แม้ว่ามือถือของคุณจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ถ่ายรูปสวยที่สุด อย่าง Huawei, Samsung, Realme, Vivo, Oppo หรือแม้แต่ iPhone แต่คุณเคยพบเจอกับเหตุการณ์ที่บางครั้งคุณถ่ายรูปออกมาแล้ว “รูปไม่สวย” บ้างมั้ยคะ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง, องค์ประกอบของภาพ, วิวพื้นหลัง หรือแสงที่เข้ามาทำให้ภาพเสียหาย ทำให้คุณไม่สามารถลงรูปภาพเหล่านี้อวดเพื่อน ๆ ใน Social Media ได้ เนื่องจากมันไม่ใช่รูปภาพที่สวยอย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งคุณยังถ่ายรูปมาเพียงไม่กี่รูปและทุกรูปก็เสียทั้งหมด รวมถึงคุณไม่สามารถจะย้อนเวลากลับไปถ่ายภาพเหล่านั้นได้ใหม่
ไม่ว่าคุณกำลังจะเผชิญกับปัญหาอะไรก็ตาม ที่คุณคิดว่าไม่สามารแก้ไขได้ เราขอบอกว่าอย่าลบภาพนั้นค่ะ! เพราะทุกภาพสามารถแก้ไขให้มันกลับมาเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมได้ เพียงแค่คุณมีเครื่องมือในการแต่งรูปเจ๋ง ๆ สัก 1-2 ตัว แต่ครั้นจะให้ import รูปภาพลงคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ไขก็คงจะเป็นการเสียเวลาใช่มั้ยคะ ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำแอปเคพลิชันสำหรับแต่งรูปภาพ ที่ออกแบบมาให้สามารถจัดการได้กับทุกปัญหา ไม่ว่าภาพนั้นจะแย่สักแค่ไหนก็ตาม มันก็จะเนรมิตให้ภาพของคุณสวยราวกับภาพถ่ายจากช่างภาพมือโปรโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อกล้องถ่ายรูปราคาแพง มาดูกันค่ะว่าจะมีแอปไหนตรงใจคุณบ้าง
1. Lightroom

เดิมที Adobe Lightroom นั้นเปรียบเสมือนมือขวาของเหล่าช่างภาพอยู่แล้ว เมื่อมีการทำเป็นแอปพลิเคชันออกมาจึงเรียกว่าได้ว่ากลายเป็นแอปที่ทุกคนจะต้องมีติดสมาร์ทโฟนไปโดยปริยาย เพราะมันเป็นแอปที่ไม่มีความยุ่งยากในการใช้งาน แต่กลับสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
Lightroom เป็นแอปที่ช่วยทำให้รูปภาพที่มีสีผิดเพี้ยนของคุณกลับมาสวยงามเหมือนถ่ายจากกล้องมือโปร มันสามารถมิกซ์สีของภาพต่าง ๆ และแต่งแต้มสีสันได้อย่างลงตัว ทั้งยังสามารถสร้างบรรยากาศของภาพไปในทิศทางที่คุณอยากจะให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินหรือการทำให้อากาศรอบ ๆ ดูหนาวขึ้นมาเสียเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่คุณถ่ายภาพนั้นกลางแสงแดดที่ร้อนจ้า สิ่งเหล่านี้เราเรียกว่าการแต่งรูปโทนเย็น/โทนอบอุ่น และมันยังช่วยลบหมอกควันที่ทำให้ภาพของคุณดูเลือนรางให้กลับมาคมชัดมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังมีจุดเด่นในเรื่องการปรับแสงเฉพาะจุดได้อย่างดีเยี่ยม
อันที่จริงแล้วหากจะให้ระบุถึงความสามารถของ Lightroom นั้นคงจะกล่าวไม่หมดจริง ๆ ค่ะ เพราะเขามีฟังก์ชันรายละเอียดการทำงานมากมายกว่าที่เราระบุไปข้างต้น แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะศึกษารายละเอียดการทำงานของแอป เพราะแอปนี้เขาสามารถแชร์เทคนิคการแต่งภาพของตัวเองให้คนอื่นเข้ามาเรียนรู้ได้ง่าย ๆ ถือว่าเป็นแอปที่เข้าถึงง่ายจริง ๆ นะคะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแต่งภาพในขั้นสูงหรือคนที่ต้องการฝึกแต่งภาพขึ้นมาอีกระดับที่มากกว่าการฟิลเตอร์สำเร็จรูป
ใช้งานง่าย | ![]() |
ครอบคลุมการใช้งาน | ![]() |
ใช้ได้ทั้ง android และ ios | ![]() |
2. Snapseed

