สวัสดีปีใหม่แฟน ๆ ซีรีส์เกาหลีทุกท่านค่ะ สำหรับวันนี้เราก็จะประเดิมปีใหม่ปีเสือด้วยการแนะนำซีรีส์เกาหลีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวันนี้ นั่นก็คือซีรีส์เรื่อง “ร้อนนั้นเรารักกัน (Our Beloved Summer)” ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ออกอากาศทาง Netflix นั่นเองค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้เรื่องใหม่ที่เริ่มออกอากาศในต้นเดือนธันวาคมและจะสิ้นสุดการออกอากาศในวันที่ 25 มกราคมที่จะถึงนี้ค่ะ
โดยซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างออกมา สาเหตุก็เป็นเพราะนำแสดงโดยชเวอูชิกและคิมดามี ซึ่งทั้งสองคนนี้เคยประชันฝีมือกันมาแล้วในภาพยนตร์เกาหลีแนวแอ็คชั่น สยองขวัญอย่างเรื่อง The Witch ค่ะ แต่ในซีรีส์เรื่อง Our Beloved Summer ทั้งสองจะเปลี่ยนบทบาทใหม่เพื่อจะพาเราไปติดตามเรื่องราวความรักที่ไม่คาดฝันของวัยรุ่นมัธยมปลายสองคนที่เคยรักกันมาก่อน แต่หลังจากที่เลิกรากันไปก็ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งในอีก 10 ปีต่อมาค่ะ
ร้อนนั้นเรารักกัน (Our Beloved Summer) ออกอากาศผ่าน Netflix ค่ะ ซึ่งก็เป็นธรรมเนียมของ Netflix เช่นเคยเพราะซีรีส์เรื่องนี้ถูกรีเมคขึ้นมาจากเว็บตูนที่มีชื่อเรื่องว่า Our Beloved Summer (ชื่อเดียวกันกับซีรีส์) หากสนใจคุณสามารถไปอ่านกันได้ในแอปพลิเคชันเว็บตูน (Webtoon) ค่ะ
จุดที่น่าสนใจมากของซีรีส์เรื่องนี้ก็คงจะเป็นเรื่องราวความรักค่ะ ทางเรื่องนำเสนอความรักแบบเรียลและเป็นเส้นทางความรักที่เกิดขึ้นได้บ่อยในชีวิตของเราทุกคน เพราะเมื่อมีรักก็ต้องมีเลิกรา แต่วันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกทำให้ต้องมาเจอกันอีกครั้ง ทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกพิเศษบางอย่างว่าแท้จริงแล้ว
“มันเป็นความผูกพันหรือเรายังรู้สึกรักอยู่กันแน่?”
หากคุณกำลังรู้สึกแบบนี้ซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมากเลยทีเดียว แต่การที่เราจะพาไปเจาะลึกซีรีส์กัน เราก็ขอบอกก่อนเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ชเวอูชิกและคิมดามีได้รับรางวัล Directors’ Award ในงาน SBS Drama Awards ประจำปี 2021 ค่ะ
เรื่องย่อ ร้อนนั้นเรารักกัน (Our Beloved Summer)

