รีวิว ซีรีส์จีน เทียบท้าปฐพี (Who Rules The World)

กราบสวัสดีมิตรรักแฟนซีรีส์จีนค่ะ วันนี้ผู้เขียนกลับมาแล้วหลังจากไม่ได้รีวิวซีรีส์จีนเรื่องเต็มมานานมาก ๆ นั่นเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมายังไม่มีซีรีส์ที่เข้าตาผู้เขียนนั่นเองค่ะ บางเรื่องก็ไม่มีเวลาดูด้วยเลยแอบไปซบอกอนิเมะของประเทศญี่ปุ่นมา แต่เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ทาง WeTV ก็ได้ประกาศฉายซีรีส์เรื่องใหม่ที่ทำให้ผู้เขียนอบอุ่นใจและดีใจมากเป็นพิเศษ เพราะผู้เขียนรอให้ซีรีส์เรื่องนี้ลงจอมานานมาก ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ “เทียบท้าปฐพี (Who Rules The World)“ นั่นเองค่ะ

จุดเด่นก็คือซีรีส์เรื่องนี้เป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกระหว่างพระเอกหนุ่มหล่อ “หยางหยาง” และนางเอกสาวเจ้าบทบาท “จ้าวลู่ซือ” ตั้งแต่ทาง WeTV ได้ปล่อยตัวอย่างออกมา เหล่าแฟนคลับก็ตั้งตารอคอยซีรีส์เรื่องนี้เป็นอย่างมากค่ะ แค่นำแสดงโดย “หยางหยาง” ซีรีส์ก็น่าดูไปมากกว่าครึ่งแล้วใช่ไหมคะทุกคน ?

	[E-Coupon] WeTV รหัส VIP สำหรับใช้งาน 1 วัน
	[E-Coupon] WeTV รหัส VIP สำหรับใช้งาน 7 วัน
	[E-Coupon] WeTV รหัส VIP สำหรับใช้งาน 30 วัน

ซีรีส์เรื่องนี้ได้ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง “เทียบท้าปฐพี (Qie Shi Tian Xia/且试天下)” เขียนโดย “ชิงหลิงเยวี่ย” ซึ่งนิยายได้ผ่านการแปลไทยเรียบร้อยแล้วค่ะและก็แปลวางขายมานานหลายปีแล้วด้วย ตัวเรื่องจะเล่าเรื่องราวการต่อสู้แย่งชิงอำนาจและการท่องยุทธภพระหว่างจอมยุทธ์หญิงและชาย คนหนึ่งอาภรณ์ขาวอีกคนหนึ่งอาภรณ์ดำ พวกเขาใช้ชื่อร่วมกันว่า “ไป๋เฟิงเฮยซี”

	หนังสือ นิยายแปลจีน เทียบท้าปฐพี เล่ม 3 (ปกใหม่)
	หนังสือ นิยายแปลจีน เทียบท้าปฐพี เล่ม 1
	หนังสือ นิยายแปลจีน เทียบท้าปฐพี เล่ม 2 (ปกใหม่)

ขอบอกเลยว่าในนิยายสนุกมาก ๆ เมื่อนำมาเป็นซีรีส์ก็ดีไม่แพ้กันเลยค่ะ ใครที่ชอบซีรีส์จีนกำลังภายในอย่างดาบพิฆาตกลางหิมะก็สามารถดูซีรีส์เรื่องนี้ได้เลยค่ะเพราะว่าแนวซีรีส์จะเป็นแนวที่คล้าย ๆ กัน

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าซีรีส์เรื่องเทียบท้าปฐพี (Who Rules The World) มีจุดเด่นและมีอะไรน่าสนใจบ้าง? วันนี้เราจะพาทุกคนไปวิเคราะห์พร้อม ๆ กันค่ะ

เรื่องย่อ เทียบท้าปฐพี (Who Rules The World)

เทียบท้าปฐพี (Who Rules The World) เป็นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวของการแย่งชิงอำนาจและก้าวสู่ความเป็นใหญ่ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในแผ่นดินต้าตง แผ่นดินนี้เกิดขึ้นจากการรวมแคว้นทั้ง 6 เข้าด้วยกันนั่นก็คือแคว้นยงโจว, แคว้นชิงโจว, แคว้นจี้โจว, แคว้นโยวโจว, แคว้นเป่ยโจวและแคว้นซางโจว โดยผู้ที่เป็นกษัตริย์สูงสุดของทั้ง 6 แคว้นคือกษัตริย์ต้าตง “ฮ่องเต้ฉุนสี่ ผู้ปกครองของแคว้นอื่น ๆ จะมีฐานะเป็น “อ๋อง”

