แนะนำ 10 เมนูแดดเดียว ทำง่าย เก็บได้นาน

ช่วงหน้าร้อนของไทยนี่หลายคนคงจะรู้กันดีว่าเป็นอะไรที่ร้อนม๊ากกก ร้อนจนแทบจะร้องของชีวิต และเนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวติดต่อกันเป็นนาน ๆ นี่แหละทำให้เกิดเทศกาลหนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือเทศกาลสงกรานต์นั่นเองค่ะ ในสมัยก่อนเนี่ยเทศสงกรานต์หรือประเพณีสงกรานต์จะจัดขึ้นเพื่อเป็นการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยประทานพร ประทานฝนลงมาบ้างเพราะหันไปทางไหนก็เห็นแต่ไอความร้อนกับความแห้งเหี่ยวของต้นไม้ใบหญ้า หลังจากทำติดต่อกันมาหลายร้อยปีในปัจจุบันเทศกาลสงกรานต์ถือว่าเป็นอักหนึ่งโอกาสดี ๆ ที่ทำให้ญาติพี่น้องกลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาและทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงได้รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อเป็นการขอพรทดแทนบุญคุณ

แน่นอนว่าคนไทยซะอย่าง รวมตัวกันเมื่อไหร่งานปาร์ตี้งานสังสรรค์จะพลาดไม่ได้ แต่จะให้ทานชาบูหมูกระทะทุกวันก็คงจะรู้สึกเบื่อ ยิ่งอากาศร้อนอบอ้าวยิ่งทำให้หลายคนเลือกที่จะอยู่บ้านเปิดแอร์หรือพัดลมฉ่ำ ๆ มากกว่าการออกไปข้างนอก ชาบูก็เบื่อ นอกบ้านก็ไม่อยากไปงั้นเรามาทำอาหารที่เหมาะกับสภาพอากาศอย่าง เมนูแดดเดียว กันดีกว่าค่ะ ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากดวงอาทิตย์ให้คุ้มค่า ซึ่งเมนูแดดเดียวก็เป็นเมนูที่เหมาะมากเพราะใช้เวลาเพียงหนึ่งวันก็ได้ทานอาหารอร่อย ๆ แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นการถนอมอาหารอีกหนึ่งรูปแบบด้วยค่ะ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าเมนูแดดเดียวจะมีอะไรบ้าง



1. หมูแดดเดียว

หมูแดดเดียว
หมูแดดเดียว

พูดถึงเมนูแดดเดียวก็เปิดกันที่หมูแดดเดียวเลยค่ะ เมนูนี้เราจะเลือกใช้เนื้อหมูส่วนสะโพก นำมาหั่นตามลายเส้นเพื่อให้เนื้อหมูยังคงชุ่มฉ่ำอยู่ ส่วนใครกลัวว่าหั่นแบบนี้จะเหนียวหรือเปล่าเราบอกเลยว่าไม่เหนียวแถมนุ่มอร่อยสุด ๆ เพราะหลังจากหมักจนได้ที่แล้วเราจะนำเนื้อหมูไปตากจนผิวด้านนอกแห้งตึงแต่เนื้อหมูยังนุ่ม แห้งทุกด้านดีแล้วก็นำมาทอดจนหมูสุก เนื้อด้านนอกกรุบกรอบนิด ๆ แต่กัดลงไปแล้วทั้งความหอมและความฉ่ำจะอบอวลอยู่ในปาก ยิ่งได้จิ้มข้าวเหนียวกับน้ำจิ้มแจ่วอีกหน่อยนะ หืมมมม

วัตถุดิบหมูแดดเดียว

  • สะโพกหมู
  • รากผักชี
  • กระเทียม
  • พริกไทยขาวเม็ด
  • เกลือ
  • น้ำตาลทราย
  • ซีอิ๊วขาว