ร้อนนั้นเรารักกัน (Our Beloved Summer) เป็นซีรีส์ที่ติดตามชีวิตอันแสนธรรมดาของนักเรียน ม.ปลาย 2 คนที่ไม่เข้ากันเลยอย่างกุกยอนซู (คิมดามี) นักเรียนหัวกะทิอันดับหนึ่งของโรงเรียนและชเวอุง (ชเวอูชิก) นักเรียนผลการเรียนแย่และได้ที่โหล่มาเสมอ แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างทำให้เด็กวัยรุ่นสองคนในวัยต้องมาถ่ายสารคดีร่วมกัน ซึ่งสารคดีนั้นจะนำเสนอเรื่องราวชีวิตประจำวันของ “นักเรียนที่ได้ที่หนึ่งและนักเรียนที่ได้ที่โหล่” โดยสารคดีเรื่องนี้เป็นสารคดีที่ออกอากาศไปทั่วประเทศ ในแต่ละวันที่ถ่ายสารคดีทำให้กุกยอนซูและชเวอุงต้องตัวติดกันตลอดเวลาทั้งนั่งเรียน ไปห้องสมุดรวมไปถึงทำกิจกรรมอื่น ๆ แน่นอนว่าหลังจากการใกล้ชิดกันนาน ๆ จากเป็นคู่กัดก็กลายมาเป็นเพื่อน จากเพื่อนก็กลายมาเป็นคนรัก
กุกยอนซูและชเวอุงรักกันมาเป็นเวลา 5 ปีแต่ก็ต้องแยกย้ายและเลิกรากันไปอย่างเจ็บปวด ทั้งคู่ได้ทิ้งบาดแผลไว้ในใจซึ่งกันและกันและได้พูดไว้ว่าต่อมาจะไม่มาเจอกันอีกแล้ว หลังจากที่แยกย้ายกันไปเติบโตชเวอุงได้กลายเป็นนักวาดภาพชื่อดัง แต่เขาไม่เคยวาดภาพกาลเวลาและผู้คนเลย เขาสนใจแค่การวาดภาพต้นไม้และตึกรามบ้านช่องเท่านั้น ส่วนกุกยอนซูกลายมาเป็นพีอาร์สาวบ้างาน ที่ในชีวิตนี้เธอจะทำแค่งานและงานเช่นกัน ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์แบบต่างคนต่างอยู่มายาวนาน แต่แล้วชีวิตของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปเพราะวันหนึ่งสารคดีในตอน ม.ปลาย เรื่องนั้นก็กลับมาดังอีกครั้ง ทำให้เหล่าคนดูอยากจะรู้ว่า 10 ปีต่อมาทั้งคู่เป็นอย่างไรกันบ้างและยังติดต่อกันอยู่ไหม
แน่นอนว่าการที่ทั้งคู่แตกต่างกันเป็นอย่างมากและดูเหมือนจะไม่สามารถเป็นไปได้เลยเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ทุกคนต่างสนใจเรื่องราวของทั้งคู่มากจนต้องการที่จะให้มีการถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ขึ้นอีกครั้งเพื่อจะติดตามชีวิตใน 10 ปีต่อมา แน่นอนว่าถึงแม้ทั้งคู่จะต่างกันมากแต่มีเรื่องราวเรื่องหนึ่งที่ทั้งสองเหมือนกันและคนดูสารคดีไม่เคยรู้นั่นก็คือ “ในฤดูร้อนนั้นทั้งสองตกหลุมรักกัน” ค่ะ เรื่องราวจะจบลงอย่างไรทั้งสองจะได้กลับมารักกันหรือไม่ต้องไปดูค่ะ
ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ Our Beloved Summer : ร้อนนั้นเรารักกัน
แนวซีรีส์ | โรแมนติก ดราม่า คอมเมดี้ |
---|---|
สร้างโดย | Studio N |
ดัดแปลงมาจาก | เว็บตูนเรื่อง Our Beloved Summer โดย Geu Hae Urineun |
เขียนบท | อีนาอึน |
กำกับการแสดงโดย | คิมยุนจิน |
ช่องทางออกอากาศ | Netflix |
จำนวนตอน | 16 ตอน ตอนละ 60 นาที |
นักแสดงนำ | ชเวอูชิก (ชเวอุง) คิมดามี (กุกยอนซู) คิมซังชอล (คิมจีอุง) โนจองอี (เอ็นเจ/NJ) |
นักแสดงสมทบ | อันดงกู (คูอึนโฮ) พัคจินจู (อีซอลอี) จอนฮเยวอน (จองแชรัน) ซอจองยอน (อียอนอ๊ก) พัควอนซัง (ชเวโฮ) ชามีคยอง (คังจาคยอง) โจบ๊กแร (พัคดงอิล) ยุนซังจอง (จีเยอิน) พัคโดอุค (ชีซอง) อีซึงอู (อิมแทฮุน) |
เหตุผลที่ต้องดู ร้อนนั้นเรารักกัน (Our Beloved Summer) ?
