เดี๋ยวนี้ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็มอบความสะดวกสบายให้เรามากขึ้น จากที่เมื่อก่อนเวลาที่คุณอยากดูหนังสักเรื่อง ก็ต้องไปดูที่โรงหนังหรืออาจจะต้องไปเช่า/ซื้อแผ่นดีวีดีมาดู รวมถึงบางคนอาจจะต้องรอดูหนังที่ฉายในช่องฟรีทีวีต่าง ๆ ที่บางครั้งเราก็ไม่สามารถเลือกประเภทหนังได้ แต่เดี๋ยวนี้แค่คุณหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก็มีแอปฯ สตรีมหนังมากมายไว้คอยบริการคุณ หน้าที่ของคุณก็เพียงแค่สมัครสมาชิกก็ได้ดูหนังมากมายหลากหลายเรื่องแล้วค่ะ ยิ่งถ้าคุณมีสมาร์ททีวีที่สามารถส่งต่อภาพจากโทรศัพท์มือถือเข้าจอทีวีก็ยิ่งสะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงชุดโฮมเธียเตอร์ที่จะช่วยสร้างคุณภาพของเสียงให้คุณเพลิดเพลินไม่รู้จบ ดังนั้นเดี๋ยวนี้ค่ายหนังทั้งในและต่างประเทศจึงพยายามอย่างหนักเพื่อผลิตหนังออกมาให้ตรงใจคนดูมากที่สุดค่ะ
ในวงการหนังยังมีการแบ่งประเภทของหนังออกเป็นหมวดหมู่มากมายตามความนิยมของคนดูและเนื้อหาของหนัง ประเภทที่คนนิยมมากที่สุดก็จะเป็นหนังแนวแฟนตาซีไซไฟ, หนังรักโรแมนติก, สารคดีเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ , หนังบู๊แอคชั่นมันส์ ๆ , หนังเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ต่าง ๆ , หนังคอมเมดี้จรรโลงใจ, หนังสร้างแรงบันดาลใจ, หนังสยองขวัญสั่นประสาท, หนังเกี่ยวกับภูตผีสิ่งลี้ลับ, หนังดราม่า และหนังแนวชายรักชายที่กำลังมาแรงในสมัยนี้เป็นต้นค่ะ และด้วยความนิยมที่เปลี่ยนไปพร้อมกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นทำให้หนังในสมัยนี้สนุกและสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหนังแนวแฟนตาซีนี่แต่ละเรื่องใส่ซีจีมาเนียนจนแทบจะมองไม่ออก รวมไปถึงค่ายหนังของไทยหลาย ๆ ค่ายก็มีการพัฒนาในด้านนี้ ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวมหนังไทยสนุก ๆ มาป้ายยาให้เพื่อน ๆ ตามเก็บในวันหยุดกัน ขอบอกเลยว่ามีให้คุณเลือกสรรหลากหลายแนวเลยค่ะ
1.อ้าย…คนหล่อลวง

ประเภท | คอมเมดี้ |
---|---|
เรทผู้รับชม | 13+ |
ผู้กำกับ | เมษ ธราธร |
นักแสดงนำ | ณเดชน์ คูกิมิยะ, พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, ธิติ มหาโยธารักษ์ |
ความยาวหนัง | 130 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2563 |
ทาวเวอร์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) นักต้มตุ๋นตัวพ่อลีลาแพรวพราว ไม่ว่าจะสาวใหญ่สาวน้อยต่างก็เคยหลงกลเขาทั้งนั้น และภารกิจของเขาครั้งนี้ก็คือหลอกเอาเงินยูทูบเบอร์สาวบ้านนอกคนหนึ่ง แต่ก็เหมือนว่าเขาจะอยู่ในช่วงดวงตกเพราะเธอคนนั้นดันเป็นอดีตสาวแบงก์ไหวพริบดี อินา (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) ได้โอกาสยื่นข้อเสนอให้ทาวเวอร์แทนการแจ้งตำรวจ งานนี้ทั้งสองคนจึงต้องร่วมมือกันหลอกเอาเงินล้านของ เพชร (ธิติ มหาโยธารักษ์) หนุ่มหล่อหน้าตาดีที่เคยหลอกเอาเงินอินาทำให้เธอต้องปากกัดตีนถีบหาเงินมาชดใช้หนี้ แต่งานนี้ไม่ได้มีผู้ร่วมขบวนการเพียงแค่สองคน เพราะพวกเขายังมี ครูนงนุช (คัทลียา แมคอินทอช) สาวใหญ่ครูสอนภาษาจีนที่เป็นลูกหนี้บริษัทของอินาอยู่ และ พี่โจร (พงศธร จงวิลาส) นักต้มตุ๋นผู้ช่ำชองที่เข้าออกคุกราวกับบ้านหลังที่สอง งานนี้มีป่วนแน่นอน
หนังเรื่องนี้จะทำให้เพื่อน ๆ ฮาจนน้ำตาไหลแน่นอนค่ะ ด้วยความหล่อความสวยของณเดชน์และใบเฟิร์นที่เข้าขากันได้ดีและแสดงได้ไหลลื่นสมกับเป็นนักแสดงแนวหน้า ไหนจะพี่แหม่มคัทลียาและพี่เผือกพงศธรที่เล่นใหญ่อลังการดาวล้านดวงสุด ๆ เนื้อเรื่องดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่กลับหักมุมได้แบบร้ายกาจจนคนดูอย่างเราทั้งอึ้งทั้งสะใจ ขณะเดียวกันก็ยังคอยลุ้นว่าอินาจะหักห้ามใจไม่ให้ตกหลุมรักคนหลอกลวงอีกครั้งได้หรือเปล่า แล้วไหนจะแผนการที่ดูเหมือนว่าจะตันแล้วแต่ทาวเวอร์ยังหาทางออกได้ไหลลื่นสุด ๆ บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้สนุกตั้งแต่ต้นจนจบแน่นอนค่ะ
2. อีเรียมซิ่ง

ประเภท | แอ็กชั่น / คอมเมดี้ |
---|---|
เรทผู้รับชม | 13+ |
ผู้กำกับ | พฤกษ์ เอมะรุจิ |
นักแสดงนำ | ราณี แคมเปน, ณปภา ตันตระกูล, สุภัทรภณ กสิกรรม, ปราโมทย์ ปาทาน |
ความยาวหนัง | 110 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2563 |
เรียม (เบลล่า ราณี) สาวแสบสุดซ่าประจำหมู่บ้านบางน้ำกร่อย ด้วยกิริยามารยาทที่ไม่ค่อยจะมีความเป็นผู้หญิงสักเท่าไหร่ทำให้เธอโดนเอาไปเปรียบเทียบกับ แรม (ณปภา ตันตระกูล) พี่สาวของตัวเองอยู่เป็นประจำ เพราะแรมทั้งสวย อ่อนหวาน และเรียบร้อยราวกับผ้าพับ แถมยังมีฝืมือในการทำอาหารอีกต่างหาก และเรียมก็ทำได้แต่อิจฉาและคอยหาทางกลั่นแกล้งพี่สาวตัวเองอยู่ตลอด แต่แล้ววันหนึ่งหมู่บ้านบางน้ำกร่อยก็งานเข้าเมื่อ โจรฟันแดง กลุ่มโจรที่มีคาถาอาคมกล้าแกร่งบุกเข้ามาในหมู่บ้านและจับตัวแม่และแรมไป งานนี้เรียมไม่ยอมอยู่เฉยพาเพื่อนรักรวมกลุ่มกันออกตามล่ากลุ่มโจรโฉดโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมีอะไรรออยู่ข้างหน้า
เรื่องนี้เป็นการพลิกบทบาทจากแม่นายสายฮามาเป็นสาวบ้านนอกสายลุยของเบลล่าราณีที่บอกเลยว่าคุณไม่ควรพลาด พล็อตหนังเป็นเรื่องของความสัมพันธ์พี่น้องและเพื่อนฝูงที่ร่วมกันเชิญอันตรายต่าง ๆ นานาและการผจญภัยในป่าใหญ่ที่ทั้งสนุก ลุ้นระทึก และฮากระจาย ตัวชูโรงก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเบลล่า แถมยังเสริมทัพด้วยนักแสดงตลกแนวหน้าอย่างน้าค่อมชวนชื่น, แพท นปาภา, โอ๊ต ปราโมทย์, บอล เชิญยิ้ม นอกจากนี้หนังเรื่องนี้ยังเป็นผลงานสุดท้ายที่ โรเบิร์ต สายควัน ได้ฝากฝีมือไว้ก่อนออกเดินทางไกลอย่างไม่มีวันหวนกลับ
3. Low Season สุขสันต์วันโสด

