ช่วงนี้เข้าหน้าหนาวแล้วนะคะ หลายคนคงวางแผนจะไปพิชิตยอดดอยเพื่อดูหมอกสวย ๆ หรือชวนเพื่อน ๆ ล่องแก่งเพื่อทดสอบความแข็งแรงกัน แต่วันนี้เรามีอีกหนึ่งจังหวัดที่มีทั้งกิจกรรมทดสอบความแข็งแรงและมุมถ่ายรูปสวย ๆ มาแนะนำให้เพื่อน ๆ รู้จัก นั่นก็คือ “จังหวัดนครนายก” นั่นเองค่ะ

เมืองหน้าด่านหรือจังหวัดนครนายกใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพเพียง 2 ชั่วโมง ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการใช้เวลาพักผ่อนในวันหยุดสั้น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นจังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้กลับมีความน่าสนใจซุกซ่อนอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกเดินทางค้นหาน้ำตกและธรรมชาติเขียวชะอุ่มที่ซุกซ่อนอยู่หลังเขื่อนอันหว้างใหญ่, ทดสอบกำลังกายและกำลังใจด้วยการล่องแก่งและปีนเขา, ล่องเรือสัมผัสความชุ่มฉ่ำของสายน้ำและสายลม, เรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่รักษาไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หรือสานฝันการเป็นนางแบบระดับโลกด้วยการโพสต์ท่าถ่ายรูปกับธรรมชาติอันสวยงามและทุ่งบัวแดงชูชัน ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ที่นี่ นครนายก  และวันนี้เราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนครนายกมาฝากค่ะ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

1. เขื่อนขุนด่านปราการชล

มาจังหวัดนครนายกที่แรกที่ควรเช็คอินก็คือเขื่อนขุนด่านปราการชลค่ะ เขื่อนแห่งนี้เป็นเชื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวถึง 2,593 เมตร ถือว่าเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวมากที่สุดในโลก ⁽¹⁾ ใช้เวลาสร้างถึง 13 ปี สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อมุ่งเน้นแก้ปัญหาภัยแล้งของชาวบ้านตำบลหินตั้งค่ะ เพราะเมื่อก่อนชาวบ้านแถวนี้ต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมทุกปี บรรยากาศรอบเขื่อนเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธ์เขียวชะอุ่ม มีลมพัดอ่อน ๆ เย็นกายสบายใจมาก ๆ เลยค่ะ ยิ่งถ้าเพื่อน ๆ มาในวันหยุดทางเขื่อนก็จะมีการปล่อยน้ำให้เล่นกันด้วยนะคะ ส่วนถ้าใครไม่อยากเปียก การเดินหรือปั่นจักรยานชมวิวสันเขื่อนก็น่าสนใจค่ะ

2. เขาช่องลม

ภูเขาเขียวขจีซ่อนตัวอยู่หลังเขื่อนขุนด่านปราการชล เพื่อน ๆ จะต้องขึ้นเรือที่จุดล่องเรือของเขื่อน หลังจากนั้นใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็จะถึงเขาช่องลมแล้วค่ะ เพื่อน ๆ จะได้พบกับทุ่งหญ้าเขียวขจีทั้งสองฝั่ง มีลำธารเล็ก ๆ ไหลผ่าน บรรยากาศสดชื่น เหมาะสำหรับถ่ายรูปแนวฮิปเตอร์มาก ๆ เลยค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ เดินไปจนสุดทางจะเจอน้ำตกช่องลมอีกด้วย แนะนำให้มาในช่วงเดือนกรกฎาคม, สิงหาคม และกันยายน เพราะเป็นช่วงเริ่มหน้าฝน มีฝนตกให้พอชุ่มชื่น หญ้าจะเขียวขจีถ่ายรูปสวยมาก ๆ เลย เพื่อน ๆ ควรแต่งตัวกระฉับกระเฉงและใส่รองเท้าหุ้มข้อนะคะเพราะจะต้องปีนป่ายเล็กน้อย

3. อุทยานวังตะไคร้

ถ้าใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ชอบทำกิจกรรมผาดโผนเราขอแนะนำให้แวะมาที่อุทยานวังตะไคร้ค่ะ ใช้เวลาเดินทางจาดเขื่อนขุนด่านปราการชลไม่ถึง 10 นาที ที่นี่มีกิจกรรมให้เพื่อน ๆ ทำเยอะแยะมากมายจนเลือกไม่ถูกเลย ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ ATV ตามเส้นทางธรรมชาติที่มีระยะทางถึง 8 กิโลเมตร, ฝึกความแม่นยำด้วยสนามยิงปืนเพ้นท์บอลและสนามบีบีกัน, ทดสอบกำลังกายด้วยการล่องแก่งและล่องแพยาง หรือทดสอบกำลังใจด้วยการเข้าฐานจำลองการฝึกหน่วยรบพิเศษทั้ง 10 ฐานของที่นี่ แต่ไม่ได้มีเพียงกิจกรรมผาดโผนเท่านั้นนะคะเพราะที่นี่มีสวนพฤกษศาสตร์และน้ำตกจำลองให้คนสวยอย่างเรา ๆ โพสท์ท่าถ่ายรูปอีกด้วย

