คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 8.1 เต็ม 10
ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าปัจจุบันดนตรีและเสียงเพลงนี่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนเรามักจะได้ยินเสียงเพลงเปิดคลอเบา ๆ อยู่เสมอ ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ฟังเพลงก็มีให้เลือกหลากหลาย อย่างสมัยนี้เรามีหูฟังประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหูฟังไร้สาย หรือหูฟังครอบหู หรือแม้แต่ลำโพงเองก็มีประเภทเยอะมาก ๆ และได้รับความนิยมพอ ๆ กับหูฟัง เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นลำโพงคอมพิวเตอร์, ลำโพงอัจฉริยะ หรือจะเป็นลำโพงบลูทูธนี่แทบจะเป็นอุปกรณ์อีกหนึ่งชิ้นที่ต้องมีติดบ้านแล้วค่ะ บทความนี้เราเลยหยิบเอา Soundcore Flare Mini ลำโพงบลูทูธรุ่นฮิตในซีรีส์ Flare จากแบรนด์ Anker มารีวิวในบทความนี้ค่ะ ใครกำลังมองหาลำโพงบลูทูธขนาดย่อม ๆ ไว้ติดบ้านไม่ควรพลาดรีวิวนี้เลย ขอบอกว่าสายตื๊ด สายปาร์ตี้ต้องชอบแน่นอน
ข้อมูลจำเพาะของ ANKER Soundcore Flare Mini
![]() |
|
คลิปวีดีโอทดลองใช้จริง Anker Soundcore Flare Mini ลำโพงบลูทูธ เบสแน่น เสียงใส
แกะกล่อง ดูอุปกรณ์ภายใน

- ลำโพงบลูทูธ ANKER Soundcore Flare Mini
- คู่มือการใช้งาน
- สายชาร์จ Micro USB
ทดลองจับ – ดีไซน์กะทัดรัด จับถนัดมือ
สำหรับตัวลำโพงมีขนาดค่อนข้างกะทัดรัดเลยค่ะ ด้านบนและล่างสุดจะมีการหุ้มยางกันลื่น ทำให้ตัวลำโพงสามารถเกาะติดได้ดีทุกพื้นผิว บริเวณโดยรอบจะหุ้มด้วยผ้าถักลายที่มีความแน่น ช่วยกันฝุ่นและกระจายเสียงได้ดี ซึ่งในจุดนี้ขอบอกเลยว่าทางแบรนด์ทำออกมาได้เนี๊ยบสุด ๆ เพราะไม่มีเศษด้ายหลุดลุ่ยและหุ้มได้ตึงกำลังดี ส่วนด้านในจะมีการหุ้มตาข่ายเหล็กมาอีกครั้งทำให้ตัวลำโพงแข็งแรงมากขึ้นและช่วยซัพพอร์ตผ้าหุ้มได้อีกหนึ่งทาง

ในส่วนของพอร์ทชาร์จก็ไม่ต้องห่วงเลยค่ะเพราะทางแบรนด์ให้ฝาปิดมาเป็นอย่างดี ในส่วนของฝาปิดก็จะใช้วัสดุยางกันน้ำเหมือนด้านบนและด้านล่างของตัวลำโพง ตรงนี้ขอบอกเลยว่าฝาปิดค่อนข้างจะแน่นและเปิดยากเล็กน้อย โดยเฉพาะคนที่เล็บสั้นนี่อาจจะเจ็บนิ้วและต้องออกแรงสักหน่อย แต่ก็ช่วยให้มั่นใจได้ว่าฝาปิดสามารถกันน้ำเข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน ในส่วนของพอร์ตชาร์จก็จะเป็น Micro USB ซึ่งตรงนี้ก็แอบแปลกใจเล็กน้อยเพราะปัจจุบันลำโพงบลูทูธหรืออุปกรณ์ไร้สายส่วนใหญ่จะเปลี่ยนมาใช้พอร์ตชาร์จแบบ Type C กันหมดแล้ว
ทดลองใช้งาน – การควบคุมที่ง่ายดายเพียงปลายนิ้ว
มาดูที่การควบคุมกันบ้างดีกว่า สำหรับปุ่มควบคุมทั้งหมดจะอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่องค่ะ ประกอบไปด้วยปุ่ม Power, ปุ่มสำหรับเชื่อมต่อ Bluetooth, ปุ่มควบคุมแสงไฟ, ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มสำหรับควบคุมการเล่นเสียง ซึ่งสามารถควบคุมได้ ดังนี้
