อาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดในชีวิตของคนเราเลยใช่ไหมคะ แต่ว่าการทำอาหารกลับเป็นเรื่องน่าปวดหัวอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตเหมือนกัน ยิ่งการทำอาหารสำหรับงานเลี้ยงที่มีคนมากหน้าหลายตามาร่วมงานยิ่งยากขึ้นไปอีก จะทำอันนู้นก็คนนี้กินไม่ได้ จะทำอันนี้ก็คนนั้นกินไม่ได้ แล้วเด็ก ๆ ก็ทานอาหารรสจัดแบบเราไม่ได้อีก เราเข้าใจค่ะว่าการต้องตกอยู่ในสถานะนี้มันน่าปวดหัวแค่ไหน ไม่ต้องกังวลไปนะคะเพราะวันนี้เรามาพร้อมกับ “เมนูอาหารจากหมูสับ” ที่รับรองว่ากินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ
หมูสับที่ดูเหมือนจะเป็นอาหารง่าย ๆ แต่ก็ยากถ้าเราเลือกใช้ไม่ถูกประเภทค่ะ เพื่อน ๆ เคยสังเกตุกันบ้างไหมคะว่าทำไมบางครั้งหมูสับที่เราซื้อมามันมีเนื้อหยาบ บางครั้งก็มีเนื้อเนียนสวย นั่นไม่ใช่ความผิดของร้านหรอกค่ะ แต่หมูสับแต่ละเกรดใช้สำหรับทำอาหารแต่ละเมนูแตกต่างกัน อย่างเช่น ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการใช้หมูสับเพื่อนำไปสอดไส้หรือทำเมนูที่มีรสชาติเบาอย่างซุปหรือโจ๊กก็ควรเลือกซื้อหมูบดละเอียดและมีมันน้อย เพราะเวลาหมูปรุงสุกแล้วจะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียด ไม่มัน ไม่เลี่ยน แต่ถ้าจะทำอาหารรสจัดหรืออาหารประเภททอดก็แนะนำให้เลือกซื้อหมูบดหยาบติดมันค่ะเพราะน้ำมันที่อยู่ในเนื้อหมูจะช่วยคงความชุ่มชื้นและเนื้อหมูจะมีสัมผัสที่หลากหลาย เอาล่ะรู้วิธีการเลือกซื้อหมูบดแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าวันนี้มีเมนูอะไรบ้างที่ทำมาจากหมูสับและอร่อยจนวางช้อนไม่ลง ถ้าอยากรู้ว่าจะมีเมนูโปรดเพื่อน ๆ อยู่กี่เมนูก็เลื่อนชมได้เลยจ้า อย่าได้รอช้า
1. คั่วกลิ้งหมูสับ

ใครชอบทานอาหารรสจัดรับรองว่าต้องถูกใจเมนูนี้แน่นอนค่ะ (โดยเฉพาะคั่วกลิ้งที่เป็นสูตรอาหารใต้) คั่วกลิ้งรสชาติเข้มข้น คั่วแบบแห้ง ๆ พร้อมความหอมจากสมุนไพรเน้น ๆ ใช้หมูสับหยาบที่ยังมีความเป็นชิ้นเหนียวหนึบ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ควันกรุ่น ทานพร้อมแตงกวาแช่เย็นชื่นใจ แค่คิดก็อยากทิ้งงานไปเปิดเตาแล้วค่ะ ?
