โรคไข้เลือดออกเป็นภัยร้ายที่อยู่ใกล้ตัวคุณและคนที่คุณรัก หากคุณไม่รีบหาวิธีจัดการแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่สาเหตุหลักของโรคในบริเวณที่อยู่อาศัยก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นไข้เลือดออกมากยิ่งขึ้นและอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เนื่องจากโรคไข้เลือดออกนั้นเกิดจากยุงลายเป็นพาหะนำโรค ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์และกำจัดตัวยุงลาย ซึ่งปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ในการป้องกันและจำกัดยุงลายทั้งทางตรงและทางอ้อมมากมายให้คุณได้เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็น โลชั่นทากันยุง, ยาจุดกันยุง, สเปรย์กันยุง, เครื่องดักจับยุงและแมลง, ไม้ตียุงไฟฟ้า, สเปรย์กำจัดยุงและแมลงรวมถึงมุ้งนอนสำหรับกันยุงในระหว่างที่คุณนอนหลับพักผ่อน
อาการของโรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกสามารถเป็นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่จะพบบ่อยในเด็กอายุ 15 ปีขึ้นไป รองลงมาคืออายุ 10-14 ปี และอายุ 25-34 ปี ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงถึง 21 ราย และมีผู้ป่วย 31,438 ราย ในปี 2563 (ข้อมูลจาก ม.ค.- ก.ค.) ซึ่งถึงว่าคุณจะเคยเป็นแล้วก็ยังสามารถเป็นซ้ำได้ เนื่องจากโรคไข้เลือดออกมีไวรัสด้วยกันถึง 4 ชนิด หากได้รับเชื้อที่ต่างสายพันธุ์กันก็สามารพติดเชื้อซ้ำได้ค่ะ
1. มีไข้สูง 39-40 องศา
อุปกรณ์จำเป็นที่คุณควรมีติดบ้านไว้คือ อุปกรณ์วัดไข้หรือวัดอุณหภูมิในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้อินฟาเรด หรือจะเป็น ปรอทวัดไข้ดิจิตอล ที่สามารถบอกค่าได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ และช่วยให้คุณสะดวกต่อการประเมินผลทางร่างกายขั้นพื้นฐานได้เป็นอย่างดี

![]() | ปรอทวัดไข้ดิจิตอล Glowy Star: Digital Thermometer รุ่น ET-101 | |
![]() | ปรอทวัดไข้ดิจิตอล Microlife MT1611 | |
![]() | Contec TP500 เทอร์โมมิเตอร์ เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย Infrared Thermometer | |
![]() | ET-900 เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด อเนกประสงค์แบบไม่สัมผัส |
โดยหากคุณมีอาการเป็นไข้สูง 39-40 องศา ในระยะเวลา 2-7 วัน และมีอาการปวดเมื่อยตามตัว, ปวดกระบอกตา, ปวดศีรษะร่วมด้วย และโดยส่วนมากจะไม่ค่อยมีอาการน้ำมูกไหลหรือไอ
2. มีอาการเลือดออก
มีผื่น มีจุด หรือรอยจ้ำเป็นจุดเลือดตามตัว, มีอาการขับถ่ายเป็นสีดำ, เลือดกำเดาไหล, เลือดออกตามไรฟัน รวมถึงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเบื่ออาหาร
3. ตับโต
เมื่อกดที่บริเวณชายโครงข้างขวาจะมีอาการเจ็บผิดปกติ
4. ระบบไหลเวียบเลือดผลิดปกติ
ในช่วงที่ไข้ลด คุณมีอาการมือเท้าเย็น กระสับกระส่าย ชีพจรเบาและเร็ว หรือมีความดันต่ำ (เครื่องวัดความดัน)
ซึ่งหากคุณมีอาการเหล่านี้ให้คุณรีบเดินทางไปพบแพทย์โดยทันที
ตุ่มไข้เลือดออก เป็นอย่างไร
มีลักษณะคล้ายกับตุ่มยุงกัดแต่จะเป็นทั่วร่างกาย โดยหากกดที่ตุ่มแล้วจะตึง ๆ ไม่จางหายไปเหมือนจุดถูกยุงกัด และหากคุณมีไข้สูง แต่ไม่มีอาการไอหรือมีน้ำมูกไหล ให้สันนิษฐานว่าเป็นมีโอกาสเป็นไข้เลือดออกได้ค่ะ
ตรวจสอบว่าเป็นไข้เลือดออก (แบบเบื้องต้น)
ใช้หนังยางรัดเหนือข้อศอกให้แน่น ประมาณ 5 นาที ให้พอตรวจหาชีพจรได้ และเอาเหรียญบาทกดทับที่ท้องแขน หากพบว่ามีจุดเลือดออกเป็นจุดแดง ๆ ในตำแหน่งที่เหรียญกดทับมากกว่า 10 จุด ให้ให้สันนิษฐานว่ามีโอากาศเสี่ยงเป็นไข้เลือดออก หากมีไข้มาแล้ว 2 วันและไข้ไม่ลดเลยถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากค่ะ