ขึ้นชื่อว่าเป็น Google อะไร ๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นของดีของคุณภาพไปเสียหมด รวมถึงแอปพลิเคชันแต่งรูปน้องใบไม้เขียวอย่าง Snapseed จากค่าย Google ก็เป็นหนึ่งในแอปที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบการแต่งรูปมาก ๆ จุดเด่นของ Snapseed นอกเหนือจากการแต่งรูปแล้วนั้น ก็คงจะเป็นการประมวลผลที่รวดเร็ว เมื่อเทียบกับแอป Lightroom โดยส่วนตัวคิดว่า Snapseed ทำงานประมวลภาพออกมาได้เร็วกว่า เรียกได้ว่าไม่มีสะดุด
เมื่อพูดถึงฟังก์ชันในการแต่งรูป Snapseed ก็มีโหมดการทำงานที่หลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกเล่นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปรับแต่งภาพเฉพาะจุด, การปรับโทนสี, การแก้ไข้จุดบกพร่องของภาพอย่างการลบคน/ลบสิว หรือแม้แต่การเลือกลบ Layer เฉพาะจุดที่คุณแต่งไปแล้ว ฟังก์ชันนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ชอบสุด ๆ เลยค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่ามันง่ายต่อการตัดต่อรูปอย่างมาก เพราะบางครั้งท้องฟ้าในรูปของคุณก็ไม่สวยเลยใช่คะ แต่ส่วนอื่น ๆ กลับดูดีอยู่แล้วโดยไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่ม หากเป็นแอปอื่น ๆ คุณอาจจะต้องจำใจยอมปรับสีส่วนอื่นของภาพไปด้วยเพื่อให้ได้ท้องฟ้าสวย ๆ จนทำให้ภาพโดยรวมสีผิดเพี้ยน แต่สำหรับ Snapseed นั้น คุณสามารถปรับแต่งเฉพาะส่วนได้โดยที่ไม่ไปรบกวนส่วนอื่น ๆ ของภาพ อย่างเช่นต้องการปรับแค่ท้องฟ้าเป็นต้น มันแจ๋วมากเลยใช่มั้ยคะ เราสามารถนำข้อจุดเด่นในข้อนี้ไปใช้การกับการปรับสีผิวของเราให้สว่างและเนียนขึ้นได้โดยที่รูปส่วนอื่นจะไม่จางหรือซีดขาวไปด้วยเหมือนแอปอื่น ๆ หากคุณมี Snapseed ติดเครื่องและเรียนรู้ที่จะใช้ให้เป็น ต่อไปนี้ก็จะไม่มีใครดูออกแล้วค่ะว่าเราแต่งรูปอะไรบ้าง
ใช้งานง่าย | ![]() |
ครอบคลุมการใช้งาน | ![]() |
ใช้ได้ทั้ง android และ ios | ![]() |
3. VSCO

VSCO เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันแต่งรูปที่กำลังฮิตสุด ๆ ในตอนนี้ มันเป็นนิยมอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าสาวกชาวคุมโทนที่ชอบลงรูปสวย ๆ ใน instagram ถือว่าเป็นแอปที่ตอบโจทย์การคุมโทนสีรูปอย่างแท้จริง หากคุณไม่มีพื้นฐานในการแต่งรูปก็สามารถใช้พรีเซ็ตแบบฟรีสำเร็จรูปของ VSCO ที่มีมาให้เลยก็ได้ค่ะ เพราะรูปออกมาก็สวยไม่แพ้แบบแต่งเองเช่นกัน การนำเข้าและแต่งภาพก็เป็นแบบ RAW มีการใช้งานง่ายดายไม่ซับซ้อน มือใหม่ก็สามารถใช้แอปนี้ได้ อีกทั้งไม่เพียงแต่ตัดต่อรูปภาพได้เพียงอย่างเดียวนะคะ แต่แอปนี้เขาสามารถตัดต่อวิดีโอได้อีกด้วย
แต่สำหรับใครที่อยากจะแต่งรูปเฉพาะส่วนแค่บางจุดของภาพนั้น อาจจะต้องถอยทัพก่อน เพราะแอป VSCO ไม่สามารถแก้ไขรูปเฉพาะจุดได้เหมือน Snapseed หรือ Lightroom อีกทั้งพรีเซ็ตสำเร็จรูปแบบฟรีที่ให้มาก็มีไม่มากด้วยนะคะ ดังนั้นจึงอาจจะยังไม่สามารถรองรับความต้องการที่หลากหลายมากพอสำหรับนักแต่งรูปมือโปรที่ชอบของฟรีอย่างชาวเรา ๆ ได้ แต่หากคุณอยากจะใช้งานฟังก์ชันของ VSCO ที่มากขึ้นแนะนำให้สมัครเป็นสมาชิกรายปีไปเลยค่ะ รับรองว่าคุ้มมาก ๆ เพราะ VSCO นั้นเขาให้ทดลองใช้ฟรีแค่ 7 วันเท่านั้นค่ะ
ใช้งานง่าย | ![]() |
ครอบคลุมการใช้งาน | ![]() |
ใช้ได้ทั้ง android และ ios | ![]() |
4. Foodie