วิธีทำหมูแดดเดียว

ขั้นตอนแรกเราจะมาเตรียมหมูกันก่อน เริ่มจากล้างทำความสะอาดเนื้อหมูแล้วซับให้แห้งค่ะ จากนั้นหั่นเนื้อหมูตามแนวลายเนื้อให้มีขนาดเท่า ๆ กัน สามารถหั่นสั้นหรือยาวได้ตามต้องการเลยค่ะ แต่แนะนำไม่ให้สั้นมากนะคะเดี๋ยวตอนทานจะไม่ฟิน เตรียมหมูเสร็จแล้วเรามามาทำเครื่องหมักกัน ตำพริกไทยขาวให้พอแหลกแล้วนำกระเทียมและรากผักชีลงไปตำรวมรวมกัน ไม่ต้องตำกระเทียมแหลกมากนะคะ

เสร็จแล้วตักใส่ภาชนะแล้วเติมเกลือ, น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาวเล็กน้อย คลุกเคล้าให้น้ำตาลและเกลือละลายเข้ากันดีก่อนแล้วนำเนื้อหมูลงมาคลุก ใช้มือขยำ ๆ นวด ๆ สักพักจนเครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูและหมูนุ่มขึ้นอีกหน่อยค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้ความหอมและรสชาติซึมเข้าเนื้อหมูได้ง่ายขึ้นค่ะ หมักทิ้งไว้ประมาณ10 – 15 นาที

หมูหมักได้ที่แล้วเราจะนำมาวางเรียงบนตะแกรงหรือภาชนะสำหรับตาก ตอนวางพยายามอย่าให้ชิดติดกันมากนะคะเดี๋ยวหมูจะโดนแดดไม่ทั่วถึงแล้วนำไปตากจนผิวหมูแห้งตึงซึ่งจะใช้เวลาแตกต่างกันค่ะ ถ้าวันไหนแดดจัดมาก ๆ อาจจะใช้เวลาเพียง 30 นาทีหรือนึ่งชั่วโมงผิวหมูก็ตึงแล้ว

หลังจากผิวหมูแห้งตึงเราจะกลับด้านแล้วตากต่อ สำหรับหมูแดดเดียวเราจะไม่ตากจนเนื้อแห้งกรอบเอาแค่ผิวด้านนอกแห้งตึงแต่ด้านในยังชุ่มชื้นอยู่ก็พอแล้วค่ะ ครบเวลาแล้วเก็บหมูใส่ภาชนะเก็บเข้าตู้เย็น ส่วนหมูที่ต้องการรับประทานจะนำมาทอดไฟกลางค่อนอ่อน ขณะทอดคอยคนไปเรื่อย ๆ จนหมูสุกเหลืองดีก็ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย


2. เนื้อแดดเดียว

เนื้อแดดเดียว
เนื้อแดดเดียว

ใครไม่ชอบทานหมูเปลี่ยนมาทำเนื้อแดดเดียวดูค่ะ เราจะเลือกใช้เนื้อวัวส่วนสามชั้นที่มีมันติด เนื้อของเราจะทั้งนุ่ม หอม และอร่อย สูตรนี้เนื้อวัวไม่เหนียวเลยค่ะ เราจะหมักกับรากผักชีและพริกไทยเพิ่มความหอมและดับกลิ่นเนื้อ ตากแดดจนผิวแห้งตึงแต่เนื้อด้านในยัง juicy สุด ๆ เสร็จแล้วทอดจนมันเนื้อสุกและผิวด้านนอกกรอบ ๆ กัดลงไปมันเนื้อแตกเป๊าะแป๊ะ ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งได้กลิ่นหอมของพริกไทยและกลิ่นเนื้อทอดกระจายอยู่เต็มปาก มีรสชาติเผ็ดร้อนพริกไทยช่วยเสริมให้เมนูนี้ทานเพลินจนหยุดไม่ได้เลย

วัตถุดิบเนื้อแดดเดียว

  • เนื้อวัวส่วนสามชั้น
  • รากผักชี
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • พริกไทยขาวเม็ด