คำเตือน : มีสปอยล์
1. มีตัวละครที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ซีรีส์เรื่องนี้มีตัวละครค่อนข้างเยอะค่ะ แต่ที่เราจะพูดถึงกันจะเป็นนักแสดงนำและมีบทบาททั้งหมด 4 ตัวละครด้วยกัน แต่ตัวละครทั้ง 4 คนก็มีมิติเป็นของตัวเองค่ะ ซึ่งผู้เขียนก็ชื่นชอบเรื่องราวของทุกตัวละครเป็นอย่างมากค่ะ ต่อไปนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกทั้ง 4 ตัวละครกันค่ะ

ชเวอุง (ชเวอูชิก)
ชเวอุงเป็นพระเอกของเรื่อง เขาเป็นนักวาดภาพอิสระ ในสมัยเรียนมัธยมชเวอุงเป็นคนไม่สนโลก เขาไม่มีความฝันเป็นชิ้นเป็นอันอีกทั้งยังเป็นที่โหล่ของห้อง สิ่งที่เขาทำได้ดีก็คือการวาดภาพ ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวร้านอาหาร พ่อและแม่ไม่มีเวลามาดูแลเขามากนักทำให้เขาโดดเดี่ยว แต่เขาเป็นคนที่เก็บอารมณ์ต่าง ๆ ได้ดีมาก ลึก ๆ แล้วเขากลัวการถูกทิ้งเพราะเป็นปมในใจตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเขามาเจอกับกุกยอนซูชีวิตของเขาก็ดีขึ้นเพราะเขามีเธอไปที่พึ่งพาทางใจแต่เมื่อเลิกรากันไป ชีวิตของเขาก็เข้าสู่ช่วงมืดมึนอีกครั้ง
บทบาทนี้ผ่านการแสดงโดยชเวอูชิก ขอบอกเลยว่าชเวอูชิกทำได้ดีมากเรื่องของการแสดงอารมณ์สีหน้า เศร้าก็เศร้าสุด ตลกก็ตลกสุด ๆ มีความรักก็กลายเป็นคนคลั่งรักทำให้เรารู้สึก “อยากทานชาพุทรา” ที่บ้านของชเวอุงเลยค่ะ (อิอิ)

กุกยอนซู (คิมดามี)
กุกยอนซูเป็นพีอาร์สาวที่บ้างานมากเพราะอยากให้ตัวเองประสบความสำเร็จจะได้เลิกจนเสียที กุกยอนซูมีฐานะยากจนมากอีกทั้งยังมีหนี้ที่ไม่ได้ก่อด้วย ตั้งแต่เด็กเธอเลยต้องดิ้นรนเป็นพิเศษเพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้น เธอเลยตั้งใจเรียนจนเป็นเด็กที่เรียนดีที่สุดในโรงเรียน ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็จบเกียรตินิยม ด้วยความสามารถของเธอทำให้เธอได้กลายเป็นที่ยอมรับ ในชีวิตนี้กุกยอนซูแสวงหาความสำเร็จเท่านั้น เธอไม่เคยมีความฝันเป็นของตัวเอง เธอคิดแค่ว่าจะทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่านี้ได้อย่างไร ด้วยความยากจนทำให้กุกยอนซูกลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัว มองแค่ความสำเร็จและก้าวไปข้างหน้าอย่างเดียวโดยไม่เคยลังเลอะไรเลย
บทบาทนี้รับบทโดยคิมดามี น้องหมวยจากซีรีส์เรื่องธุรกิจปิดเกมแค้น (Itaewon Class) นั่นเองค่ะ ขอบอกเลยว่าคิมดามีเป็นนักแสดงที่มากความสามารถมาก หากเป็นบทเย็นชาคิมดามีกินขาดอย่างแน่นอนค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้เราจะได้เห็นคิมดามีได้มุมมองที่แตกต่างออกไปเพราะเธอได้แสดงช่วงเวลาให้เราได้เห็นทั้งวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่

