안녕하세요! (อันยองฮาเซโย) ค่ะทุกคน เห็นทักทายกันด้วยภาษาเกาหลีแบบนี้แน่นอนว่าวันนี้เราต้องมีบทความอาหารอร่อย ๆ จากแดนกิมจิมาฝากกันแน่นอน ไม่กี่ปีมานี้จะเห็นได้ว่ากระแสการทานอาหารเกาหลี นประเทศไทยนั้นเป็นอะไรที่นิยมกันมาก ๆ อาจเพราะเรามักจะเห็นฉากการทานอาหารมาจากซีรี่ย์เกาหลีหรือวาไรตี้โชว์ต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นการโปรโมทชั้นดีเลยทีเดียว ก็แหม! ใครจะไปอดใจไหวใช่ไหมล่ะคะ เพราะการนั่งดูรายการที่เกี่ยวกับการกินเป็นอะไรที่ลำบากใจสุด ๆ ใจนึงก็อยากจะลดน้ำหนัก ใจนึงก็หิว แต่ก็นั่นแหละค่ะในเมื่อเรามันนักสู้ กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง ว่าแล้วก็เข้าครัวหาของกินโลดดด…
ยิ่งในสถานการณ์โควิด 19 ในช่วงนี้ การจะออกไปทานข้าวนอกบ้านทุกมื้อก็ดูจะแสนลำบาก ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบทานอาหารเกาหลีด้วยแล้ว จะให้ทำกินที่บ้านก็ดูยุ่งยากซะเหลือเกิน แต่วันนี้เราจะทำให้ปัญหาของคุณหมดไป เพียงแค่ตุนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีเอาไว้ก็ไม่ลำบากแล้วค่ะ แต่หากใครที่ไม่อยากทานบะหมี่บ่อย ๆ ลองหาเครื่องปรุงอาหารเกาหลี อย่าง โคชูจัง, พริกป่น, น้ำมันงา หรือ ซอสเต้าเจี้ยว ติดครัวเอาไว้ ก็จะสามารถรังสรรค์เมนูอร่อย ๆ ได้เยอะเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เมนูจากโคชูจัง, ต็อกบกกี, เกี๊ยวซ่า และ โอเด้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารเกาหลีนั่นก็คือ “กิมจิ” ซึ่งในครั้งที่แล้วเราได้นำเสนอบทความ รีวิว กิมจิ ยี่ห้อไหนอร่อย กันไปแล้ว วันนี้เราจะพาทุกท่านมาชมและชวนทำ “เมนูจากกิมจิ” กันบ้างค่ะ
กิมจิ (김치) มีกี่ประเภท ?

อย่างที่ได้บอกไปค่ะว่ากิมจิของเกาหลีนั้นมีด้วยกันหลายประเภท ซึ่งกิมจิแต่ละประเภทก็จะนิยมรับประทานกับกับข้าวที่ต่างกัน นอกจากนี้กิมจิแต่ละตัวยังเหมาะสำหรับอากาศที่ต่างกันอีกด้วย ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับว่าฤดูไหนมีผักอะไรเยอะนั่นเองค่ะ อย่างกิมจิที่ได้รับความนิยมก็จะมี
- 배추김치 แพชูคิมชี่ (กิมจิผักกาดขาว) ก็จะนำเอาผัดกาดขาวทั้งหัวมาหมักกับเครื่องเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ขิง, สาลี่, กระเทียม, แป้งข้าวเหนียว และพริกป่นเกาหลี จากนั้นนำมาทาลงบนใบของผักกาดให้ทั่ว แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 5 ชั่วโมงจึงค่อบเก็บเข้าตู้เย็น
- 오이김치 โออีคิมชี่ (กิมจิแตงกวา) ที่มักจะกินกันในช่วงฤดูร้อน เพราะแตงกวาจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นเนื่องจากมีน้ำเยอะนั่นเองค่ะ
- 파김치 พ่าคิมชี่ (กิมจิต้นหอม) จะใช้ต้นหอมทั้งต้นมาหมักกับเครื่องปรุงรส นิยมทานในช่วงใบไม้ผลิเนื่องจากเป็นช่วงที่ต้นหอมเจริญเติบโตได้ดี