วิธีทำเนื้อแดดเดียว

ล้างทำความสะอาดเนื้อวัวก่อนค่ะ สำหรับเนื้อวัวเราค่อนข้างจะพิถีพิถันมากกว่าเนื้อหมูสักหน่อยเพราะเนื้อมีกลิ่นสาบมากกว่า ถ้าล้างไม่ดีอาจทำให้เนื้อแดดเดียวของเรามีกลิ่นได้ พยายามล้างเอาเมือกหรือกลิ่นคาวออกให้หมดนะคะ เสร็จแล้วซับเนื้อให้แห้งแล้วนำมาแล่เป็นชิ้นตามแนวลายเนื้อให้มีขนาดเท่า ๆ กัน

หันมาโขลกพริกไทยขาวและรากผักชีรวมกันให้แหลกพอประมาณ นำมาผสมกับน้ำปลาและน้ำตาลทรายเล็กน้อย คลุกให้น้ำตาลละลายแล้วนำเนื้อมาหมักรวมกัน นวดจนความหอมอร่อยซึมเข้าเนื้อและเนื้อนุ่มขึ้นค่ะ หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ครบเวลาแล้วนำเนื้อหมักออกมาเรียงใส่ภาชนะที่จะใช้ตาก วางห่างกันหน่อยนะคะเดี๋ยวเนื้อไม่แห้ง ถ้าแดดจัดมากใช้เวลาตากแค่ 30 นาที – 1 ชั่วโมงก็กลับด้านได้แล้วค่ะ เอาแค่ผิวเนื้อหมักแห้ง ๆ ตึง ๆ ก็ใช้ได้แล้วไม่ต้องถึงกับแห้งแข็งทั้งชิ้นเดี๋ยวจะเหนียวเกินไป

สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

เนื้อแห้งดีแล้วเราจะเก็บมาใส่ถุงซิปล็อคหรือกล่องแล้วนำเข้าตู้เย็น สำหรับเนื้อแดดเดียวจะเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ไม่นานค่ะเพราะเนื้อยังมีความชื้นอยู่ ถ้าต้องการเก็บนาน ๆ แนะนำให้นำเข้าช่องแช่แข็งเลย เมื่อต้องการทอดเพียงแค่นำมาทอดด้วยไฟกลางค่อนอ่อนหรือย่างด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันก็จะหอมอร่อยค่ะ


3. ปลาสลิดแดดเดียว

ปลาสลิดแดดเดียว
ปลาสลิดแดดเดียว

เปลี่ยนมาทานปลากันบ้าง ปลาสลิดแดดเดียวคงจะเป็นเมนูที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ ปลาทอดหอม ๆ เนื้อปลานุ่มฟูและมีรสชาติเค็มกำลังดี เข้ากับเมนูข้าวสวยหรือข้าวต้มสุด ๆ จะซื้อทานแต่ละทีก็หายากหาเย็นงั้นซื้อปลาสดมาทำเองซะเลย สูตรนี้ใช้วัตถุดิบน้อยม๊ากกก เพราะมีแค่ปลาสลิดสดกับเกลือก็พร้อมทำแล้วค่ะ จะทำทานเองหรือแจกจ่ายบ้านข้าง ๆ ก็เหมาะ

วัตถุดิบปลาสลิดแดดเดียว

  • ปลาสลิดสด
  • เกลือเม็ด
  • น้ำสะอาด

วิธีทำปลาสลิดแดดเดียว

ก่อนอื่นมาล้างทำความสะอาดปลาสลิดก่อนค่ะ นำปลาสลิดมาล้างทำความสะอาด ขอดเกล็ดออกให้เกลี้ยง จากนั้นตัดหัวแล้วควักไส้ออกแล้วทำความสะอาดอีกครั้ง ในส่วนนี้ต้องล้างในท้องปลาให้สะอาดจนคราบดำหลุดออกหมดเลยนะคะเพราะในท้องปลาจะมีไขมันมาก อีกทั้งถ้าล้างไม่สะอาดจะก่อให้เกิดแบคทีเรียได้ง่ายค่ะ