คิมจีอุง (คิมซังชอล)
คิมจีอุงเป็นเพื่อนสนิทของชเวอุง ทั้งคู่สนิทกันเพราะมีหลาย ๆ เหมือนกันนั่นก็คือการกลัวการถูกทอดทิ้งและโดดเดี่ยว แต่ชีวิตของคิมจีอุงเศร้ากว่าชเวอุงมากเพราะไม่เคยมีครอบครัวอยู่เคียงข้าง เมื่อโตขึ้นคิมจีอุงประกอบอาชีพเป็นผู้กำกับซึ่งอาชีพนี้ก็เหมาะกับเขามาก เพราะคิมจีอุงเป็นผู้สังเกตการณ์ความสัมพันธ์ของชเวอุงและกุกยอนซูมาตลอดตั้งแต่ในอดีตและจนถึงตอนนี้ เหมือนที่ใน 10 ปีต่อมาเขาก็อยู่หลังกล้องเพื่อสังเกตทั้งคู่อยู่เสมอและสุดท้ายความรู้สึกก็ปิดไม่มิดเพราะจริง ๆ แล้วคิมจีอุงแอบชอบกุกยอนซูมาตลอดและเธอก็เป็นรักแรกของเขา
บทบาทนี้ผ่านการแสดงโดยคิมซังชอล ขอชมก่อนเลยว่าสีหน้าของคิมซังชอลในเรื่องเหมาะกับบทมากโดยเฉพาะแววตา แววตาของคิมซังชอลเป็นแววตาที่เศร้าอยู่ตลอดเวลา เราสามารถมองเห็นความเศร้าและความโดดเดี่ยวได้ผ่านแววตาของเขา

เอ็นเจ / NJ (โนจองอี)
เอ็นเจประกอบอาชีพเป็นไอดอล เธอเป็นไอดอลสาวชื่อดัง เธอเป็นคนที่มีความสามารถมาก มีทักษะที่โดดเด่นและพยายามที่จะผลักดันตัวเองไปอยู่บนจุดสูงสุดเสมอ ถึงแม้เธอจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบแต่ด้วยอาชีพทำให้เธอโดยคนอื่นบูลลี่ตลอดเวลา แต่เอ็นเจไม่เคยท้อเพราะเธอเป็นคนตรง ๆ คิดแบบไหนก็พูดแบบนั้น เอ็นเจชื่นชอบชเวอุงเป็นอย่างมากเพราะเธอดูออกว่าเขาเป็นคนดีมากและมีความน่ารักตามฉบับของเขา ซึ่งตัวละครนี้ก็สร้างสีสันให้กับเรื่องได้ดีมากค่ะ
บทบาทนี้ผ่านการแสดงโดยโนจองอีที่เคยผ่านการแสดงซีรีส์เรื่อง 18 Again มาแล้วค่ะ บทบาทนี้ยังคงความน่ารักไว้เหมือนเดิมและทำให้ลุคของเธอดูโตขึ้นจากเดิมด้วยค่ะ สิ่งที่ผู้เขียนชอบมากคือสีผมของตัวละครนี้เพราะดูแซ่บ ๆ ร้าย ๆ ดีค่ะ
2. นำเสนอเรื่องราวความรัก…ที่ทั้งรักทั้งเกลียด
เราเชื่อเหลือเกินค่ะว่าทุกคนต้องมีความรักในช่วงหนึ่งของชีวิต หากให้นิยามคำว่ารักแต่ละคนก็คงให้คำนิยามที่ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน ในซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยตัวละคร 2 คนที่ต่างกันสุดขั้วนั่นก็คือกุกยอนซูและชเวอุง แต่ความต่างนี้ก็ทำให้เขารักกันจนได้

สำหรับชเวอุงแล้วกุกยอนซูคือทุกอย่างในชีวิตเขามาตลอด นั่นเป็นเพราะชเวอุงกลัวการถูกทิ้งขว้าง เขากลัวที่จะต้องเลิกกับกุกยอนซูมาก ดังนั้นเขาจึงถามกุกยอนซูเป็นประจำว่าเราจะเลิกกันใหม่และเมื่อถึงเวลาที่เลิกกันชเวอุงก็เจ็บปวดอย่างที่สุด เขากินไม่ได้และนอนไม่หลับ เขาใช้ชีวิตมาอย่างลำบากเป็นเวลาหลายปีและไม่มีคืนไหนที่เขาไม่ฝันเห็นกุกยอนซู ส่วนกุกยอนซูก็เสียใจเช่นเดียวกันแต่เธอไม่ได้แสดงออกมากนะเพราะมีภาระมากมายที่เธอได้ดูแล
