ่ายรูป:

    • Rear Camera 8MP autofocus
    • Front Camera 8MP fixed focus

  • พอร์ตเชื่อมต่อ:

    • USB Type-C 2.0 (PD)
    • MicroSD card slot (1TB)
    • Nano SIM slot (LTE)
    • 3.5 mm. (Headphone/mic)

  • เชื่อมต่อไร้สาย:

    • WiFi 5 802.11 ac (2.4GHz/5GHz)
    • Bluetooth 5.0
    • Wi-Fi Direct / Wi-Fi Display
    • GPS

  • ความปลอดภัย:

    การสแกนใบหน้า

  • อุปกรณ์เสริม:

    Lenovo Precision Pen 2 / Folio Case

  • ขนาด :

    7.45 × 251.2 × 158.8 มม.

  • น้ำหนัก:

    465 ก.

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

Xiaomi Redmi Pad (Wi-Fi)

ส่วนสำหรับคู่นี้จะมีสเปกที่ต่างกันมากหน่อยครับ ต่างจากคู่แรก โดย Redmi Pad จะเป็นรุ่น Wi-Fi ส่วน Tab M10 Plus จะเป็นรุ่น LTE ครับ ซึ่งถ้าเราเทียบสเปกกันโดยตัดเรื่อง ซิมการ์ด ออกไป เจ้า Redmi Pad ก็จะดูดดีกว่าในทุก ๆ ด้านครับ ไล่ตั้งแต่ ซิปเซ็ต, หน้าจอ, หน่วยความจำ หรือแม้กระทั่งแบตเตอรี่ แถมราคาก็ถูกกว่าด้วย ทำให้มีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีกว่าครับ เหมาะสำหรับคนที่หาแท็บเล็ตไปใช้ดูหนัง เล่นแอปฯ และเล่นเกมเป็นหลัก แต่สำหรับ Tab M10 Plus จะโดดเด่นกว่าในด้านการเขียน การวาดภาพด้วย Precision Pen 2 ที่ให้มาในกล่อง รวมถึงฟังก์ชันการเขียนต่าง ๆ รุ่นนี้จะทำได้ดีกว่าครับ

ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ต้องการนำติดตัวไปจดบันทึกตอนเรียน ตอนทำงาน หรือเป็นคนชอบวาดภาพต่าง ๆ เจ้า Tab M10 Plus ก็จะมีความคุ้มค่ากว่าครับ ส่วนการดูหนัง เล่นแอปฯ และเล่นเกมต่าง ๆ รุ่นนี้ก็ทำได้ครับ แต่อาจจะไม่ได้ลื่นไหลเท่าครับ แต่ถ้าเพื่อน ๆ เน้นใช้งานอยู่ที่บ้าน โดยมี Wi-Fi ให้ใช้งานอยู่แล้วและไม่ได้ต้องการเขียนหรือวาดอะไร Redmi Pad จะเหมาะกว่าครับ ซึ่งถ้าพูดถึงการใช้งานทั่วไป คู่นี้ทำได้พอ ๆ กันครับ แต่ Redmi Pad ดูจะลื่นไหลกว่าอยู่หน่อย ๆ ครับ

เปรียบเทียบ Xiaomi Redmi Pad (Wi-Fi) VS Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE)

Xiaomi Redmi Pad (Wi-Fi)
Xiaomi Redmi Pad (Wi-Fi)
Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE)
Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE)
฿8299.00*
฿9680.00*
  • Processor :

    MediaTek Helio G99

  • ระบบปฏิบัติการ :

    MIUI 13 (Android 12)

  • จอแสดงผล :

    10.61" 16:10 IPS touchscreen

  • ความละเอียด :

    2K (2000 × 1200), 90Hz

  • RAM :

    6GB LPDDR4X

  • ROM :

    128GB UFS 2.2

  • แบตเตอรี่ :

    8,000 mAh (Quick Charge 18W)

  • อายุการใช้งาน :

    ท่องเว็บ 16 ชม. (ตามสเปก)

  • ระบบเสียง :

    • ลำโพง 4 ตัว (Dolby Atmos)
    • ไมโครโฟน

  • กล้องถ่ายรูป :

    • Rear Camera 8MP autofocus
    • Front Camera 8MP fixed focus

  • พอร์ตเชื่อมต่อ :

    • USB Type-C 2.0
    • MicroSD card slot (1TB)
    • 3.5 mm. (Headphone/mic)

  • เชื่อมต่อไร้สาย :

    • WiFi 5 802.11 ac (2.4GHz/5GHz)
    • Bluetooth 5.3
    • Wi-Fi Direct
    • GPS

  • ความปลอดภัย :

    เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

  • อุปกรณ์เสริม :

    N/a

  • ขนาด :

    7.05 × 250.3 × 157.9 มม.

  • น้ำหนัก :

    445 ก.

  • Processor:

    Snapdragon SDM680

  • ระบบปฏิบัติการ:

    Android 13

  • จอแสดงผล:

    10.61" 16:10 IPS touchscreen

  • ความละเอียด:

    2K (2000 × 1200), 60Hz

  • RAM:

    4GB LPDDR4X

  • ROM:

    128GB uMCP

  • แบตเตอรี่:

    7,500 mAh (Quick Charge 20W)

  • อายุการใช้งาน:

    ท่องเว็บ 12 ชม. (จากการทดสอบ)

  • ระบบเสียง:

    • ลำโพง 4 ตัว (Dolby Atmos)
    • ไมโครโฟน

  • กล้องถ่ายรูป:

    • Rear Camera 8MP autofocus
    • Front Camera 8MP fixed focus

  • พอร์ตเชื่อมต่อ:

    • USB Type-C 2.0 (PD)
    • MicroSD card slot (1TB)
    • Nano SIM slot (LTE)
    • 3.5 mm. (Headphone/mic)

  • เชื่อมต่อไร้สาย:

    • WiFi 5 802.11 ac (2.4GHz/5GHz)
    • Bluetooth 5.0
    • Wi-Fi Direct / Wi-Fi Display
    • GPS

  • ความปลอดภัย:

    การสแกนใบหน้า

  • อุปกรณ์เสริม:

    Lenovo Precision Pen 2 / Folio Case

  • ขนาด :

    7.45 × 251.2 × 158.8 มม.

  • น้ำหนัก:

    465 ก.