อ๋องของแต่ละแคว้นจะมีป้ายคำสั่งเป็นของตัวเองเรียกว่า “ป้ายแกนกาฬ” ส่วนป้ายที่เป็นคำสั่งใหญ่ของฮ่องเต้ฉุนสี่เรียกว่า “ป้ายขั้วกาฬ” แน่นอนว่าคนที่ได้ครอบครองป้ายขั้วกาฬคือคนที่เป็นองค์เหนือหัวและเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน แต่เดิมแผ่นดินต้าตงสงบไร้สงคราม แต่เพราะความโลภมากของคนทำให้แผ่นดินใหญ่แห่งนี้ได้เริ่มเข้าสู่กลียุคแบบเต็มตัว จนวันหนึ่ง “ป้ายขั้วกาฬ” ก็ได้หายไป แคว้นทั้ง 7 แตกเป็นก๊กเป็นเหล่า แต่ละแคว้นจึงออกตามหาป้ายขั้วกาฬเพื่อที่จะทำให้แคว้นตัวเองได้กลายเป็นใหญ่และเป็นผู้ควบคุมอำนาจในแผ่นดิน

แต่ในช่วงกลียุคตำนานบทใหม่ก็ได้เกิดขึ้น เล่าขานกันมาว่ามีจอมยุทธ์ 2 คนหนึ่งหญิงและหนึ่งชายที่โด่งดังไปทั้งปฐพีพวกเขามีชื่อเหมือนกันคือ “เฟิงซี*” แต่เพื่อไม่ให้ผู้คนสับสนที่ทั้งคู่มีชื่อเหมือนกัน ฉายาและชื่อของพวกเขาก็ได้เปลี่ยนไปตามบุคลิกของพวกเขา นั่นก็คือไป๋เฟิงซี (จ้าวลู่ซือ) และเฮยเฟิงซี (หยางหยาง)

ไป๋เฟิงซีเป็นจอมยุทธ์หญิงที่หน้าตาสวยงามและมากไปด้วยความสามารถ เธอจะชอบสวมเสื้อผ้าอาภรณ์ที่เป็นสีขาวทำให้เธอได้ชื่อว่า “ไป๋(ขาว) เฟิงซี)**” ส่วนเฮยเฟิงซีเป็นหนุ่มหล่อที่ไม่มีใครเทียบได้ อีกทั้งยังมีวรยุทธ์เป็นหนึ่งด้วย เขามักจะสวมใส่เสื้อผ้าสีดำทำให้เขามีชื่อว่า “เฮย(ดำ)เฟิงซี***” เนื่องจากพวกเขาทั้งคู่เป็นคนที่มากความสามารถและร่วมต่อสู้ด้วยกันในยุทธภพเสมอ ทำให้ผู้คนรู้จักทั้งคู่ในนามว่า “ไป๋เฟิงเฮยซี” ว่ากันว่าที่ไหนมีไป๋เฟิงซีที่นั่นจะมีเฮยเฟิงซีเสมอ

เมื่อเวลาผ่านไปป้ายขั้วกาฬก็ได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง โดยอยู่ในมือของเยียนอิ๋งโจว (เฮ่อไคหล่าง) ขุนพลวายุกล้าแห่งจี้โจว แต่ในระหว่างกลับแคว้นเขาโดนตามล่าจากคนทั่วสารทิศและกำลังจะตาย แต่ไป๋เฟิงซีมาแย่งชิงตัวเขาออกไป ในยุทธภพเล่าขานกันมาว่าไป๋เฟิงซีเป็นจอมยุทธ์ที่มีคุณธรรมสูงมากหากพบเห็นคนที่ถูกรังแกเธอจะเข้าช่วยเหลือเสมอ แต่การช่วยเหลือครั้งนี้ไม่สำเร็จเพราะเยียนอิ๋งโจวได้เสียชีวิตในภายหลังทำให้ป้ายขั้วกาฬตกอยู่ในมือของไป๋เฟิงซี