ประโยคทีทัชใจผู้เขียนมากก็คือประโยคสนทนาของทั้งคู่ก่อนเลิกกันค่ะ ซึ่งประโยคนั้นก็คือ
ชเวอุง : พอลำบากทีไร เธอทิ้งฉันเป็นอย่างแรกทุกที ในบรรดาของที่เธอมี ฉันคือสิ่งที่ทิ้งง่ายที่สุดเหรอ
กุกยอนซู : ไม่ใช่ สิ่งที่ฉันทิ้งได้…มีแค่นายคนเดียว
คำพูดนี้หากเราเป็นคนฟังเราจะจุกมากค่ะซึ่งชเวอุงก็คิดแบบนั้นเช่นกัน แต่หากนึกถึงความหมายของกุกยอนซูมันค่อนข้างลึกซึ้งมาก เพราะจริง ๆ แล้วชีวิตของกุกยอนซูนั้นลำบากมาก ลำบากเกินไปจนไม่เคยมีอะไรที่มีคุณค่าเป็นของตัวเอง สิ่งที่เธอมีเพียงอย่างเดียวคือชเวอุงเท่านั้น ดังนั้นชเวอุงถือเป็นสิ่งเดียวและสิ่งแรกที่กุกยอนซูมี เธอเลยเลือกที่จะทิ้งเขาเพราะไม่มีอะไรให้เธอทิ้งได้อีกแล้ว
เมื่อทั้งคู่มาเจอกันอีกครั้งก็ “มีเส้นบาง ๆ ระหว่างความรักและความเกลียดชัง” อยู่ ถึงแม้การเจอกันในครั้งแรกจากเวลาผ่านไปจะค่อนข้างตลกเพราะชเวอุงเลือกที่จะสาดน้ำและเกลือใส่กุกยอนซู แต่อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้เกลียดเธอเลย เขาแสร้งเกลียดเพื่อปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงว่ายังรักเธออยู่ ดังนั้นเมื่อต้องมาเจอกันอีกครั้งชเวอุงจะทำตัวร้าย ๆ และทำลายความรู้สึกกุกยอนซูมาตลอด แต่ชเวอุงก็ไม่ผิดนะคะเพราะความเสียใจมาอย่างยาวนานและการไม่รู้สาเหตุที่ต้องเลิกกันทำให้ชเวอุงสร้างกำแพงขึ้นมาปิดกั้นตัวเอง
3. ใครว่าพื้นฐานทางครอบครัวไม่สำคัญกับความรัก
หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า “ความรักขึ้นอยู่กับคนสองคน” เมื่อรักกันแล้วอะไร ๆ ก็เป็นไปได้ แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายขนาดนั้นค่ะ เพราะความรักย่อมมีปัจจัยอื่น ๆ มาเกี่ยวข้อง บางคนรักกันก็ใช่ว่าจะอยู่ด้วยกันได้ โดยเรื่องหลักและปัจจัยสำคัญมากก็คือ “พื้นฐานครอบครัว” ค่ะ
จากในซีรีส์เรื่อง Our Beloved Summer ชเวอุงและกุกยอนซูมีความแตกต่างทางด้านครอบครัวเป็นอย่างมาก ครอบครัวของชเวอุงเป็นครอบครัวร้านอาหารถึงแม้ว่าจะไม่ได้รวยมากแต่ชเวอุงก็มีเงินจับจ่ายใช้สอย ไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องเงินและไม่ต้องดิ้นรนมากนัก ในขณะที่กุกยอนซูอาศัยอยู่กับย่าเพียง 2 คนและยากจนมาก อีกทั้งเธอยังต้องหาเงินมาใช้หนี้ก้อนโตที่อาของเธอทิ้งไว้ด้วย