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า


อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง 

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen

เรียกได้ว่า ให้มาแบบพร้อมใช้งานได้ทันทีที่แกะกล่องเลย สำหรับเจ้า Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen รุ่นนี้ ซึ่งภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มาแบบครบครันเลยล่ะครับ โดยจะประกอบด้วย ตัว Tab M10 Plus 3rd Gen, คู่มือการใช้งาน, อแดปเตอร์, สายชาร์จ USB-C, ปากกา Precision Pen 2 และ Folio Case ดังนั้นเนี้ยใครกำลังหาแท็บเล็ตคุ้ม ๆ ใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องหาซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมอีก รุ่นนี้ตอบโจทย์ครับ

ดีไซน์การออกแบบตัวเครื่องที่ดูพรีเมียมมาก ๆ

Lenovo Tab M10 Plus จัดเป็นแท็บเล็ตระดับกลาง ที่มีดีไซน์โดดเด่นมาก ๆ ซึ่งให้ความรู้สึกที่ดูหรูหรา พรีเมียม เมื่อได้จับถือ โดยรุ่นนี้จะมีอัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 80.3% ครับ ให้ภาพที่เต็ม ๆ ตามากขึ้น ซึ่งหากเราเปรียบเทียบกับ Gen 2 รุ่นก่อนหน้า จะพบว่า Gen 3 รุ่นใหม่ มีการปรับปรุงไปหลายส่วนเลย ตั้งแต่ ดีไซน์การออกแบบ ขอบจอที่สมมาตรทั้งสี่ด้าน และตัวเครื่องจะมีความหนาเหลือแค่ 7.5 มม. เท่านั้นครับ ซึ่งนับว่าบางมากครับ และถ้าเราเปรียบเทียบขนาดกับ iPad 6th Gen ที่มีหน้าจอเล็กกว่า Tab M10 Plus จะดูสูงกว่า แต่ความกว้างจะน้อยกว่าครับ ส่วนน้ำหนักก็จะพอ ๆ กัน iPad หนัก 478 ก. ส่วน Tab M10 Plus หนัก 465 ก. และจะเบากว่า Galaxy Tab A8 ที่มีขนาดหน้าจอใกล้เคียงกัน

เปรียบเทียบขนาดตัวเครื่องระหว่าง Tab M10 Plus 3rd Gen กับ iPad 6th Gen
เปรียบเทียบขนาดตัวเครื่องระหว่าง Tab M10 Plus 3rd Gen กับ iPad 6th Gen

โดยตัวบอดี้จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Frost Blue และสีที่เราได้มาคือ Storm Grey ซึ่งตัวบอดี้ด้านหลังจะใช้วัสดุลูมิเนียมที่มีการดีไซน์แบบทูโทนครับ โดยพื้นผิว 1 ใน 3 จะถูกขัดด้าน ทำให้มีผิวหยาบ ช่วยให้การถือกระชับมือมากขึ้น ไม่ลื่น ซึ่งมุมบนติดตั้งกล้องหลัง 1 เลนส์มาให้ครับ และขอบตรงข้ามกับกล้องจะมีการติดตั้งเพลตสีเงิน พร้อมกับเขียนคำว่า Lenovo ทำให้ดูโดดเด่น และลงตัวมาก ๆ ส่วนพื้นผิวอีก 2 ส่วนที่เหลือจะเรียบ ๆ ทำสีด้าน ทำให้มันดูหรูมากขึ้นแถมยังกันรอยนิ้วมือได้ดีด้วย ในส่วนการกันน้ำ รุ่นนี้ยังคงไม่มีการรับรองมาตรฐานการป้องกันน้ำใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ ดังนั้นใครจะพกพารุ่นนี้ก็ระมัดระวังกันด้วยนะครับ

ส่วนตัวเรามองว่า ดีไซน์ของรุ่นนี้ทำได้ดีจริง ๆ ครับ โดยเฉพาะความเรียบหรู และบางเบา บวกกับวัสดุที่ดูแข็งแรง ทำให้มันเหมาะสำหรับการพกพามาก ๆ แถมในกล่องยังมีเคส Folio Case แถมมาด้วย ฉะนั้นส่วนตัวเราเชื่อว่า ทุก ๆ คนก็น่าจะเลือกใส่เคสกันอยู่แล้ว ซึ่งเคสที่แถมมาก็ไม่ได้ธรรมดานะครับ มันดูแข็งแรง มีมาตรฐานเลย แต่มันอาจจะดูค่อนข้างใหญ่หน่อย เนื่องจากมีที่เก็บปากกาให้ด้วย ซึ่งถ้าใครชอบเล็ก ๆ บาง ๆ ก็แนะนำให้หาซื้อเคสใหม่ดีกว่าครับ

ตำแหน่งของปุ่ม และส่วนต่าง ๆ ของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen
ตำแหน่งของปุ่ม และส่วนต่าง ๆ ของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen

สำหรับตำแหน่งของต่าง ๆ รุ่นนี้ก็มีการออกแบบและจัดวางมาเป็นอย่างดีครับ ซึ่งมันดูเหมือนถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในแนวนอนเป็นหลักครับ โดยดูจากกล้องเซลฟี่ที่ติดตั้งอยู่ตรงกลางของขอบจอด้านที่ยาวที่สุด ซึ่งจะต่างกับ iPad ที่กล้องหน้าจะอยู่ตรงกลางของขอบด้านที่สั้น ในขณะที่ตำแหน่งปุ่มต่าง ๆ จะใกล้เคียงกับ iPad เลย คือ ทั้งหมดจะถูกรวมไว้ที่มุมบนฝั่งซ้ายมือครับ โดยที่ขอบตัวเครื่องด้านซ้าย จะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง 2 ปุ่ม ไมโครโฟน และถัดจากนั้นก็จะเป็นถาดใส่ซิมการ์ด และ microSD Card ครับ ส่วนขอบด้านขวาจะเรียบ ๆ ไมมีปุ่มอะไรเลย

ขอบด้านบน และขอบด้านล่างของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen
ขอบด้านบน และขอบด้านล่างของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen

ส่วนขอบด้านบน และขอบด้านล่าง รุ่นนี้จะมีลําโพงติดตั้งข้างละ 2 ตัว ครับ ทําให้สามารถขับเสียงที่ค่อนข้างดังเลย และขับออกมาเป็นเสียงสเตอริโอรอบทิศทางด้วย ให้อรรถรสการใช้งานที่มากขึ้น โดยขอบด้านบนของตัวเครื่องเราจะเจอปุ่มเปิดปิดหน้าจอติดตั้งคู่กับช่องลำโพง 2 ช่อง ครับ ส่วนขอบด้านล่าง จะมีช่องหูฟัง 3.5 มม. สําหรับใช้เสียบหูฟังแบบมีสาย และช่องลําโพงอีก 2 ช่อง และตรงกลางก็เป็นพอร์ตชาร์จ USB-C 2.0 ครับ โดยจุดที่เราชอบคือ ลำโพง 4 ตัว นี่แหละครับ เพราะเวลาที่เราถือดูหนัง หรือเล่นเกม ไม่ว่าจะถือท่าไหน มือของเราก็ไม่สามารถไปอุดรูลำโพงทั้งหมดนี้ได้แน่นอนครับ ทำให้เสียงยังคงขับออกมาได้

ประสิทธิภาพหน้าจอที่ดี ให้ภาพที่คมชัด และสีสันสดใส

เปรียบเทียบหน้าจอระหว่าง Tab M10 Plus 3rd Gen กับ iPad 6th Gen
เปรียบเทียบหน้าจอระหว่าง  iPad 6th Gen กับ Tab M10 Plus 3rd Gen