แน่นอนว่าไป๋เฟิงซีไม่ได้ต้องการป้ายขั้วกาฬเพราะเธอแค่ต้องการท่องไปทั่วหล้า โดยเรื่องที่ป้ายขั้สกาฬอยู่ในมือของไป๋เฟิงซี เฮยเฟิงซีก็รู้เช่นเดียวกันและพยายามช่วยเธออย่างลับ ๆ สุดท้ายทั้งสองก็รู้ว่าป้ายขั้วกาฬที่ได้มาเป็นของปลอม ในระหว่างการสืบหาความจริง สำนักใหญ่แต่ละสำนักก็โดยกวาดล้างโดยสำนักต้วนหุน ใครจะเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังกันแน่ และความสัมพันธ์ของไป๋เฟิงเฮยซีจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามกันค่ะ

* ไป๋เฟิงซีและเฮยเฟิงซีมีชื่อเหมือนกันว่า “เฟิงซี” เป็นคำพ้องเสียงแต่ใช้ตัวอักษรจีนคนละตัวและความหมายที่ต่างกันในภาษาจีน

• เฮยเฟิงซี (เฟิง = 丰 หมายความว่า ความอุดมสมบูรณ์)
• ไป๋เฟิงซี (เฟิง = 风 หมายความว่า ลม)
• เฮยเฟิงซี (ซี = 息 หมายความว่า ลมหายใจ ความผ่อนคลายและผลประโยชน์)
• ไป๋เฟิงซี (ซี = 夕 หมายความว่า เวลาอัสดง)

** ไป๋เฟิงซีมีคำเปรียบเปรยไว้ว่า “อาภรณ์ขาว จันทร์หิมะ เฉิดโฉมปราดเปรื่องไร้เปรียบปาน”

*** เฮยเฟิงซีมีฉายาว่า “อาภรณ์ดำ จันทร์หมึก กรายมาเหนือเมฆา”

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ Who Rules The World : เทียบท้าปฐพี

คลิปรีวิว ซีรีส์เทียบท้าปฐพี (Who Rules The World)

ทำไมต้องดู เทียบท้าปฐพี (Who Rules The World) ?

คำเตือน : มีสปอยล์

1. แนะนำตัวละครที่น่าสนใจ

เฮยเฟิงซี/เฟิงหลันซี (หยางหยาง)

เฮยเฟิงซีเป็นจอมยุทธ์ที่ได้รับฉายาว่า “อาภรณ์ดำ จันทร์หมึก กรายมาเหนือเมฆา” เขาเป็นคนที่เจนจัดในยุทธภพมาก แต่มีหลายคนยังไม่รู้ว่าเขามีอีกหนึ่งฐานะนั่นก็คือเขาเป็นซื่อจื่อแห่งแคว้นยงโจว “เฟิงหลันซี” แม่ของเฟิงหลันซีคือองค์หญิงอี่เกอผู้เป็นน้องสาวของฮ่องเต้ต้าตงซึ่งเป็นผู้ครองอำนาจสูงสุดของแคว้น

ทำให้เฟิงหลันซีได้ครองตำแหน่งซื่อจื่อแม้ว่าจะเป็นเพียงบุตรชายคนรองเท่านั้น เฟิงหลันซีต้องแกล้งทำเป็นว่าตัวเองป่วยเพื่อปกป้องตัวเอง เพราะหลังจากที่แม่ของเขาตาย “ไป๋หลี่ซื่อ” ก็กลายมาเป็นพระชายา ไป๋หลี่ซื่อต้องการกำจัดเฟิงหลันซีทำให้เฟิงหลันซีต้องจัดฉากขึ้นมาให้ตัวเองดูเป็นคนอ่อนแอ

นอกจากนี้เฟิงหลันซียังครองตำแหน่งคุณชายแห่งใต้หล้าด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วอันดับหนึ่งคืออวี้อู๋หยวน อันดับสองคือเฮยเฟิงซี อันดับสามคือหวงเฉาและอันดับสี่คือเฟิงหลันซี แต่หลายคนไม่รู้ว่าเฟิงหลันซีก็คือเฮยเฟิงซี ทำให้เขาได้ควบ 2 ตำแหน่งเลยทีเดียว