วัตถุดิบคั่วกลิ้งหมูสับ
- หมูสับ
- พริกแกงคั่วกลิ้ง (พริกแกงผัดเผ็ดใต้)
- พริกไทยอ่อน
- พริกชีฟ้า
- ตะไคร้
- กระชาย
- ใบมะกรูด
- น้ำตาล
- น้ำปลา
- น้ำมันพืช
- ซีอิ๊วขาว
- ผงปรุงรส
วิธีทำคั่วกลิ้งหมูสับ
ขั้นตอนแรกล้างและซอยพริกชีฟ้า, ตะไคร้, กระชาย และใบมะกรูดรอไว้ก่อนค่ะ ส่วนพริกไทยอ่อนเลือกเฉพาะเม็ดพักไว้ ส่วนหมูสับแนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกซื้อหมูสับติดมันแบบหยาบ เวลาเคี้ยวจะได้มีสัมผัสกรุบ ๆ อร่อยมากค่ะ
ตั้งกระทะใส่น้ำมันและเอาพริกแกงลงไปผัดให้หอมเลยค่ะ ถ้าได้ยินเสียงบ้านข้าง ๆ จามเมื่อไหร่เป็นอันใช้ได้ หลังจากนั้นใส่หมูสับลงไปทันทีทันใด ผัดไปเรื่อย ๆ จนหมูเริ่มสุกเราก็ปรุงรสด้วยผงปรุงรส, น้ำตาล, ซีอิ๊วขาว และน้ำปลา แนะนำให้ใส่เครื่องปรุงครั้งละนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะพริกแกงบางร้านมีความเค็มอยู่แล้ว ชิมรสให้ออกเค็ม ๆ หวานปลายลิ้น คั่วต่อจนหมูแห้งและกระทะไหม้เกรียมนิด ๆ จะหอมกลิ่นคั่วมาก
หมูแห้งแล้วจัดการใส่สมุนไพรที่เราซอยไว้ลงไปเลยค่ะ เว้นมะกรูดไว้ตกแต่งนิดหน่อย คั่ว ๆ คลุก ๆ ให้เข้ากันนิดนึง ชิมรสชาติอีกหน่อยว่าอร่อยลงตัวหรือยัง ถ้าได้แล้วก็ตักใส่จานแล้วโรยใบมะกรูดปิดท้ายเพื่อความสวยงาม ถ้าเพื่อน ๆ จะใส่พริกแห้งเพิ่มความหอมก็ได้นะคะ มันจะเพิ่มรสชาติและอร่อยขึ้นอีกระดับเลย
2. สปาเกตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ

เมนูโปรดของเด็ก ๆ เลยค่ะ เส้นสปาเกตตี้นุ่ม ๆ ชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสมะเขือเทศและหมูสับ แอบใส่ผักสามสีไปเนียน ๆ รสชาติหวานอมเปรี้ยวพร้อมความหอมจะอบอวลอยู่ในปาก อร่อยและได้สารอาหารครบถ้วน รับรองว่าเด็กที่ไม่ยอมทานผักต้องยอมศิโรราบให้กับเมนูท่าไม้ตายของเราแน่นอนค่ะ ?
วัตถุดิบสปาเกตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ
- เส้นสปาเกตตี้
- หมูสับ
- ผักสามสี (แครอทหั่นเต๋า ถั่วลันเตา ข้าวโพด)
- มะเขือเทศ
- หอมใหญ่
- น้ำตาล
- พริกไทยป่น
- ซอสมะเขือเทศ
- น้ำมันพืช
- น้ำเปล่า
วิธีทำสปาเกตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ
ตั้งหม้อใส่น้ำรอให้เดือด อาจจะเหยาะน้ำมันพืชและเกลือเพิ่มลงไปด้วยก็ได้นะคะ กันเส้นติดกันและทำให้เส้นมีรสชาติมากยิ่งขึ้น หลังจากน้ำเดือดแล้วก็ใส่เส้นสปาเกตตี้ลงไปเลยค่ะ จับเวลาตามคำแนะนำข้างกล่อง เส้นสุกแล้วก็ตักขึ้นมาพักและคลุกน้ำมันอีกเล็กน้อยพอให้เส้นไม่เกาะตัว
