อีกไม่กี่วันก็จะถึง วันพ่อแห่งชาติ แล้วนะคะทุกคน ตอนนี้ลูก ๆ หลายคนคงจะเริ่มแพลนกันแล้วว่าปีนี้จะพาคุณพ่อไปทำกิจกรรมอะไรบ้าง หรือจะมีของขวัญและคำอวยพรอะไรให้กับคุณพ่อบ้าง เมื่อเทียบกับวันแม่แห่งชาติที่ผ่านพ้นไปแล้ว ส่วนตัวเราคิดว่าการหาของขวัญวันพ่อ หรือจัดกิจกรรมให้ตรงใจคุณพ่อมากที่สุดนี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะต้องคิดหนักพอสมควรเลยล่ะค่ะ อาจจะเพราะเหตุผลหลาย ๆ อย่างทำให้หลายคนไม่สนิทสนมกับคุณพ่อมากนัก ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัย, เพศ และบทบาทการเป็นหัวหน้าครอบครัว ยิ่งเป็นคุณพ่อของเราเองที่ค่อนข้างจะเคร่งขรึมนี่บอกเลยว่าการจะให้ของขวัญสักชิ้นนี่ต้องผ่านการคิดหลายตลบมาก ๆ
หลังจากที่คิดมาหลายวัน เราพบว่าสิ่งที่สามารถเชื่อมต่อคนทุกเพศทุกวัยได้ดีที่สุดคืออาหารค่ะ หน้าที่การงานและความรับผิดชอบทำให้ทุกคนต้องออกจากบ้านไปทำหน้าที่ของตัวเอง แต่เมื่อหมดวันทุกคนจะกลับมารวมตัวกันบนโต๊ะอาหารเสมอ ดังนั้นวันพ่อแห่งชาติในปีนี้เราจึงตัดสินใจลงมือปรุงเมนูโปรดของคุณพ่อด้วยตัวของเราเอง
นอกจากจะแสดงออกถึงความใส่ใจแล้วยังเป็นการโชว์ฝีมือแม่ศรีเรือนให้คุณพ่อได้ดูอีกด้วย เผื่อคุณพ่อจะอนุญาติให้มีคู่ครองเหมือนคนอื่นเขาเสียที (อิอิ) และในบทความนี้เราจึงรวบรวม 10 เมนูบอกรักพ่อ มาแนะนำเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาไอเดียอยู่ค่ะ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยดีว่า
1. ต้มเลือดหมู

เริ่มต้นมื้อเช้าด้วยเมนูต้มเลือดหมูหอม ๆ ร้อน ๆ เมนูนี้นอกจากเครื่องในจุก ๆ แล้วเรายังมีหมูสับปั้นก้อนโต ๆ อีกด้วยค่ะ สูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยกลมกล่อมสุด ๆ หมูนุ่ม เลือดเด้ง ๆ ส่วนเครื่องในของเราจะไม่มีกลิ่นคาวและไม่มีรสขม เราจะต้มจนสุกเปื่อยพอประมาณแต่ไม่เละมากจนเกินไป ยังมีความเด้ง ๆ สู้ฟันอยู่ค่ะ ปรุงรสด้วยพริกดองและพริกป่นอีกหน่อยทานเพลินสุด ๆ
วัตถุดิบต้มเลือดหมู
- หมูสับ
- เครื่องในหมู
- เลือดหมู
- กระเทียม
- ใบตำลึง
- จิงจูฉ่าย
- ต้นหอม
- ผักชี
- กระเทียมเจียว
- พริกไทยป่น
- ซุปก้อน
- ซอสปรุงรส
- ซอสหอยนางรม
- น้ำเปล่า
วิธีทำต้มเลือดหมู
- ขั้นตอนที่ 1 : ล้างทำความสะอาดไส้และเครื่องในหมูให้สะอาดก่อนค่ะ สำหรับการล้างไส้เราจะขัดด้วยเกลือและน้ำส้มสายชู กรอกน้ำใส้ไส้แล้วรีดเอาน้ำออกให้หมด ทำซ้ำจนไขมันในไส้ถูกล้างออกมาจนหมดค่ะ จากนั้นต้มน้ำให้เดือด ใส่กระเทียมบุบและเกลือเล็กน้อย นำเครื่องในทั้งหมดลงต้มจนสุกแล้วตักขึ้น จากนั้นนำไส้ลงต้มต่อประมาณ 15 -20 นาทีหรือจนใกล้เปื่อยค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : หมักหมูสับด้วยซีอิ๊วขาวและซอยหอยนางรม หันมาล้างทำความสะอาดผักทั้งหมดแล้วซอยต้นหอมกระเทียม เด็ดเอาเฉพาะยอดอ่อนตำลึงเตรียมไว้ ตามด้วยจิงจูฉ่าย จากนั้นต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่ซุปก้อน ปั้นหมูสับลงต้มจนสุกแล้วคอยช้อนฟองออกจนน้ำใส