บทบาทนี้นำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มหล่ออย่าง “หยางหยาง” นั่นเองค่ะ ขอบอกเลยว่าเรื่องความสามารถไม่ต้องพูดเลยเพราะหยางหยางอยู่ในวงการบันเทิงมานานมาก บทบาทที่เขาแสดงทุกเรื่องก็โด่งดังเป็นพลุแตก โดยเรื่องที่ดังมาก ๆ คือดุจดวงดาวเกียรติยศและยิ้มนี้โลกละลายค่ะ

ไป๋เฟิงซี/เฟิงซีอวิ๋น (จ้าวลู่ซือ)

ไป๋เฟิงซีเป็นจอมยุทธ์ที่ได้รับฉายาว่า “อาภรณ์ขาว จันทร์หิมะ เฉิดโฉมปราดเปรื่องไร้เปรียบปาน” ไป๋เฟิงซีเป็นคนที่มีความสามารถมาก นางได้รับฉายาเป็นยอดหญิงในอันดับหนึ่งของใต้หล้า ไป๋เฟิงซีเป็นคนของสำนักเทียนซวง ด้วยความสามารถของเธอทำให้ศิษย์พี่และศิษย์น้องต่างให้ความเคารพและยกย่องให้เธอสืบตำแหน่งเจ้าสำนักต่อไป ไป๋เฟิงซีก็เหมือนกับเฮยเฟิงซี เธอมีอีกฐานะหนึ่งนั่นก็คือ “เฟิงซีอวิ๋น”

เฟิงซีอวิ๋นเป็นองค์หญิงแห่งเมืองชิงโจว เฟิงซีอวิ๋นเป็นองค์หญิงที่มีความสามารถมากและสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองชิงโจวมามากมาย แต่เฟิงซีอวิ๋นเบื่อการแย่งชิงอำนาจ เธอเลยออกมาท่องเที่ยวในยุทธภพเพราะชอบความอิสระมากกว่าการต้องอยู่ในกรอบ

บทบาทนี้รับบทโดย “จ้าวลู่ซือ” ค่ะ เชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครไม่รู้จ้าวลู่ซือเพราะเธอแสดงซีรีส์มามากมายนับไม่ถ้วนโดยเรื่องที่เราได้รีวิวไปแล้วก็คือข้านี่แหละองค์หญิงสาม, สตรีหาญ ฉางเกอ, สะดุดรักมิสเตอร์หลิงและศิษย์สาวป่วนสำนักค่ะ ขอบอกเลยว่าใครที่ดูซีรีส์จีนจะต้องรู้จักสาวน้อยคนนี้อย่างแน่นอน

หวงเฉา (ไล่อี้)

หวงเฉาเป็นซื่อจื่อแห่งจี้โจว ภายในใจของเขาไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าใต้หล้า หวงเฉามีจิตใจทะเยอะทะยานเขาอยากรวบรวมทุกแคว้นให้เป็นหนึ่งเดียว และต้องการปกครองใต้หล้าเพียงหนึ่งเดียวด้วย เมื่อเขารู้ข่าวว่าป้ายขั้วกาฬหายไป เขาก็ได้ให้ทหารคู่ใจอย่าง “เยียนอิ๋งโจว” ออกไปตามหา แต่สุดท้ายเขาก็ป้ายปลอมกลับมา อีกทั้งยังต้องสูญเสียขุนพลมือหนึ่งอย่างเยียนอิ๋งโจวไปตลอดกาลด้วย

โดยนอกจากเยียนอิ๋งโจวแล้ว หวงเฉายังมีกุนซืออย่าง “อวี้อู๋หยวน” คุณชายอันดับหนึ่งในใต้หล้าด้วยค่ะ วันหนึ่งหวงเฉาได้เจอกับไป๋เฟิงซี เขาพึงพอใจในตัวนางเป็นอย่างมากแต่สุดท้ายระหว่างนางและใต้หล้าเขาจะเลือกอะไรต้องไปติดตามกันค่ะ

บทบาทนี้แสดงโดย “ไล่อี้” หลายคนคงคุ้นตาเขาอย่างแน่นอนเพราะเขาแสดงซีรีส์มาหลายเรื่องแล้วเช่นกัน โดยซีรีส์ล่าสุดเลยก็คือตำนานรักสองสวรรค์ค่ะ ขอบอกเลยว่าในซีรีส์เรื่องนี้ผู้กำกับและฝ่ายคัดนักแสดงได้นำนักแสดงเรื่องตำนานรักสองสวรรค์มาร่วมแสดงเยอะมาก ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนที่เราคุ้นตาค่ะ

