วิธี จับผิด แฟน / สามี ที่แอบนอกใจ มีกิ๊ก

ความรักเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยค่ะ ทั้งในช่วงวัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน แต่การมีความรักที่ดีจะต้องมีในเวลาที่เราพร้อมที่สุดค่ะ ความรักคือการมอบความห่วงใย ความปรารถนาดีให้แก่กันละกันค่ะ พื้นฐานของความรักนั้นเกิดขึ้นกับคนเพียงสองคนเท่านั้นค่ะ บางคนอาจจะคบกันไปตลอดรอดฝั่งไปจนถึงวันที่แก่เฒ่าไปพร้อมกัน แต่บางคนก็ไม่ไม่รอดค่ะเพราะมีปัญหามากมายที่ไม่เข้าใจกัน และอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้มากที่สุดที่ทำให้คนเลิกกันแบบไม่มีเยื่อใยกันเลยก็คือปัญหาเรื่องการมีมือที่สามนั่นเองค่ะ หลายคนเกลียดสถานะที่แฟนเราหรือสามีของเรามีคนอื่นเป็นที่สุด เพราะมันทำใจได้ลำบากมากค่ะแล้วสิ่งที่หลายคนเจ็บปวดที่สุดก็คือการโกหกทั้ง ๆ ที่เรารู้ความจริงอยู่แล้วค่ะและแน่นอนค่ะบางครั้งกิ๊กของแฟนเรามักจะมาในรูปแบบพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสนิทหรือคนที่เจอกันผ่านโซเชียลค่ะ หากใครที่กำลังมีความสัมพันธ์แบบมือที่สามอยู่แล้วจับไม่ได้คาหนังคาเขาซักที วันนี้เราจะขอแนะนำวิธีจำผิดแฟนมาฝาก ไปดูกันว่าสัญญาณแบบไหนที่กำลังบ่งบอกว่าแฟนคุณกำลังเปลี่ยนไป !!!

สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้
คอยสังเกตุดูสอบพฤติกรรมของเขา

ตรวจสอบพฤติกรรมของเขา

1. ตรวจสอบว่าเขาปกป้องโทรศัพท์ของเขามากเกินไปหรือไม่ ?  

หากแฟนของคุณกำลังโกหกหรือมีความลับ เขาจะปกป้องโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของตัวเองมากจนเกินไป เขาเริ่มอารมณ์เสียหรือไม่ถ้าคุณสัมผัสโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเขา? นั่นเป็นสัญญาณแรกเลยค่ะ เพราะโทรศัพท์ของเขาอาจเป็นสิ่งที่เขาใช้สื่อสารกับคนอื่นนั่นเองและเขาก็คงไม่อยากให้เรารู้จึงต้องการให้เราอยู่ห่างจากสิ่งของสุดหวงของเขามากที่สุด หากวันนึงมีสายโทรศัพท์หรือข้อความเข้ามา เขาจะวิ่งไปรับโทรศัพท์ก่อนที่คุณจะเห็นว่าใครโทรมาหรือไม่ ? หรือบางครั้งเขาอาจจะเมมเบอร์ว่าเป็นเพื่อนร่วมงานและหาทางออกไปคุยหรือดูข้อความข้างนอก หากคุณถามว่า “ใครโทรมาหรือส่งข้อความมา” เขาอาจพูดว่า “ไม่มีใคร” หรือ “ไม่มีอะไรหรอกแค่เรื่องงาน” อีกข้อนึงที่สามารถสังเกตได้คือ เขาลบข้อความหรือเคลียร์บางอย่างก่อนที่จะอนุญาตให้คุณใช้โทรศัพท์ของเขาหรือไม่? อาทิเช่นการใช้ฟีเจอร์ Off-Facebook สำหรับตั้งค่าความเป็นส่วนตัว, การใช้ฟีเจอร์ Messenger Rooms ใน Facebook หรือการล้างประวัติการเข้าเว็บไซต์ทั้งหมดจนผิดสังเกต ถ้าเขามีอาการปกป้องโทรศัพท์แบบเกินเหตุทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เขากำลังมีอะไรปิดบังเราอยู่แน่นอนค่ะ

2. เอาใจใส่กับกิจวัตรประจำวันของเขา

หากแฟนของคุณกำลังโกหกหรือปิดบังอะไรไว้ เขาจะต้องให้เวลากับคนอื่นเพิ่มเติม ดังนั้นตารางงานและกิจวัตรประจำวันของเขานั้นจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนค่ะ หากเขาเริ่มออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยขึ้น เมื่อไปหาเพื่อนไม่พาเราไปด้วย กลับบ้านไม่ตรงเวลามากขึ้นเขาอาจจะกำลังนอกใจเราและกำลังลดความสำคัญของเราลงค่ะ

3. สังเกตว่าเขาเป็นคนที่มีความลับมากขึ้นหรือไม่ ?