ล้างปลาเสร็จแล้วเราจะพักไว้ก่อน ละลายเกลือกับน้ำสะอาดให้เข้ากันแล้วนำปลาลงแช่เลยค่ะ ระยะเวลาขึ้นแยู่กับระดับความเค็มที่ชอบ ถ้าชอบเค็มหน่อยก็แช่ยาว ๆ ไปเลยหนึ่งชั่วโมง แต่ถ้าชอบรสชาติเค็มเบา ๆ แนะนำให้แช่ประมาณ 15 – 20 นาทีก็เริ่มมีรสชาติแล้ว

ครบเวลาแล้วนำปลาขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำแล้วนำไปตากจนผิวปลาแห้งตึงก็สามารถกลับด้านได้ค่ะ ผิวตึงครบทั้ง 2 ด้านก็ถือว่าใช้ได้ สามารถเก็บใส่กล่องเข้าตู้เย็นได้เลยค่ะ ส่วนวิธีการแทอดแนะนำให้บั้งตัวปลาด้านละ 2 ครั้งแล้วนำลงทอดน้ำมันท่วม ใช้ไฟกลาง ทอดไปเรื่อย ๆ จนปลาสุกเป็นสีเหลืองทองก็นำขึ้นได้เลย


4. ไก่หมักน้ำปลาแดดเดียว

ไก่หมักน้ำปลาแดดเดียว
ไก่หมักน้ำปลาแดดเดียว

ไก่หมักน้ำปลาเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ค่ะ เราจะนำไก่เนื้อนุ่มมาหมักกับซอสน้ำปลาจนหอม ตากแดดจนผิวแห้งตึงแล้วนำมาทอดด้วยไฟกลางค่อนอ่อนจนเนื้อไก่สุกกรอบแต่ด้านในยังฉ่ำและเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของซอสน้ำปลา เมนูนี้จะทานเล่นหรือทานจริงก็อร่อยเพลิน ยิ่งได้จิ้มซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศจะเข้ากันมากค่ะ

วัตถุดิบไก่หมักน้ำปลาแดดเดียว

  • เนื้อไก่ (หรือจะใช้ไก่ทั้งตัวแบบในรูปก็ได้ค่ะ)
  • น้ำปลา
  • ผงปรุงรสไก่
  • น้ำตาลมะพร้าว

วิธีทำไก่หมักน้ำปลาแดดเดียว

นำไก่มาล้างทำความสะอาดค่ะ จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้นขนาดตามชอบ กะให้มีปริมาณกำลังดีนะคะไม่หนาหรือบางจนเกินไป ส่วนใครที่ใช้ไก่ทั้งตัวให้ทำความสะอาดแล้วดึงเอาขนไก่ออกให้หมดรวมถึงไขมันไก่ที่หนาเกินไปด้วยค่ะ ตัดออกให้หมดเลย เสร็จแล้วใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเนื้อไก่ให้ทั่วเลย ยิ่งจิ้มเยอะความอร่อยจะซึมเข้าเนื้อไก่เร็วขึ้นและทั่วถึง

ทำเสร็จแล้วพักไว้ก่อนหันมาผสมผงปรุงรส, น้ำตาล และน้ำปลาเข้าด้วยกัน คนผสมจนน้ำตาลและผงปรุงรสละลายเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำปลา ชิมรสชาติให้เค็มนำแล้วตามด้วยหวานกลมกล่อม นำน้ำที่ทำไว้มาหมักกับไก่ที่ทำไว้ก่อนหน้า คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาทีค่ะ

ครบเวลาแล้วนำไก่ไปตากแดดจัด ๆ เลย เรียงไก่ให้ห่างกันเล็กน้อยนะคะไม่ให้ติดกันมาก ตากทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือจนผิวไก่แห้งตึงแล้วก็กลับด้าน ตากต่อจนผิวตึงก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อยค่ะ เก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็นได้เลย ส่วนการทอดจะใช้น้ำมันท่วมและใช้ไฟกลางค่อนอ่อน ค่อย ๆ ทอดไปเรื่อย ๆ จนเนื้อไก่สุกและสีเข้มขึ้นก็ตักเสิร์ฟพร้อมรับประทานได้เลยค่ะ