เฟิ่งชีอู๋ (เซวียนลู่)

เฟิ่งชีอู๋เป็นนายหญิงแห่งสกุลเฟิ่ง ซึ่งเป็นสกุลที่เรืองอำนาจมากในยงโจว อีกทั้งเธอยังเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้ครองตำแหน่งในราชสำนัก โดยมีตำแหน่ง “เฟิ่งซ่างซู” เฟิ่งชีอู๋ เป็นคนฉลาดและมีความคิดล้ำลึก เรียกได้ว่าเก่งกาจไม่แพ้บุรุษเลยทีเดียว เฟิ่งชีอู๋ชอบพอในตัวของเฟิงหลันซี (เฮยเฟิงซี) ทำให้นางและตระกูลเฟิ่งกลายเป็นคนหนุนหลังและเป็นกองกำลังให้กับเฟิงหลันซี

บทบาทนี้นำแสดงโดย “เซวียนลู่” ศิษย์พี่หญิงแห่งบ้านกูซูในซีรีส์เรื่องปรมาจารย์ลัทธิมารค่ะ บทบาทนี้เซวียนลู่ก็มาในมาดสาวชุดแดงค่ะ สวยงามตามฉบับของนักแสดงเช่นเคยค่ะ สำหรับตัวละครนี้ต้องไปลุ้นกันค่ะว่าภายหลังจะเป็นอย่างไร

สำหรับในส่วนนี้ผู้เขียนจะเน้นแค่ตัวละครที่มีชื่อมาเป็นอันดับแรกก่อนนะคะ เพราะตัวละครในเรื่องเยอะมาก ๆ จริง ๆ และมีความสำคัญกับเรื่องทั้งหมด แต่ 4 คนด้านบนเป็นบทบาทที่เด่นที่สุดภายในเรื่องค่ะ

โดยตัวละครอีกหลายตัวที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือบทบาทของอวี้อู๋หยวน, ฮว่าฉุนหราน, เฟิงจวี่, เฟิงฉาง, เยียนอิ๋งโจว, อ๋องแคว้นยงโจว, ไป๋หลี่ซื่อและซิวจิ่วหรงค่ะ ต้องตามไปดูกันค่ะว่าตัวละครเหล่านี้จะสร้างสีสันให้กับเรื่องในแบบไหนบ้าง

2. ซีรีส์ดัดแปลงมาจากนิยายจีนชื่อดัง

ตามที่เราได้บอกไว้ค่ะซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายจีนในชื่อเดียวกันคือนิยายเรื่องเทียบท้าปฐพี (Qie Shi Tian Xia/且试天下) เขียนโดย ชิงหลิงเยวี่ย โดยสำนักพิมพ์แจ่มใสได้ลิขสิทธิ์การแปลนิยายเรื่องนี้ไปค่ะ เราสามารถหาซื้อได้ทั้งผ่านร้านหนังสือและออนไลน์ค่ะ ผู้เขียนจะแนบลิงก์ไว้ด้านล่างเผื่อทุกคนอยากอ่านนิยายที่สุดแสนจะเข้มข้นค่ะ

โดยนิยายมีทั้งหมด 3 เล่มด้วยกัน เล่มละประมาณ 500 + หน้าค่ะ ขอบอกเลยค่ะว่าผู้เขียนได้อ่านนิยายเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในนิยายและซีรีส์มีความเหมือนและความต่างกันค่ะ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นักเพราะการจะนำนิยาย 3 เล่มมาอัดเข้าไปในซีรีส์ 40 ตอนมันเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ ดังนั้นซีรีส์ทำได้ดีมากแล้วค่ะ

	หนังสือ นิยายแปลจีน เทียบท้าปฐพี เล่ม 3 (ปกใหม่)
	หนังสือ นิยายแปลจีน เทียบท้าปฐพี เล่ม 1
	หนังสือ นิยายแปลจีน เทียบท้าปฐพี เล่ม 2 (ปกใหม่)

ความโป๊ะของนิยายก็มีเหมือนกันนะคะทุกคน เพราะอันที่จริงเรื่องนี้นางเอกของเรามีความสัมพันธ์กับพระรองหลายคนมาก หากไม่ได้ทำหน้าปกเป็นรูปพระเอกและนางเอกอาจจะคาดเดาได้ยากว่าใครคือพระเอกกันแน่ เพราะถึงแม้เฮยเฟิงซีจะเป็นตัวละครหลักในเรื่อง แต่ทางเรื่องก็ไม่ได้ปูเรื่องว่าเขาเป็นพระเอกมาตั้งแต่แรก แต่เขาคือคนที่ใกล้ชิดกับไป๋เฟิงซีมากที่สุดต่างหาก