- 깻잎김치 แกนิบคิมชี่ (กิมจิใบงา) นิยมทานกันในช่วงฤดูร้อนเช่นเดียวกับกิมจิแตงกวา มีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ใบจะค่อนข้างแข็งแต่จะนุ่มลงเมื่อนำมาหมักกิมจิ กิมจิใบงามักจะทานคู่กับเนื้อย่างหรือปลาย่างเพื่อเพิ่มอรรถรสเวลาทานนั่นเองค่ะ
1. หมูสามชั้นผัดกิมจิ

มาเริ่มกันที่เมนูเบสิคตลอดกาลอย่างเมนู ‘หมูสามชั้นผัดกิมจิ’ เมนูนี้บอกเลยว่าไม่ว่าจะไปร้านไหนก็มีให้กินแทบทุกร้าน ด้วยรสชาติที่อร่อย กลมกล่อม ยิ่งได้ทานคู่กับข้าวสวยและซุปร้อน ๆ นี่ยิ่งฟินมาก ๆ ในส่วนของวัตถุดิบก็ไม่มีอะไรมากค่ะ มีแค่เนื้อหมู, กิมจิ และผักตามชอบ ตบท้ายด้วยการโรยงาหอม ๆ บอกเลยว่าอร่อยสุด
ส่วนผสม
- หมูสามชั้น 200 กรัม
- กิมจิ 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- แครอทหั่นฝอย ½ หัว
- ต้นหอมหั่นท่อน
- งาขาว
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
- น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ เทน้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวจนหอม
- เมื่อกระเทียมเหลืองสวย ใส่หมูลงไปผัดจนสุก ตามด้วยใส่แครอทหั่นฝอยลงไป
- ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว, ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
- เมื่อผัดส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วให้ใส่กิมจิลงไป แนะนำว่าใส่แค่ผักนะคะ เพราะถ้าใส่น้ำหมักลงไปด้วยอาจทำให้เปรี้ยวจนเกินไป
- เมื่อผัดจนได้ที่ ใส่ต้นหอมหั่นทอดลงไป ปิดแก้ส ตักขึ้นใส่จาน จากนั้นโรยด้วยงาขาวก็เป็นอันเสร็จ
2. ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน

ในช่วงหน้าหนาวการได้ทานซุปกิมจิร้อน ๆ เป็นอะไรที่ฟินมาก ๆ ด้วยรสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ทำให้เป็นเมนูที่ฮิตอีกหนึ่งเมนู นอกจากความอร่อยแล้ว ซุปกิมจิยังมีกลิ่นที่หอมของเต้าหู้, พริกป่น และโคชูจัง เผ็ดปานกลาง เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ใครที่ชอบทานซุปร้อน ๆ หรืออยากซดน้ำซุปให้คล่องคอ เมนูซุปกิมจิเต้าหู้อ่อนตอบโจทย์มาก ๆ ค่ะ
ส่วนผสม
- หมูสามชั้น 120 กรัม
- กิมจิ ½ ถ้วย
- เต้าหู้อ่อน 100 กรัม
- หอมใหญ่ 1 หัว
- ต้นหอม 1 ต้น
- เห็ดหอม 50 กรัม
- โคชูจัง 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ ½ ช้อนโต๊ะ
- พริกป่นเกาหลี ½ ช้อนโต๊ะ
- โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ นำหมูสามชั้นลงไปผัดกับหอมใหญ่และกระเทียมสับจนสุกหอม จากนั้นเติมน้ำลงไปในหม้อ ตามด้วยใส่กิมจิ, เห็ดหอม และเต้าหู้อ่อนลงไป รอจนน้ำเดือด
- เมื่อน้ำเดือดดีแล้วให้ปรุงรสด้วยโคชูจัง, พริกป่นเกาหลี, โชยุ และพริกไทยป่น
- ตุ๋นไว้ประมาณ 15 – 20 นาที จะสังเกตได้ว่าน้ำจะมีสีเข้มและงวดขึ้น ก็เป็นอันเสร็จ เวลาตักเสิร์ฟโรยด้วยต้นหอมซอยเล็กน้อย ก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ
3. ข้าวผัดกิมจิ

ใครที่เบื่อข้าวผัดแบบธรรมดา ลองใส่กิมจิลงไปดูสิคะ บอกเลยว่าจะทำให้ข้าวผัดของคุณไม่ธรรมดาอีกต่อไป ข้าวผัดกิมจิรสชาติจะออกเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ อร่อย ทานง่าย แนะนำว่าให้นำกิมจิลงไปผัดจนหอมก่อน จึงค่อยใส่ข้าวลงไปผัด เพราะจะทำให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น ใครที่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากข้าวผัดสไตล์ไทยมาเป็นข้าวผัดสไตล์เกาหลี ต้องลองค่ะ
ส่วนผสม
- ข้าวสวย 1 ถ้วย
- กิมจิสับ 100 กรัม
- ซีอิ๊ว 1 ช้อนชา
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
- น้ำมันงา (เล็กน้อย)
- พริกป่นเกาหลี ½ ช้อนโต๊ะ
- งาขาว (สำหรับโรยหน้า)
- น้ำมัน (สำหรับผัด)
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กิมจิสับ, ซีอิ๊ว, น้ำตาล และพริกป่นเกาหลี ลงไปผัดจนหอม
- เมื่อผัดส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ใส่ข้าวสวยลงไปผัดต่อจนเข้ากัน จากนั้นเหยาะน้ำมันงาเล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ผัดต่ออีกนิด ก็เป็นอันเสร็จ
- เมื่อตักข้าวผัดใส่จาน ให้โรยหน้าด้วยงาขาวก่อนเสิร์ฟ รับรองว่าหอมอร่อยค่ะ
4. หม้อไฟกิมจิ

อีกหนึ่งเมนูสุดฮิตในหน้าหนาวของชาวเกาหลี ก็ต้องยกให้เจ้าหม้อไฟกิมจินี่แหละค่ะ เพราะเมนูนี้ให้ทั้งความอร่อย และความจี๊ดจ๊าดในหม้อเดียว ใครที่อยากเพิ่มความแอดวานซ์ให้ใส่ออมุก (ลูกชิ้นปลาเกาหลี) หรือลูกชิ้นต่าง ๆ ลงไปด้วย บอกเลยว่าจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานไปอีกระดับ
ส่วนผสม
- ออมุก (ปลาแผ่นเกาหลี) 300 กรัม
- กิมจิ 200 กรัม
- ลูกชิ้น (ตามชอบ)
- เห็ดเข็มทอง (ตามชอบ)
- ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- โคชูจัง 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุป
วิธีทำ
- นำออมุกไปลวกในน้ำเดือดก่อน 1 ครั้ง เพื่อเอาน้ำมันออก แล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
- ตั้งหม้อ ใส่ออมุก, กิมจิ, ลูกชิ้น, เห็ดเข็มทอง, กระเทียมสับ และโคชูจังลงไป จากนั้นเติมน้ำซุปลงในหม้อ รอจนเดือด ตุ๋นให้ส่วนผสมเปื่อยนุ่มประมาณ 15 นาที
- โรยหน้าหม้อไฟด้วยต้นหอมญี่ปุ่นซอย ก็เพราะรับประทานได้ทันที
5. รามยอนถั่วงอกกิมจิ

ใครที่ชอบทานเมนูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ลองเพิ่มกิมจิและถั่วงอกลงไปสิคะ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รามยอนถั่วงอกกิมจิอร่อย ๆ ตามฉบับของเกาหลีแท้ ๆ เอาไว้ทานแล้วล่ะค่ะ เมนูนี้จุดเด่นอยู่ตรงที่กลิ่นหอมของกิมจิ และไข่แดงที่ตอกลงไปในตอนท้าย เมื่อนำมาผสมกัน บอกเลยว่าความมันเยิ้มของไข่แดงเข้ากันได้ดีกับะหมี่ถ่วงอกหม้อนี้มาก ๆ ค่ะ
ส่วนผสม
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ก้อน