Lenovo Tab M10 Plus มาพร้อมหน้าจอแสดงผลพาแนล IPS ขนาด 10.61 นิ้ว มีความละเอียดสูงถึงระดับ 2K มีอัตราส่วนภาพ 16:10 และมีอัตราส่วนหน้าจอ 80.3% ซึ่งถ้าดูในภาพที่เราเปรียบเทียบกับ iPad 6th Gen เพื่อน ๆ จะเห็นเลยว่า ขอบจอของรุ่นนี้มันค่อนข้างบางเลย ช่วยให้การแสดงผลภาพ ดูเต็ม ๆ ตามากขึ้น โดยจอตัวนี้จะมีความสว่างอยู่ที่ 400 นิต ครับ และยังได้รับการรับรองจาก TÜV Low Blue Light อีกด้วย ช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

ซึ่งจากที่เราได้ใช้งานมา ขอบอกเลยครับว่า จอตัวนี้ทำงานได้ดีมาก ๆ ครับ ให้ความคมชัด และสีสันที่สดใสมาก ๆ เวลาที่เราใช้ดูเนื้อหาต่าง ๆ หรือดูภาพถ่ายที่มีความละเอียดสูง ๆ แต่จุดที่น่าเสียดายก็คือ หน้าจอตัวนี้ มีอัตราการรีเฟรชอยู่แค่ 60Hz เท่านั้น ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานของอุปกรณ์สมัยนี้ไปแล้ว ส่งผลให้ภาพเคลื่อนไหวจึงดูธรรมดา ไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควรครับ เมื่อนำไปเทียบกับหน้าจอแสดงผลที่มีอัตราการรีเฟรช 90Hz ขึ้นไป ดังนั้นรุ่นนี้จึงจะไม่เหมาะกับเหล่าเกมเมอร์สักเท่าไหร่ครับ ใครต้องการเล่นเกมแนะนำเป็น Redmi Pad จะดีกว่า

การดู YouTube ด้วยหน้าจอของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen
การดู YouTube ด้วยหน้าจอของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen

แต่ถึงอย่างนั้นจอตัวนี้ยังมีความลึกของสีที่ดีครับ ทําให้หน้าจอ 2K ของรุ่นนี้ดูโดดเด่นกว่าจอของแท็บเล็ตรุ่นอื่น ๆ ที่มีสเปกและราคาใกล้ ๆ กันครับ และแถมยังมีการรับรอง DRM-L1 อีกด้วย ส่งผลให้เราสามารถสตรีมเนื้อหา ด้วยความละเอียดที่สูงบนจอตัวนี้ได้ ทั้งหมดนี้จะช่วยมอบประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์แบบไวด์สกรีนที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นครับ ฉะนั้นในด้านประสิทธิภาพหน้าจอของ Tab M10 Plus ทำได้ดีในระดับนึงครับ ทั้งความคมชัด สีสัน แต่ความสมูท ราบรื่นอาจจะดูธรรมดาไปหน่อยครับ

ซึ่งจากที่เราได้ใช้งานมา เมื่อใช้งานพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ดูยูทูป, เล่นแอปฯ หรือเล่นโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จอตัวนี้แทบไม่มีปัญหาเลยครับ แต่เมื่อไหร่ที่เราใช้งานหนักขึ้น เช่น เปิดแอปฯ แต่งภาพ หรือแอปฯ ที่ต้องประมวลผลมากขึ้น ปัญหาที่เราพบคือ อาการกระตุก, อาการตอบสนองการสัมผัสที่ล่าช้า และบางครึ้งก็ไปจนถึงขั้นแอปฯ เด้งออกครับ

โดยจุดนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนเลย บางคนก็อาจจะคิดว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาของแท็บเล็ตราคานี้ เนื่องจากมีสเปกระดับกลาง ๆ แต่สําหรับเรา แท็บเล็ตราคาไม่ถึงหมื่น แต่ได้ประสิทธิภาพหน้าจอมาขนาดนี้ ยอมรับตามตรงเลยว่า มันมีดีกว่าที่เราคาดไว้มากครับ

ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วๆ ไป – ใช้ได้ดี

ทดสอบการรับชมวิดีโอความละเอียด 4K บน YouTube (ขอบคุณวิดีโอจากช่อง Starry Sky)
ทดสอบการรับชมวิดีโอความละเอียด 4K บน YouTube (ขอบคุณวิดีโอจากช่อง Starry Sky)

เรามาต่อที่ฮาร์ดแวร์ของ Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 กันบ้างครับ โดยรุ่นนี้จะมีอยู่ 2 รุ่น ครับ ได้แก่ รุ่น Wi-Fi และรุ่น LTE ซึ่งเป็นตัวที่เรานำมารีวิวครับ โดยรุ่น LTE ทำงานบนชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon SDM680 ที่มีกราฟิกเป็น Adreno 610 ทำงานพร้อมกับ RAM 4GB และ ROM 128GB ซึ่งอาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่ก็ยังรองรับ MicroSD สูงสุด 1TB โดยหากเรามองภาพรวมประสิทธิภาพของรุ่นนี้มันก็จะพอ ๆ กับ Galaxy Tab A8 ครับ เพียงแต่ M10 Plus จะเหนือกว่าเล็กน้อยในด้านกราฟิก แต่การใช้งานจริง ๆ แทบไม่เห็นถึงความต่างครับ

ทดสอบการเขียนด้วยปากกา Lenovo Precision Pen 2
ทดสอบการเขียนด้วยปากกา Lenovo Precision Pen 2

หลังจากที่เราได้ทดสอบใช้งานมาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในด้านการใช้งานพื้นฐานต้องขอบอกว่า มันทำได้ดีเลย เพื่อน ๆ สามารถใช้เล่นโซเชียลฯ ได้อย่างลื่นไหล ใช้ท่องเว็บฯ หรือทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์ การดูวิดีโอ 4K รุ่นนี้ก็สามารถดูได้แต่มันอาจจะไม่สมูท ดังนั้นเราขอแนะนำให้ดูที่ความละเอียด 1080P ก็พอครับ ซึ่งเมื่อบวกกับหน้าจอ ที่คมชัด และมีการขับสีที่ดีมาก ๆ ทำให้ภาพยิ่งดูคมชัดมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้สิ่งที่รุ่นนี้ทำได้ดีอีกอย่างนั่นก็คือ การเขียนด้วยปากกา ครับ ซึ่งทั้งสเปก และปากกา Precision Pen 2 ที่ให้มา ถือว่าทำได้ดีเลยครับ สามารถลงน้ำหนักให้เส้นหนาเส้นบางได้ ทำให้สามารถใช้เขียนหรือวาดรูปได้สบาย ๆ 

แต่ก็บอกก่อนนะครับว่า ด้วยความที่รุ่นนี้มี RAM ให้มาแค่ 4GB เท่านั้น ดังนั้นเวลาเราเปิดแอปฯ ค้างไว้มาก ๆ มีการสลับแอปฯ ไปมา ๆ บ่อย ๆ หรือมีการเปิดแอปฯ ที่ทำงานเบื้องหลังไว้เยอะ ๆ มันอาจจะทำให้เจออาการกระตุกได้เช่นกันครับ ดังนั้นแนะนำให้เพื่อน ๆ หมั่นปิดแอปฯ อยู่เสมอ ๆ นะครับ ซึ่ง Tab M10 Plus Gen 3 ทำได้ง่าย ๆ โดยการลากนิ้ว จากขอบหน้าจอด้านล่างขึ้นมาเล็กน้อย แล้วแตะค้างไว้เสี้ยววินาที