5. หมึกแดดเดียว

หมึกแดดเดียว
หมึกแดดเดียว

หมึกแดดเดียวเป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนติดใจ เพราะหมึกเนื้อหนาที่หมักจนมีรสชาติเค็มเบา ๆ แล้วทอดจนเปลี่ยนสีสวย เนื้อแน่น กรอบนอกนุ่มในนี่เป็นอะไรที่ฟินสุด ๆ ยิ่งตอนที่ได้เคี้ยวเจ้าหมึกเนื้อแน่นเด้งสู้ฟันก็ยิ่งฟิน เคี้ยวจนความเค็มหายรสชาติหวานจากเนื้อหมึกสด ๆ จะถูกปล่อยออกมายิ่งเพิ่มความสุขทางใจได้อีกหลายสิบเท่า แค่คิดก็ท้องร้องจ๊อก ๆ รีบเข้าครัวทำหมึกแดดเดียวกันดีกว่า

วัตถุดิบหมึกแดดเดียว

  • ปลาหมึกสด
  • เกลือ
  • ผงปรุงรสหมูหรือไก่

วิธีทำหมึกแดดเดียว

นำหมึกมาล้างให้สะอาด จากนั้นผ่าครึ่งตามแนวยาวของลำตัวค่ะ แนะนำให้ใช้หมึกตัวใหญ่เนื้อหนาจะทำง่ายและฟินมาก ดึงไส้หมึกออกโดยระวังไม่ให้ถุงหมึกแตกนะคะ เสร็จแล้วเอากระดอง, ปาก และตาหมึกออก ใช้มีดขูดเอาเมือกทั้งด้านนอกและด้านในออกให้เกลี้ยงเลย

จากนั้นโรยเกลือและผงปรุงรสตามลงไป ไม่ต้องเยอะมากนะคะ คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำไปผึ่งแดด เอาด้านในผึ่งก่อนประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับความแรงของแดด ผิวหมึกแห้งตึงแล้วกลับด้านตากต่ออีก 1 – 2 ชั่วโมงเช่นกันค่ะ ครบเวลาแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดตามชอบ นำไปทอดด้วยไฟแรงจัด ๆ จนหมึกสุกกรอบแลัเปลี่ยนสี ตักขึ้นมาพักให้คลายความร้อนก็สามารถรับประทานได้เลยค่ะ หรือใครจะนำไปย่างด้วยเตาถ่านหรือเตาไฟฟ้าก็หอมอร่อย





6. ปลาอินทรีย์แดดเดียว

ปลาอินทรีย์แดดเดียว
ปลาอินทรีย์แดดเดียว

กลับมาที่เมนูปลาแดดเดียวอีกครั้ง ปลาอินทรีย์แดดเดียวสูตรนี้บอกเลยว่าแน่นมาก เราจะคัดเลือกปลาสด ๆ มาล้างทำความสะอาด หมักให้อร่อยกลมกล่อมแล้วนำไปตากแดดจนผิวปลาแห้งตึง ตอนทอดนี่บอกเลยว่ากลิ่นหอมไปสามบ้านแอดบ้านค่ะ ปลาเนื้อแน่น สีสวย รสชาติเค็มเบา ๆ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ แล้วแกล้มด้วยยำมะม่วงเปรี้ยวเผ็ดนี่อร่อยลงตัวมาก

วัตถุดิบปลาอินทรีย์แดดเดียว

วิธีทำปลาอินทรีย์แดดเดียว

นำปลามาล้างทำความสะอาดก่อนค่ะ เอาหัวและไส้ออกให้เกลี้ยงเลย จากนั้นซับให้แห้งแล้วหั่นเนื้อปลาเป็นท่อนไม่หนามาก ซับให้แห้งอีกครั้งแล้วนเทน้ำปลาลงหมักกับเนื้อปลา ไม่ใช้น้ำปลาเยอะมากนะคะกะแค่ให้พอเคลือบเนื้อปลาก็พอแล้วค่ะ หมักทิ้งไว้ ประมาณ 40 – 60 นาทีขึ้นอยู่กับระดับความเค็มที่ชอบเลย ครบเวลาแล้วนำมาตากจนผิวปลาแห้งตึง กลับด้านตากตากต่อจนผิวแห้งดีแล้วเก็บใส่กล่องได้เลยค่ะ ส่วนการทอดแนะนำให้ใช้ไฟกลางค่อนอ่อน ค่อย ๆ ทอดไปเรื่อย ๆ จนปลาสุกเหลืองแล้วตักเสิร์ฟ