- ขั้นตอนที่ 3 : ระหว่างรอหมูสับสุกเราจะนำเครื่องในและเลือดที่ต้มสุกแล้วมาหั่นชิ้นเตรียมไว้ค่ะ หมูสับและซุปสุกได้ที่แล้วเราจะนำเครื่องในลงลวกแล้วตามด้วยยอดตำลึงและจิงจูฉ่าย ตักใส่ถ้วยแล้วตามด้วยต้มหอมผักชี โรยพริกไทยดำและกระเทียมเจียวอีกหน่อย เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
2. โจ๊กไก่

ใครไม่ถนัดเครื่องในก็เปลี่ยนมาทานโจ๊กแทนค่ะ สำหรับเมนูโจ๊กของเราจะเป็นโจ๊กไก่ที่ต้มจนข้นกำลังดี ไก่นุ่ม รสชาติค่อนข้างที่จะกลมกล่อมเค็มอมหวาน หอมกลิ่นพริกไทยและซอสปรุงรสอ่อน ๆ ทานตอนเช้านี่ทั้งอิ่มและอุ่นท้องสุด ๆ ค่ะ นอกจากอร่อยแล้วยังทานได้ทั้งครอบครัวอีกด้วยค่ะ เป็นการเริ่มต้นวันพิเศษที่ดีสุด ๆ เลย
วัตถุดิบโจ๊กไก่
- อกไก่
- ไข่ไก่
- ปลายข้าวสาร
- ขิง
- ต้นหอม
- ตังฉ่าย
- กระเทียมเจียว
- พริกไทย
- ซอสปรุงรส
- ผงปรุงรส
- น้ำเปล่า
วิธีทำโจ๊กไก่
- ขั้นตอนที่ 1 : ล้างอกไก่ให้สะอาด ลอกเอาหนังไก่ออกแล้วสับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ส่วนใครต้องการทานแบบไก่ฉีกให้ต้มอกไก่จนสุกแล้วเก็บน้ำต้มไก่ไว้ต้มข้าว หมักอกไก่สับด้วยผงปรุงรสทิ้งไว้ก่อน หันมาล้างทำความสะอาดข้าวสารแล้วต้มจนกลายเป็นโจ๊ก เพิ่มลดความข้นได้ตามชอบค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : ระหว่างรอข้าวสุกเราจะหันมาล้างทำความสะอาดผักสดทั้งหมด ขูดเปลือกและซอยขิงเป็นเส้น จากนั้นซอยต้นหอมผักชีเตรียมไว้ให้เรียบร้อย ลวกไข่จนได้ระดับความสุกที่ต้องการ โจ๊กใกล้จะได้ที่แล้วปั้นไก่เป็นก้อนแล้วนำลงหม้อโจ๊ก ไก่สุกดีแล้วตักใส่ถ้วย ตามด้วยตังฉ่าย, ขิงซอย, กระเทียมเจียว, ต้นหอมผักชี ปิดท้ายด้วยซอสปรุงรสและพริกไทยป่น โจ๊กร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
3. American breakfast

มาทำอเมริกันเบรคฟาสเสิร์ฟคุณพ่อกันดีกว่าค่ะ เมนูนี้ได้รับสารอาหารที่ค่อนข้างครบครันจากไข่ไก่, ไส้กรอก, แฮม, ขนมปัง และผักสดหวานกรอบ เป็นเมื้อเช้าแบบง่าย ๆ สบาย ๆ ใช้เวลาเตรียมง่ายและมีวิธีการทำไม่ซับซ้อนมากนัก เหมาะสำหรับลูก ๆ ที่มีเวลาน้อยหรือเพิ่งเริ่มทำอาหารค่ะ บอกเลยว่าคุณพ่อจะต้องประทับใจและภูมิใจแน่นอนค่ะ
วัตถุดิบ American breakfast
วิธีทำ American breakfast