ผู้เขียนคิดว่าคนที่ได้อ่านนิยายแล้วอาจจะมีพระเอกในดวงใจอยู่แล้วค่ะ และนั่นอาจจะไม่ใช่เฮยเฟิงซีก็เป็นได้ เนื้อเรื่องของนิยายและซีรีส์ดำเนินต่างกันเล็กน้อยค่ะ เพราะในเล่มแรกของนิยายไม่ได้เปิดตัวสำนักต้วนหุนมากนักแต่จะเน้นเรื่องสงครามไปเลย ส่วนในซีรีส์จะเปิดปมของเฮยเฟิงซีมาก่อนและปูเรื่องสำนักต้วนหุนมาพร้อม ๆ กัน แต่ผู้เขียนคิดว่าเปิดเรื่องมาเหมือนกับซีรีส์ก็ดีเหมือนกันค่ะเพราะคนดูจะได้ไม่งงมาก ตัวละครในเรื่องมีเยอะมากจริง ๆ ค่ะ พูดทั้งวันก็อาจจะไม่หมด ใครที่ไม่อยากลุ้นกับซีรีส์ก็สามารถไปอ่านนิยายและไขความจริงภายในเรื่องได้เลยค่ะ

3. ความสัมพันธ์แบบเพื่อน (ที่ไม่ใช่เพื่อน) ของไป๋เฟิงเฮยซี

ความสัมพันธ์ของไป๋เฟิงซีและเฮยเฟิงซีเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นแบบ “เพื่อนไม่จริง”ค่ะ ทั้งคู่สนิทและร่วมท่องยุทธภพกันมาเป็นเวลา 10 ปีเต็ม ๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน แต่คำว่าเพื่อนมันค้ำคอค่ะทุกคนเพราะทั้งคู่รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว ไป๋เฟิงซีรู้จักเฮยเฟิงซีดีกว่าใคร ส่วนเฮยเฟิงซีก็รู้ดีว่าไป๋เฟิงซีไม่ได้เป็นกุลสตรีสักเท่าไหร่ แน่นอนว่าความเป็นไปได้ของทั้งคู่คือมีแน่นอน แต่ทั้งคู่เลือกที่จะทำให้มันเป็นไปไม่ได้มากกว่า

หากพิจารณาจากนิยายและซีรีส์เราจะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่มีคนมาชอบไป๋เฟิงซี เฮยเฟิงซีก็ทนไม่ได้และจะเข้าไปแสดงความเป็นเจ้าของตลอด เช่นเดียวกับไป๋เฟิงซีที่เมื่อเห็นใครเข้าหาเฮยเฟยซีก็ทนไม่ค่อยได้ แต่มักจะทำเฉยชาและไม่สนใจค่ะ ขอบอกเลยว่าในเรื่องมีว่าที่พระรองเยอะมาก ๆ มีคนมาชอบไป๋เฟิงซีมากกว่าที่ชอบเฮยเฟิงซีเสียอีก ดังนั้นพระเอกของเราก็จะกันท่าอยู่เรื่อยมาแต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองชอบเขานะคะทุกคน หากจะพูดว่าในเรื่องใครร้ายที่สุด ผู้เขียนตอบเลยว่าไม่ใช่ตัวร้าย ไม่ใช่พระรองแต่เป็นพระเอกค่ะ พ่อจิ้งจอกดำของเราร้ายกว่าใครค่ะ ถ้าไม่เชื่อต้องดูค่ะว่าร้ายจริงไหม?