Foodie เป็นแอปแต่งรูปแบบคุมโทนที่ออกไปทางเน้นสายกินและสายเกาหลีโดยเฉพาะ ใครที่อยากให้รูปของตัวเองคุมโทนและดูเหมือนถ่ายในย่านเมียงดง ก็ต้องโหลดแอป Foodie ไว้ในเครื่องเลยค่ะ เพราะรูปโดยส่วนใหญ่ของแอป Foodie จะให้อารมณ์สบาย ๆ ตา มีความอ่อนนุ่ม เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปในร้านกาแฟหรือคาเฟ่
อีกทั้งยังมีฟิลเตอร์สำเร็จรูปแบบพรีเซ็ตฟรี ๆ ให้เลือกเล่นมากมายชนิด มันเยอะมากจนต้องแยกเป็นหมวดหมู่มาให้เลยค่ะ อาทิเช่น โหมดเซลฟี่, โหมดอาหาร, โหมดถ่ายในอาคาร และโหมดทิวทัศน์ เป็นต้น หรือหากคุณจะกำหนดตั้งค่าเองปรับแต่งรูปเองก็ทำได้ง่าย ๆ เพราะ Foodie นั้นเขามีลูกเล่นให้คุณได้ลองศึกษาเพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการปรับความสว่าง, ปรับสีแต่ละสีเอง, สร้างไฮไลท์และเงา, เพิ่มความคมชัด หรือแม้แต่ทำภาพให้เบลอได้ โดยรวมถือว่ามีฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับการแต่งรูปที่ควรจะมีและเป็นแอปที่เล่นง่ายมาก ๆ ทั้งยังมีฟิลเตอร์แบบฟรี ๆ มากมายให้คุณได้ใช้โดยไม่ต้องเสียเวลาแต่งเอง แต่กลับได้รูปออกมาในสไตล์สาวโคเรียสุด ๆ แต่น่าเสียดายที่แอปนี้ไม่สามารถปรับแต่งภาพเฉพาะจุดได้นะคะ เพราะฉะนั้นหากคุณอยากแก้ไขแค่เฉพาะท้องฟ้าหรืออยากจะลบคนออกจากภาพ ก็คงต้องไปพึ่งบารมีแอปอื่นเสริมอีกขั้นตอนก่อนลงภาพใน Social Media แต่สำหรับใครที่ไม่เก่งปรับแต่งสีเน้นเอาง่ายและรวดเร็วเข้าว่า แอปนี้ถือว่าตอบโจทย์มากจ้าาา
ใช้งานง่าย | ![]() |
ครอบคลุมการใช้งาน | ![]() |
ใช้ได้ทั้ง android และ ios | ![]() |
5. PicsArt