แฟนของคุณรับโทรศัพท์ในห้องอื่นที่ไม่มีคุณหรือไม่? หากแฟนของคุณกำลังมีคนอื่น เขาจะเริ่มทำตัวห่างจากคุณ เขาจะเริ่มออกไปเที่ยวกับคนที่คุณไม่รู้จักและเริ่มอ้ำอึ้งเมื่อคุณถามเยอะและเขาก็จะหาข้อโต้แย้งมาทะเลาะกับเรา โดยใช้คำพูดที่ว่าทำไมเราไม่ไว้ใจเขาเลย เขาไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น

4. สังเกตว่าเขารักคุณน้อยลงหรือไม่ ?

หากแฟนของคุณกำลังมีคนอื่น เขาอาจจะรักคุณน้อยลง เขาไม่ต้องการที่จะจับมือ กอด จูบหรือมีเซ็กส์กับคุณอีกต่อไป เขาจะไม่สนใจลักษณะทางกายภาพของความสัมพันธ์ของคุณอีกต่อไป แต่ในบางครั้งวิธีนี้อาจจะไม่เหมาะกับคู่บางคู่ เพราะอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากความเครียดหรือปัญหาสุขภาพ คำนึงถึงสัญญาณอื่น ๆ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าเขารักเราน้อยลงเพราะเขากำลังนอกใจ

5. มองหาพฤติกรรมที่ผิดปกติ

แฟนของคุณอาจเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาเพราะเขารู้สึกผิดเกี่ยวกับการโกหกหรือมีคนอื่น พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นบวกหรือลบ การเปลี่ยนแปลงทั่วไป ได้แก่

    • ซื้อของขวัญให้เราโดยไม่มีเหตุผล
    • ช่วยเหลือและเอาใจใส่เรามากขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน
    • อารมณ์แปรปรวนมากขึ้น
    • กลิ่นน้ำหอมของเขาเปลี่ยนหรือเพี้ยนไปจากเดิมหรืออาจจะมีเช่นกลิ่นน้ำหอมหรือโคโลญจน์ของบุคคลอื่นติดมาด้วย
    • ให้ความสนใจกับรูปร่างหน้าตาของเขาเป็นพิเศษ เปลี่ยนการแต่งตัวใหม่ให้ดูดีขึ้น เช่น ซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบซื้อ ตัดผมทรงใหม่ที่ไม่เคยตัดมาก่อน ไปโรงยิมเพื่ออกกำลังกายให้หุ่นเฟิร์มทั้ง ๆ ที่เราเคยชวนแต่ไม่เคยไป
    • โกหกทุกเรื่องเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่เขาพบเจอทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่
    • เรียกชื่อเราผิด หรือคำเรียกชื่สำหรับคน 2 คนผิดไปจากเดิม ข้อนี้สำคัญเลยค่ะหากเขาเผลอเรียกชื่อเราผิดหรือละเมอเรียกชื่อคนอื่น เขากำลังมีคนอื่นอย่างแน่นอน
ประเมินความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่

ประเมินความสัมพันธ์ของคุณ

1. ประเมินระยะเวลาที่คุณอยู่ด้วยกัน

แฟนของคุณใช้เวลาว่างกับคุณเท่าเดิมหรือไม่ ? หรือเขายุ่งเกินไปจนไม่มีเวลาให้คุณเหมือนเดิมหรือเปล่า? คุณรู้สึกเหมือนคุณและแฟนของคุณใช้ชีวิตแยกกันหรือไม่? หรือคุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเขาและเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณบ้าง ? เพราะปกติแล้วคนเรารักกันแม้ว่าแฟนของคุณจะมีตารางงานที่ยุ่งมาก เขาก็ควรหาเวลามาพบคุณและคุยกับคุณบ้าง 