- กด 1 ครั้งเพื่อเล่น / หยุดเสียง
- กดสองครั้งติดกันเพื่อเล่นเสียงถัดไป
- กดสามครั้งติดกันเพื่อเล่นเสียงก่อนหน้า
- กดค้างไว้เพื่อเปิดใช้งาน Voice Assistant
สำหรับปุ่มควบคุมแสงไฟจะมีให้เลือกทั้งหมด 5 โหมด ซึ่งแต่ละโหมดก็จะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นโหมดไล่ระดับสีมืด-สว่างไปจนถึงโหมดเปลี่ยนสีตามจังหวะเพลง หรือใครไม่อยากเปิดแสง เน้นฟังเพลงโดยเฉพาะก็สามารถเลือกได้ตามชอบเลยค่ะ ส่วนปุ่มเปิด-ปิดตัวลำโพงและ Bluetooth ก็จะใช้การกดเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น ไม่ยากและไม่ซับซ้อนเลยค่ะ
นอกจากนี้ลำโพงเครื่องนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟนขนาดกลางที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าตัวเครื่องเหนือชื่อแบรนด์เล็กน้อย ไมโครโฟนตัวนี้จะใ้ช้คู่กับระบบ Voice Assistant บนโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงสามารถรับและวางสายในการณีที่มีการโทรเข้าได้ ซึ่งสามารถควบคุมได้ดังนี้
- กดหนึ่งครั้งเพื่อรับ / วางสาย
- กดค้างไว้เพื่อปฏิเสธสาย
- หรือ สลับระว่างสายที่กำลังใช้งานและสายที่พักอยู่
- หรือ วางสายปัจจุบันและรับสายเรียกเข้า
- หรือ วางสายปัจจุบันและเปลี่ยนเป็นพักสาย
- หรือ สลับแหล่งกำเนิดเสียง ระหว่างลำโพงและโทรศัพท์
ทดลอง การเชื่อมต่อ
สำหรับการเชื่อมต่อก็ไม่ต่างจากอุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ เลยค่ะ เพียงแค่เปิด Bluetooth บนอุปกรณ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Android, iOS, Window หรือ mcOS จากนั้นกดปุ่ม power บนลำโพง ระบบ Bluetooth จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ เพียงแค่กดเลือก Soundcore Flare Mini อุปกรณ์ทั้ง 2 ชิ้นก็จะเชื่อมต่อกันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ และครั้งต่อไปที่เปิดใช้งาน ตัวลำโพงก็จะ connect กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไว้ล่าสุดโดยอัตโนมัติ (หากเปิด Bluetooth บนอุปกรณ์ทิ้งไว้) หากไม่มีก็สามารถกดเชื่อมต่อได้ด้วยตัวเองค่ะ

นอกจากนี้หากมี Soundcore Flare Mini จำนวน 2 เครื่อง เราสามารถเชื่อมต่อลำโพงเข้าด้วยกันได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดปุ่ม Bluetooth พร้อม ๆ กัน เมื่อเชื่อมต่อแล้วลำโพงก็จะทำหน้าที่แยกเป็นลำโพงซ้าย – ขวา ช่วยเพิ่มพลังเสียงและช่วยให้เสียงออกมามีมิติมากขึ้น โดยเสียงที่ออกมาจะมีความชัดเจน ไม่ดีเลย์ และไม่ขาดเลยค่ะ แต่ต้องขอบอกก่อนว่าลำโพงที่จะนำมาเชื่อมต่อจะต้องเป็น ANKER Soundcore Flare Mini เท่านั้น และเชื่อมต่อได้สูงสุดแค่ 1 คู่เท่านั้นค่ะ ดังนั้นใครที่มีแพลนว่าจะวางลำโพง 4 ตัว 4 มุมนี่อาจจะต้องพับโครงการนี้เก็บไปก่อนหรือเลือกซื้อลำโพงรุ่นอื่นแทนค่ะ