ประเภท | คอมเมดี้ / โรแมนติก |
---|---|
เรทผู้รับชม | 15+ |
ผู้กำกับ | นฤบดี เวชกรรม |
นักแสดงนำ | มาริโอ้ เมาเร่อ และพลอยไพลิน ตั้งประภาพร |
ความยาวหนัง | 125 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2563 |
ว่ากันว่า คนที่ออกเดินทางช่วง Low Season มีอยู่ 2 เหตุผล ไม่อกหักก็กำลังหนีอะไรบางอย่างอยู่ และ หลิน (พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) ก็คงจะเป็นคนกลุ่มแรก เพราะหลังจากเลิกกับแฟนหนุ่มด้วยเหตุผลที่ว่า ‘หลินมองเห็นผีได้’ เธอก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือเพื่อหวังพักใจแทบจะทันที และเมื่อไปถึงที่นั่นเธอก็ได้เจอกับกลุ่มคนอกที่มารวมตัวอยู่ในโฮมสเตย์เดียวกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ พุธ (มาริโอ้ เมาเร่อ) นักเขียนที่ออกเดินทางหาแรงบันดาลใจในการเขียนบทหนังผี และที่นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของความฮาปนความระทึกขวัญ คลุกเคล้ารวมกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของธรรมชาติในภาคเหนือ
มาริโอ้ถือว่ายืนหนึ่งเรื่องความตลกและการแสดงที่เป็นธรรมชาติสุด ๆ อยู่แล้ว และหนังเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยค่ะ ยิ่งได้มาประกบคู่กับพลายไพลิน นักแสดงหน้าใหม่แต่ฝีมือในการแสดงดีเยี่ยมยิ่งเคมีเข้ากันสุด ๆ แถมแก๊งค์คนเศร้ายังช่วยชูรสชาติของหนังให้สนุกครบรส ไม่ว่าจะเป็นโฟร์ ศกลรัตน์, นิกกี้ ณฉัตร, โจ๊ก อัครินทร์ และพี่อ้น ศรีพรรณ ที่ฝีมือการแสดงของแต่ละคนก็เป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตัวละครลับที่ซีนน้อยแต่ฮาจนกรามค้างช่วยให้หนังเรื่องนี้ไม่น่าเบื่อ ดูจบแล้วทำให้เรารู้สึกอยากออกเดินทางไปชมความงามของภาคเหนือเลยค่ะ
3. พี่นาค 2

ประเภท | ตลก / สยองขวัญ |
---|---|
เรทผู้รับชม | 13+ |
ผู้กำกับ | ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ |
นักแสดงนำ | วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์, วิทวัส รัตนบุญบารมี, ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์, พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, ธามไท แพลงศิลป์ |
ความยาวหนัง | 114 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2563 |
หลังจาก เฟิร์ส (ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์) และ บอลลูน (วิทวัส รัตนบุญบารมี) สองเพื่อนตุ๊ดตัดสินใจสึกและหนีออกจากวัดจนโดนคำสาปของ ผีพี่นาค (ธามไท แพลงศิลป์ ) เล่นงานจนต้องซมซานกลับมาขอความช่วยเหลือจาก พระโหน่ง (วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์) ที่โดนสองเพื่อนซี้ทิ้งไป แต่การกลับมาครั้งนี้ก็มีอีกหนึ่งสิ่งจรรโลงใจที่พอจะช่วยให้ทั้งคู่ทนอยู่ที่นี่ได้บ้าง นั่นก็คือ โทมินจุน (พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร) ไอดอลเกาหลีชื่อดังที่มาบวชแก้บน แต่ดันมาซวยเพราะผีพี่นาคคนเก่าเคยห้ามไม่ให้โทมินจุนบวช งานนี้ซวยซ้ำซวยซ้อน ทั้งคำสาปผีเก่าและผีใหม่ทำให้เรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นภายในวัดแห่งนี้ แถมเพิ่มความโกลาหลด้วยแก๊งเณรและเด็กวัดตัวแสบ