- ขั้นตอนที่ 1 : เริ่มจากล้างทำความสะอาดผักกาดหอมและมะเขือเทศให้สะอาด สะเด็ดน้ำให้แห้งแล้วฝานมะเขือเทศเป็นแว่นหนาพอประมาณ ส่วนผักกาดเราจะตกแต่งเอาส่วนที่เสียหรือไม่สวยออกไปค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : ละลายเนยในกระทะพอประมาณ จากนั้นตอกไข่ลงกระทะ เพิ่มความอร่อยด้วยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย ปิดฝารอจนได้ความสุกในระดับที่ต้องการแล้วตักขึ้นพักใส่จาน จากนั้นทอดเบคอน, แฮม และไส้กรอก ตกแต่งด้วยผักกาดหอมและมะเขือเทศ พร้อมเสิร์ฟค่ะ
4. บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง

ชวนคุณพ่อมาแข่งกันซู้ดเส้นด้วยเมนูบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง ไม่ต้องออกไปต่อคิวให้เหนื่อยเพราะสูตรของเราสามารถทำเองได้แบบง่ายสุด ๆ แถมยังไม่ต้องเคี่ยวซุปกระดูกหมูให้เหนื่อยและเสียเวลาเพราะเราจะเปลี่ยนมาใช้ผงซุปก๋วยเตี๋ยวแบบสำเร็จรูป ส่วนเกี๊ยวก็สามารถครีเอทรูปทรงได้ตามชอบเลยค่ะ บ้านไหนชอบกินก๋วยเตี๋ยวนี่ไม่ควพลาดเมนูนี้เลย
วัตถุดิบบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง
- เส้นบะหมี่
- หมูเด้ง
- แผ่นเกี๊ยว
- เนื้อหมูสันนอก
- ลูกชิ้น
- ผักกวางตุ้ง
- ต้นหอม
- ผักชี
- สามเกลอ
- ผงหมักหมูแดง
- ผงซุปก๋วยเตี๋ยว
- พริกไทย
- น้ำตาลทราย
- ซอสหอยนางรม
- น้ำเปล่า
วิธีทำบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง
- ขั้นตอนที่ 1 : เริ่มต้นจากส่วนที่ใช้เวลานานที่สุดอย่างการหมักไส้เกี๊ยว เราจะซอยหอมกระเทียมเตรียมไว้ก่อน จากนั้นแบ่งส่วนหนึ่งมาผสมลงในหมูเด้งแล้วปรุงรสด้วยสามเกลอ, น้ำตาลทราย, พริกไทย และซอสหอยนางรม นวดให้เข้ากันดีแล้วหมักทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีในตู้เย็น
- ขั้นตอนที่ 2 : ล้างทำความสะอาดหมูแล้วซับน้ำให้แห้งแล้วนำมาหมักรวมกับผงหมักหมูแดง หมักทิ้งไว้ 20 – 30 นาทีจนเข้าเนื้อแล้วนำไปย่างด้วยหม้ออบลมร้อนหรือหม้อทอดไร้น้ำมัน สุกดีแล้วหยิบออกมาหั่นเป็นชิ้นหนาตามชอบ จากนั้นหันมาล้างผักกวางตุ้งให้สะอาดแล้วหั่นท่อนเตรียมไว้
- ขั้นตอนที่ 3 : หันมาต้มน้ำ 2 หม้อสำหรับลวกก๋วยเตี๋ยวและทำน้ำซุป สำหรับหม้อซุปเราจะปรุงรสชาติด้วยผงซุปสำเร็จรูป รอจนเดือดแล้วนำลูกชิ้นลงต้ม หยิบแผ่นเกี๊ยวมาเคาะเอาแป้งส่วนเกินออกแล้วห่อหมูหมักแล้วนำลงต้ม จากนั้นสะบัดเส้นบะหมี่ในน้ำสะอาดแล้วนำลงในหม้อน้ำเปล่าจนสุก ตามด้วยลวกกวางตุ้ง เทใส่ชามแล้วตามด้วยหมูแดง ตักน้ำซุป, เกี๊ยว และลูกชิ้นราดตามลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอมผักชีและพริกไทยอีกเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟค่ะ
5. แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย

แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายเป็นเมนูที่เหมาะสุด ๆ ในอาการอวดฝีมือการทำอาหารของเชฟคนเก่งค่ะ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายเป็นเมนูไทยโบราณที่หาทานได้ค่อนข้างยากแล้วค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้หลายคนมักจะหันมาใช้เนื้อไก่, หมู หรือเนื้อวัวแทนลูกชิ้นปลากราย ถ้ายิ่งได้เห็นลูก ๆ ลงมือปั้นลูกชิ้นด้วยตัวเองก็ยิ่งทำให้คุณประทับใจและแกงเขียวหวานของเราจะอร่อยขึ้นอีกหลายเท่าตัวแน่นอนค่ะ
วัตถุดิบแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย
- เนื้อปลากรายขูด
- มะเขือเปราะ
- มะเขือพวง
- โหระพา
- พริกชี้ฟ้าแดง
- กระชาย
- พริกแกงเขียวหวาน
- กะทิ
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำปลา
วิธีทำแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย
- ขั้นตอนที่ 1 : ละลายเกลือใน้ำเย็นจัดเล็กน้อย จากนั้นเทเนื้อปลากรายขูดใส่ภาชนะปากกว้างแล้วใช้มือนวดเล็กน้อย ค่อย ๆ เติมน้ำเกลือเย็นจัดลงไปทีละนิดแล้วนวดต่อจนเนื้อปลากรายเนียนและเหนียวขึ้น จากนั้นจับเนื้อปลาฟาดกับภาชนะแรง ๆ จนรู้สึกได้ถึงความเหนียว นำไปแช่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ 15 นาที ระหว่างนั้นเราจะต้มน้ำให้เดือด บุบตะไคร้ใบมะกรูดลงหม้อเพื่อช่วยดับกลิ่นคาวปลา เร่งไฟกลางค่อนแรงแล้วปั้นเนื้อปลาเป็นก้อนนำลงหม้อที่มีน้ำเดือดจัด ต้มจนเนื้อปลาสุกดีแล้วตักขึ้นน็อกน้ำเย็นพักไว้ก่อนค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : หันมาล้างผักสดให้สะอาด เด็ดใบโหระพา, หั่นพริกชี้ฟ้า และซอยกระชายเตรียมไว้ ละลายเกลือในอ่างใส่น้ำ จากนั้นเด็ดมะเขือพวงลงแช่ให้จมน้ำ ส่วนมะเขือเปราะเราจะหั่นแบ่งส่วนแล้วรีบแช่ให้จมน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้มะเขือดำค่ะ
- ขั้นตอนที่ 3 : ผัดหัวกะทิให้แตกมันแล้วนำพริกแกงเขียวหวานลงผัดจนสุกหอม เพิ่มหัวกะทิอีกนิดแล้วผัดต่อจนแตกมันดี จากนั้นใส่หางกะทิลงไปแล้วผัดจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี เร่งไฟแรงจนน้ำแกงเดือดดีแล้วนำลูกชิ้นปลากรายลงหม้อ รอจนน้ำเดือดแล้วตามด้วยกระชาย คนให้กระชายกระจายตัวดี
- ขั้นตอนที่ 4 : น้ำเดือดอีกครั้งใส่มะเขือเปราะ รีบกดให้มะเขือจมน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวมะเขือดำ รอจนมะเขือสุกในระดับที่ต้องการแล้วปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลและน้ำปลา คนจนน้ำตาลละลายดีแล้วตามด้วยมะเขือพวง รอจนมะเขือพวงสุกตามระดับที่ต้องการแล้วตามด้วยพริกชี้ฟ้าและโหระพา กดให้โหระพาจมน้ำแกงเล็กน้อยแล้วปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ
6. กุ้งคั่วพริกเกลือ

เมนูนี้จะเป็นกับข้าวก็ดีกับแกล้มก็เด็ดค่ะ สูตรนี้เราจะเลือกใช้กุ้งที่เปลือกไม่หนามากนัก จะเป็นกุ้งแม่น้ำ, กุ้งก้ามกราม หรือกุ้งแชบ๊วยได้หมดเลยค่ะ นำมาทอดจนกรอบแล้วคลุกพริกกระเทียมสด ๆ หอม ๆ บอกเลยว่าอร่อยจนต้องดูดนิ้ว ในส่วนของรสชาติจะได้ความหวานฉ่ำจากตัวกุ้งและรสเผ็ดเค็มที่เคลือบไว้ด้านนอก
วัตถุดิบกุ้งคั่วพริกเกลือ
- กุ้งสด
- กระเทียม
- พริกสด
- ต้นหอม
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- พริกไทยป่น
- น้ำมันพืช
วิธีทำกุ้งคั่วพริกเกลือ
- ขั้นตอนที่ 1 : ล้างทำความสะอาดแล้วใช้กรรไกรตัดส่วนแหลมแข็งจากตัวกุ้งออกให้หมด จากนั้นใช้มีกรีดเปลือกและหลังกุ้ง ดึงเอาเส้นดำออกแล้วซับให้แห้ง นำลงทอดไฟกลางค่อนแรงจนกุ้งพอสุก เนื้อยังเด้ง ๆ และไม่แยกออกจากเปลือก ยกลงพักไว้ก่อน
- ขั้นตอนที่ 2 : สับพริกกระเทียมพอหยาบ หยิบต้นหอมมาซอย จากนั้นผัดพริกกระเทียมด้วยไฟอ่อนจนสุกหอม ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาล, เกลือ และพริกไทยป่น ผัดจนเข้ากันดีแล้วนำกระเทียมลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
7. ทอดมันปลากราย

ขออนุญาติแนะนำเมนูโปรดของคุณพ่ออย่างทอดมันปลากรายอีกสักหนึ่งเมนูค่ะ เมนูนี้บอกเลยว่าทำง่ายจนต้องตกใจ เพราะวัตถุดิบและวิธีทำไม่เยอะและไม่ยากมากนัก สูตรของเราจะมีรสชาติเผ็ดร้อนกำลังดี มีความนุ่ม ถั่วฝักยาวยังมีความกรุบ ๆ พอประมาณและไม่เหม็นเขียว เสิร์ฟพร้อมแตงกวาสดเย็น ๆ กรอบ ๆ และน้ำจิ้มไก่หรือน้ำจิ้มอาจาดเข้ากันสุด ๆ เพื่อน ๆ สามารถตามไปดูสูตรกันได้ที่ เมนูถั่วฝักยาว : ทอดมันปลากราย
8. Tomahawk Steak

คุณพ่อบ้านไหนเป็นสายเนื้อ เราคิดว่าไม่มีเมนูไหนเหมาะไปกว่าสเต๊กเนื้อแล้วค่ะ สูตรนี้เราจะใช้ส่วนโทมาฮอว์กที่ฮิตสุด ๆ เนื้อจะมีความนุ่ม ฉ่ำ สามารถเลือกระดับความสุกได้ตามต้องการ ใครจะเสิร์ฟพร้อมสลัด, มันบด, เฟรนช์ฟรายส์ หรือสปาเก็ตตี้ก็เข้ากันไปซะหมด หากเพื่อน ๆ สนใจสามารถตามไปดูวิธีย่างเนื้อสเต๊กได้ที่ เมนูเนื้อนานาชาติ : สเต๊กเนื้อ วิธีการทำเหมือนกันเพียงแค่เปลี่ยนส่วนของเนื้อเท่านั้นเองค่ะ
9. ลูกชุบ

เปลี่ยนมาทำขนมทานกันบ้างดีกว่า ลูกชุบเป็นอาหารไทยโบราณสุดครีเอทที่สามารถปั้นเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้หลากหลาย แถมยังเป็นกิจกรรมครอบครัวที่ได้มาช่วยกันปั้นช่วยกันระบายสีคนละไม้คนละมือ หรือใครจะครีเอทปั้นเป็นตัวอักษร เรียงเป็นข้อความบอกรักพ่อแบบน่ารัก ๆ ก็น่าสนใจค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนสนใจกิจกรรมครอบครัวน่ารัก ๆ แบบนี้สามารถดูวิธีทำได้ที่ เมนูขนมไทย : ลูกชุบ