4. สะพานทุ่งนามุ้ย

สายเซลฟี่ไม่ควรพลาดค่ะกับจุดเช็คอินสะพานทุ่งนามุ้ย ที่เป็นทุ่งนาเกษตรอินทรีย์ที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้างขึ้นมา สะพานคดเคี้ยวทอดยาวตัดผ่านทุ่งนาเนื้อที่กว่า 2 ไร่ สุดทางจะเจอกระท่อมปลายนาให้บรรยากาศขวัญเรียมมาก ๆ เลยค่ะ สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ข้าวเริ่มงอกใหม่ ๆ , ตอนที่ต้นข้าวกำลังเขียวขจีเต็มพื้นที่ หรือตอนข้าวออกรวงเปลี่ยนผืนนาเป็นสีทองสว่างพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ สดชื่น เตรียมชุดสวย ๆ รอได้เลยจ้า ยิ่งเป็นรูปมุมสูงยิ่งสวยเก๋แปลกตานะคะ ก่อนกลับอย่าลืมอุดหนุนสินค้าปลอดสารพิษจากชาวบ้านด้วยก็ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจ เป็นการช่วยสร้างเสริมอาชีพให้คนในชุมชนได้อีกทางหนึ่งเลยค่ะ

5. อุโมงค์ต้นไผ่

ที่นี่ถือว่าเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมอีกจุดหนึ่งของจังหวัดนครนายกเลยค่ะ เพราะอุโมงค์ต้นไผ่ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในประเทศญี่ปุ่นยังไงอย่างนั้นเลย อุโมงค์ต้นไผ่ของที่นี่เป็นอุโมงค์ที่เกิดขึ้นด้วยการสรรค์สร้างของธรรมชาติ มีความยาวหลายร้อยเมตร มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะจนเลือกไม่ถูกเลยค่ะเพื่อน ๆ ยิ่งถ่ายรูปตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดินที่มีแสงลอดใบไผ่มากระทบตัวนี่ขอบอกเลยว่าเมมโมรีการ์ด 10 อันก็ไม่พอค่ะ นอกจากจะได้รูปสวยแล้วยังได้ไหว้พระขอพรให้จิตใจสงบอีกด้วยนะคะ ยิ่งในวันหยุดนีกขัตฤกษ์ที่นี่ก็จะมีตลาดนัดด้วยนะคะ มีสินค้าทางการเกษตรและอาหารพื้นบ้านให้เลือกทานเยอะมากเลยค่ะ

6. วัดหลวงพ่อปากแดง

สายเสี่ยงโชคต้องถูกใจที่นี่แน่นอนค่ะ เพราะภายในวัดพราหม์มณีที่เป็นวัดเก่าแก่ประจำจังหวัดนครนายกได้ประดิษฐานวัดหลวงพ่อปากแดงมีชื่อเสียงด้านโชคลาภ มีตำนานกล่าวว่าหลวงพ่อเป็นพระที่มาปากแดงเหมือนกับทาลิปสติกเลยค่ะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านและบุคคลทั่วไปทำให้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อปากแดงอย่างไม่ขาดสายเลยค่ะ เพราะมีความเชื่อว่าหลวงพ่อปากแดงเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์มาก คนที่มากราบไหว้ขอพรส่วนหญ่ก็จะสมหวังตามที่ขอ ถ้ามีโอกาสก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะเวียนไปกราบไหว้ขอพรนะคะ นอกจากนี้ภายบริเวณวัดยังมีศาลาอนุสาวรีย์อดีตกองพลญี่ปุ่นที่ 37 ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

7. พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดฝั่งคลอง – ไทยพวน

เปลี่ยนบรรยากาศมาศึกษาวัฒนธรรมคนไทยเชื้อสายพวนกันที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดฝั่งคลอง เล่ากันว่าเมื่อก่อนคนไทพวนอพยพมาตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่ที่นี่เลยก่อเกิดเป็นวัฒนธรรมใหม่ขึ้นค่ะ และเนื่องจากที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกที่หนึ่งทางจังหวัดจึงได้จัดตั้งนิทรรศการที่แสดงถึงภูมิปัญญาและวิถีชีวิตชาวบ้านที่มีมาตั้งแต่อดีตและยังคงรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย, การทอผ้า, อาหาร และศิลปะการแสดงค่ะ ที่นี่ถือเป็นศูนย์แสดงศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญอีกที่หนึ่งของจังหวัดนครนายกเลย เพื่อน ๆ คนไทนที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่ควรพลาดที่นี่เลยนะคะ รับรองว่าได้ความรู้กลับไปเยอะแน่นอน