หลังจากภาคแรกจบลงอย่างสวยงาม พี่นาคภาค 2 ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังค่ะ เรื่องนี้ทั้งตลกทั้งแอบหลอนกับเมคอัพและการแสดงของธามไทที่รับบทเป็นผีพี่นาคจนทำเอาเราแอบหลอนไปหลายวัน แต่แก๊งเด็กวัดและความฮาของเอม ตามใจตุ๊ดก็ช่วยให้บรรยากาศของหนังไม่ได้น่ากลัวจนเก็บไปฝันร้าย ทั้งมุขตลก ทั้งการแสดงเวอร์วังที่ถูกใจใครหลาย ๆ คนทำให้พี่นาค 2 ปิดออกมาได้อย่างสวยงามและต้องรอลุ่นกันต่อไปว่าจะมีภาคต่ออีกหรือไม่
4. จอมขมังเวทย์ 2020

ประเภท | แฟนตาซี / แอ็กชั่น |
---|---|
เรทผู้รับชม | 16+ |
ผู้กำกับ | ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ |
นักแสดงนำ | ปริญ สุภารัตน์, ฉัตรชัย เปล่งพานิช และจิรายุ ตันตระกูล |
ความยาวหนัง | 119 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2562 |
หลังจาก วิน (หมาก ปริญ สุภารัตน์) ต้องเจอกับความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง เขาจึงหันหน้าเข้าหาศาตร์อาคมเหนือธรรมชาติเพื่อหวังล้างแค้นให้กับครอบครัว แต่ยิ่งเข้าสืบหาความยิ่ง ยิ่งเรียนรู้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งถลำลึกจนแทบจะหาทางออกไม่เจอ จากเด็กหนุ่มธรรมดากลายเป็นผู้มีวิชาอาคมด้านมืดภายในเวลาอันรวดเร็ว จนวันหนึ่งเขาได้เข้าไปพัวพันกับ อิทธิ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) จอมขมังเวทย์ในตำนานที่มีวิชากล้าแกร่งและปราบศัตรูมานักต่อนัก หลังจากนั้นวินก็ต้องเผชิญหน้ากับ ก็อด (จิรายุ ตันตระกูล) ชายหนุ่มที่พัวพันกับศาสตร์มืดจนสามารถกำหนดชะตาชีวิตของผู้คนได้และตามกำจัดเหล่าผู้มีวิชาอาคม ศึกครั้งนี้ไม่มีปาฏิหาริย์แต่ต้องพึ่งวิชาอาคมล้วน ๆ เพื่อความอยู่รอด
หนังแอ็กชั่นแฟนตาซีที่จะปลุกศาสตร์มืดให้กลับมาโลดแล่นในยุคเทคโนโลยีอีกครั้ง จอมขมังเวทย์ 2020 เป็นภาคต่อของหนังเรื่องจอมขมังเวทย์ ที่ฉายในปี 2548 และได้นักแสดงนำในสมัยนั้นกลับมาสาดมนต์คาถาอีกครั้ง บอกเลยว่าเรื่องนี้ถูกใจคนที่ชื่นชอบหนังแอ็กชั่นปนสิ่งลี้ลับแน่นอนค่ะ ทั้งภาพ แสง สี หรือฉากบู๊มีการจัดวางอย่างลงตัว เนื้อเรื่องเข้มข้นและดาร์กสุด ๆ ทั้งคาถาอาคมและสัตว์เวทในตำนานที่ออกมาโลดแล่นอย่างสมจริง และมีการออกแบบลายสักสุดขลังจากอาจารย์หนู กันภัยอีกด้วย
5. ตุ๊ดซี่ส์ & เดอะ เฟค

ประเภท | คอมเมดี้ |
---|---|
เรทผู้รับชม | 16+ |
ผู้กำกับ | กิตติภัค ทองอ่วม |
นักแสดงนำ | เผ่าเพชร เจริญสุข, ธงชัย ทองกันทม, รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์, ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ และอารยา เอ ฮาร์เก็ต |