ทดสอบระบบเสียงและเทคโนโลยี BassUpTM
เนื่องจากลำโพงรุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนที่มีดนตรีในหัวใจโดยเฉพาะ ดังนั้นในส่วนของเสียงก็คงไม่ธรรมดาอยู่แล้ว สำหรับลำโพงรุ่นนี้จะใช้เทคโนโลยี BassUpTM ที่เน้นเสียงเบสให้โดดเด่นมากขึ้น เสียงที่ออกมาจะดังกระหึ่ม มีความทุ้มกังวาล บวกกับมีดอกลำโพงขนาด 1.75 นิ้วมาให้ถึง 2 ตัวทั้งด้านซ้ายและขวา ทำให้เสียงออกมาก้องกังวาลรอบทิศ ไม่ว่าจะยืนอยู่มุมไหนก็ได้ยินเสียงเพลงอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการประมวลผลผ่านสัญญาณดิจิตอลแบบเรียลไทม์ เน้นเสียงโทนเข้ม-ต่ำ ช่วยปรับปรุงเสียงและช่วงความถี่เบสให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ทำให้เราสามารถฟังเพลงโปรดได้แบบเพลิน ๆ เลยค่ะ
ขณะใช้เปลี่ยนสีตามเสียงเพลง พร้อมกันน้ำระดับ IPX7
อีกหนึ่งจุดเด่นของลำโพงรุ่นนี้คือไฟ LED ที่ถูกติดตั้งไว้บริเวณฐานล่างของตัวลำโพง ห่อหุ้มด้วยพลาสติกหนาขุ่น มีแม่สี RGB 8 สีที่สามารถเปลี่ยนได้มากถึง 36 ล้านเฉดสี พร้อมปรับเปลี่ยนได้มากถึง 5 โหมด แต่ละโหมดก็จะมีความแตกต่างกันออกไปดังนี้ค่ะ

- โหมดที่ 1 สีจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ แต่คงที่
- โหมดที่ 2 สีจะเปลี่ยนและกะพริบไปตามจังหวะเสียงเพลง
- โหมดที่ 3 จะแสดงครั้งละ 2 สีหลัก ๆ สลับกันไปและเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ในรูปแบบหมุนวน
- โหมดที่ 4 สีจะเปลี่ยนและวิ่งไปเรื่อย ๆ ในลักษณะวงกลม
- โหมดที่ 5 สีจะไล่ระดับอ่อน – เข้มและเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
- โหมดที่ 6 จะไม่แสดงแสงไฟ ทั้งบริเวณฐานล่างและปุ่มควบคุม
นอกจากไฟ 36 ล้านเฉดสีแล้วลำโพงรุ่นนี้ยังเอาใจสายปาร์ตี้มากขึ้นด้วยความสามารถกันเหงื่อและน้ำแบบ Full Waterproof ระดับ IPX7 บอกเลยว่าใครชอบปาร์ตี้ริมสระนี่เหมาะมาก ๆ และด้วยความที่ตัวลำโพงมีการหุ้มยางและผ้าถักแน่น ทำให้สามารถใช้งานในน้ำที่ระดับความลึก 1 เมตรได้นานถึง 30 นาที แต่เนื่องจากผ้าที่ใช้หุ้มลำโพงค่อนข้างจะมีความหนาและถักลายแน่นทำให้เปียกชื้นได้นานและอาจก่อให้เกิดกลิ่นอับ ดังนั้นจึงต้องพยายามเช็ดให้แห้งมากที่สุดและวางทิ้งไว้ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท แต่ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง
ทดสอบแบตเตอรี่และการชาร์จ
นอกจากฟังก์ชั่นแล้วแบตเตอรี่เองให้มาแบบจุก ๆ ตัวลำโพงมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุถึง 2600mAh สามารถใช้งานติดต่อกันได้นานมากถึง 12 ชั่วโมง บอกเลยว่าเต้นจนตัวเหลวแบตเตอรี่ก็ยังไม่หมดแน่นอนค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับระดับเสียงที่เปิดด้วยนะคะ ยิ่งเปิดเสียงดังก็ยิ่งใช้งานได้น้อยลง แต่เอาจริง ๆ แล้วแค่เปิดเสียงระดับ 60 – 70% ก็ดังกระหึ่มกระแทกใจแล้วค่ะ
ถึงจะใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมง แต่การชาร์จแบตเตอรี่นี่ใช้เวลาน้อยกว่าเยอะเลยค่ะ เพราะการชาร์จลำโพงจากระดับ 0 – 100% กลับใช้เวลาเพียง 3.5 ชั่วโมงเท่านั้น ถือว่ารวดเร็วทันใจสุด ๆ ค่ะ แต่ก็มีคำแนะนำในการชาร์จแบตเตอรี่เล็กน้อยนะคะ เราแนะนำให้ถอดสายชาร์จทันทีหลังแบตเตอรี่เต็ม เพราะหากชาร์จทิ้งไว้นานจนเกินไปอาจจะทำให้ตัวลำโพงมีความร้อนสะสมและส่งผลต่อการใช้งานได้ ซึ่งในส่วนนี้มีระบุเอาไว้ในคู่มือการใช้งานด้วยค่ะ ดังนั้นอาจจะไม่เหมาะกับการชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืนสักเท่าไหร่

ให้คะแนนความคุ้มค่า และความพึงพอใจที่มีต่อ ANKER Soundcore Flare Mini
![]() |
![]() |
คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 8.1 เต็ม 10
จากการทดลองใช้งานมาระยะหนึ่งเรารู้สึกว่า ANKER Soundcore Flare Mini เป็นลำโพงที่เหมาะกับสายปาร์ตี้จริง ๆ ค่ะ ถึงแม้ว่าการพกพาอาจจะไม่สะดวกสักเท่าไหร่เพราะไม่มีหูหรือห่วงสำหรับจับมาให้ และวัสดุยางที่ใช้หุ้มปุ่มกดค่อนข้างจะทำให้ตัวลำโพงดูเก่า แต่ถ้ามองในแง่ของการใช้งานก็ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าคุ้มราคาทีเดียวค่ะ
แค่พลังเสียงจากลำโพง 2 ตัวก็ให้มาถึง 10 วัตต์แล้วค่ะ บวกกับเทคโนโลยีประมวลผลแบบเรียลไทม์ก็จะยิ่งช่วยให้เสียงในโทนต่าง ๆ ผสมกันอย่างลงตัว ช่วยให้เราเอนจอยกับปาร์ตี้ได้มากขึ้น รวมไปถึงประสิทธิภาพในการกันน้ำระดับ IPX7 นี่ก็ช่วยให้เบาใจได้เลยว่าต่อให้เผลอทำตกน้ำหรือโดนฝน ลำโพงก็ไม่พังแน่นอนค่ะ แต่ใช่ว่าจะเอาแช่น้ำได้ทั้งคืนนะคะ ถ้าเป็นแบบนั้นต่อให้กันน้ำได้ดีแค่ไหนก็มีสิทธิ์พังได้เหมือนกันค่ะ
ในส่วนของแสงไฟถือว่าให้ฟังก์ชั่นมาเยอะและหลากหลายเลยนะคะ แต่เราก็มองว่าแสงไฟไม่ได้สว่างเท่าที่ควร โดยเฉพาะการใช้งานในช่วงเวลากลางวันและพื้นที่กว้างนี่แสงไฟจะไม่โดดเด่นมากนัก แต่ถ้าเป็นปาร์ตี้ในห้องเล็ก ๆ หรือพื้นที่ปิดนี่เราคิดว่าใช้ได้เลยทีเดียวค่ะทั้งในเรื่องแสง, สี และเสียง ส่วนปริมาณแบตเตอรี่นี่จุกและคุ้มมาก ๆ และการชาร์จก็รวดเร็วทันใจเช่นเดียวกันแม้ว่าพอร์ตชาร์จจะเป็น Micro USB และเงื่อนไขในการชาร์จจะทำให้แอบเซ็งบ้างก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้น ANKER Soundcore Flare Mini ก็ยังเป็นลำโพงสำหรับสายปาร์ตี้อีกหนึ่งรุ่นที่เราอยากแนะนำเพราะค่อนข้างจะคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งาน แต่นอกจากนั้นการใช้งานเบา ๆ อย่างการดูหนังฟังเพลงชิล ๆ ก็ทำได้ดี ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการใช้งานลำโพงรุ่นดี ๆ เลยค่ะ
สรุป ข้อดี-ข้อด้อย ของ ANKER Soundcore Flare Mini
ข้อดี