PicsArt แอปแก้ไขภาพและวิดีโอ ที่สามารถตัดแต่งรูปได้สารพัดประโยชน์ คุณจะได้รับการทดลองใช้งานฟรีได้ 7 วัน หรือหากจะสมัครสมาชิกก็ตกปีละ 950 บาท หรือประมาณ 79.16 บาท/เดือน หากคุณเป็นคนที่ชอบในการแต่งรูปก็ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ เพราะ PicsArt เป็นแอปสายอาร์ตสำหรับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และไม่ต้องการให้รูปของคุณซ้ำซากเหมือนใคร หากคุณชอบที่จะใส่สติกเกอร์ในรูป, ใส่ข้อความที่มี font ให้เลือกมากมายเป็นร้อย ๆ แบบ, เป็นคนชอบการวาดและขีดเขียนภาพด้วยแปรงเอง, ชอบการรีทัชภาพ และเน้นการใช้ฟังก์ชันตัดภาพแบบไดคัท ถือว่าแอป PicsArt เป็นอะไรที่ตอบโจทย์สำหรับคนกลุ่มนี้มาก ๆ ค่ะ
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสำหรับแต่งภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งสี, การจัดกรอบเฟรมรูปที่มากกว่าหนึ่งรูป, การเลือกกรอบรูป, การใส่พื้นหลังที่ช่วยสร้างความแตกต่าง, การทำภาพซ้อนทับกัน และสำหรับใครที่ไม่มีทักษะด้านการแต่งภาพ ก็สามารถใช้โหมดการแต่งภาพแบบ Auto ที่มีมาให้ได้เช่นกันค่ะ ถือว่าเป็นแอปที่ครอบคลุมไม่ต้องเปลี่ยนหรือสลับแอปอื่นไปมาให้ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้รูปภาพของคุณมีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เป็นแอปที่ช่วยปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ของคุณให้ผู้คนได้เห็นรูปภาพที่สวย ๆ ได้อย่างไม่มีเบื่อ อีกทั้งแอปนี้ก็ยังมีโหมด Beautify ที่ช่วยปรับแต่งหน้าของคุณให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า การเปลี่ยนสีผม และอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ
ใช้งานง่าย | ![]() |
ครอบคลุมการใช้งาน | ![]() |
ใช้ได้ทั้ง android และ ios | ![]() |
6. Analog Film

มาเอาใจสายกล้องฟิล์มกันบ้างนะคะ สำหรับแอป Analog Film ตัวนี้จะช่วยให้คุณเนรมิตรูปภาพของคุณจากกล้องสมาร์ทโฟนให้ออกมาเป็นภาพถ่ายแนววินเทจที่เหมือนถ่ายจากกล้องฟิล์มเลยค่ะ โดยคุณสามารถเลือกใช้ได้หลากหลายแอป เพราะทางผู้ผลิตจะแบ่งออกเป็นแอปย่อย ๆ มากมาย อาทิเช่น Analog Wedding, Analog Paris, Analog London, Analog Tokyo และอื่น ๆ มากกว่า 10 แอป โดยการใช้งานก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อน แม้ว่าคุณจะไม่มีทักษะในการถ่ายหรือแต่งรูป คุณก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนช่างภาพที่มากประสบการณ์
อีกทั้งคุณยังสามารถเลือกโทนสีของกล้องฟิล์มได้เอง ที่มาพร้อมฟิลเตอร์สวย ๆ แบบพรีเซตให้คุณได้ใช้งานอย่างสะดวกสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทนสบายตา, โทนหวาน, โทนอบอุ่น หรือโทนเย็น เป็นต้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรแบบคลาสสิคสุด ๆ และชอบการลงรูปคุมโทนมาก ๆ เลยค่ะ
ใช้งานง่าย | ![]() |
ครอบคลุมการใช้งาน | ![]() |
ใช้ได้ทั้ง android และ ios | ![]() |
7. LightX

LightX เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันแต่งรูปที่โดดเด่นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์พอ ๆ กับ PicsArt แต่โดยตัวส่วนคิดว่า LightX มีลูกเล่นที่สามารถรองรับไอเดียของคุณได้มากกว่า มันเป็นแอปที่เหมาะกับคนที่ชอบอะไรที่มีความแตกต่างและไม่อยากเหมือนใคร
สำหรับฟังก์ชันการแต่งรูปนั้นก็มีการใช้งานในแบบพื้นฐานตามที่แอปแต่งรูปควรจะมี อาทิเช่น การสร้างสติกเกอร์และวาดรูปลงบนของภาพคุณ, การเพิ่มเอฟเฟกต์เฉดสีของภาพ, เพิ่มข้อความลงไปบนภาพ, ลบและเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การแก้ไขผสมรูปภาพ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ LightX จะมีฟังก์ชันแต่งรูปขั้นสูงเพิ่มเข้ามาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Color mixing, Curves, Levels and vignette effects, การเพิ่มความสว่าง, การลงเงา & ไฮไลท์, การปรับแต่งเฉดสี เป็นต้น รวมถึงยังมีฟิลเตอร์แบบพร้อมใช้ ที่มาในโทน Vintage, Retro, Drama, Grunge, Black and White เป็นต้น ให้คุณได้ลองเล่น
สำหรับใครที่เป็นสายเซลฟี่ชอบแต่งรูปใบหน้าของตัวเองอย่างละนิดอย่างละหน่อยก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะว่าคุณจะเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า เพราะ LightX เขามีฟิลเตอร์เพื่อความงามแบบอัตโนมัติมาให้ ที่จะช่วยคุณลบสิว, จุดด่างดำ, และช่วยทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนขาวกระจ่างใสได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ดูหลอกตาเกินไป
ใช้งานง่าย | ![]() |
ครอบคลุมการใช้งาน | ![]() |
ใช้ได้ทั้ง android และ ios | ![]() |
8. Remini