ความยาวหนัง | 108 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2562 |
กอล์ฟ (ธงชัย ทองกันทม) มนุษย์ตุ๊ดไซส์ยักษ์งานเข้าเมื่อเขาบังเอิญทำให้ซุปตาร์ตัวแม่อย่าง เคที่ (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) บาดเจ็บสาหัสอาการโคม่าจนไม่สามารถทำงานต่อได้ และเมื่อคำนวณเบ็ดเสร็จแล้วค่าเสียหายทั้งหมดมีมูลค่าถึง 50 ล้านบาท เมื่อความซวยมาเยือนชาวแก๊งก็ต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อบกอบกู้วิกฤตครั้งนี้ ขณะที่ความหวังริบหรี่ลงทุกที ๆ ก็เหมือนกับสวรรค์เห็นใจดลบันดาลให้กอล์ฟมาเจอกับ เจ๊น้ำ แม่ค้าปากแซ่บที่ขึ้นเขียงศัลยกรรมจนหน้าตาเหมือนกับซุปตาร์ดังจนแยกไม่ออก แต่ฝันร้ายของแก๊งวสาว ๆ ก็คือเจ๊น้ำดันมีนิสัยต่างกับเคที่ราวฟ้ากับเหว เพราะเธอทั้งปากจัด โมโหร้าย และมีกิริยาห่ามเกินบรรยาย งานนี้พวกเขาต้องร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติภารกิจเปลี่ยนแม่ค้าปากจัดเป็นซุปตาร์ระดับประเทศให้ได้ บอกเลยว่างานนี้มีปาดเหงื่อ
หนังภาคต่อจากซีรีส์ ‘ไดอารี่ตุ๊ดชีส์’ ที่ถูกใจสาว ๆ ทั่วทั้งประเทศด้วยการเดินเรื่องของแก๊งร่างชายใจหญิงและหญิงแท้สุดเปิ่น หนังภาคต่อเรื่องนี้บอกเลยว่าฮากรามค้างไม่ต่างจากเวอร์ชันซีรีส์เลยค่ะเพื่อน ๆ นักแสดงหนักทั้ง 4 คนยังท็อปฟอร์มไม่หยุดแถมในเรื่องขนมุกฮา ๆ และนักแสดงรับเชิญมาอย่างคับคั่ง ตัวหนังปูเรื่องย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวในเวอร์ชันซีรีส์แบบสั้น ๆ กระชับฉับไวเพื่อทำให้คนที่ยังไม่เคยดูเข้าใจหนังมากขึ้น จากนั้นนักแสดงแต่ละคนก็มาสาดความฮาใส่กันแบบไม่ห่วงสวยห่วงหล่อ ใครที่กำลังเครียด ๆ นี่หัวเราะจนลืมเครียดแน่นอนค่ะ
6. แสงกระสือ

ประเภท | โรแมนติก / แฟนตาซี / ระทึกขวัญ |
---|---|
เรทผู้รับชม | 18+ |
ผู้กำกับ | สิทธิศิริ มงคลศิริ |
นักแสดงนำ | ภัณฑิรา พิพิธยากร, โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, สพล อัศวมั่นคง และสุรศักดิ์ วงษ์ไทย |
ความยาวหนัง | 122 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2562 |
วันหนึ่ง สาย (ภัณฑิรา พิพิธยากร), เจิด (สพล อัศวมั่นคง), ทิ้ง (ดารินา บุญชู) และน้อย (โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์) กำลังเล่นซ่อนแอบกันอยู่ใกล้ ๆ บ้านร้างใกล้หมู่บ้าน สายบังเอิญไปเจอหีบใบหนึ่งเข้า จากนั้นจึงเลิกเล่นและกลับบ้าน วันเวลาผ่านไปเด็กน้อยเติบโตเป็นหนุ่มสาว เจิดออกเดินทางไปเรียนแพทย์ที่พระนคร เรื่องราวดูเหมือนจะปกติจนกระทั่งวันหนึ่งเจิดกลับมาที่หมู่บ้านพร้อมกับ ทัด (สุรศักดิ์ วงษ์ไทย) นักล่ากระสือที่ได้ยินมาว่ามีกระสืออยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ขณะนั้นก็เป็นช่วงเดียวกับที่สายมีอาการแปลก