7. ท้องปลาแซลมอนแดดเดียว

ท้องปลาแซลมอนแดดเดียว
ท้องปลาแซลมอนแดดเดียว

เปลี่ยนจากปลาอินทรีย์มาเป็นปลาแซลมอนบ้าง เมนูนี้เราจะเลือกเนื้อปลาแซลมอนส่วนท้องที่อุดมไปด้วยไขมันดีและโอเมก้า ส่วนนี้จะมีความมัน ๆ นัว ๆ เราจะนำมาขัดด้วยเกลือจนกลิ่นคาวปลาหายไป โรยเกลือพริกไทยเพิ่มรสชาติแล้วนำไปตากจนผิวแห้งตึงแต่ด้านในยังคงความฉ่ำไว้อยู่ จากนั้นนำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมันด้วยไฟต่ำ ๆ เพื่อรีดน้ำมันออกจากเนื้อปลา แค่นี้ท้องแซลมอนแดดเดียวก็พร้อมทานแล้วค่ะ จะทานเล่นหรือทานกับข้าวเหนียวก็อร่อย

วัตถุดิบท้องปลาแซลมอนแดดเดียว

  • ท้องปลาแซลมอน
  • เกลือ
  • พริกไทยป่น

วิธีทำท้องปลาแซลมอนแดดเดียว

สำหรับปลาแซลมอนเราจะนำมาล้างทำความสะอาดแล้วตัดครีบแข็ง ๆ ออกก่อนค่ะ จากนั้นโรยเกลือลงไปให้ทั่วแล้วขัดกับแซลมอนจนกลิ่นปลาจางลงเพราะท้องแซลมอนเป็นส่วนที่มีมันเยอะแบะค่อนข้างมีกลิ่นแรง ขัดจนไม่มีกลิ่นแล้วล้างให้สะอาดจนแน่ใจว่าเกลือหลุดจากแซลมอนหมดแล้วนำมาซับให้แห้ง โรยเกลือและพริกไทยนิดหน่อย คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วนำไปตากแดดจนผิวปลาแห้งหมาดเลยค่ะ ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง หลังจากปลาแห้งดีแล้วเก็บใส่กล่องได้เลยค่ะ สามารถเก็บในช่องแช่แข็งได้นานเป็นเดือนเลย จะนำมาทอดด้วยกระทะธรรมดาหรือนำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมันก็กรอบนอกนุ่มใน


8. หมูเค็มแดดเดียว

หมูเค็มแดดเดียว
หมูเค็มแดดเดียว

มาทำหมูเค็มกันบ้าง เมนูนี้ทั้งง่ายและรวดเร็วเพราะใช้วัตถุดิบน้อย เพียงแค่มีหมูและเกลือก็พร้อมทำแล้วค่ะ เราจะแล่เนื้อหมูเป็นชิ้นหนากำลังดี หมักจนเนื้อนุ่มแเล้วนำมาตากจนหมูตึงนอกนุ่มใน นำมาทอดจนหอมและหมูมีสีสวย ทานพร้อมข้าวเหนียวร้อนหรือข้าวสวยก็อร่อยค่ะ หมูจะมีรสชาติเค็มอ่อน ๆ และมีรสชาติหวานธรรมชาติของเนื้อหมูเล็กน้อย ส่วนเท็กซ์เจอก็จะกรอบหน่อย ๆ ไม่เหนียว