หลังจากนั้นล้างทำความสะอาดผักต่าง ๆ สับหอมใหญ่ให้ละเอียดเลยค่ะเด็ก ๆ จะได้ทานง่ายและไม่มีกลิ่น มะเขือเทศก็เอาเมล็ดออกและบดหรือปั่นให้ละเอียดเช่นกัน ส่วนผักสามสีนำไปต้มให้สุก เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อผักสามสีแช่แข็งได้ตามร้านสะดวกซื้อหรือในห้างค่ะ ถ้าไม่มีก็ตัดส่วนผสมนี้ออกไปได้
หลังจากเตรียมผักเรียบร้อยแล้วเราก็ตั้งกระทะและรอน้ำมันเริ่มร้อน นำหอมใหญ่สับส่วนหนึ่งลงไปผัดให้หอมด้วยไฟอ่อน ๆ ตามด้วยหมูสับ ผัดจนหมูสุกปรุงรสด้วยน้ำตาลและพริกไทยป่นอย่างละนิดอย่างละหน่อยให้พอมีรสชาติ เสร็จแล้วก็ใส่หอมสับส่วนที่เหลือและมะเขือเทศบด ตามด้วยซอสมะเขือเทศและเติมน้ำเปล่าอีกนิดหน่อยซอสจะได้ไม่ข้นจนเกินไป ผัดต่อจนส่วนผสมทั้งหมดสุกหอมเลยค่ะ ชิมรสให้หวานอมเปรี้ยวและมีกลิ่นพริกไทยติดปลายลิ้นเล็กน้อย ใส่ผักสามสีลวกลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันเลย
ปรุงซอสเสร็จเรียบร้อยเราก็เอาเส้นสปาเก็ตตี้จัดเรียงลงจานแล้วราดน้ำซอสลงไปเลยค่ะ แค่นี้สปาเก็ตตี้หมูสับซอสมะเขือเทศ กลิ่นหอมยั่วใจก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว เพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยนจากเส้นสปาเกตตี้เป็นเส้นพาสต้าหรือเส้นชนิดอื่นได้ตามชอบเลยค่ะ ส่วนเวลาในการต้มก็ทำตามคำแนะนำข้างกล่องเลย
3. ไข่เจียวหมูสับ

เมนูง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวันไม่มีเบื่อ เพราะเราสามารถดัดแปลงใส่นู่นผสมนี่ลงไปในไข่เจียวได้หลากหลายอย่าง และวันนี้เราก็นำสูตรเด็ดเคล็ดลับในการทำไข่เจียวหมูสับมาแบ่งเพื่อน ๆ กันค่ะ ความพิเศษของไข่เจียวหมูสับของเราก็คือ … ไข่เจียวคลีนไร้น้ำมันนั่นเอง ไปดูกันเลยดีกว่าว่าเมนูนี้จะมีวิธีการทำอย่างไร ?
วัตถุดิบไข่เจียวหมูสับ
- ไข่ดิบ
- หมูสับ
- น้ำมันพืช
- ซีอิ๊วขาว
- พริกไทยป่น
- น้ำเปล่า
วิธีทำไข่เจียวหมูสับในหม้อทอดไร้น้ำมัน
วิธีทำง่ายดายมาก ๆ เลยค่ะ เริ่มจากการตอกไข่ใส่ภาชนะทนความร้อน ตีผสมจนไข่เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่หมูสับ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทย ใส่น้ำเปล่าลงไปสักหนึ่งช้อนโต๊ะไข่จะได้นุ่มฟู หลังจากนั้นก็คนให้ความหอมของซีอิ๊วแทรกซึมอยู่ในทุกอณูของไข่เลยค่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เอาอาวุธลับของเราออกมา นั่นก็คือหม้อทอดไร้น้ำมันนั่นเอง
เพื่อน ๆ แค่นำถ้วยไข่ของเราใส่ลงไปในตะแกรงของหม้อทอด ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อยไข่จะได้ไม่แข็งกระด้าง ทอดในอุณหภูมิ 180 องศาประมาณ 10-15 นาที แค่นี้ไข่เจียวนุ่มฟูของเราก็พร้อมทานแล้วค่ะ แต่อย่าเพิ่งจับถ้วยนะคะเพราะจะร้อนมาก ใจเย็น ๆ ก่อน รอสักพักให้ถ้วยเย็นลงหรือใช้ที่คีบอาหารคีบถ้วยออกมาพักข้างนอกก็ได้ค่ะ ไม่ต้องกลัวอ้วนเพราะน้ำมันที่เราใส่ไปตอนแรกจะถูกรีดออกมาพร้อมกับน้ำมันหมู อิ่มครบจบในขั้นตอนเดียว
