Butter Cookies หรือคุกกี้เนยเป็นหนึ่งในขนมที่อร่อยมาก สามารถทานหรือมอบให้กับผู้อื่นได้ทุกเทศกาลไม่ว่าจะเป็น วันปีใหม่ วันวาเลนไทน์หรือวันคริสต์มาสและวันปีใหม่คุกกี้เนยก็ยังคงเป็นที่นิยม แน่นอนค่ะเพื่อขจัดความยุ่งยากหลายคนจึงเลือกที่จะซื้อคุกกี้เนยสำเร็จรูป แต่ทุกคนขาหากเราทำคุกกี้ด้วยตนเองจะสร้างความประทับใจให้กับคนกินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว คุกกี้เนยมีรสชาติเนยที่เข้มข้นและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มกรอบและเมื่อใดก็ตามที่ได้จุ่มคุกกี้เนยลงไปในช็อคโกแลตจะยิ่งทำให้มันอร่อยมากยิ่งขึ้น
หลายคนอาจจะคิดว่าการทำคุกกี้ด้วยตัวเองนั้นเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ความพิถีพิถัน แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยเพราะคุกกี้ที่เราจะมาสอนกันวันนี้ทำได้ง่ายมาก จะทำที่หอพัก อพาร์ตเมนต์หรือทำที่บ้านก็สามารถทำได้ โดยอุปกรณ์หลักที่คุณต้องมีคือหม้ออบลมร้อน หากคุณใช้สูตรนี้ก็สามารถที่ใช้เตาอบทำได้ด้วยเช่นกันค่ะ รับรองว่าคุกกี้สูตรนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน เราขอรับประกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปทำกันเลยค่ะ
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทำคุกกี้เนยด้วยหม้ออบลมร้อน
- หม้ออบลมร้อนยี่ห้อใดก็ได้
- เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ(หากไม่มีใช้ช้อนผสมแล้วนวดเองกับมือพอแก้ขัดได้)
- ตะกร้อมือ
- ถาดสำหรับอบ (อาจจะใช้ตะแกรงที่มีมาให้พร้อมหม้ออบลมร้อนก็ได้)
- กระดาษไขรองอบ
- ถุงและหัวสำหรับบีบคุกกี้
- ไม้พายสำหรับคนส่วนผสม
- กระชอนรูถี่สำหรับร่อนแป้ง
- ช้อนตวงสำหรับวัดปริมาณ

ส่วนผสมที่สำคัญสำหรับทำคุกกี้เนยด้วยหม้ออบลมร้อน
- แป้งสาลีเอนกประสงค์ 375 กรัม
- เนยสดชนิดเค็ม 325 กรัม
- กลิ่นวนิลา ½ ช้อนชา
- กลิ่นนมเนย ½ ช้อนชา
- ผงฟู ½ ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำตาลไอซิ่ง 160 กรัม (ปรับลดหรือเพิ่มได้ตามใจชอบ)
- นมข้นจืด 90 กรัม
- ธัญพืชต่าง ๆ เช่น ลูกเกด มะม่วงหิมพานต์ ช็อกโกแลตชิพ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำคุกกี้เนยด้วยหม้ออบลมร้อน
ขั้นตอนแรก

เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อมค่ะ ใครที่นำเนยใส่ตู้เย็นไว้ ควรนำออกมาตั้งไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 30 นาที หรือหั่นให้เป็นชิ้นแล้วตั้งไว้ซักพัก เพื่อให้เนยละลายนิดนึงค่ะ หากเนยยังแข็งอยู่จะทำให้ตีได้ยากแต่ไม่ควรทำให้เนยเหลวนะคะเพราะจะใช้ไม่ได้ค่ะ
ขั้นตอนที่ 2

ร่อนแป้งและผงฟูด้วยกระชอน ขั้นตอนนี้ควรทำจะข้ามไม่ได้นะคะเพราะการร่อนแป้งจะช่วยให้แป้งกระจายตัวไม่เกาะเป็นก้อน และถ้าหากร่อนแป้งรวมกับส่วนผสมอื่นที่เป็นของแห้ง เช่น ผงฟู เกลือ หรือเบคกิ้งโซดาจะทำให้ของแห้งดังกล่าวกระจายตัวสม่ำเสมอและช่วยให้ขนมฟูขณะอบ เมื่อร่อนเเสร็จให้พักแป้งไว้ค่ะ
ขั้นตอนที่ 3

