เชื่อว่าแฟน ๆ การ์ตูนดิสนีย์ (Disney) ทุกคนน่าจะรู้จักเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์กันกันดีอยู่แล้ว เพราะทางดิสนีย์มีการอัพเดทการ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์เรื่องใหม่ ๆ มาให้เราได้รับชมกันอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีแฟรนไชส์แยกของเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์โดยเฉพาะในชื่อของ ‘Disney Princess’ ที่ขอบอกเลยว่าการจะได้เข้าแฟรนไชส์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านคัดเลือกคุณสมบัติการเป็นเจ้าหญิงกันเสียก่อน ซึ่งในตอนนี้ก็มีเจ้าหญิงที่อยู่ในแฟรนไชส์นี้แล้วถึง 12 พระองค์ ที่คาดว่าหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะการ์ตูนของพวกเธอนั้นดังเปรี้ยงไปทั่วโลกจนเด็ก ๆ หลายคนถึงกับมีเจ้าหญิงดิสนีย์คนโปรดเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ซินเดอเรลล่า, แอเรียล, เบลล์, มู่หลาน, ราพันเซล, เมริด้า หรือโมอาน่า
ซึ่งในแฟรนไชน์ Disney Princess นอกจากจะมีการ์ตูนแอนิเมชันของเหล่าเจ้าหญิงออกมาให้รับชมแล้ว ทางดิสนีย์ก็ยังมีการต่อยอดความฝันของแฟนคลับด้วยการเนรมิตเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ตัวเป็น ๆ ให้มาโลดแล่นในภาพยนตร์จอเงินแบบ Live Action อีกด้วย โดยทางดิสนีย์ก็จะมีกำหนดฉายหนังเจ้าหญิงดิสนีย์ในเวอร์ชันคนแสดงกันแทบทุกปี ทำเอาเหล่าแฟนคลับเจ้าหญิงตั้งหน้าตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ รอกันแทบไม่ไหว
ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมเอาหนังเจ้าหญิงดิสนีย์ในเวอร์ชัน Live Action ทั้งหมดมารีวิวให้ทุกคนกันอย่างจุใจ เรียกว่าเอาใจแฟนเจ้าหญิงดิสนีย์กันแบบสุด ๆ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเพลิดเพลินกับโลกของเทพนิยายที่เป็นจริงในบทความข้างล่างนี้กันเลยค่ะ
1. The Little Mermaid – เงือกน้อยผจญภัย (2023)

แนว | โรแมนติก, แฟนตาซี |
ความยาวหนัง | – |
ผู้กำกับ | Rob Marshall |
นักแสดงนำ | Halle Bailey, Jonah Hauer-King, Melissa McCarthy |
ปีที่ออกอากาศ | กำหนดฉาย 25 พ.ค. 2023 |
เรียกว่าเป็นที่กล่าวถึงกันอย่างล้นหลามเลยค่ะ หลังจากที่ทางดิสนีย์ได้เปิดตัว Trailer ชุดแรกของภาพยนตร์เรื่อง ‘The Little Mermaid’ ในฉบับ live action ออกมา โดยในการ์ตูน The Little Mermaid ซึ่งเป็นเวอร์ชันต้นฉบับนั้นจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าหญิงเงือกน้อยนามว่า ‘แอเรียล’ ผู้มีความใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากจะเป็นมนุษย์ ก่อนที่เธอจะได้ตกหลุมรัก ‘เจ้าชายอิริค’ จึงได้ตัดสินใจทำข้อตกลงกับ ‘เออซูลาร์’ แม่มดปลาหมึกผู้ได้ชื่อว่าร้ายกาจที่สุดแห่งท้องทะเล เพื่อให้เธอได้กลายเป็นมนุษย์เป็นเวลา 3 วัน โดยแลกกับเสียงอันไพเราะของตัวเอง และมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าชายเท่านั้นเธอจึงจะได้เป็นมนุษย์ไปตลอดกาล มิเช่นนั้นเธอจะต้องกลับมาเป็นนางเงือก และตกเป็นทาสของเออซูลาร์ตลอดไป