ๆ เธอมักจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับกองเลือดบนที่นอนและฝันถึงกระสือบ่อย ๆ และสุดท้ายก็พบว่าตัวเธอเองเป็นกระสือ วันหนึ่งขณะที่กำลังออกหากินดันไปเจอกับพวกทัดและโดนไล่ล่าจนต้องหนีกลับบ้าน น้อยที่แอบตามแสงกระสือมาก็เจอตอนที่สายกำลังคืนร่าง ด้วยความรักน้อยจึงพยายามหาสัตว์เป็น ๆ มาให้สายกินเพื่อปกป้องไม่ให้เธอโดนทัดจับได้พร้อมกับออกตามหาว่านกระสือเพื่อช่วยรักษาให้สายหายเป็นปกติ สถานการณ์เหมือนจะดีขึ้นจนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กสาวในหมู่บ้านติดเชื้อมาจากสายและโดนทัดจับได้ หลังจากนั้นก็เริ่มมีข่าวลือว่าสายเป็นกระสือจนพ่อต้องพาสายมาพิสูจน์ให้คนในหมู่บ้านเชื่อ ขณะที่กำลังดูหนังกลางแปลงอยู่นั้นสายเกิดเจ็บหน้าอกและพร้อมจะกลายร่างเป็นกระสือพร้อมกับทัดที่เฝ้าจับตามองอยู่ทุกวินาที
เรื่องนี้ขอยกให้เป็นหนังในดวงใจเลยค่ะ ส่วนตัวไม่ค่อยถนัดหนังแนวนี้สักเท่าไหร่แต่หลังจากดูจบแล้วประทับใจมาก ทั้งคอสตูมเอย ฉาก สถานที่ การจัดวางโครงเรื่อง และที่สำคัญที่สุดคือนักแสดงเล่นดีมาก ฉากตอนที่สายกำลังจะถอดหัวคือมันดูเจ็บ มันดูทรมาณจดเราอดสงสารนางเอกไม่ได้ค่ะ ส่วนยพระเอกก็ดูออกเลยว่ารักนางเอกมาก จากที่ไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางก็ต้องเปลี่ยนความคิดและทำทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนให้นางเอกกลับมาเป็นปกติ ยิ่งฉากจูบที่ดงว่านกระสือนี่ทั้งฟิน ทั้งเขินปนกลัวไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
7. ฉลาดเกมส์โกง

ประเภท | จารกรรม / ระทึกขวัญ |
---|---|
เรทผู้รับชม | 13+ |
ผู้กำกับ | นัฐวุฒิ พูนพิริยะ |
นักแสดงนำ | ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง, ชานน สันตินธรกุล, อิษยา ฮอสุวรรณ และธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ |
ความยาวหนัง | 130 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2560 |
ลิน (ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) นักเรียนผลการเรียนดีที่มักจะแอบบอกคำตอบให้กับเพื่อนสนิทอย่าง เกรซ (อิษยา ฮอสุวรรณ) อยู่เสมอเพราะเธอเป็นนักเรียนสายกิจกรรมที่ไม่ค่อยจะมีความสามารถในด้านนี้สักเท่าไหร่ นอกจากเกรซแล้วยังมี พัฒน์ (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) นักเรียนบ้านรวยที่สามารถซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงิน หลังจากนั้นลินใช้โอกาศนี้ในการสร้างธุรกิจโกงข้อสอบขึ้นมา และธุรกิจก็ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก จนกระทั่งการสอบครั้งสำคัญใกล้เข้ามา ธุรกิจและเงินเดิมพันที่สูงขึ้นทำให้ลินไม่สามารถปฏิบัติภารกิจนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว เธอจึงชักชวน แบงค์ (ชานน สันตินธรกุล) นักเรียนหนุมผู้อยู่ในกฎและไม่เคยคิดจะทำผิดกฎหมายมาก่อนมาร่วมปฏิบัติภารกิจนี้กับเธอและทั้งคู่จึงเดินทางไปสอบในประเทศที่เวลาเดินเร็วกว่าไทย พร้อมกับเผชิญความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อเอาคำตอบกลับมาให้กับลูกค้า