4. ฉากการต่อสู้ดีและสวยงามมาก

ฉากการต่อสู้ตั้งแต่เปิดเรื่องคือต้องร้อง “ว้าว” เลยค่ะเพราะสวยมาก สมกับเป็นซีรีส์แนวท่องยุทธภพ เปิดเรื่องมาถึงก็ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของเรื่องเลย ซีรีส์แนวกำลังภายในส่วนใหญ่จะใช้ CG ในการถ่ายทำค่ะ ซึ่ง CG เรื่องนี้ดีมากและไม่ดูลอยด้วยทำให้เราดูแล้วมันราบรื่นไปหมด การถ่ายทอดเรื่องราวก็ค่อนข้างดีมากทุกเรื่องราวมีที่มาที่ไปไม่ใช่เกิดขึ้นเฉย ๆ ทำให้เรื่องมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น จุดที่ผู้เขียนชอบอีกหนึ่งอย่างก็คือสะบัดชายผ้าและการจัดระเบียบของชุดระหว่างต่อสู้ มันไม่ดูมากจนเกินไปและดูเป็นธรรมชาติ

นอกจากฉากการต่อสู้แล้ว เสื้อผ้าและฉากที่ใช้ในการถ่ายทำก็ดูดีมากค่ะ เรียกได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเสื้อผ้าที่นักแสดงแต่ละคนใช้สวมใส่ตรงกับคาแรกเตอร์และไม่ซ้ำกันเลยสักชุดค่ะ หากดูซีรีส์เรื่องอื่นเสื้อผ้ามักจะถูกมองข้ามและซ้ำกันไปซ้ำกันมาค่อนข้างเยอะ แต่ซีรีส์เรื่องนี้ไม่มีคำว่าซ้ำเลยแม้แต่น้อยค่ะ แต่ละชุดคือสวยงามมากรวมทั้งทรงผมก็ดีมากด้วย

หากถามว่าผู้เขียนชอบฉากไหนที่สุดผู้เขียนชอบฉากที่ไป๋เฟิงซีและเฮยเฟิงซีต่อสู้ร่วมกันมากค่ะเพราะมันดูดีและกลมกลืนมากเป็นพิเศษ ส่วนอีกฉากก็คือฉากที่ไป๋เฟิงซีวัดฝีมือกับหวงเฉาค่ะ ซึ่งมันทำให้เราได้เห็นว่านางเอกของเราไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ แบบเล็กแต่พริกขี้หนูประมาณนี้ค่ะ

5. ใครจะเป็นลาสบอส (Last Boss) ตัวจริงของเรื่อง?

ว่ากันว่าตัวร้ายมักจะซ่อนอยู่ในมุมมืดเสมอ สำหรับเรื่องนี้ก็เช่นกันเพราะในเรื่องยังไม่ได้เปิดเผยออกมาว่าใครเป็นผู้บงการของ “สำนักต้วนหุน” จุดมุ่งหมายของสำนักต้วนหุนคือต้องการที่จะครอบครองแผ่นดินต้าตงและต้องการครอบครอง 7 แคว้นค่ะ

พวกเขาเลยพยายามจัดการกับสำนักต่าง ๆ เพื่อขโมยเคล็ดวิชาลับทั้งหมดเพื่อมาพัฒนาให้สำนักของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งศัตรูตัวฉกาจของสำนักต้วนหุนก็เป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ “ไป๋เฟิงซีและเฮยเฟิงซี” ค่ะ ทั่วทั้งยุทธภพรู้กันดีว่าทั้งสองคนนี้กำจัดได้ยากมากและกินกันไม่ลง คนที่สามารถรับกระบวนท่าของไป๋เฟิงซีได้ก็มีแต่เฮยเฟิงซี ส่วนคนที่สามารถตอบโต้กับเฮยเฟิงซีได้ก็มีแค่ไป๋เฟิงซีเท่านั้น ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากค่ะ

ผู้เขียนมองว่าทุกคนน่าจะเดาออกว่าลาสบอส (Last Boss) ของเรื่องเป็นใครค่ะ แต่บางคนอาจจะคิดไม่ถึงว่าเป็นคนนี้ ในส่วนนี้ผู้เขียนจะไม่สปอยล์นะคะเพราะเดี๋ยวจะไม่สนุก ขอบอกก่อนเลยว่าเนื้อเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้มีความซับซ้อนมากค่ะ เพราะแต่ละคนล้วนมีเบื้องหลังและมีความลับ นางเอกและพระเอกของเราก็มีความลับเช่นเดียวกัน ดังนั้นความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้คือการที่เราจะได้ไปไขความลับของเรื่องทีละข้อ ๆ แล้วเอามาผนวกกันเป็นเรื่องเดียวค่ะ ใครที่ชอบซีรีส์แบบต้องลุ้นทุกตอนแนะนำเลยค่ะ