การเล่นเกมที่ลื่นไหล

ทดสอบการเล่นเกมส์ บนแท็บเล็ต Lenovo Tab M10 Plus (3rd Gen)

แต่ถ้าพูดถึงการเล่นเกม อย่างที่บอกครับว่า ด้วยสเปกที่ให้มาจัดอยู่ในระดับกลาง ๆ ดังนั้นในการเล่นเกมมันก็อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างครับ โดยเจ้า Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 เพื่อน ๆ สามารถใช้เล่นเกมยอดนิยม เกมที่เป็นกระแสต่าง ๆ ได้ทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเป็น Pub G, ROV, FreeFire หรือแม้แต่ Apex Legends เป็นต้น ซึ่งด้วยตัวเครื่องที่บางเบาบวกกับหน้าจอที่คมชัด มีความสว่าง และมีสีสันสดใส มันช่วยให้ภาพในเกมดูสวยงามเป็นอย่างมากครับ

แต่ข้อสำคัญคือ เพื่อน ๆ จำเป็นจะต้องตั้งค่ากราฟิกอยู่ในระดับที่พอดีนะครับ ไม่ควรตั้งค่าให้กราฟิกสูงเกินไปนะครับ เพราะมันจะเจออาการกระตุกได้ โดยเฉพาะเวลาอยู่ในฉากที่มีผู้เล่นหลาย ๆ คน หรือฉากที่ผู้เล่นต้องมาบวกและใช้สกิลใส่กัน เนื่องจากฉากเหล่านี้จะต้องการใช้งานกราฟิกเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ตั้งต่ากราฟิกสูง ๆ พอถึงฉากที่ต้องบวกกัน กราฟิกก็จะทำงานและประมวลผลไม่ทัน เป็นสาเหตุของอาการกระตุกนั่นเองครับ ยิ่งเมื่อดูจากสเปกหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชเรทเพียง 60% อาการกระตุกก็จะหนักขึ้นครับ

เพราะฉะนั้นจากที่เราได้ลองใช้เจ้า Tab M10 Plus Gen 3 เล่นเกมมากว่า 2-3 สัปดาห์ เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ตั้งค่ากราฟิกภาพในเกมให้อยู่ ระดับกลาง หรือต่ำ จะดีที่สุดครับ เนื่องจากสเปกของรุ่นนี้ไม่ได้สูงมากนัก ฉะนั้นในการปรับกราฟิกภาพต่ำ ๆ จะช่วยให้เครื่องมีทรัพยากรเหลือมากขึ้น ทำให้เมื่อถึงจังหวะที่เกมมีการบวกกันของผู้เล่นหลาย ๆ คน ตัวเกมก็จะต้องการทรัพยากร และกราฟิกที่สูงขึ้น หากตัวเครื่องมีทรัพยากรเหลือพอ อาการกระตุกก็จะแทบไม่มีให้เห็นครับ ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องภาพในเกม เน้นเล่นเกมให้สนุก เจ้ารุ่นนี้ก็พอใช้ได้ครับ แต่ถ้าใครต้องการจริงจัง เน้นภาพสวย ให้รายละเอียดต่าง ๆ ชัดเจน แนะนำเป็นสมาร์ทโฟนจะดีกว่าครับ

ปากกา Lenovo Precision Pen 2

ปากกา Lenovo Precision Pen 2
ทดสอบใช้งานปากกา Lenovo Precision Pen 2

สำหรับ Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 จะมาพร้อมกับ Lenovo Precision Pen 2 เป็นปากกาที่เมื่อก่อนคุณต้องซื้อแยก แต่ในตอนนี้ Lenovo ได้ใส่มาให้ในกล่องแล้วครับ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากจริง ๆ ของแท็บเล็ตราคาไม่ถึงหมื่น แต่กลับได้ปากกาที่มีคุณภาพ ชาร์จได้ง่าย ๆ ผ่านสาย USB-C ซึ่งใช้สายชาร์จเดียวกับแท็บเล็ตเลย ช่วยเพิ่มความสะดวกเป็นอย่างมากครับ

ทดสอบใช้งานปากกา Stylus: Lenovo Precision Pen 2

ในส่วนของความแม่นยำของปากกา จากที่เราได้ทดลองมาพบว่า มันสามารถใช้งานได้จริง ๆ ครับ ในด้านความแม่นยำ จัดอยู่ในขั้นที่ดีพอสมควรเลย แถมรองรับแรงกดได้สูงถึง 4,096 ระดับ อีกด้วย ช่วยให้การลงน้ำหนักเส้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ใครที่ชอบวาดภาพรุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลยล่ะครับ ซึ่งในการเขียนปากกาตัวนี้ให้ความรู้สึกแทบไม่ต่างจากปากกาสไตลัสแพง ๆ เลย แต่ด้วยสเปกตัวเครื่องที่ค่อนข้างธรรมดา ไม่ได้สูง ทำให้ในบางช่วงมันก็อาจจะมีอาการหน่วง ๆ ให้เห็นอยู่บ้างครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของแท็บเล็ตในระดับนี้อยู่แล้วครับ

ทดสอบการเขียนด้วยปากกา Lenovo Precision Pen 2 และการวางมือลงบนหน้าจอ
ทดสอบการเขียนด้วยปากกา Lenovo Precision Pen 2 และการวางมือลงบนหน้าจอ

แต่จุดที่เราชอบอีกอย่างนึงคือ การวางมือบนหน้าจอ เวลาเขียน ครับ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า หน้าจอตัวนี้สามารถใช้นิ้วเปล่า ๆ วาดเขียนลงไปได้เลย เราจึงทดสอบเขียนแบบไม่ใส่ถุงมือ โดยวางมือแนบไปกับหน้าจอตรง ๆ เหมือนตอนเราเขียนบนกระดาษพบว่า มันยังคงเขียนได้ปกติครับ ไม่มีเส้นที่เกิดจากอุ้งมือของเราเลย หรืออาจจะมีนิดหน่อยเวลาเราวางมือลงไป ดังนั้นใครที่กำลังหาแท็บเล็ตไปใช้จดบันทึก หรือวาดภาพ รุ่นนี้จัดว่าคุ้มค่ากับราคาครับ

Android 12 ที่ใช้งานได้ดี สวยงาม และลื่นไหล

ระบบปฏิบัติการ Android 12 บน Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen
ระบบปฏิบัติการ Android 12 บน Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen

สำหรับ Tab M10 Plus (Gen 3) มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 12 ครับ และยังรองรับการอัปเดต Android 13 ในอนาคตด้วย ดังนั้นมันสามารถใช้งานได้อีกนานเลยครับ โดย Android 12 มีการพัฒนาขึ้นจาก Android 11 ในหลาย ๆ ด้านทำให้ระบบนี้เป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุด สำหรับเวอร์ชันนี้มีการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ใหม่ มีการปรับปรุงความเป็นส่วนตัว ปรับฟีเจอร์สื่อต่าง ๆ จนกลายเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Android 12 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุม จัดการข้อมูล และจัดการสิทธิ์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ เพื่อให้เวลาเปิดใช้แอปฯ ทำได้เร็วขึ้น และมีการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ไวขึ้น