บอกเลยว่าว้าวและอึ้งกับความความฉลาดที่คิดไม่ถึงของลินและแบงค์สุด ๆ ทั้งความเรียลและความกดดันต่าง ๆ ของตัวละครส่งผลให้เรารู้สึกกดดันจนหายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งฉากที่ลินและแบงค์ไปสอบที่ต่างประเทศและกำลังจะโดนจับได้นี่เราลุ้นจนเกือบลืมหายใจเลยค่ะ นอกจากบทบาทดีแล้วนักแสดงก็ยังเข้าถึงบทและแสดงออกมาได้ไหลลื่นสมจริงสุด ๆ บางคนที่กะจะดูเป็นแนวทางในการเอาตัวรอดในห้องสอบนี่ขอเตือนก่อนเลยว่าอย่าหาทำค่ะ ในหนังดูยากแค่ไหนชีวิตจริงมันยากกว่านั้นอีกเด้อพี่น้อง
8. พี่มาก..พระโขนง

ประเภท | ตลก / โรแมนติก / สยองขวัญ |
---|---|
เรทผู้รับชม | 16+ |
ผู้กำกับ | บรรจง ปิสัญธนะกูล |
นักแสดงนำ | มาริโอ้ เมาเร่อ, ดาวิกา โฮร์เน่, พงศธร จงวิลาส, ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์, อัฒรุต คงราศรี และกันตพัฒน์ สีดา |
ความยาวหนัง | 111 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2556 |
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พี่มาก (มาริโอ้ เมาเร่อ) ต้องทิ้งเมียท้องแก่และบ้านแสนสุขที่พระโขนงเพื่อออกเดินทางไปร่วมรบ ที่นั่นเข้าได้พบกับ เต๋อ (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์), เผือก (พงศธร จงวิลาส), ชิน (อัฒรุต คงราศรี) และ เอ (กันตพัฒน์ สีดา) หลังจากร่วมทุกข์ร่วมสุขในสงคราม หลังสงครามพี่มากก็พาเพื่อน ๆ กลับบ้านเพื่ออวดโฉม นางนาก (ดาวิกา โฮร์เน่) เมียรักและ ลูกชาย ที่คาดว่าจะคลอดออกมาระหว่างที่เขาไปออกรบ เพื่อน ๆ ทั้ง 4 จึงตัดสินใจพักอยู่ในบ้านตรงข้ามสักระยะ ขณะเดียวกันก็มีเรื่องเล่าหนาหูว่าพระโขนงมีผีตายทั้งกลม แน่นอนว่าชายชาติทหารไม่มีทางเชื่อรเื่องแบบนี้แน่นอน ทั้งสี่คนจึงตัดสินใจสืบหาความจริงว่าที่หมู่บ้านแห่งนี้มีผีอยู่จริงหรือไม่ และความจริงที่รู้มาก็ทำให้หนุ่มหล่อทั้งสี่แทบช็อก
พี่มาก..พระโขนง เป็นหนังอีกเรื่องที่หยิบยกเอาตำนานพื้นบ้านมาเรียงร้อยเป็นตำนานบทใหม่ที่เล่าผ่านแก๊งทหารทั้ง 4 และพี่มากเวอร์ชั่นลูกครึ่งออกแนวเฮฮาที่ช่วยลดความน่ากลัวของหนังลงและสามารถดูได้จนจบแบบขำจนกรามค้าง ทั้งมุกตลกของกลุ่มเพื่อนที่สาดความฮาออกมาเป็นธรรมชาติ รวมถึงฝีมือการแสดงที่เราต่างก็รู้กันดีถึงความเป็นทืออาชีพของใหม่ ดาวิกา และมาริโอ้ เมาเร่อ นอกจากนี้ทั้งคอสตูมและฉากก็ยังเข้ากับยุคสมัยและเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดีค่ะ
9. มหา’ลัย เหมืองแร่

ประเภท | ดราม่า / คัมมิ่งออฟเอจ |
---|---|
เรทผู้รับชม | 13+ |
ผู้กำกับ | จิระ มะลิกุล |