โดย The Little Mermaid ในฉบับ live action นี้จะนำเอาเรื่องราวการผจญภัยสุดคลาสสิคของเจ้าหญิงเงือกน้อย มาบอกเล่าเรื่องราวใหม่อีกครั้งด้วยกลิ่นอายที่แตกต่างไปจากเดิม ด้วยฝีมือการกำกับของ ‘Rob Marshall’ ผู้กำกับมือทองที่เคยกำกับภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์มาแล้วหลายเรื่อง อีกทั้งยังได้ ‘Halle Bailey’ นักร้องสาวมาขับร้องเสียงเพลงอันไพเราะในบทบาทของ ‘เงือกน้อยแอเรียล’ ประกบคู่กับ ‘Jonah Hauer-King’ ที่มารับบท ‘เจ้าชายเอริค’ นอกจากนี้ยังได้ ‘Javier Bardem’ มารับบท ‘ราชาไทรทัน’ และ ‘Melissa McCarthy’ ในบทของ ‘เออซูลาร์’ ซึ่งในตอนนี้ทางดิสนีย์ก็กำลังมุ่งมั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์ live action สุดอลังการเรื่องนี้อยู่ บอกเลยว่าแฟน ๆ การ์ตูน The Little Mermaid เตรียมตัวรับชมเจ้าหญิงแอเรียลตัวเป็น ๆ มาสะบัดครีบ พร้อมเสียงใสสุดไพเราะได้ในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Little Mermaid’ ฉบับ live action ในปี 2023 ที่จะถึงนี้ค่ะ
2. Snow White (2024)

แนว | มิวสิคคัล แฟนตาซี |
ความยาวหนัง | – |
ผู้กำกับ | Marc Webb |
นักแสดงนำ | Rachel Zegler, Gal Gadot, Martin Klebba, Andrew Burnap |
ปีที่ออกอากาศ | กำหนดฉาย 2024 |
นอกเหนือจากข่าวการประกาศวันกำหนดฉายเรื่อง ‘The Little Mermaid’ แล้วทางดิสนีย์ก็ยังมีข่าวคราวการประกาศตัวนักแสดงจากโปรเจค Live Action เรื่อง ‘Snow White’ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ออกฉายในปี 2024 ที่จะถึงนี้ โดยตัวละคร ‘สโนว์ไวท์’ นางเอกของเรื่องก็ได้รับบทโดย ‘Rachel Zegler’ นักแสดงสาวชาวโคลอมเบีย และยังได้ ‘Gal Gadot’ นักแสดงสาวที่สลัดลุควันเดอร์วูแมนมารับบทราชินีผู้ชั่วร้ายเจ้าของวลี ‘กระจกวิเศษบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี’ อีกด้วย โดยในด้านการกำกับนั้นก็ได้ผู้กำกับอย่าง ‘Marc Webb’ ผู้กำกับมือดีที่เคยได้สร้างผลงานฟอร์มยักษ์อย่าง ‘Amazing Spider-Man’ มากำกับการแสดง ทำให้ Live Action เรื่องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้นในอีกระดับเลยทีเดียว