Entertainment Space ทางลัดเข้าถึงพื้นที่ความบันเทิงต่าง ๆ
Entertainment Space ทางลัดเข้าถึงพื้นที่ความบันเทิงต่าง ๆ

ซึ่งนอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว Android ยังสามารถทํางานได้ดีบนแท็บเล็ตด้วย เนื่องจากแอปฯ ต่าง ๆ มักจะพัฒนามาสำหรับจอขนาดใหญ่ด้วย ทำให้การใช้งานไม่มีปัญหาเลย โดยฟีเจอร์ที่เด่น ๆ ของรุ่นนี้จะมีทางลัดเข้าถึงความบันเทิงต่าง ๆ ของ Google อย่าง Entertainment Space ครับ ที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงความบันเทิงได้ง่าย ๆ แค่ปัดนิ้วบนหน้าจอหลักไปทางขวา เราก็จะพบความบันเทิงของเราทั้งหมด ซึ่งจะดึงมาจากแอปฯ ที่เราใช้งานอยู่ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Netflix, Google TV, เกมต่าง ๆ, Podcasts หรือแม้กระทั่ง Play Books ก็มีให้เราอ่าน ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้เราเห็นเนื้อหาใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น และสามารถลิงก์ไปยังเนื้อหาบน แพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นครับ

ไลฟ์สไตล์ดิจิตอลและการควบคุมโดยผู้ปกครอง
เมนู ไลฟ์สไตล์ดิจิตอลและการควบคุมโดยผู้ปกครอง เพื่อรองรับการใช้งานของบุตรหลานของเรา

ส่วนใครที่คิดว่าจะซื้อเครื่องนี้ไปให้เด็ก ๆ ใช้งาน เจ้าเครื่องนี้ก็มีเมนู ไลฟ์สไตล์ดิจิตอลและการควบคุมโดยผู้ปกครอง รวมไปถึง Google Kids Space มาให้ด้วยครับ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ให้ผู้ปกครองสามารถใช้แอปฯ Family Link ในการควบคุม และจัดการเนื้อหาต่าง ๆ จากระยะไกลได้ โดยที่ผู้ปกครองสามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้เด็ก ๆ สามารถเข้าถึงเนื้อหาใดได้ หรือเข้าถึงไม่ได้บ้าง

การจํากัดระยะเวลาในการใช้แอปฯ ต่าง ๆ ต่อวัน หรือชั่วโมง
ทกลองจํากัดระยะเวลาในการใช้แอปฯ ต่าง ๆ ต่อวัน หรือชั่วโมง

และผู้ปกครองยังสามารถตั้งค่าเพื่อกำหนดระยะเวลาในการเล่นแอปพลิเคชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube เว็บไซต์ เกม หรือไม่ว่าแอปฯ อะไรก็แล้วแต่ ผู้ปกครองสามารถกำหนดระยะเวลาได้ครับ โดยเมื่อแอปฯ มีการใช้งานครบตามระยะเวลาที่กำหนด มันจะบล็อคไม่ให้เข้าใช้งานทันที ซึ่งจะต้องรอจนหมดวัน หรือหมดชั่วโมง ตามที่เราได้ตั้งค่าไว้ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยฝึก ให้บุตรหลานของเรา มีวินัยมากขึ้น สามารถเล่นโดยมีเวลาการเล่นที่ชัดเจน

ทดสอบการใช้โหมดการอ่านแบบต่าง ๆ ของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen
ทดสอบการใช้โหมดการอ่านแบบต่าง ๆ ของ Lenovo Tab M10 Plus 3rd Gen

นอกจากนี้ Tab M10 Plus (Gen 3) ยังมาพร้อมโหมดการอ่านแบบต่าง ๆ มาให้เราด้วย ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถอ่านข้อความต่าง ๆ ในหน้าจอได้ง่ายมากขึ้น โดยเราสามารถปรับหน้าจอให้เป็นแบบขาว-ดำเลยก็ได้ หรือทำแค่ปรับลดสีสันลดก็ได้เช่นกันครับ ซึ่งการลดสีสันลง สามารถช่วยลดอาการเมื่อยล้าที่เกิดจากการจ้องมองหน้าจอนาน ๆ ได้ และยังช่วยลดอันตรายต่อดวงตาด้วยครับ ดังนั้นใครที่ชอบอ่าน Ebook หรือสื่อต่าง ๆ บนหน้าจอต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ แท็บเล็ตตัวนี้ตอบโจทย์มาก ๆ ครับ

ซึ่งในส่วนนี้เราไม่มีอะไรจะบ่นครับ เพราะมันทำได้ดีจริง ๆ แถมง่ายมาก ๆ ด้วย ยิ่งใครที่ใช้งาน Google อยู่แล้ว ทันทีที่เปิดเครื่องครั้งแรก ถ้าเราเข้าใช้งานด้วยอีเมลเดียวกับที่ใช้บนอุปกรณ์แอนดรอยด์เครื่องอื่น ๆ ตัวเครื่องก็จะโหลดแอปฯ ของอุปกรณ์เครื่องเก่ามาให้ และยังซิงค์กับอุปกรณ์เดิมของเราได้ง่ายมาก ๆ ทำให้มีความรู้สึกคุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว โดยไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้อะไรเลย นี่นับว่าเป็นจุดเด่นของ Google ครับ ซึ่งมันทำได้ดีกว่า iPad

การเชื่อมต่อที่ครบครัน

หนึ่งในข้อดีของเจ้า Tab M10 Plus (Gen 3) ก็คือ การเชื่อมต่อที่ให้มาแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น แบบมีสาย หรือแบบไร้สาย โดยการเชื่อมต่อไร้สาย เจ้ารุ่นนี้รองรับได้ทั้ง Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n/ac (2.4GHz และ 5GHz), Bluetooth 5.0, Wi-Fi Direct, Wi-Fi Display, สัญญาณ GPS หรือแม้กระทั่งวิทยุ FM

ในส่วนการเชื่อมต่อแบบมีสายรุ่นนี้ก็รองรับ ทั้ง พอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จตัวเครื่อง และถ่ายโอนข้อมูล, MicroSD card slot (รองรับความจุสูงสุด 1TB), ซัมการ์ด Nano SIM slot (เฉพาะรุ่น LTE), แจ็คเสียง 3.5 มม. และระบบเสียง ลำโพง 4 ตัว ซึ่งเรียกได้ว่าเพียบพร้อมมาก ๆ ครับ นอกจากนี้ Lenovo ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อมาใช้งานเพิ่มเติมได้อย่างเช่นแป้นพิมพ์บลูทูธได้เช่นกัน

กล้อง และการถ่ายภาพ

กล้องหน้าของ Lenovo Tab M10 Plus (Gen 3)
กล้องหน้าของ Lenovo Tab M10 Plus (Gen 3)