2. กำหนดคุณภาพของการโต้ตอบเวลาคุยกัน

ไม่เพียงแต่คุณควรประเมินระยะเวลาที่คุณใช้กับแฟนของคุณ คุณภาพของการพูดนั้นก็สำคัญเช่นกัน คุณสองคนสนุกไหมเวลาได้คุยกันหรือคุณใช้เวลาส่วนใหญ่ในการโต้เถียงหรือไม่? คุณรู้สึกห่างไกลขณะที่ตัวอยู่ใกล้กันหรือไม่? หากการพูดคุยโต้ตอบของคุณไร้ความสนุกสนานและมีการโต้แย้งอย่างต่อเนื่องเขาอาจจะอยากใช้เวลากับคนอื่นมากกว่าเราหรือเขาอาจจะเครียดกับปัญหาอื่น ๆ

3. ประเมินความสนใจของแฟนต่อคุณ

แม้ว่าคุณจะใช้เวลาร่วมกัน แฟนของคุณอาจดูไม่สนใจคุณและความสัมพันธ์ของของคุณ ตอนนี้คุณกำลังรู้สึกว่าเขาไม่สนใจคุณจริง ๆ ไหม? เขาไม่ไยดีและขาดการติดต่อคุณเลย ตัวอย่างเช่นคุณต้องโทรหาหรือส่งข้อความถึงเขาก่อนเสมอหรือไม่? คุณต้องวางแผนและคิดถึงไอเดียที่ออกเดทอยู่เสมอหรือไม่? เขาเริ่มเงียบหรือไม่มีเรื่องที่จะพูดเมื่อคุณอยู่ด้วยกันสองคนหรือไม่? หากเขาเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ก็หมายความว่าเขากำลังเบื่อหน่ายกับเราหรือมีความรักให้เราน้อยลง

มองหาหลักฐานให้แน่ชัด เพื่อมัดตัวเขา

มองหาหลักฐานมัดตัวเขา

1. ตรวจสอบสื่อสังคมของเขา

คุณควรตรวจสอบสื่อต่าง ๆ ผ่านหน้าโซเชียลมีเดียของแฟนคุณ เพื่อดูว่าเขากำลังพูดคุยกับใครก็ตามที่คุณไม่รู้จัก ดูว่าเขาชอบรูปไหนหรือกดไลก์ใครมากเป็นพิเศษหรือไม่ ?  นอกจากนี้ให้ค้นหาหน้าโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ที่เขาอาจจะมีแต่คุณอาจไม่รู้เพื่อดูว่าเขากำลังแอบมีใครหรือไม่ ? นอกจากนี้ให้สังเกตว่าเขาใช้เวลากับสื่อโซเชียลมากกว่าปกติ การใช้เวลามากขึ้นในโซเชียลมีเดียอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุของการนอกใจ หากคุณมีรหัสผ่านโซเชียลของเขา ให้ไปยังบัญชีของเขาเพื่อดูว่าเขากำลังส่งข้อความหาใครและใครที่เขาคุยด้วยมากที่สุด แต่แน่นอนค่ะอย่าให้เขาจับได้เพราะนี่ถือว่าเป็นการบุกรุกความเป็นส่วนตัวของเขาอย่างจริงจัง หากเขาจับได้เขาจะต้องอารมณ์เสียกับคุณมากแน่ ๆ  คุณต้องมีความมั่นใจในความสงสัยของคุณมากพอก่อนที่จะทำเช่นนี้ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะต้องเลิกกันอย่างถาวร

2. คุยกับเพื่อนของเขา

หากแฟนของคุณกำลังโกหกเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ให้พูดคุยกับเพื่อนของเขาเพื่อดูว่าพวกเขาพูดในสิ่งเดียวกันหรือไม่? โปรดรู้ไว้ว่าเพื่อนกันมักจะปกปิดความลับและอยู่ข้างกันและหมู่เพื่อนอาจจะไม่บอกคุณว่าเขาทำอะไรอยู่ ดังนั้นคุณอาจจะต้องคิดคำถามที่ล้ำลึกเป็นพิเศษเพื่อให้เพื่อนของเขาคายความลับมาทีละน้อย