ขั้นตอนนี้เรามาตีเนยกันค่ะ นำเนยมาตีด้วยเครื่องตีแบบมือถือ ตีไม่ต้องให้เข้ากันมากค่ะ ให้พอหยาบ ๆ ก็พอ หลังจากนั้นให้เติมน้ำตาลลงไป ตีน้ำตาลให้เข้ากับเนย โดยจะสามารถสังเกตได้จากสีของเนยที่จะขาวขึ้นนั่นเองค่ะ
ขั้นตอนที่ 4

หลังจากนั้นตอกไข่ลงไปค่ะ (อาจจะคนไข่ให้แตกก่อนก็ได้นะคะ) เมื่อใส่ไข่ก็เริ่มเปิดเครื่องตีอีกครั้งค่ะ ตีให้เข้ากันเล็กน้อย แล้วเติมกลิ่นวนิลาและกลิ่นนมเนยลงไป เพื่อดับกลิ่นคาวของไข่และช่วยทำให้ขนมมีความหอมน่าทานมากยิ่งขึ้นค่ะ หลังจากนั้นเติมนมข้นจืดลงไปค่ะและตีให้เข้ากันอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 5

หลังจากที่เราผสมของเหลวเสร็จแล้ว ก็ให้นำของแห้งอย่างแป้งที่เราได้ร่อนไว้นั่นเองค่ะ ขั้นตอนนี้ใครจะตีให้เข้ากันก็ได้นะคะ แต่ไม่อยากให้แป้งฟุ้งกระจายล่ะก็แนะนำให้ใช้ไม้พายค่อย ๆ ตะล่อมให้เนื้อแป้งเข้ากันค่ะและหากใครอยากทานคุกกี้กาแฟหรือช็อกโกแลตก็สามารถใส่ผงกาแฟและผงโกโก้เข้าไปได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 6

เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้นำถาดรองด้วยกระดาษไขมาเตรียมไว้ จากนั้นให้นำเนื้อแป้งใส่ถุงบีบที่เตรียมไว้ค่ะ วิธีเตรียมถุงบีบแบบง่าย ๆ คือซื้อถุงบีบแบบสำเร็จรูปตัดปลายถุงและใส่หัวบีบลงไปด้านนั้นแค่นั้นเองค่ะ แต่หากใครไม่มีถุงบีบ สามารถใช้ถุงพลาสติกธรรมดาตัดปลายได้ค่ะแต่รูปทรงของคุกกี้จะไม่ค่อยสวยค่ะ เมื่อใส่เนื้อแป้งลงในถุงบีบแล้วก็บีบได้เลยค่ะ ขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบเลยค่ะ ควรบีบให้ห่างกันเล็กน้อยนะคะ ป้องกันไม่ให้เนื้อคุกกี้ไหลรวมกันค่ะ
ขั้นตอนที่ 7

ถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ นั่นก็คืการอบคุกกี้นั่นเองค่ะ ก่อนอื่นต้องวอร์มหม้ออบลมร้อนของเราไว้ซัก 5 – 10 นาที ด้วยความร้อน 170 องศาก่อนนะคะ เพื่อไล่ความชื้นภายในหม้ออบลมร้อนค่ะ

หลังจากนั้นนำถาดที่เราบีบคุกกี้ไว้ใส่ลงไปในหม้ออบลมร้อนได้เลยค่ะ เปิดอุณหภูมิไว้ที่ 170 องศา อบเป็นเวลา 20 นาที เมื่อครบเวลาให้กลับคุกกี้อีกด้านนึงแล้วอบต่ออีก 5 นาทีนะคะ เพราะหม้ออบลมร้อนส่งความร้อนแค่ด้านบนจึงทำให้ด้านล่างไม่กรอบจึงจำเป็นต้องอบเพิ่มนะคะ

เสร็จแล้วค่ะทุกคนคุกกี้สุดแสนจะอร่อยของเรา ทำได้ง่าย ๆ เลยใช่ไหมคะ แต่เมื่อทำเสร็จแล้วอย่าลืมพักให้เย็นแล้วเก็บคุกกี้ที่ทำไว้ในขวดโหลหรือกระปุกใส่อาหารไว้ให้ดีนะคะ อย่าให้ลมเข้าไปเพราะจะทำให้คุกกี้ของเราไม่กรอบค่ะ ส่วนหากคุณอยากทำคุกกี้ในปริมาณขึ้นสามารถเพิ่มปริมาณวัตถุดิบได้โดยใช้หลักการคูณเข้าไปค่ะ ขอบอกเลบว่าสูตรที่เราให้ไปจะมีความกรอบอย่างแน่นอน คุณสามารถทำกินได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ที่ทำงานหรือจะมอบให้คนที่รักก็ย่อมได้ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนนะคะ คราวหน้าจะทำ How to สูตรอาหารเมนูอะไร อย่าลืมมาติดตามกันนะคะ