Lenovo Tab M10 Plus (Gen 3) จะมีกล้องให้มาทั้งหมด 2 ตัว ครับ โดยแบ่งเป็นกล้องเซลฟี่ หรือกล้องหน้า 1 ตัว ใช้เลนส์ความละเอียด 8MP พร้อมโฟกัสแบบคงที ซึ่งจากที่เราได้ลองใช้งานมาส่วนตัวมองว่ามันก็คุ้มค่ากับราคานะครับ ใครที่ต้องการถ่ายภาพเล่น ๆ ไม่ได้ซีเรียส หรือต้องการใช้งานด้านวิดีโอคอลเป็นหลัก ขอบอกว่า มันถือว่าทำได้ดีเลย แต่ถ้าจะใช้ถ่ายเซลฟี่แบบจริงจัง อาจจะผิดหวังได้ครับ เพราะภาพอาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่ เนื่องจากกล้องมันธรรมดา ๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

แต่กล้องหลังถือว่าทำได้ดีกว่าครับ ซึ่งกล้องหลังใช้เลนส์ที่มีความละเอียด 8MP เท่ากัน แต่จะมีออโต้โฟกัสเข้ามาช่วย ทำให้ได้ภาพมีความคมชัดมากขึ้น และมีการโฟกัสที่ดีขึ้น แต่ข้อเสียการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังของรุ่นนี้คือ แสง ครับ เนื่องจากเลนส์กล้องที่ใช้เป็นเลนส์ธรรมดา แถมไม่มีแฟลช LED ดังนั้นถ้าต้องการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังของรุ่นนี้ อย่างแรกที่ต้องดูคือ แสง จะต้องมีเพียงพอครับ

ทดสอบการใช้โหมดสแกนเอกสาร
ทดสอบการใช้โหมดสแกนเอกสาร

นอกจากนี้กล้องหลังยังออกแบบมาให้ใช้สำหรับแสกนเอกสารด้วย ซึ่งสามารถทำได้ดีเลยครับ โดยแค่เราเปิดกล้องขึ้นมา แล้วเล็งไปที่เอกสาร ตัวกล้องจะปรับเป็นโหมดสแกนเอกสารให้อัตโนมัติเลย ซึ่งสะดวกมาก ๆ ส่วนผลลัพธ์หรือเอกสารที่สแกนออกมาก็มีความคมชัด ตัวหนังสือยังอ่านได้ง่ายอยู่ครับ ถือเป็นฟังก์ชันเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีประโยชน์

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ได้จากกล้อง Lenovo Tab M10 Plus (Gen 3)

โดยหลังจากที่เราใช้งานมา  เราขอสรุปง่าย ๆ ว่า กล้องถ่ายภาพ ทั้ง กล้องหน้า และกล้องหลัง พอจะสามารถใช้งานได้ครับ แต่ไม่ได้ดีมาก เนื่องจากเลนส์มีความละเอียดค่อนข้างต่ำ และฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็เป็นพื้นฐานทั่ว ๆ ไป ทำให้การสร้างรายละเอียดในภาพ จึงไม่ใช่จุดแข็งของแท็บเล็ตในระดับกลางอยู่แล้ว โดยถ้าเราถ่ายภาพในที่ที่มีแสง ภาพที่ถ่ายออกมา จะทำได้ดีครับ

แต่ถ้าเราใช้ถ่ายในที่ที่มีแสงน้อย อย่างในภาพตัวอย่าง ถ้าเพื่อน ๆ ซูมเข้าไปดู ก็จะเห็นภาพค่อนข้างแตก ยิ่งถ้ามีแสงน้อยเท่าไหร่ ภาพก็จะมีนอยส์มากขึ้นเท่านั้นครับ ทำให้ภาพสูญเสียความคมชัดไป ดังนั้นถ้าเน้นถ่ายรูปทั่ว ๆ ไป ไม่ได้ซีเรียสมากนัก กล้องของรุ่นนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าครับ

ระบบเสียงที่ดี ทั้ง ลำโพง และหูฟัง

ระบบเสียงของ Tab M10 Plus Gen 3 ได้รับการรับรองจาก Dolby Atmos ขับด้วยลำโพง 4 ตัว ติดตั้งกระจายอยู่ทั้ง ทางด้านซ้าย และด้านขวา ของขอบ ๆ ตัวเครื่อง ทำให้เสียงจะถูกขับออกมาในแบบสเตอริโอ ด้วยระดับเสียงที่ดังสุดมากกว่า 84dB โดยส่วนตัวมองว่าเสียงของรุ่นนี้ จะโดดเด่นในย่านเสียงกลาง และสูงครับ ในขณะที่โทนเสียงเบส หรือเสียงต่ำ ค่อนข้างจะเบา แต่ก็สามารถใช้งานได้ดีครับ สามารถใช้ดูหนัง ฟังเพลงได้สบาย ๆ ในส่วนของการเชื่อมต่อหูฟัง รุ่นนี้ก็สามารถเชื่อมต่อผ่าน แจ็ค 3.5 มม. พร้อมทั้งมี สัญญาณ Bluetooth 5.0 รวมถึงผ่านพอร์ต USB-C ได้ด้วย โดยเจ้า Tab M10 Plus รองรับตัวแปลงสัญญาณได้ทั้ง AAC, aptX, aptX HD รวมถึง LDAC ด้วยครับ ดังนั้นเรื่องคุณภาพเสียงของหูฟัง ทำได้ค่อนข้างดีครับ

แบตเตอรี่ และอายุการใช้งาน

ทดลองดู YouTube โดยการเปิดความสว่างหน้าจอสูงสุด ใช้งานได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมง (ขอบคุณวิดีโอจากช่อง Starry Sky)
ทดลองดู YouTube โดยการเปิดความสว่างหน้าจอสูงสุด ใช้งานได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมง (ขอบคุณวิดีโอจากช่อง Starry Sky)

สําหรับ Tab M10 Plus Gen 3 มาพร้อมเซลล์แบตเตอรี่ ความจุสูงถึง 7,700mAh ครับ โดยทาง Lenovo ได้เครมอายุการใช้งานไว้นานถึง 12 ชั่วโมง เมื่อดูวิดีโอ ซึ่งเราได้ทดลองดู YouTube โดยการเปิดความสว่างหน้าจอสูงสุด พบว่า ใช้งานได้นานประมาณ 8 ชั่วโมง ก่อนที่จะลดลงเหลือต่ำกว่า 5% ดังนั้นส่วนตัวเราเชื่อว่ารุ่นนี้สามารถทำได้ตามสเปกครับ แต่ต้องปรับความสว่างหน้าจอที่ต่ำนะครับ ส่วนการใช้งานพื้นฐานทั่วไป เช่น ท่องเว็บ เล่นโซเซียล หรือใช้งานแอปฯ ต่าง ๆ Lenovo เคลมอายุการใช้งานไว้ที่ 14 ชั่วโมง ซึ่งจากที่เราได้ทดลองด้วยการใช้งานเป็นระยะ ๆ เราสามารถใช้งานได้นาน 2 วัน เลยทีเดียว ดังนั้นจากสเปกและการใช้งานของเราดูเหมือนว่า มันค่อนข้างสอดคล้องกัน แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่า อายุการใช้งานของแต่ละคนไม่เท่ากันนะครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย

ทดลองชาร์จแบตเตอรี่ Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 จาก 0% ด้วยอแดปเตอร์ และสายชาร์จในกล่อง ภายใน 1 ชั่วโมง ชาร์จได้ 30%
ทดลองชาร์จแบตเตอรี่ Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 จาก 0% ด้วยอแดปเตอร์ และสายชาร์จในกล่อง ภายใน 1 ชั่วโมง ชาร์จได้ 30%

ในด้านการชาร์จ รุ่นนี้จะรองรับการชาร์จไวได้สูงสุด 20W ครับ แต่อแดปเตอร์ และสายชาร์จที่ให้มาในกล่อง จะจ่ายไฟได้สูงสุดเพียง 10W เท่านั้น โดยในการทดสอบการชาร์จของเรา เราได้ทำการชาร์จโดยใช้อแดปเตอร์และสายชาร์จเดิมที่ให้มาในกล่อง ชาร์จจาก 0% พบว่าในระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ชาร์จด้วยอแอปเตอร์เดิมจะได้ประมาณ 30% ครับ

ทดลองชาร์จ Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 จาก 0-100% ด้วยอแดปเตอร์ และสายชาร์จในกล่อง โดยใช้เวลา 4.18 ชั่วโมง แบตฯ จึงเต็ม 100%
ทดลองชาร์จ Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 จาก 0-100% ด้วยอแดปเตอร์ และสายชาร์จในกล่อง โดยใช้เวลา 4.18 ชั่วโมง แบตฯ จึงเต็ม 100%

โดยเมื่อชาร์จทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง เราจะได้แบตเตอรี่เพิ่มมาเป็น 80% ครับ และจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง กว่า ๆ ในการชาร์จจนเต็ม 100% ซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่า มันชาร์จนานไปหน่อยครับ เพราะในการใช้งานจริงหลาย ๆ คนมักจะนำไปเล่นก่อนนอน แล้วเผลอหลับไป จนไม่ได้ชาร์จทิ้งไว้ ซึ่งการมาชาร์จตอนเช้าด้วยเวลาเฉลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมง การที่ได้แค่ 30% มันอาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวันครับ

ซึ่งในด้านอายุการใช้งานของ M10 Plus เราไม่มีอะไรจะบ่นเลยครับ มันทำได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ แต่ติดอยู่อย่างเดียว ก็คือ ระยะเวลาการชาร์จ ที่ค่อนข้างช้า ครับ แต่ก็ยังดีที่รุ่นนี้มีการรองรับการชาร์จไวได้สูงสุด 20W ดังนั้นเราเลยนำอแดปเตอร์ 20W ของอุปกรณ์อื่นมาลองชาร์จพบว่า การชาร์จจนเต็ม 100% ใช้เวลาเหลือไม่ถึง 2 ชั่วโมง และเพียง 30 นาที มันก็จะชาร์จได้ประมาณ 30% ดังนั้นใครที่จะซื้อรุ่นนี้ แนะนำให้ซื้อ อแดปเตอร์ 20W มาใช้แทนด้วยจะดีกว่าครับ

คะแนนความคุ้มค่าในการซื้อ Lenovo Tab M10 Plus 

Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 (LTE) Lenovo Tab M10 Plus

คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 8.6 เต็ม 10 

แท็บเล็ต Lenovo Tab M10 Plus เหมาะกับใคร ?

ซื้อเลย – ถ้าหาก

ซื้อเลย-ถ้าหาก: คุณต้องการการแท็บเล็ตมาใช้ในการเขียน จดบันทึก และวาดภาพต่าง ๆ : อย่างที่บอกไปครับว่า Lenovo Tab M10 Plus มีปากกา Lenovo Precision Pen 2 แถมมาให้ ซึ่งรองรับแรงกด 4,096 ระดับ ช่วยมอบความรู้สึกในการเขียนที่ดี แถมตัวปากกายังสามารถชาร์จได้ด้วย

ซื้อเลย-ถ้าหาก: คุณต้องการใช้งานด้านความบันเทิงเป็นหลัก : หนึ่งในจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ หน้าจอแสดงผล ครับ ซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่จอที่ดีที่สุด แต่ถ้าเทียบกับแท็บเล็ตในระดับราคาใกล้ ๆ กัน จอของรุ่นนี้ก็ถือว่าโดดเด่นเป็นอันดับต้น ๆ

ซื้อเลย-ถ้าหาก: คุณต้องการใช้งานพื้นฐานทั่วไปตลอดทั้งวัน : รุ่นนี้มีสเปกกลาง ๆ ตามราคาครับ ดังนั้นการใช้งานพื้นฐานต่าง ๆ ทำได้ดีอยู่แล้ว แถมแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ก็อึดเป็นอันดับต้น ๆ ดังนั้นถ้าเน้นใช้งานทั่วไปแบบไม่ต่อเนื่อง เปิดแสงหน้าจอ และระดับเสียงกลาง ๆ รุ่นนี้สามารถใช้งาน 1-2 วันได้สบาย ๆ ครับ

อย่าซื้อ – ถ้าหาก

อย่าซื้อ-ถ้าหาก: คุณต้องการใช้งานในระดับมืออาชีพ : อย่างที่เราได้บอกไปตลอดครับว่า เจ้ารุ่นนี้เป็นแท็บเล็ตในระดับกลาง ๆ ดังนั้นสเปกต่าง ๆ มันไม่ได้สูงมาก แต่เน้นรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากกว่า หมายถึง ทำได้ทุกอย่างครับ เพียงแต่เมื่อไหร่ที่มันต้องโหลดเยอะ ๆ เช่น เล่นเกมกราฟิกสูง ๆ เปิดหลาย ๆ แอปฯ หรือใช้แอปฯ ที่จะต้องประมวลผลสูง ๆ มันจะมีอาการกระตุกให้เห็น

อย่าซื้อ-ถ้าหาก: คุณต้องการนำไปเล่นเกมเป็นหลัก : ด้วยสเปกของรุ่นนี้ มันพอที่จะเล่นเกมได้ครับ แต่ถ้าเพื่อน ๆ มีจุดประสงค์ที่จะเล่นเกมได้แบบลื่น ๆ แนะนำให้เลือก Xiaomi Redmi Pad (Wi-Fi) จะดีกว่าครับ เพราะมีสเปกสูงกว่า