- คู่มือแผ่นพับรูปภาพเข้าใจง่าย
- ปุ่มใช้งานง่าย ไม่ต้องออกแรงมาก ไม่มีเสียงกวนใจ
- ลำโพงคู่รอบทิศทาง ให้เสียงแบบ 360 องศา
- เบสแน่น เสียงใส ไม่มีเสียงคลื่นรบกวน
- มีระบบประมวลเสียงดิจิตอลแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณภาพเสียงดีมากขึ้น
- มียางรองกันลื่น ช่วยให้ลำโพงเกาะติดกับพื้นผิวในกรณีที่ตัวเครื่องสั่นจากการกระแทกของเสียงเบส
- Fully Waterproof กันน้ำกันฝนระดับ IPX7 ลงน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร
- สามารถใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่ดูหนังชิล ๆ ไปจนถึงปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยง
- ใช้วัสดุพรีเมี่ยมทั้งชิ้น ดีไซน์ดูดี สวยงาม ทันสมัย
- มีไฟ LED 36 ล้านเฉดสี ปรับเปลี่ยนได้มากถึง 5 โหมด
- สามารถเชื่อมต่อลำโพง 2 ตัวเข้าด้วยกันได้ ช่วยเพิ่มพลังเสียงและแยกเป็นลำโพงซ้าย – ขวา
ข้อควรพิจารณา
- ยังใช้สายชาร์จแบบ Micro USB ขณะที่แบรนด์อื่น ๆ เปลี่ยนมาใช้สาย Type C กันหมดแล้ว
- ใช้ Bluetooth 4.2 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเก่า ทั้ง ๆ ที่สินค้าผลิตในปี 2021
- มีน้ำหนักเกือบ 500 กรัม ถือว่าค่อนข้างเยอะ
- ยางด้านบนสัมผัสแล้วจะเป็นรอยนิ้วมือและคราบขาว ทำให้ตัวเครื่องดูเก่า
- คู่มือการใช้งานมีรายละเอียดให้มาไม่เยอะมากนัก เช่นประเภทแบตเตอรี่, ย่านความถี่ และอื่น ๆ
- ปุ่มควบคุมและปุ่มเพิ่มลดเสียงมองเห็นได้ยากทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะปุ่มไม่นูนมากนักและเป็นสีเดียวกับยาง ขณะที่ปุ่มอื่น ๆ ให้ไฟ LED มาด้วย
- ไม่มีช่อง AUX ใช้งานแบบไร้สายได้เพียงอย่างเดียว
- ไม่สามารถดูหรือตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ได้
- พลาสติกหุ้มหลอดไฟสามารถแตกได้ง่ายหากตกหล่นหรือโดนกระแทก

ความคิดเห็นของเราต่อ ANKER Soundcore Flare Mini
ซื้อเลย ถ้าหาก :
-
คุณกำลังมองหาลำโพงขนาดเล็กแต่มั่นคงแข็งแรง
สำหรับลำโพงรุ่นนี้จะมาพร้อมขนาดที่ค่อนข้างกะทัดรัด ถึงจะไม่มีหูหิ้วหรือหูจับสำหรับเคลื่อนย้าย แต่ด้วยวัสดุหุ้มภายนอกที่เป็นยางกันลื่นและผ้าถักหนาทำให้สามารถถือได้โดยไม่ลื่นหลุดจากมือ ตัวลำโพงไม่ได้เล็กจนมองไม่เห็นแต่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่จนกลายเป็นจุดเด่นทำให้สามารถกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
-
คุณชื่นชอบลำโพงที่เน้นเสียงเบสแต่ไม่แหลมจนเกินไป
เทคโนโลยี BassUpTM จะมาพร้อมระบบที่สร้างขึ้นเพื่อเน้นเสียงเบสมากเป็นพิเศษ เมื่อเปิดเพลงตัวระบบจะมีการประมวลผลโดยอัตโนมัติและควบคุมความถี่เบสให้เหมาะสมมากขึ้น บวกกับดอกลำโพง 2 ตัวขนาด 10 วัตต์ช่วยกระจายเสียงรอบทิศทาง ทำให้เสียงออกมาชัดเจน แบบเน้น มีความทุ้ม สามารถเพิ่มลดเสียงได้ตามต้องการ
-