วัตถุดิบหมูเค็มแดดเดียว

วิธีทำหมูเค็มแดดเดียว

ขั้นตอนแรกนำหมูมาหั่นเป็นชิ้นขนาดตามชอบ จะหั่นเป็นเส้นหรือเป็นแผ่นก็ได้ค่ะเลือกได้ตามต้องการเลยหั่นหมูเสร็จแล้วโรยเกลือบาง ๆ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันค่ะ เราจะไม่ใส่เกลือเยอะมากกะให้เค็มอ่อน ๆ ก็พอแล้ว จากนั้นนำหมูมาวางเรียงบนภาชนะแล้วตากแดดจัด ๆ เลย แนะนำให้เป็นแดดจัด ๆ แรง ๆ นะคะหมูจะแห้งเร็วและมีกลิ่นหอม ใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาทีหมูก็แห้งตึงแล้วค่ะ กลับด้านแล้วตากต่อจนผิวหมูแห้งก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว นำมาทอดด้วยไฟกลางค่อนอ่อนจนหมูสุกหอม ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลยจ้า


9. ปลาช่อนแดดเดียว

ปลาช่อนแดดเดียว
ปลาช่อนแดดเดียว

ปลาช่อนแดดเดียวเป็นวิธีการถนอมอาหารแบบพื้นบ้านที่มีมานานมาก ๆ แล้วค่ะ เราจะเลือกปลาช่อนตัวเล็ก ๆ มาแล่ หมัก และนำไปตากจนแห้ง เสร็จแล้วนำมาทอดจนปลาเหลืองกรอบพร้อมส่งกลิ่นหอมชวนรับประทาน สำหรับปลาช่อนแดดเดียวสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนูเลยค่ะ จะทอดกรอบทานกับข้าวสวยหรือน้ำพริกก็อร่อย เนื้อปลาจะเค็มเบา ๆ และกรอบ หรือจะทอดกรอบใส่ในต้มโคล้งหรือต้มยำก็อร่อยแซ่บ

วัตถุดิบปลาช่อนแดดเดียว

  • ปลาช่อนสด
  • เกลือ
  • น้ำสะอาด

วิธีทำปลาช่อนแดดเดียว

เริ่มกันเลยค่ะ นำปลาช่อนมาขอดเกล็ด ตัดหัว และล้างทำความสะอาดก่อน สำหรับปลาเราแนะนำให้เลือกใช้ตัวเล็ก ๆ นะคะจะทำง่ายและสะดวกตอนทอดและทาน จากนั้นเราจะมาแล่ปลาตามแนวยาวของตัวปลา ใช้มีดปอกผลไม้หรือมีดบาง ๆ ค่อย ๆ เลาะเนื้อจากครีบหลังชิดก้างไปจนถึงท้องและลากยาวจนสุด เราจะได้เนื้อปลา 2 ฝั่งคือฝั่งที่ยังติดกระดูกและฝั่งเนื้อล้วนค่ะ ดึงเอาไขมันปลาและตับหลาในช่องท้องออก ล้างทำความสะอาดแล้วใช้มีดเลาะเอาก้างปลาออกจนเหลือเนื้อล้วน ๆ ผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ

หันมาผสมเกลือกับน้ำเล็กน้อยจนเกลือละลาย ปลาเริ่มแห้งแล้วนำลงมาคลุกเคล้าในน้ำเกลือแล้วแช่เอาไว้ประมาฯ 30 นาทีปลาก็จะเริ่มเค็มแล้วค่ะ ถ้าต้องการรสจัดขึ้นก็สามารถเพิ่มเวลาได้เลย ครบเวลาแล้วนำไปตากแดดจนผิวปลาแห้งตึง พลิกกลับด้านแล้วตากต่อจนแห้งดีแล้วแต่ไม่ต้องถึงกับแห้งกรอบนะคะ จากนั้นนำมาทอดด้วยไฟอ่อน ๆ จนปลาสุกกรอบก็สามารถรับประทานได้แล้วจ้า