และในส่วนของเนื้อหาในภาพยนตร์เรื่อง ‘Snow White’ ฉบับใหม่นี้ คาดว่าน่าจะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางส่วนจากต้นฉบับของดิสนีย์ ให้เรื่องราวดูมีความสอดคล้องกับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น แอบกระซิบว่ามีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาด้วยแหละค่ะ ซึ่งในส่วนของบทภาพยนตร์ในครั้งนี้ก็สร้างสรรค์โดย ‘Greta Gerwig’ และ ‘Erin Cressida Wilson’ ซึ่งคาดว่า Live Action เรื่องนี้น่าจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 22 มีนาคม 2024 ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นั้นแฟน ๆ คงต้องอดใจรอประกาศเพิ่มเติมจากทางดิสนีย์กันต่อไปค่ะ
3. Mulan – มู่หลาน (2020)

แนว | แอคชั่น, แฟนตาซี, สงครามย้อนยุค |
ความยาวหนัง | 115 นาที |
ผู้กำกับ | Niki Caro |
นักแสดงนำ | Liu Yifei, Jet Li, Donnie Yen, Gong Li และ Jason Scott Lee |
ปีที่ออกอากาศ | 2020 |
เรื่องราวสุดแสนกล้าหาญของ ‘ฮัวมู่หลาน’ หญิงสาวสุดห้าวจากสกุลฮัวผู้ที่เป็นความหวังของตระกูล เพราะถูกครอบครัวหมายมั่นว่าจะต้องได้สามีที่ดีเพื่อให้เป็นเกียรติศักดิ์ศรีแก่วงศ์ตระกูล แต่มู่หลานกลับไม่ใช่หญิงที่อ่อนหวานเหมือนหญิงทั่วไปจึงได้ทำผิดพลาดในงานดูตัว และทำให้แม่สื่อไม่พอใจจนได้รับความอับอาย ในขณะเดียวกันฝ่ายศัตรูก็ได้ทำการรุกรานแผ่นดินจีน แผ่นดินที่ลุกเป็นไฟทำให้องค์ฮ่องเต้ประกาศหาตัวแทนจากแต่ละครอบครัวเพื่อมาเป็นทหาร แต่ในสกุลฮัวมีผู้ชายเพียงแค่คนเดียวคือพ่อผู้แก่ชราของมู่หลาน ทำให้เธอได้ตัดสินในที่จะปลอมตัวเป็นชายเพื่อเข้าร่วมกับกองทัพ และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของความกล้าหาญอันแสนยิ่งใหญ่ของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นามว่า ‘ฮัวมู่หลาน’
โดยในภาพยนตร์ Live Action ในครั้งนี้มีการดัดแปลงเนื้อหาจาก ‘Mulan’ ฉบับการ์ตูนเล็กน้อย นั่นคือจะไม่มีผู้กองลีชาง แต่เพิ่ม 2 ตัวละครฝั่งกองทัพอย่าง ‘แม่ทัพถัง’ รับบทโดย ‘ดอนนี่ เยน’ และ ‘ฮงฮุย’ ที่รับบทโดย ‘โยโซอัน’ เข้ามาแทน แต่ในด้านของฉากแอคชั่นถือว่าเพิ่มมาแบบจัดเต็ม และทำได้สวยงามอลังการด้วย CGI ระดับเทพ นอกจากนี้ยังได้ผู้กำกับหญิงอย่าง ‘Niki Caro’ มากำกับการแสดง อีกทั้งยังยกทัพดาราชาวเอเชียระดับต้น ๆ มาอย่างคับคั่งทั้ง ‘หลิว อี้เฟย์’ ในบทบาทของ ‘มู่หลาน’ นางเอกของเรา, ‘เจ็ท ลี’ ในบทบาทจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของจีน และ ‘กง ลี่’ ราชินีแห่งวงการภาพยนตร์จีนที่มารับบทแม่มดฝ่ายร้ายผู้เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญของเรื่อง เรียกได้ว่าทางดิสนีย์จัดหนักจัดเต็มกับ Live Action ครั้งนี้มาก ๆ รู้แบบนี้แล้วก็ห้ามพลาดเด็ดขาดกับภาพยนตร์เรื่อง ‘Mulan’ ค่ะ