การที่กุกยอนซูยากจนมากทำให้เธอไม่เคยมีเพื่อนเพราะเธอไม่สามารถที่จะให้อะไรแก่เพื่อนได้ แต่เมื่อเธอมีชเวอุงเขาคือสิ่งเดียวที่เธอมีจริง ๆ แต่ด้วยความต่างที่ต่างกันมากเกินไป อีกคนที่ต้องดิ้นรนตลอดเวลาส่วนอีกคนไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลยแต่กลับมีทุกอย่าง ทำให้กุกยอนซูมองว่าตัวเองไม่คู่ควรกับชเวอุง อีกทั้งกุกยอนซูยังมีนิสัยที่เห็นแก่ตัว แต่เธอไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะคะแต่เป็นเพราะย่าของเธอสอนเธอให้เห็นแก่ตัวเพราะความจนมันค้ำคอ
ในจุดนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของกุกยอนซูและชเวอุงผิดที่ผิดทางไปหมด การไม่สื่อสารกันของคนทั้งคู่ทำให้ทั้งสองทิ้งบาดแผลขนาดใหญ่ไว้ในใจของกันและกันจนมันยากที่จะฟื้นฟูนั่นเองค่ะ ดังนั้นหากคุณคิดว่าแค่รักกันก็จะมีอนาคตร่วมกันได้คุณคิดผิดค่ะ เพราะถึงแม้เราจะใกล้ชิดกันมากแต่เรื่องบางอย่างเราอาจจะพูดกันตรง ๆ ไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องละเอียดอ่อนภายในครอบครัว
4. ความสัมพันธ์ที่น่าสนใจระหว่าง “ชเวอุงและคิมจีอุง”
ความสัมพันธ์ของชเวอุงและคิมจีอุงเป็นความสัมพันธ์ที่พึ่งพาอาศัยกันค่ะ เป็นมิตรภาพที่ค่อนข้างแน่นแฟ้นเป็นอย่างมาก จุดที่เหมือนกันของชเวอุงและคิมจีอุงนั้นมีหลายอย่างมาก ทั้งคู่มีชื่อเล่นว่า “อุง” เหมือนกัน เรียนที่เดียวกันมาตั้งแต่เด็กและมีปัญหาเหมือนกันนั่นก็คือทั้งคู่เป็นคนที่กลัวการ “ถูกทิ้ง” บ้านของชเวอุงเป็นร้านอาหาร พ่อแม่ของเขายุ่งมากจนไม่มีเวลาอยู่กับเขาทำให้เขากลายเป็นคนที่โดดเดี่ยว
แต่นอกจากเรื่องนี้แล้วเขาก็ยังมีปมที่เป็นความลับอีกหนึ่งอย่างที่ไม่อาจจะบอกให้ใครรู้ได้ ส่วนคิมจีอุงอาศัยอยู่ร่วมกันกับแม่แต่แม่ของเขาไม่เคยอยู่ที่บ้านเลย ทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวและเติบโตมาด้วยความเศร้าหมอง แต่เมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกันก็ได้กลายเป็นเพื่อนกัน สนิทและช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาโดยตลอด

แต่จากสังเกตของผู้เขียนและเชื่อว่าทุกคนรับรู้ได้ตั้งแต่ตอนแรกก็คือความสัมพันธ์ที่คลุมเครือระหว่างกุกยอนซู ชเวอุงและคิมจีอุง นั่นก็คือคิมจีอุงก็ชอบกุกยอนซูเหมือนกัน แต่ตอนที่กุกยอนซูเป็นแฟนกับชเวอุง คิมจีอุงก็ขีดเส้นระหว่างตัวเองกับกุกยอนซูมาตลอดเพราะไม่อยากแทรกกลางความรักระหว่างเพื่อน เมื่อชเวอุงและกุกยอนซูเลิกรากัน คิมจีอุงก็ตัดสินใจลบเบอร์และเลิกติดต่อกับกุกยอนซูด้วยเช่นกัน