- กิมจิ 150 กรัม
- ถั่วงอก (ตามชอบ)
- หมูสไลด์ 100 กรัม
- ต้นหอมญี่ปุ่นหั่นท่อน
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- พริกป่นเกาหลี ½ ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสับ (ตามชอบ)
- น้ำซุป
- น้ำมันพืช (เล็กหน้อย)
วิธีทำ
- ตั้งกระทะก้นลึก ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย นำหมูสไลด์, ต้นหอมญี่ปุ่นหั่นท่อน และพริกขี้หนูสับลงไปผัดจนหอม ตามด้วยใส่กิมจิลงไป ผัดให้พอหดตัว
- เติมน้ำซุปลงไปให้พอท่วม รอจนเดือด
- เมื่อซุปเดือด ใส่เส้นบะหมี่, ถั่วงอก และพริกป่นเกาหลีลงไป ต้มต่อประมาณ 3 – 4 นาที ก็เป็นอันเสร็จค่ะ
- สุดท้ายตอกไข่แดงโปะลงไปในหม้อเพื่อเพิ่มความอร่อยค่ะ
6. ทูน่าผัดกิมจิ
เอาล่ะ ใครที่เป็นสายทูน่ากระป๋อง รับรองว่าต้องติดอกติดใจกับเมนูทูน่าผัดกิมจิแน่นอนค่ะ เพราะเมนูนี้จะนำเอาทูน่ากระป๋องมาผัดกับกิมจิ ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายเพื่อตัดรสชาติเปรี้ยว จากนั้นเหยาะน้ำมันงาเพื่อเพิ่มความหอม ตบท้ายด้วยการโรยงาขาวคั่วลงไป บอกเลยว่าเป็นเมนูะรรมดาที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ค่ะ
ส่วนผสม
- ทูน่ากระป๋อง 150 กรัม
- กิมจิ 1 ถ้วย
- ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
- งาขาว
- น้ำเปล่า
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันงาและกิมจิลงไปผัดให้หอม ด้วยไฟกลาง
- เมื่อกิมจิเริ่มหดตัว เติมน้ำตาลทรายลงไป ผัดจนเข้ากันอีกครั้ง
- เติมน้ำเปล่าลงไปจนท่วม จากนั้นเคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ จนน้ำเริ่มงวดลง
- เมื่อน้ำเริ่มแห้ง ใส่ทูน่าและต้นหอมญี่ปุ่นลงไป ผัดต่อจนน้ำเป็นแบบขลุกขลิก จากนั้นโรยงาเล็กน้อยก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ แนะนำว่าเมื่อใส่ทูน่าลงไปแล้วไม่ต้องผัดนาน เนื่องจากอาจทำให้มีกลิ่นคาวได้
7. กิมจิโรลหมูสามชั้น
ดูเมนูผัด ๆ ต้ม ๆ กันไปเยอะแล้ว ลองเปลี่ยนมาทำสไตล์นึ่งกันดูบ้างค่ะ เมนูนี้บอกเลยว่านอกจากจะอร่อยมาก ๆ แล้ว ยังเหมาะผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักอีกด้วยนะคะ เพราะมีแคลอรี่ที่ต่ำมาก ๆ วิธีการทำก็จะคล้ายกับการทำสลัดโรลของบ้านเรา แต่จะเปลี่ยนเป็นนำกิมจิผัดกาดขาวมาม้วนห่อหมูสามชั้นสไลด์ ปรุงรสด้วยโคชูจัง และเพิ่มความแซ่บด้วยพริกขี้หนู จากนั้นก็นำไปนึ่งกับน้ำซุปหอม ๆ เพียงเท่านี้เราก็จะได้เมนูเฮลตี้อีกหนึ่งเมนูแล้วล่ะค่ะ
ส่วนผสม
- หมูสามชั้นสไลด์ 500 กรัม
- กิมจิ (ทั้งใบ)
- ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
- พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- โคชูจัง 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุป
วิธีทำ