4. Maleficent 2 : Mistress of Evil – มาเลฟิเซนต์ : นางพญาปีศาจ (2019)

แนว | ผจญภัย, แฟนตาซี |
ความยาวหนัง | 158 นาที |
ผู้กำกับ | Joachim Rønning |
นักแสดงนำ | Angelina Jolie, Elle Fanning, Michelle Pfeiffer,Chiwetel Ejiofor และ Sam Riley |
ปีที่ออกอากาศ | 2019 |
หลังจากที่ห่างหายกันไปถึง 5 ปีในที่สุดแฟนคลับของภาพยนตร์เรื่อง Maleficent ก็สิ้นสุดการรอคอย เมื่อดิสนีย์ได้ปล่อยภาพยนตร์เรื่อง Maleficent 2 : Mistress of Evil ซึ่งเป็นภาพต่อของภาคแรกมาให้ได้รับชมกัน โดยใน Live Action ครั้งนี้เราจะได้เห็นการปะทะฝีมือกันของ 2 นักแสดงตัวแม่อย่าง ‘Angelina Jolie’ ในบทบาทของ ‘มาเลฟิเซนต์’ และ ‘Michelle Pfeiffer’ ในบทบาทของ ‘ราชินีอิงกริด’ พระมารดาของเจ้าชายฟิลลิปซึ่งถือเป็นตัวละครใหม่ที่มีบทบาทอย่างมากใน Maleficent ภาค 2 นี้ นอกจากนี้ยังได้ผู้กำกับมือฉมังอย่าง ‘Joachim Ronning’ มากำกับการแสดง จึงรับประกันได้ถึงความดุเด็ดเผ็ดมันของเนื้อเรื่องอย่างแน่นอนค่ะ
โดยใน Maleficent ภาค 2 นี้จะเป็นเรื่องราวหลังจากที่เจ้าหญิงออโรร่าตื่นจากคำสาปนิทรา หลายปีผ่านไป ‘เจ้าชายฟิลลิป’ ได้ขอ ‘ออโรร่า’ แต่งงาน ซึ่งแน่นอนว่า ‘มาเลฟิเซนต์’ ไม่เห็นด้วยแต่สุดท้ายก็ต้องยอม เพราะความรักที่มีต่อออโรร่า ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางออกจากอาณาจักรมัวร์เพื่อไปพบปะครอบครัวของเจ้าชายฟิลลิป แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีเหตุความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่าง ‘มาเลฟิเซนต์’ และ ‘ราชานีอิงกริด’ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้กลายเป็นชนวนของศึกครั้งใหม่ระหว่างมนุษย์ และเผ่าพันธุ์สัตว์วิเศษ แล้วการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร จะมีความลับอะไรอีกบ้างที่รอให้เราค้นพบ ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดกับภาพยนตร์เรื่อง ‘Maleficent 2 : Mistress of Evil’ ค่ะ
5. Aladdin – อะลาดิน (2019)

แนว | แฟนตาซีมิวสิคเคิล |
ความยาวหนัง | 128 นาที |
ผู้กำกับ | Guy Ritchie |
นักแสดงนำ | Will Smith, Mena Massoud, Naomi Scott |
ปีที่ออกอากาศ | 2019 |
เรื่องราวการผจญภัยแสนตื่นเต้นของ ‘อะลาดิน’ หนุ่มยากจนที่ถูก ‘จาฟาร์’ พ่อมดที่ดูไม่น่าไว้วางใจหลอกล่อให้ไปเอาตะเกียงวิเศษในถ้ำกลางทะเลทราย แต่เมื่ออะลาดินได้พบกับตะเกียงใบนั้นกลับเผลอปลดปล่อย ‘ยักษ์จีนี่’ (แสดงโดย Will Smith) ที่ถูกจองจำไว้โดยบังเอิญ ซึ่งยักษ์จีนี่ก็ได้ตอบแทนด้วยการให้อะลาดินขอพรอะไรกับตนก็ได้ 3 ข้อ อะลาดินจึงขอพรให้ตัวเองได้เป็นเจ้าชายอาลี เพื่อจะได้จัดขบวนขันหมากสุดอลังการสมฐานะไปสู่ขอเจ้าหญิงจัสมินหญิงที่ตนเองหลงรัก ก่อนจะขึ้นขี่พรมวิเศษที่ได้จากยักษ์จินนี่เพื่อไปหาเจ้าหญิงจัสมิน และทั้งสองก็ได้ขึ้นพรมวิเศษเพื่อไปท่องโลกกว้างด้วยกันดังฉากในตำนานที่เราเห็นกันอยู่จนชินตา