3. จับโกหก

คุณสามารถโทรถามเขาว่าเขาอยู่ที่ไหน? ทำอะไรอยู่ ? ไม่กี่วันต่อมาก็โทรถามเขาอีกครั้ง หากเขาโกหกเขาอาจพบว่ายากที่จะจดจำสิ่งที่เขาพูดในครั้งแรก เปรียบเทียบสิ่งที่เขาพูดทุกครั้งเพื่อดูว่าเรื่องราวตรงกันหรือไม่ หากเขาเริ่มรำคาญใจที่คุณถามคำถามเขาอยู่เรื่อย ๆ เขาอาจกำลังโกหก หากเขากำลังพูดความจริงคำถามของคุณไม่ควรกวนใจเขาเลย หากเขาใช้โซเชียลมีเดียมากให้ตรวจสอบโพสต์และกิจกรรมของเขาในช่วงเวลาที่คุณสงสัย และมองหาสิ่งผิดปกติให้เจอ

4. ตรวจสอบผ่านโทรศัพท์ของเขา

ให้รอจนกว่าแฟนของคุณกำลังนอนหลับหรืออยู่ในห้องน้ำและคว้าโทรศัพท์ของเขา นี่จะเป็นเรื่องยากถ้าเขาเอามือถือติดตัวไปทุกที่ที่เขาไป หากคุณไม่ทราบรหัสผ่านของเขาพยายามกอดเขาและมองข้ามไหล่ของเขาเมื่อเขาใส่รหัสสิ่งนี้อาจช่วยให้คุณทราบว่ารหัสผ่านของเขาคืออะไร บางครั้งคุณสามารถลองยืนใกล้เขาในขณะที่เขาใช้โทรศัพท์และดูว่าคุณสังเกตเห็นอะไรหรือไม่ หรือเมื่อคุณสามารถเข้าถึงโทรศัพท์ของเขาให้ดูบันทึกการโทรและข้อความของเขาโดยเร็วที่สุด อย่าลืมค้นหาหมายเลขที่ไม่ได้บันทึก แน่นอนว่าการใช้โทรศัพท์ของเขาเป็นการบุกรุกความเป็นส่วนตัวของเขาเช่นกัน เขาจะอารมณ์เสียมากถ้าเขารู้ว่าคุณทำไปแล้วและจะไม่เชื่อใจคุณอีกต่อไป เราขอแนะนำให้ใช้สิ่งนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย

การสื่อสารนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับคนที่รักกัน

และนี่คือวิธีการจับผิดและสังเกตว่าแฟนหรือสามีของเรานั้นกำลังนอกใจกันหรือไม่ แต่ก็เป็นวิธีพื้นฐานและเบสิค ๆ ค่ะ เราสามารถทำได้แต่ขอแนะนำว่าให้เชื่อใจ ให้เกียรติและเคารพคนที่คุณรัก หากมีปัญหาเรื่องความไม่เหมือนเดิมหรือความรู้สึกที่เปลี่ยนไป แนะนำให้คุยและปรับความเข้าใจกัน ใช้สติมากกว่าอารมณ์ทุกครั้งก่อนที่จะคุยหรือพูดอะไรก็ตามค่ะ การสื่อสารนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับคนที่รักกัน ดังนั้นควรที่จะพูดกันไม่ว่ามีปัญหาอะไรก็ตาม เพื่อให้ความสัมพันธ์ของเรายังอยู่ต่อไปได้ พยายามแสดงออกให้รู้ว่าคุณรักเขา และอย่าลืมที่จะเติมความหวานให้กันทุกเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการมอบของขวัญวันวาเลนไทน์หรือการมอบของขวัญวันเกิด (อย่าลืมเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟนและเขียนคำอวยพรข้อความแทนใจไปด้วยนะคะ) หรือการเรียกชื่อคนรักหวาน ๆ, การบอกรักบ่อย ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นภาษไทยหรือภาษาอังกฤษ ที่สำคัญที่สุดคืออย่ากลับมาดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นดูแลสุขภาพจิตและดูแลสุขภาพร่างกาย สำหรับวันนี้เราก็ขอลากันไปก่อนนะคะ วันหน้าจะมีเคล็ดลับอะไรมาฝากอย่าลืมติดตามกันนะคะ

Baifern Jutamas

Baifern Jutamas

Hi everyone , I'm a graduate of Faculty of Humanities and Social Sciences, Thai major of Thaksin University. Let's enjoy to read. :)

Next Post