- นำกิมจิทั้งใบมาแผ่ออก จากนั้นวางหมูสามชั้นสไลด์ลงไป ค่อย ๆ ม้วนเป็นโรล จากนั้นนำไปวางบนภาชนะสำหรับนึ่ง
- ทำซ้ำเรื่อย ๆ จนหมูสามชั้นหมด จากนั้นเติมน้ำซุปลงไปพอท่วม ปรุงรสด้วยโคชูจัง, พริกขี้หนูสับ และต้นหอมญี่ปุ่น
- ปิดฟา นึ่งด้วยไฟแรงจนน้ำเริ่มงวด กะให้พอหมูสุก ก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ ตักเสิร์ฟได้เลย
8. บะหมี่เย็นใส่กิมจิ

บะหมี่เย็น เมนูสุดฮิตในหน้าร้อนของประเทศเกาหลี คนไทยอาจจะไม่คุ้นชินกับการทานบะหมี่ที่มีน้ำซุปเย็น ๆ สักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนเกาหลีนั้น เมนูนี้จะช่วยคลายร้อนได้ดีทีเดียว ซึ่งรสชาติของบะหมี่เย็นจะออกรสเปรี้ยว เค็ม และหอมกิมจิมาก ๆ ความเปรี้ยวนั้นจะได้มาจากซอสเปรี้ยวอย่างจิ๊กโฉ่ และตัดด้วยความเค็มของซีอิ๊วกับเกลือ จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นให้ตัวน้ำซุปเย็นจัด ก่อนจะนำมาเสิร์ฟพร้อมกับสาหร่ายหั่นฝอย แค่พูดก็น้ำลายไหลแล้วค่ะ
ส่วนผสม
- เส้นโซเม็ง
- กิมจิ 100 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- จิ๊กโฉ่ 10 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา (เล็กน้อย)
- สาหร่ายฝอย
- น้ำเย็น
วิธีทำ
- เริ่มจากเตรียมกิมจิโดยการหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ใส่ลงในชามผสม ตามด้วยใส่กระเทียมสับ, ซีอิ๊วขาว, น้ำตาลทราย และต้นหอมซอยลงไป จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- เติมน้ำเย็นลงไปในชามส่วนผสม ปรุงรสด้วยเกลือ, จิ๊กโฉ่ และน้ำมันงา ชิมรสตามชอบ
- นำซุปที่เราเตรียมไว้เข้าแช่ในตู้เย็น เวลาจัดเสิร์ฟ ให้ต้มเส้นโซเม็งเตรียมใส่ถ้วย จากนั้นตักซุปราดด้านบน โรยด้วยสาหร่ายฝอยก็เป็นอันเสร็จค่ะ
9. ข้าวปั้นกิมจิแฮมเกาหลี
ใครที่ชอบทานข้าวปั้น ลองเปลี่ยนจากหน้าแซลมอน มาเป็นหน้ากิมจิแฮมดูสิคะ วิธีการทำก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ใช่แฮมกระป๋อง, กิมจิ, ข้าว และไข่ มาวางทับกันเป็นชั้น ๆ แล้วพันด้วยสาหร่ายเส้นเล็ก ๆ ก็จะให้อารมณ์เหมือนข้าวปั้นแล้วค่ะ จุดเด่นของเมนูนี้คือจะไม่ได้ปั้นด้วยมือ แต่จะใช้การกดลงในพิมพ์ ซึ่งพิมพ์ที่ใช้ก็คือกระป๋องแฮมนั่นเอง รูปทรงที่ได้ก็ออกมาดูสวยแปลกตาอยู่ทีเดียวค่ะ
ส่วนผสม
- แฮมเกาหลี 1 กระป๋อง
- กิมจิสับ 100 กรัม
- ข้าวญี่ปุ่น
- ไข่ 2 ฟอง
- น้ำมันงา
- เกลือ
- สาหร่าย
- งาขาว
วิธีทำ
- เริ่มแรกนำกิมจิมาล้างน้ำเล็กน้อย เพื่อให้สีของพริกออกบางส่วน เวลานำมาประกอบข้าวปั้น พริกจะได้ไม่เลอะข้าว
- เตรียมวัตถุดิบทั้งหมด โดยการสับกิมจิ, หั่นแฮมหนาประมาณ 0.5 ซม., เจียวไข่แล้วตัดให้ได้ขนาดเท่าแฮม และตัดสาหร่ายให้เป็นเส้น ๆ เตรียมไว้
- หุงข้าวญี่ปุ่น จากนั้นนำมาคลุกกับเกลือ, น้ำมันงา และงาขาว
- นำแฮมเกาหลีไปจี่บนกระทะให้เหลืองหอม พักไว้
- เตรียมพลาสติกแร็ป กางลงบนกระป๋องแฮมเปล่า จากนั้นใส่ ข้าว, ไข่ม้วน, กิมจิ, ข้าว, แฮม ตามลำดับ