โดยภาพยนตร์เรื่อง ‘Aladdin’ ในภาค Live Action จากดิสนีย์เรื่องนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีการดัดแปลงจากต้นฉบับน้อยมาก ทำเอาแฟนคลับอะลาดิน และเจ้าหญิงจัสมินปลื้มปริ่มกันแบบสุด ๆ เพราะได้เห็นเรื่องราว และตัวละครที่ตัวเองชอบออกจากการ์ตูน 2D มามีชีวิตจริง ๆ หากใครที่ต้องการติดตามเอาใจช่วยในการผจญภัยสุดตื่นเต้นครั้งนี้ ก็อย่าพลาดที่จะชมภาพยนตร์เรื่อง ‘Aladdin’ นะคะ
6. Beauty and the Beast – โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (2017)

แนว | โรแมนติก, แฟนตาซี, ผจญภัย |
ความยาวหนัง | 129 นาที |
ผู้กำกับ | William Condon |
นักแสดงนำ | Emma Watson, Dan Stevens, Luke Evans |
ปีที่ออกอากาศ | 2017 |
Beauty and the Beast หรือโฉมงามกับเจ้าชายอสูร เป็น Live Action อีกหนึ่งเรื่องที่รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะสาว ‘Emma Watson’ ที่มารับบท ‘เบลล์’ นางเอกของเรื่องนั้นดูงดงาม และฉลาดเฉลียวราวกับหลุดออกมาจากการ์ตูนต้นฉบับ ส่วนทางเจ้าชายอสูรที่ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเห็นแค่หน้าตาที่เป็น CGI แต่เขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือหนุ่ม ‘Dan Stevens’ นั่นเอง ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้ ‘William Condon’ ผู้กำกับพันล้านสายมิวสิคัลมากำกับการแสดง ซึ่งผลตอบรับของ Live Action เรื่องนี้เองก็ดีเกินคาด โดยมีรายได้ถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก
เรื่องราวของ Live Action เรื่องนี้จะเล่าเกี่ยวกับ ‘เบลล์’ โฉมงามหนอนหนังสือที่ถูกจับตัวเอาไว้ในปราสาทลึกลับ โดยเจ้าชายอสูรรูปร่างสูงใหญ่ผู้เป็นเจ้าของปราสาท ซึ่งแท้จริงแล้วอสูรตนนั้นเป็นเจ้าชายรูปงามที่ถูกแม่มดสาปพร้อมกับเหล่าบริวารรับใช้ เพื่อเป็นบทลงโทษให้กับความใจร้ายเย็นชาเมื่อครั้งอดีต และหนทางเดียวในการแก้คำสาปก็คือการค้นพบหญิงที่จะรักเจ้าชายในร่างของอสูรจากใจจริง เบลล์จึงเป็นเหมือนความหวังเดียวที่เหล่าบริวารต้องการให้มาแก้ไขคำสาปนี้ให้แต่ทั้งเบลล์ และเจ้าชายกลับไม่ค่อยถูกกันซะนี่ แล้วแบบนี้คำสาปจะมีทางสลายไปหรือไม่ ติดตามเอาใจช่วยให้ได้ในภาพยนตร์เรื่อง ‘Beauty and the Beast’ นะคะ
7. Cinderella – ซินเดอเรลล่า (2015)

แนว | โรแมนติก, แฟนตาซี |
ความยาวหนัง | 105 นาที |
ผู้กำกับ | Kenneth Branagh |