ข้อดี – ข้อเสีย ของ Lenovo Tab M10 Plus

Lenovo Tab M10 Plus Gen 3
Lenovo Tab M10 Plus Gen 3

→ ข้อดี

  • ดีไซน์การออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุที่ดี : เราต้องยอมรับเลยว่า สิ่งนึงที่รุ่นนี้ทำได้ดีที่สุดคือ ดีไซน์การออกแบบครับ เมื่อบวกกับงานประกอบ และวัสดุที่ใช้ ซึ่งเป็นอลูมิเนียมซะส่วนใหญ่ ช่วยให้มันมอบสัมผัสการถือที่ดีมาก ๆ ครับ
  • หน้าจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยม : รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่ดี ขอบหน้าจอค่อนข้างบาง มีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยม แถมหน้าจอยังมีความละเอียดสูงระดับ 2K ทําให้การรับชมเนื้อหาต่าง ๆ สนุกมากขึ้น
  • รองรับสัญญาณ 4G LTE : จุดนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ ครับ โดยเฉพาะกับคนที่จะต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ เพราะเราจะสามารถใส่ซิมการ์ด เพื่อใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ รวมไปถึงยังสามารถโทรออกและรับสายได้ด้วย ไม่ต้องหา Wi-Fi สาธารณะให้ปวดหัว
  • ลําโพง 4 ตัว ที่รับรอง Dolby Atmos : ช่วยขับเสียงที่ดัง ในขณะที่เสียงที่ขับออกมายังคงมีคุณภาพ โดยตำแหน่งของลำโพงอยู่ที่ขอบเครื่องข้างละ 2 ตัว ช่วยให้เราได้รับเสียงรอบทิศทาง
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน : เราได้ทดสอบอายุการใช้งานของรุ่นนี้โดยการดูหนัง ฟังเพลง และท่องเว็ปฯ พบว่า มันสามารถใช้งานได้ประมาณ 10-13 ชม. เลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับ ระดับแสงหน้าจอ และเสียงที่ใช้งาน) ซึ่งมันใกล้เคียงกับสเปกที่ผู้ผลิตได้เครมเอาไว้
  • มีปากกาสไตลัส Lenovo Precision Pen 2 ให้ในกล่อง : ซึ่งจัดเป็นปากกาที่ไวต่อแรงกดมาก ๆ และยังดีไซน์มาแบบดินสอ ช่วยให้ง่ายต่อการเขียน จดบันทึก และวาดภาพต่าง ๆ และตัวปากกายังมีแบตฯ ในตัว ที่ชาร์จได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมาก ๆ ครับ ไม่ต้องหาซื้อถ่านมาเปลื่อนเหมือนรุ่นก่อน ๆ (ซึ่งหาซื้อยากมาก)
  • มีเคส Folio Case มาให้ในตัว : ซึ่งเคสที่ให้มาไม่ใช่เคสธรรมดา ๆ นะครับ มันเป็นเคสอย่างดีเลย ซึ่งดีไซน์แบบมีฝาปิดที่ออกแบบมาเป็นสแตนด์หรือขาตั้งในตัว พร้อมมีช่องสำหรับเก็บปากกาด้วย
  • รองรับการชาร์จไว 20W : จุดนี้ให้มาดีกว่าอีก 2 รุ่นที่เรานำมาเปรียบเทียบ ซึ่งจุดนี้ถือว่าสำคัญมาก ๆ ครับ เนื่องจากว่าแท็บเล็ตมักจะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่มา หากไม่มีชาร์จไว การรอชาร์จครั้งละ 3-4 ชั่วโมง อาจไม่ทันต่อการใช้งาน

→ ข้อที่ควรพิจารณา

  • การชาร์จที่ค่อนข้างช้า : ถึงแม้รุ่นนี้รองรับการชาร์จเร็วได้ที่ 20W แต่อแดปเตอร์ที่ให้มาจ่ายไฟได้แค่ 10W เมื่อเทียบกับความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 7,700mAh มันจึงใช้เวลาชาร์จนานมากครับ ประมาณ 3-4 ชม. เลยทีเดียว
  • หน้าจอมีอัตราการรีเฟรชต่ำ : ทุกวันนี้จอ 60Hz เกือบจะกลายเป็นหน้าจอมาตรฐานไปแล้ว ทั้ง มือถือ และแท็บเล็ต ที่มีราคาพอ ๆ กัน ส่วนใหญ่ก็ให้จอ 90Hz มาเกือบหมดแล้ว ดังนั้นเราจึงรู้สึกเสียดายมาก ๆ ครับ ถ้าจอที่คมชัดของรุ่นนี้ มาพร้อมอัตราการรีเฟรชสูง ๆ มันคงจะดีกว่านี้มากครับ
  • ไม่มีตัวเลือกสำหรับหน่วยความจำที่มากขึ้น : จุดนึงที่น่าเสียดายมาก ๆ ก็คือ รุ่นนี้ติดตั้ง RAM มาแค่ 4GB และ ROM อีก 128GB เท่านั้น ซึ่งถ้าคุณต้องการอัพเกรดให้สูงกว่านี้ Lenovo จะไม่มีตัวเลือกนั้นให้ครับ
  • ไม่มีการรับรองมาตรฐานการป้องกันน้ำ : ในข้อนี้ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไร เพราะมันบ่งบอกอยู่แล้ว ดังนั้นใครที่จะพกรุ่นนี้ก็ต้องระมัดระวังเรื่องน้ำดี ๆ นะครับ

คําตัดสิน

สำหรับ Lenovo Tab M10 Plus Gen 3 นับเป็นแท็บเล็ต Android ระดับกลางที่ดี และมีความคุ้มค่าอยู่พอสมควร โดดเด่นด้วยดีไซน์ วัสดุที่ใช้ และงานประกอบ ทำได้ดีมาก ๆ ครับ ทำให้รู้สึกแข็งแกร่ง แต่เสียดายที่ไม่มีการรองรับมาตรฐานการกันน้ำใด ๆ เลย เพราะฉะนั้นเวลาที่เราต้องพกพาไปข้างนอกต้องระวังหน่อยนะครับ แต่สิ่งที่ส่วนตัวเราชื่นชอบมาก ๆ ก็คือ หน้าจอแสดงผลที่ทำมาค่อนข้างดี มีความคมชัด สีสันสดใส และมีความสว่างด้วย ทำให้ใช้งานในที่ที่มีแสงได้สบาย ๆ เลย แต่อย่างที่เราได้บอกไปครับว่า มันมีอัตรารีเฟรชเรทที่ 60Hz เท่านั้น นั่นทำให้การแสดงผลภาพดูธรรมดา ไม่ได้ดูโดดเด่นเหมือนรุ่นที่มีราคาสูง ๆ

ในส่วนระบบเสียงที่ขับด้วยลําโพงมากถึง 4 ตัว โดยอยู่ที่ขอบข้างละ 2 ตัว ช่วยขับเสียงออกมาค่อนข้างดังเลยครับ แถงยังคงให้เสียงที่มีคุณภาพอยู่ การมีปากกาสไตลัสแถมมาให้ ซึ่งใช้เขียนได้ดี ลื่นไหลแบบไม่ต้องซื้อเพิ่มเลย และที่สำคัญคือแบตเตอรี่ ที่ให้มาถึง 7,700 mAh ช่วยให้ใช้งานตลอดทั้งวันได้สบาย ๆ  ซึ่งหลังจากที่เราได้ทดสอบมาระยะนึง ผ่านการใช้งานในแบบต่าง ๆ ส่วนตัวมองว่า มันคุ้มค่ากับราคามาก ๆ ครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดีที่สุดในด้านใดด้านนึง แต่มันก็ดีสมกับราคา

Palm PN

Palm PN

I with a bachelor degree in Computer Science from Songkhla Rajabhat University. I live in Songkhla. I like to write articles about in IT products and motorcycle accessories.

Next Post