- นำสาหร่ายมาพันรอบข้าวปั้นให้สวยงาม ทานคู่กับโชยุอร่อยมากค่ะ
10. มันเทศอบชีส

ดูเมนูของคาวและอาหารจานหลักกันไปเยอะแล้ว ลองเปลี่ยนฟีลลิ่งมาเป็นของทานเล่นอร่อย ๆ อย่างมันเทศอบชีสกันดูบ้างค่ะ จุดเด่นของเมนูนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะเราไม่ได้ใช้แค่มันเทศแล้วนำไปอบกับชีสเท่านั้น แต่เราจะเพิ่มเทกเจอร์ด้วยกิมจิสับละเอียดลงไป ซึ่งเวลาทานจะได้รสหวานของมันเทศ รสเปรี้ยวของกิมจิ และความหอมของมอสซาเรลล่าชีส เห็นส่วนผสมน้อย ๆ แบบนี้ แต่ความอร่อยจัดเต็มแน่นอนค่ะ
ส่วนผสม
- มันเทศ
- กิมจิ
- มอสซาเรลล่าชีส
- น้ำตาลทราย
วิธีทำ
- ล้างมันเทศให้สะอาด หั่นให้เป็นลักษณะเฉียง จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเย็นสักครู่ เพื่อล้างแป้งออกจากตัวมันเทศ
- สับกิมจิให้ละเอียด จากนั้นนำไปผัดบนกระทะสักครู่เพื่อไล่ความชื้น พร้อมกับใส่น้ำตาลทรายเพื่อตัดลดเปรี้ยวเล็กน้อย
- นำมันเทศมาซับน้ำจนแห้ง จากนั้นนำมาจี่หรือย่างบนกระทะจนสุกเหลืองทั่วกันทั้ง 2 ด้าน จากนั้นปิดแก้ส
- วางกิมจิลงบนมันเทศ โรยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีส จากนั้นปิดฝา แล้วอบด้วยไฟอ่อนจนชีสละลาย
- พร้อมเสิร์ฟ
กิมจิ อาหารประจำชาติของประเทศเกาหลี !
หากพูดถึงอาหารที่คนเกาหลีนิยมรับประทานและต้องมีติดตู้เย็นกันไว้ทุกบ้าน ก็ต้องยกให้เจ้ากิมจินี่แหละค่ะ โดยกิมจินั้นเป็นอาหารประเภท เครื่องเคียงอาหารเกาหลี เอาไว้สำหรับทานคู่กับข้าว, ซุป หรือเนื้อย่างเพื่อเพิ่มรสชาติและความอร่อยให้กับอาหารนั้น ๆ ซึ่งกิมจิเป็นเมนูที่ทำมาจากผักดอง รสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ครบรส ผักที่นิยมนำมาใช้ทำกิมจิก็จะมีผักกาดขาว, ต้นหอม, หัวไชเท้า หรือแตงกวา เป็นต้น บอกเลยค่ะว่ากิมจิเนี่ยอยู่คู่กับคนเกาหลีมานานจริง ๆ เพราะทุกมื้อของอาหารต้องมีกิมจิวางคู่ด้วยเสมอ ยิ่งในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว ประเทศเกาหลีจะมีประเพณีหนึ่งที่ชื่อว่า “김장 คิมจัง” เป็นประเพณีที่เหล่าบรรดาแม่บ้านเกาหลีจะออกมาช่วยกันทำกิมจิจำนวนมากเพื่อเก็บไว้กินตลอดปี เรียกได้ว่าช่วยกันทำตั้งแต่อาจุมม่าไปจนลูกสะใภ้กันเลยทีเดียว ซึ่งบ่งบอกได้เลยค่ะว่าประเทศเกาหลีนั้นให้ความสำคัญกับกิมจิมากเลยทีเดียว
บทสรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับเมนูจากกิมจิทั้ง 10 เมนูที่เราได้คัดสรรมาให้ทุกคนในวันนี้ บอกเลยว่าแต่ละสูตรนี่ทำออกมาแล้วให้สไตล์โคเรียสุด ๆ ใครที่คิดว่ากิมจิทานได้แค่เป็นเครื่องเคียงเท่านั้น บอกเลยว่าคิดผิดค่ะ! เพราะกิมจินั้นสามารถทำออกมาได้หลายเมนูมาก ๆ แถมมีแต่เมนูอร่อย ๆ ทั้งนั้น ใครที่ต้องกักตัวอยู่บ้านนาน ๆ หรือมีเวลาเข้าครัว ลองเลือกหยิบมาฝึกทำซักเมนู รับรองว่าอร่อย ติดใจแน่นอนค่า