8. ทุ่งบัวแดงบ้านนา

เตรียมชุดสวย ๆ และกล้องถ่ายรูปตัวเก่งให้พร้อม เพราะเราจะพาคุณไปถ่ายรูปสวย ๆ ที่ทุ่งดอกบัวแดงบ้านนากันค่ะ ทุ่งบัวแดงสร้างขึ้นจากการร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงค่ะ เพราะเมื่อก่อนเนี่ยบริเวณทุ่งบัวแดงเคยเป็นทุ่งนามาก่อน แต่ต่อมาก็มีน้ำท่วมและดอกบัวบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ทำให้มีคนสนใจค่อนข้างเยอะ เจ้าของเลยปรับพื้นที่เป็นทุ่งดอกบัวต้อนรับนักท่องเที่ยวซะเลยค่ะ บนพื้นที่กว้างขวางกว่า 10 ไร่ เต็มไปด้วยดอกบัวแดงที่ผลิดอกบานสะพรั่งรับแสงแดด ตัดกับสีเขียวของใบบัวและผืนน้ำที่สะท้อนแสงอาทิตย์วาววับ โดยที่นี่จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะเดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายน ตั้งแต่เวลาเช้าจนถึง 10.00 เท่านั้นนะคะ เพราะหลังจากนั้นดอกบัวจะเริ่มหุบและแดดร้อนถ่ายรูปไม่สวยแล้วค่ะ เราแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองชิมชิมน้ำเกษรบัวที่ชาวบ้านนำมาวางขาย รับรองว่าอร่อยเย็นชื่นใจแน่นอนค่ะ 

9. โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

จุดเช็คอินสำหรับสายบู๊หรือสายแอดเวนเจอร์โดยเฉพาะ ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ามีกิจกรรมให้ทำหลากหลายมากเลยค่ะ ด้วยพื้นที่ของโรงเรียนที่กว้างใหญ่ มีกิจกรรมให้เพื่อน ๆ ทำอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบความแม่นยำด้วยสนามยิงปืนและสนามธนู, ทดสอบสายตาและความว่องไวด้วยสนามยิงปืนเพ้นท์บอลและบีบีกันที่มีทั้งชุดและอุปกรณ์ให้ครบมือ, ทดสอบกำลังกายและกำลังใจด้วยกิจกรรมเลื่อนข้ามน้ำและการฝึกทางทหาร หรือขับรถ ATV ชมธรรมชาติ แต่ถ้าเพื่อน ๆ คิดกิจกรรมเหล่านี้โหดไปหน่อยก็สาารถพายเรือหรือปั่นจักรยานชมธรรมชาติริบ ๆ โรงเรียนได้ค่ะ นอกจากนี่ที่นี่ยังมีพิพิธภันฑ์ทางทหารให้เพื่อน ๆ ได้เข้าชมอีกด้วยนะคะ ที่เดียวสนุกได้ทั้งครอบครัวแน่นอนค่ะ

10. อุทยานพระพิฆเนศ

ปิดท้ายกันด้วยการกราบไหว้ขอพรพระพิฆเนศปูนปั้นองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยที่อุทยานมีพระพิฆเนศปูนปั้นปางนั่งประทานพรที่มีหน้าตักกว้าง 9 เมตร และสูงถึง 15 เมตร ⁽²⁾ สร้างขึ้นจากความศรัทธาของหลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหารและคณะลูกศิษย์ ภายในอุทยานยังมีหอมหาเทพที่ประดิษฐานเทพสูงสุดไว้ ได้นั่นแก่ พระพรหม, พระวิษณุ และพระศิวะ นอกจากนี้ที่นี่ยังประดิษฐานพระพิฆเนศองค์ดำโบราณที่มีอายุกว่า 800 ปีอีกด้วย ⁽²⁾ และนั่นทำให้อุทยานแห่งนี้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ และมีผู้เคารพศรัทธาหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย

และทั้งหมดนี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในจังหวัดนครนายกที่เพื่อน ๆ ไม่ควรพลาดค่ะ มีที่ไหนที่เพื่อน ๆ เคยไปมาแล้วบ้างคะ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าสถานที่ที่สวยงามและเต็มไปด้วยความน่าหลงไหลนี้จะตั้งอยู่ห่างจากเมืองกรุงเพียงไม่ถึง 200 กิโลเมตร ถ้าจะเก็บกิจกรรมทั้งหมดในจังหวัดนครนายกคิดว่าวันเดียวคงจะไม่พอ การนอนพักค้างคืนและรับลมดูดวงดาวสุกสว่างเต็มท้องฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจนะคะ หวังว่านครนายกจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับทริปถัดไปของเพื่อน ๆ นะคะ เที่ยวให้สนุกและปลอดภัย สำหรับใครที่สนใจสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ กับเทพ เราก็มีบทความที่เคยแนะนำไปบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ตามเก็บที่เที่ยวรอบ ๆ กรุงเทพ, ระยอง, หัวหิน,  พัทยา, กาญจนบุรี, จันทบุรี, สวนผึ้ง, บางแสน, เขาใหญ่ หรือ เกาะสีชัง ต่างก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและน่าสนใจมาก ๆ เลยนะคะ สำหรับใครที่มีสิทธิ์ในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ก็อย่าลืมรีบไปใช้สิทธิ์ในวันหยุดยาวนี้หรือจะเป็นวันเกิดคนคุณรักก็ได้ค่ะ รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจไม่รู้ลืม

References

1. เขื่อนขุนด่านปราการชล
2. อุทยานพระพิฆเนศ