คุณต้องการลำโพงกันน้ำพร้อมแสงไฟสำหรับปาร์ตี้
ไฟ LED ที่บริเวณฐานของลำโพงสามารถเปล่งแสงได้มากถึง 36 ล้านเฉดสี รวมถึงคุณสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการแสดงแสงไฟได้ตามต้องการ แม้แสงจะไม่สว่างมากนักแต่ก็ทำให้ระสบการณ์แสง, สี และเสียงภายในปาร์ตี้สนุกครบรสมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถกันน้ำและเหงื่อได้ในระดับ IPX7 ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ริมสระน้ำ, ปาร์ตี้ภายในบ้าน, ปาร์ตี้กลางแจ้ง หรือแม้แต่ปาร์ตี้กลางสายฝนก็สามารถทำได้ตามต้องการ
-
คุณต้องการลำโพงที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน
ถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ลำโพงตัวนี้มาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่ 2600mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ถึง 12 ชั่วโมงแบบยาว ๆ โดยไม่มีสะดุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับระดับเสียงด้วยนะคะ ยิ่งเปิดเสียงดังก็ยิ่งใช้พลังงานมากขึ้น ส่วนการชาร์จก็ค่อนข้างที่จะรวดเร็วเพราะใช้เวลาแค่ 3.5 ชั่วโมงเท่านั้นในการชาร์จจากระดับ 0 – 100%
อย่าซื้อ ถ้าหาก :
-
คุณต้องการลำโพงที่รองรับกิจกรรมหลากหลาย
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าตัวลำโพงไม่มีหูจับหรือหูหิ้ว ดังนั้นหากคุณต้องการฟังเพลงระหว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา, เดินป่า, วิ่งออกกำลังกาย หรือกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ เราแนะนำให้เลือกซื้อรุ่นอื่นจะใช้งานง่ายกว่า เพราะนอกจากจะไม่มีหูจับแล้วลำโพงรุ่นนี้ยังมีน้ำหนักเยอะพอประมาณอีกด้วยค่ะ
-
คุณต้องการลำโพงที่เชื่อมต่อได้หลากหลาย
น่าเสียดายที่ลำโพงรุ่นนี้ไม่มีช่องเสียบ USB หรือแม้แต่ AUX ทำให้สามารถใช้งานผ่าน Bluetooth ได้เพียงอย่างเดียว ถือว่าไม่หลากหลายมากนัก เพราะการเชื่อมต่อ Bluetooth และเปิดเพลงบนอุปกรณ์ไปด้วยทำให้สิ้นเปลืองพลังงานพอสมควรเลยค่ะ นอกจากนี้พอร์ตชาร์จของลำโพงรุ่นนี้ยังคงเป็น Micro USB ทำให้ไม่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วย
-
คุณต้องการลำโพงพร้อมระบบ Bluetooth เวอร์ชั่นใหม่ ๆ
เนื่องจากลำโพงรุ่นนี้ยังใช้ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.2 อยู่ ขณะที่ปัจจุบันมีถึงเวอร์ชั่น 5.3 แล้ว (ต้นปี2022) รวมไปถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าทางแบรนด์จะมีการอัพเกรดเวอร์ชั่นของลำโพงรุ่นนี้ หรือจะมีวิธีการอัพเกรดอย่างไร ดังนั้นหากคุณต้องการลำโพงที่มาพร้อมระบบ Bluetooth เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เราคิดว่ารุ่นนี้ยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่นัก แนะนำให้เลือกซื้อรุ่นอื่นจะดีกว่าค่ะ