นักแสดงนำ | พิชญะ วัชจิตพันธ์, ดลยา หมัดชา, สนธยา ชิตมณี, นิรันต์ ชัตตาร์ และแอนโทนี โฮวาร์ด กูลด์ |
ความยาวหนัง | 111 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2548 |
ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2492 อาจินต์ ปัญจพรรค์ (พิชญะ วัชจิตพันธ์) นักศึกษาวิศวกรรมปี 2 ต้องโดนรีไทร์ออกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง หลังจากวันนี้เขาจึงเดินทางจากภูเก็ตไปยังเหมืองแห่งหนึ่งในจังหวัดพังงาเพื่อสัมภาษณ์ นายฝรั่ง (แอนโทนี โฮวาร์ด กูลด์) ที่เป็นเจ้าของเหมืองแร่ ที่นั่นเขาได้พบกับ ไอ้ไข่ (สนธยา ชิตมณี) หนุ่มใต้หน้าคมที่ทำงานอยู่ภายในเหมืองแร่และกลายเป็นเพื่อนรักกันในเวลาต่อมา ในเหมืองแร่ อาจินต์ทำงานเป็น ‘สมุดพก’ ให้กับนายฝรั่ง นั่นคือเขาจะต้องตามติดและมาทำงานแทนคนงานที่ลาหรือขาดงาน แน่นอนว่าในฐานะน้องใหม่แล้วเข้าจะต้องโดนอิจฉาหรือกลั่นแแกล้งแน่นอน และตั้งแต่วันนั้น บทเรียนชีวิตจริงของเราเริ่มต้นขึ้นและไม่สามารถหาความรู้เหล่านี้ได้จากห้องเรียน
ถึงเรื่องราวจะผ่านมานานมากแล้ว แต่หนังเรื่องนี้ก็ถูกยยกให้เป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทุกยุคทุกสมัยได้เสมอค่ะ เรื่องราวชีวิตในเหมืองแร่ที่เล่าผ่านมุมมองของอาจินต์จะดูราวกับว่าการทำงานในเหมืองแร่นั้นเป็นงานที่หนัก ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการเปลี่ยนผ่านชีวิตจากวัยเรียนเข้าสู้วัยผู้ใหญ่ การได้มาเจอโลกที่ไม่รู้จัก โลกที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งนอกจากแรงกายแล้วแรงใจก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราผ่านบทเรียนที่แสนสาหัสนี้ไปได้ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับหนังไทยหลากหลายแนวที่เรารวบรวมมาแนะนำเพื่อน ๆ มีเรื่องไหนที่เพื่อน ๆ ยังไม่เคยดูหรืออยู่ในลิสต์บ้างมั้ยคะ? ต้องยอมรับนะคะว่าเมื่อก่อนเราเนี่ยเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดูหนังหรือซีรีส์ไทยสักเท่าไหร่ อาจจะเพราะเราอยากดูหนังฝรั่งเพื่อฝึกภาษาหรือเพราะพล็อตหนังไทยมันค่อนข้างจะเดาเนื้อเรื่องง่ายก็ไม่แน่ใจค่ะ เราไม่ดูหนังไทยอยู่หลายปีเลยนะ จนกระทั่งวันนึงเราลองเปิดใจดูหนังเรื่องหนึ่งแล้วก็ค้นพบว่า เห้ย! หนังไทยสนุกขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย หลังจากนั้นเราก็ค่อย ๆ เปลี่ยนมาดูหนังไทยมากขึ้นและก็พบว่ามีหนังไทยอีกหลายเรื่องเลยค่ะที่วางเนื้อเรื่องได้ดี เดาทางยาก และมีโปรดักชั่นเทียบเท่าค่ายหนังต่างประเทศได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นหนังไทยหลายเรื่องยังได้รับคัดเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลหนังอีกหลายประเทศด้วยนะคะ พูดขนาดนี้แล้วเพื่อน ๆ ต้องตามไปพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