10. หมูสวรรค์

หมูสวรรค์
หมูสวรรค์

ปิดท้ายด้วยหมูสวรรค์หอม ๆ แผ่นใหญ่ ๆ ซื้อแต่ละทีได้น้อยไม่สะใจก็ตั้งเตาทำเองไปเลยสิคะ เลือกสะโพกหมูเนื้อนุ่ม ๆ เน้น ๆ ไม่ติดมันมาแล่เป็นแผ่นบางเฉียบ คลุกเคล้ากับเครื่องหมักที่มีส่วนผสมของยี่หร่าและเม็ดผักชีหอม ๆ หมักจนหมูมีเนื้อนุ่มแล้วก็ตากสัก 1 แดดให้แห้ง ๆ ตึง ๆ จากนั้นนำมาทอดจนหมูสุกและส่งกลิ่นหอมเรียกน้ำย่อย เสร็จแล้วทานพร้อมข้าวเหนียวร้อน ๆ บอกเลยโคตรจะฟิน

วัตถุดิบหมูสวรรค์

วิธีทำหมูสวรรค์

ล้างทำความสะอาดหมูก่อนเลยค่ะ จากนั้นตัดเอาไขมันหมูออกให้เกลี้ยงแล้วแล่เนื้อหมูเป็นแผ่นบาง ๆ เตรียมไว้ หันมาคั่วเม็ดผักชีและยี่หร่าจนหอมแล้วตำหยาบ ๆ ให้พอแตก นำมาผสมกับน้ำตาลทราย, น้ำตาลมะพร้าว, เกลือ, ซีอิ๊วขาว, น้ำปลา และน้ำเปล่า คนผสมจนน้ำตาลละลายดีแล้วชิมรสชาติให้มีความหวานตามด้วยเค็มกลมกล่อม จากนั้นนำเนื้อหมูลงมาหมักคลุกเคล้าแล้วตามด้วยเครื่องเทศที่ตำไว้ก่อนหน้า นวดเนื้อหมูประมาณ 5 นาทีเพื่อช่วยให้รสชาติของเครื่องปรุงเข้าเนื้อเร็วขึ้น จากนั้นหมักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงเลยค่ะ

ครบเวลาแล้วนำหมูที่หมักไว้ออกมาตากแดดจัด ๆ เลยค่ะ ตากทิ้งไว้จนผิวหมูแห้งตึงแล้วกลับด้านตากต่อจนผิวแห้ง หลังจากนั้นจัดการตั้งเตาทอดเลยจ้า เตรียทกระทะใส่น้ำมันท่วม ๆ นำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนอ่อน รอจนน้ำมันเริ่มอุ่น ๆ ร้อน ๆ แล้วนำหมูลงทอดเลยค่ะ ค่อย ๆ ทอด ค่อย ๆ จนเป็นระยะให้หมูโดนความร้อนทั่วถึงกันจนสุกและมีสีเข้ม อาจะใช้เวลานานหน่อยนะคะ หมูสุกสีเข้มดีแล้วปิดเตาแล้วนำขึ้นพักให้เย็นสนิท รับประทานได้เลยค่ะ


เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 10 เมนูแดดเดียวที่เรานำมาฝากในบทความนี้ แต่ลพเมนูนี่ทั้งน่าทานและทำง่ายสุด ๆ เลยใช่ไหมล่ะ โดยเฉพาะท้องแซลมอนแดดเดียวนี่น่าโดนสุด ๆ แค่จินตนาการถึงท้องปลากรอบ ๆ กัดลงไปเจอความจุ๊ยซี่และไขมันปลาแตกในปาก ได้กลิ่นพริกไทยอ่อน ๆ และรสชาติเค็มเบา ๆ ก็ฟินแล้วค่ะ คิดไปคิดมาท้องเริ่มร้อง สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปทอดแซลมอนหอม ๆ ก่อน ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ


ใส่โค้ด BSET2311 นี้เพื่อรับส่วนลด ในแอปช้อปปี้

  • ลดสูงสุด 300 บาท
  • เริ่ม 11/11/2023 เวลา 0:00:00
  • หมดเขต 11/30/2023 เวลา 23:59:59

หมายเหตุ : โค้ดส่วนลดมีจำนวนจำกัดการใช้ 1 คน/ครั้ง/เครื่อง และใช้ผ่านแอป

Ningning

Ningning

Hi guys, I'm Ningning. Graduated from NSTRU in Business English Program. I'd like to sing a song even though my voice is ... Nice to meet you :)

Next Post