หากคุณกำลังมองหาแอปแต่งรูปที่ช่วยให้รูปภาพและวีดีโอที่เก่าของคุณกลับมามีชีวิตชีวาเป็นภาพใหม่ที่มีสีสันสดใสอีกครั้ง คุณจะต้องหลงรักแอป Remini เพราะแอป Remini นั้นขึ้นชื่อในเรื่องการปรับภาพที่มีความคมชัดต่ำให้กลายเป็นภาพใหม่ที่ชัดแจ๋วเพียงแค่กดปุ่ม ทำให้รูปภาพของคุณไม่เบลอหรือแตกอีกต่อไป
มันเหมาะสำหรับแก้ไขทั้งวีดีโอ ภาพเก่า หรือภาพใหม่ ที่ถ่ายออกมาไม่ชัด โดยอาศัยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง ที่จะช่วยคุณจัดการกับปัญหาที่ยุ่งยากเหล่านี้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมี AI ที่ช่วยให้การภาพถ่ายบุคคล, การสร้างภาพวาด หรือ การสร้าง Effect ระยิบระยับบนภาพของคุณที่สุดแสนจะใช้งานง่ายรอให้คุณไปเล่นอีกเพียบเลยนะคะ
ใช้งานง่าย | ![]() |
ครอบคลุมการใช้งาน | ![]() |
ใช้ได้ทั้ง android และ ios | ![]() |
ตารางสรุป แอปแต่งรูปสุดเจ๋งที่คุณควรมี
แอปพลิเคชัน | การใช้งานง่าย | ครอบคลุมการใช้งาน |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับแอปพลิเคชันในการแต่งรูปที่เราแนะนำกันไปในบทความนี้ เราหวังว่าจะมีสักแอปที่เข้าตาคุณบ้างแล้ว เพราะทุกแอปที่เรารีวิวมานั้น แม้จะเป็นการแอปที่เน้นการแต่งรูปก็จริง แต่มันก็มีความสามารถและการใช้งานที่ต่างกัน หากคุณยังเป็นเพียงผู้เริ่มต้นในการแต่งรูป เราแนะนำให้คุณใช้แอปที่มีฟิลเตอร์แบบสำเร็จรูปแถมมาให้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด และจากนั้นก็อาจจะค่อย ๆ เรียนรู้การแต่งรูปไปเรื่อย ๆ
หากคุณพร้อมที่จะศึกษาการแต่งรูปในระดับที่ยากขึ้นมาเพื่อให้ได้ภาพที่สวยสมจริง ก็ลองขยับมาเป็นแอปที่มีลูกเล่นมากขึ้นมาอีกหน่อย เพราะแอปที่มีการจัดการที่ซับซ้อนเหล่านี้จะช่วยให้คุณแก้ไขรูปภาพได้ตามที่ใจคุณต้องการ โดยที่จะไม่ทำให้รูปของคุณเสียหายหรือมีสีที่ผิดเพี้ยน โดยส่วนตัวคิดว่าหากใครที่มีทักษะในการแต่งรูปอยู่แล้วจะต้องชอบอะไรที่หลากหลายที่สามารถรับความต้องการของคุณได้อย่างเต็มที่อย่างเช่นแอป PicsArt, LightX, Lightroom หรือ Snapseed ถือว่าเป็นแอปที่เหมาะสำหรับนักแต่งรูปเลยก็ว่าได้ค่ะ




สำหรับใครที่รอคอยแอปพิลเคชันที่ใช้การแต่งหน้าหรือปรับโครงสร้างของหน้าเราให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าให้เรียวเล็ก, การลบสิว, การเพิ่มความเรียบเนียบให้ผิวหน้า, การลบริ้วรอยของวัย, การทำให้หุ่นผอมเพียวและดูสูงขึ้นมา หรือแม้แต่การเติมแต้งสีสันบนใบหน้าของคุณด้วย ลิปสติก, อายแชโดว์, บลัชออน หรือติดขนตาปลอม เอาว่าเป็นสวยจบครบในแอปเดียวแบบที่ไม่ต้องแต่งหน้าจริงก็สวยได้ ต้องรอติดตามกันในบทความหน้า “แอปแต่งหน้า Android และ iOS“ นะคะ ว่าเราจะมีแอปดี ๆ อะไรมาแนะนำกันบ้าง 😛