เรื่องราวเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีแต่เมื่อคิมจีอุงต้องเป็นคนที่มาถ่ายสารคดีให้กับชเวอุงและกุกยอนซูใน 10 ปีต่อมา คิมจีอุงก็ไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกที่เขามีให้กุกยอนซูได้อีกแล้วเพราะนอกจากกุกยอนซูจะเป็นรักแรกของชเวอุงแล้วเธอก็เป็นรักแรกของคิมจีอุงด้วยเช่นกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนจึงน่าสนใจมาก แต่นอกจากทั้ง 3 คนแล้วตัวละครอย่างเอ็นเจ (NJ) ที่ชอบชเวอุงก็จะเข้ามามีบทบาทระหว่างคนทั้ง 3 ด้วยค่ะ
5. มีการเล่าเรื่อง ฉากและเพลงประกอบซีรีส์ที่น่าสนใจ
สิ่งที่ผู้เขียนชอบมากเป็นพิเศษเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้คือการเล่าเรื่องของซีรีส์ค่ะ ในช่วงแรกตัวเรื่องจะผ่านการดำเนินเรื่องแบบสลับไปสลับมาระหว่างชีวิตปัจจุบันและสารคดีที่เคยถ่าย พอช่วงหลังก็จะทำคล้าย ๆ กับ Timestamp ที่มีการแบ่งช่วงเวลาผ่านการถ่ายทำสารคดีเรื่องใหม่ โดยมันจะทำให้คนดูเห็นความแตกต่างของระหว่างช่วงวัยได้เป็นอย่างดี เพราะสารคดีชุดนี้ได้รวบรวมความทรงจำของรักครั้งแรกในสมัยเรียนของกุกยอนซูและชเวอุงเอาไว้ และสารคดีเรื่องนี้ก็ช่วยสร้างโอกาสให้ทั้งสองได้ใช้เวลาร่วมกันอีกครั้งหลังจากการเลิก…ราเช่นกัน
นอกจากการเล่าเรื่องแล้วฉากในแต่ละฉากก็ถ่ายทอดออกมาดีมากโดยเฉพาะการถ่ายทอดอาชีพของพระเอก ชเวอุงเป็นนักวาดภาพถึงแม้ว่าภาพที่เขาวาดจะไม่มีคนเลยแต่รายละเอียดของภาพดูน่าสนใจมาก ทางเรื่องได้นำเสนอภาพวาดที่สมจริงมากทั้งลายเส้นและสี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของเรื่อง

อีกเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้คือเพลงประกอบซีรีส์ค่ะ ไม่รู้ทำไมนะคะทุกคนเพลงประกอบซีรีส์เกาหลีเนี่ยดีทุกเพลงเลยค่ะ โดยในเรื่องก็จะมีเพลงประกอบประจำแต่ละตอนนะคะ เช่นเพลง Maybe if โดย BIBI, เพลง Drawer โดย 10CM, เพลง Squabble โดย Ha Sung Woo และเพลง Christmas Tree โดย V BTS นั่นเองค่ะ
ขอบอกก่อนเลยว่าผู้เขียนชอบเพลง Christmas Tree มากเป็นพิเศษส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าผู้เขียนเป็นติ่งของวี BTS นั่นเองค่ะ อิอิ แต่เพลง Christmas Tree เป็นเพลงเปิดเรื่องตั้งแต่ตอนแรกที่เรียกความสนใจได้ดีมาก โดยเฉพาะท่อนที่ร้องว่า And I’ll tell you A Million little reasons, I’m falling for your eyes, I just want to be where you are เป็นท่อนที่มีความหมายตรงกับเรื่องนี้มากเพราะตัวชเวอุงนั้นหลงรักทุกอย่างที่เป็นกุกยอนซูจริง ๆ และอยากให้ทุก ๆ ที่มีแค่กุกยอนซูเสมอ ซึ่งกุกยอนซูก็คิดเช่นเดียวค่ะ ดังนั้นเพลย์ลิสต์เพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเพลยลิสต์ที่คุณต้องเก็บไว้ฟังอย่างแน่นอนค่ะ