10. บัวลอยงาดำน้ำขิง

ปิดท้ายด้วยเมนูเพื่อสุขภาพอย่างบัวลอยน้ำขิง เมนูนี้เหมาะกับการทานรองท้องก่อนนอนสุด ๆ ค่ะ และที่พิเศษคือเราจะทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่กวนไส้งาดำยันต้มน้ำขิง! บอกเลยว่าเมนูนี้อร่อยและทำง่าย คนที่ทำขนมไม่เก่งก็สามารถทำตามได้ง่ายแน่นอน บัวลอยจะมีความนุ่มหนึบเบา ๆ กัดเข้าไปเจอไส้งาดำหวาน ๆ หอม ๆ เข้ากันได้ดีดับน้ำขิงที่มีรสเผ็ดร้อนเบา ๆ นอกจากความอร่อยแล้วยังช่วยให้หลับสบายอีกด้วย
วัตถุดิบบัวลอยงาดำน้ำขิง
- แป้งข้าวเหนียว
- งาดำ
- ขิงแก่
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำตาลทรายแดง
- เกลือ
- น้ำเปล่า
วิธีทำบัวลอยงาดำน้ำขิง
- ขั้นตอนที่ 1 : คั่วงาดำให้หอม จากนั้นนำไปปั่นจนได้เนื้อเนียนละเอียดแล้วพักไว้ก่อน หันมาเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวบนกระทะจนละลาย จากนั้นนำผงงาดำลงผัดรวมกันแล้วตัดความหวานด้วยเกลือเล็กน้อย ค่อย ๆ เติมจนสามารถปั้นได้ ตักออกจากกระทะแล้วรอจนไส้งาดำอุ่นจนสามารถจับได้ นำมาปั้นเป็นก้อนเตรียมไว้
- ขั้นตอนที่ 2 : ล้างขิงให้สะอาดแล้วขูดเปลือกด้านออก หั่นเป็นแว่นแล้วนำไปต้มกับน้ำสะอาดจนมีรสชาติและส่งกลิ่นหอม จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลทรายแดงทีละน้อยจนได้ความหวานตามต้องการ
- ขั้นตอนที่ 3 : ค่อยผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำทีละน้อยจนสามารถปั้นก้อนได้ หยิบออกมาปั้นเป็นก้อนกลมขนาดใหญ่กว่าไส้งาดำเล็กน้อย จากนั้นรีดให้เป็นแผ่นบางแล้วนำมาห่องาดำ พยายามอย่างให้บางจนเกินไปและห่อปิดให้มิดชิดเลยนะคะ นำบัวลอยที่ได้ลงต้มในน้ำเดือดจนสุก ตักน้ำขิงใส่ถ้วยแล้วตามด้วยบัวลอย เสิร์ฟอุ่น ๆ ได้เลยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 10 เมนูที่เรานำมาฝากในบทความนี้ เพื่อน ๆ สามารถเลือกเมนูที่ชอบไปทำให้คุณพ่อและครอบครัวทานได้เลยนะคะ รับรองว่าท่านจะต้องรู้สึกภูมิใจและมีความสุขสุด ๆ แน่นอนค่ะ นอกจากเมนูอาหารแล้ว หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาการ์ดอวยพร, ของขวัญ หรือคำอวยพรดี ๆ อยู่ก็สามารถกดลิ้งก์เข้าไปอ่านบทความบนเว็บไซต์ของเราได้เลยนะคะ มีบทความและไอเดียดี ๆ ให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ สุดท้ายนี้เราของอวยพรให้คุณพ่อและทุกคนในครอบครัวมีแต่ความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะคะ สุขสันต์วันพ่อค่ะ