การรักษาอาการไข้เลือดออกขั้นเบื้องต้น
- ทานยาลดไข้ ซึ่งยาที่ควรทานควรเป็นยาลดไข้พาราเซตามอล และ ไม่ควรทานยาแอสไพริน หรือ บูโปรเฟน เพราะอาจจะทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะหรือลำไส้ได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ในรายที่ร่างกายขาดน้ำ เนื่องจากไข้สูง อาเจียน ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเกลือแร่บ่อย ๆ
- เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด หากในผู้ป่วยในช่วงที่ไข้ลด มีอาการอาการมือเท้าเย็น, กระสับกระส่าย, ใจสั่น, คลื่นไส้ อาเจียน และ หน้ามืด ให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที
ระยะของไข้เลือดออก
ระยะที่ 1
อยู่ดี ๆ ก็มีไข้สูงเป็นระยะเวลานาน กินยาลดไข้แล้วก็ไม่หาย ปวดหัว ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร หน้าแดง และอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ขับถ่ายเหลว ในวันที่ 3 ขึ้นไปเริ่มมีตุ่มขึ้นตามตัวบางแล้ว
ระยะที่ 2
อยู่ในช่วง 3-7 วัน จะมีอาการช็อกเนื่องจากไข้ลดลง อาทิเช่น มือเท้าเย็น กระสับกระส่าย ชีพจรเบาและเร็ว หรือมีความดันต่ำ เหงื่อแตก นอกจากนี้ยังมีอาการเลือดออกตามผิวหนังเป็นจุดเลือดตามตัว เลือดกำเดาไหล ถ่ายเป็นสีดำหรือถ่ายเป็นเลือด หากไม่รีบรักษาใน 1-2 วันอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้
ระยะที่ 3
ระยะฟื้นตัว อาการในสภาวะอาการช็อกต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น ในช่วง 7-10 วันหลังจากพ้นระยะที่ 2
ดูอย่างไรว่าพ้นขีดอัตรายแล้ว
ผู้ป่วยไข้ลดลงภายใน 24-48 ชั่วโมง และเริ่มทานอาหารได้ ไม่มีอาการซึม
ทำอย่างไรหากพบว่าคนในบ้านเป็นไข้เลือดออก
แจ้งสาธารณสุขให้มาฉีดยาหมอกควันหรือยาฆ่ายุง สำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และรีบกำจัดให้หมด พยายามดูแลและเฝ้าระวังสมาชิกภายในบ้านว่ามีอาการไข้เลือดออกหรือไม่
![]() | ไบกอน ยาจุดกันยุงขด กลิ่นบลอสซัม | |
![]() | เรนเจอร์ สเก้าท์ ยากันยุงแบบจุด | |
![]() | Sketolene สเปรย์กันยุงกลิ่นลาเวนเดอร์ | |
![]() | Off ยากันยุง สมูธ แอนด์ ดราย สเปรย์ |
ยุงกัดช่วงไหนอันตรายที่สุด
อันที่จริงแล้วไม่ว่ายุงกัดตอนไหน เวลาไหน ก็อันตรายทั้งนั้นค่ะ แต่โรคไข้เลือดออกนั้นเกิดจากยุงลายที่เป็สนตัวเมีย ซึ่งยุงลายตัวเมียนั้นจะออกหาอาหารกินในตอนกลางวันมากกว่ากลางคืน ดังนั้นช่วงเวลาที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือช่วงกลางวันค่ะ
ยุงจะกัดคนประเภทไหนมากกว่ากัน
- คนที่มีเหงื่อออกมาก
- คนที่หายใจแรง ๆ
- คนที่มีอุณหภูมิที่สูง หรือคนที่ตัวร้อน
- เด็กมีโอกาสโดนกัดมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะมีกลิ่นและผิวหนังที่ดึงดูดยุงมากกว่า
- ผู้หญิงมีโอกาสโดนกัดมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากฮอร์โมนที่ต่างกัน
- คนที่ส่วมใส่เสื้อผ้าสีเข้ม
ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก
- กรมควบคุมโรค
- ไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever) โดยคณะเวชศาสตร์เขตร้อนมหาวิทยาลัยมหิดล
- โรคไข้เลือดออก โดยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
- คู่มือไข้เลือดออก โดยโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น