นักแสดงนำ | Lily James, Cate Blanchett, Richard Madden, Helena Bonham Carter |
ปีที่ออกอากาศ | 2015 |
Cinderella เป็น Live Action จากดิสนีย์อีกเรื่องที่ยังคงน่าประทับใจแม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว โดยในฉบับ Live Action นี้จะอิงเรื่องราวจากเนื้อเรื่องเดิมตามต้นฉบับดิสนีย์เกือบทั้งหมด และยังคงมาตรฐานความอลังการงานสร้างของงาน CGI ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยได้ฝีมือกำกับของ ‘Kenneth Branagh’ ที่รังสรรค์ความลื่นไหลของภาพยนตร์ได้อย่างไม่มีบกพร่อง นำแสดงโดย ‘Lily James’ รับบทเป็นซินเดอเรลล่าแสนสวย ประกบคู่กับ ‘Richard Madden’ ในบทบาทของเจ้าชายชาร์มมิ่งผู้แสนรูปงาม และได้นักแสดงมากความสามารถอย่าง ‘Helena Bonham Carter’ มารับบทเป็นนางฟ้าแม่ทูนหัวตัวแปลสำคัญของเรื่อง ซึ่ง Live Action เรื่องนี้ถือว่าทำได้ดีทั้งงานภาพ ความอลังการ รวมถึงการเลือกตัวนักแสดงที่มีความน่าสนใจ ทำให้ Live Action เรื่องนี้เหมือนได้เติมเต็มความฝันของเหล่าแฟนคลับเลยทีเดียวค่ะ
โดยเรื่องราวของ Cinderella ใน Live Action นั้น เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงเรื่องราวของซินเดอเรลล่าที่ต้องอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงพร้อมด้วยลูกเลี้ยงของเธออีก 2 คน หลังจากที่เธอได้สูญเสียแม่ และพ่อไป ซึ่งซินเดอเรลล่าก็ถูกรังแก และถูกโขกสับเยี่ยงคนรับใช้โดยแม่เลี้ยงเสมอมา จนวันหนึ่งซินเดอเรลล่าได้บังเอิญเจอกับชายหนุ่มรูปงามในป่าโดยที่ไม่รู้ว่าก่อนว่าเขาคือเจ้าชายชาร์มมิ่ง และหลังจากนั้นไม่นานก็มีประกาศเชิญหญิงสาวทั่วราชอาณาจักรให้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำในพระราชวัง ซึ่งแน่นอนว่าซินเดอเรลล่าถูกกลั่นแกล้งไม่ให้ไปตามเคย ทำให้นางฟ้าแม่ทูนหัวได้ปรากฎตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือเธอ ซึ่งเหตุการณ์หลังจากนี้เองที่จะเปลี่ยนชีวิตของซินเดอเรลล่าไปตลอดกาล ถ้าอยากรู้บทสรุปของเรื่องนี้ ก็ต้องติดตามชมเรื่องราวสุดแสนประทับใจ และฉากเปลี่ยนชุดในตำนานสุดอลังให้ได้ในภาพยนตร์เรื่อง ‘Cinderella’ นะคะ
8. Maleficent – มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ (2014)

แนว | ผจญภัย, Fantasy |
ความยาวหนัง | 97 นาที |
ผู้กำกับ | Robert Stromberg |
นักแสดงนำ | Angelina Jolie, Elle Fanning, Sam Riley และ Sharlto Copley |
ปีที่ออกอากาศ | 2014 |
ถือเป็นหนึ่งใน Live Action เรื่องแรก ๆ ที่สร้างความฮือฮาให้แฟนเจ้าหญิงดิสนีย์ได้มากทีเดียวค่ะ เพราะ Live Action เรื่องนี้จัดเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ตัวเอกของเรื่องไม่ใช่เจ้าหญิง แต่กลับเป็นแม่มดใจร้าย ‘มาเลฟิเซนต์’ จากการ์ตูนเรื่อง ‘เจ้าหญิงนิทรา หรือ Sleeping Beauty’ แทน โดยทางดิสนีย์ก็ได้นำตัวละครนี้มาตีความใหม่ และสร้างเป็นเรื่องราวแฟนตาซีสุดตระการตา ซึ่งผู้ที่มารับบทมาเลฟิเซนต์นั่นก็คือคุณแม่ ‘แองเจลินา โจลี’ ที่ขอบอกเลยว่าแม่แองจี้ในเรื่องนี้สวยมาก มาดนางพญาสุด ๆ ประกบคู่มากับน้อง ‘แอล แฟนนิง’ ที่มารับบทเป็นเจ้าหญิงออโรร่าซึ่งก็สวยออร่าสมบทบาท หวานละมุนสมเป็นลูกสาวคนสวยของแม่ทูนหัวมาเลฟิเซนต์
โดยเรื่องราวจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาสมัยเด็กของ ‘มาเลฟิเซนต์’ ตอนที่เธอยังเป็นเด็กสาวแสนสวย ผู้มีจิตใจอันแสนบริสุทธิ์ จนกระทั่งกองทัพของพวกมนุษย์ได้บุกรุกเข้ามาในอาณาจักรมัวร์อันศักดิ์สิทธิ์ของเธอ มาเลฟิเซนต์จึงต้องลุกขึ้นมาปกป้องความสงบสุขของดินแดนอันเป็นที่รัก แต่แล้วเธอกลับได้ลิ้มรสความเจ็บปวดสาหัสจากการทรยศของคนที่ไว้ใจ จิตใจของเธอจึงถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นชา และความแค้น หลังจากได้ทราบข่าวถึงการถือกำเนิดของเจ้าหญิงแห่งเมืองมนุษย์นามว่า ‘ออโรร่า’ มาเลฟิเซนท์จึงได้เดินทางเข้าในพระราชวัง ก่อนจะทิ้งคำสาปเอาไว้ให้เด็กน้อยลูกสาวของชายผู้ทรยศเธอ แล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป อาณาจักรมัวร์และเมืองมนุษย์จะสามารถกลับมาเป็นพันธมิตรกันได้หรือไม่ ติดตามได้ใน ‘Maleficent กำเนิดนางฟ้าปีศาจ’ นะคะ
และทั้งหมดนี้ก็คือภาพยนตร์เจ้าหญิงดิสนีย์ในเวอร์ชั่น Live Action ที่มีต้นแบบมาจากการ์ตูนเจ้าหญิงของดิสนีย์ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกคนกัน ซึ่งเราก็หวังว่าทุกคนจะชื่นชอบ และได้หนังเจ้าหญิงดิสนีย์สนุก ๆ ไปรับชมกันจากคำแนะนำของเรานะคะ เพราะ Live Action แต่ละเรื่องที่เรานำมารีวิวกัน ขอบอกเลยว่าแต่เรื่องที่สนุกครบรส ดูได้ไม่มีเบื่อ เหมาะมาก ๆ สำหรับนั่งดูชิลล์ในวันหยุด ซึ่งเราไม่ยากให้คุณพลาดชมซักเรื่องเลยล่ะค่ะ
และถ้าหากใครที่ชื่นชอบการดูการ์ตูน หรือแอนิเมชันทางเราก็ยังมีอีกหลากหลายบทความที่คุณอาจสนใจ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวการ์ตูนสำหรับครอบครัวจากค่ายดีสนีย์, รีวิวอนิเมะสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli), รีวิวอนิเมะจีน/การ์ตูนจีน, รีวิวอนิเมะใน NETFLIX, รีวิวอนิเมะยุค 90, รีวิวอนิเมะใหม่มาแรง และ รีวิวซีรีส์เกาหลีน่าดูใน Disney+ Hotstar หากใครสนใจบทความไหนก็สามารถคลิ้กลิ้งค์ที่เราแนบไว้เพื่ออ่านรีวิวสนุก ๆ กันได้นะคะ สำหรับวันนี้คงต้องขอตัวลาไปก่อน ในบทความหน้าเราจะมีรีวิวดี ๆ อะไรให้อ่านกันอีกบ้าง อย่าลืมติดตามชมกันนะคะ สวัสดีค่ะ~