4. กะเพราหมูสับไข่เขี่ยวม้า

เมนูง่าย ๆ ในดวงใจของหลายคน วันนี้ไม่รู้จะทานอะไรดีก็สั่งกะเพราหมูสับไว้ก่อนง่ายดี สรุปได้ทานผัดกะเพราทุกวันเพราะขี้เกียจคิดเมนู ฮ่าๆ แต่ถึงกะเพราจะเป็นเมนูง่าย ๆ แต่รสชาติและหน้าตาของแต่ละร้านก็ไม่เหมือนกันนะเธอ บางร้านผัดมาฉ่ำ ๆ บางร้านคั่วแบบแห้ง ๆ บางร้านใส่ถั่วฝักยาวจนเกิดเป็นประเด็นเด็ดบนโลกโซเชียลก็มีมาแล้ว วันนี้เราจึงชวนเพื่อน ๆ มาทำกะเพราหมูสับสูตรของเราเองดูบ้าง รับรองว่าอร่อยไม่แพ้ใครเลยนะ วิธีการทำก็ง่ายแสนง่าย ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีวัตถุดิบและวิธีการทำอย่างไรบ้าง
วัถุดิบกระเพราหมูสับไข่เยี่ยวม้า
- หมูสับ
- ไข่เยี่ยวม้า
- ใบกะเพรา
- กระเทียม
- พริกขี้หนูสด
- ซอสหอยนางรม
- น้ำปลา
- น้ำตาล
- น้ำมันพืช
วิธีทำกระเพราหมูสับไข่เยี่ยวม้า
ขั้นตอนแรกเริ่มจากการล้างผักของเรากันก่อนค่ะ เสร็จแล้วปอกกระเทียมแล้วนำไปตำหยาบ ๆ รวมกับพริกสด เรียบร้อยแล้วก็หันมาเด็ดใบกะเพรา ยิ่งใส่เยอะยิ่งอร่อยค่ะ ดีต่อสุขภาพด้วย ตามด้วยปอกไข่เยี่ยวม้า หั่นเป็นสี่ชิ้น แล้วนำไปทอดเพื่อความกรุบกรอบ
ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย น้ำมันเริ่มร้อนก็ใส่พริกกระเทียมตำลงไปเลย ผัดให้หอมไปทั้งซอยเลยค่ะ หลังจากนั้นใส่หมูสับตามลงไป คลุกๆ ยี ๆ ให้หมูแยกตัวไม่เกาะเป็นก้อน ตามด้วยไข่เยี่ยวม้าที่เราทอดไว้แล้ว พอหมูเริ่มสุกแล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำตาล, น้ำปลา และซอสหอยนางรม ชิมรสชาติให้ออกเผ็ด เค็ม หวาน ปรุงให้รสเข้มหน่อยนะคะเวลาทานกับข้าวแล้วจะได้เข้ากันพอดี หลังจากได้รสชาติที่ตามหาแล้วก็ใส่ใบกะเพราลงไปเลยค่ะ รีบผัดด้วยความว่องไว คลุกให้ใบกะเพราเหี่ยวก็เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ ตักเสิร์ฟพร้อมไข่ดาวหรือไข่เจียวก็อร่อย
5. ต้มจืดหมูสับ

เมนูอร่อยที่ได้อัดแน่นไปด้วยประโยชน์เน้น ๆ เมนูนี้มีส่วนผสมแค่ไม่กี่อย่างและใช้เวลาทำไม่นานเลย แถมยังเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยผักต่าง ๆ ที่มีสารอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ, วิตามินบี, เบต้าแคโรทีน หรือคาร์โบไฮเดรต อย่ารอช้าเรามาดูวิธีทำต้มจืดหมูสับไว้ซดร้อน ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ ?
วัตถุดิบต้มจืดหมูสับ
- หมูสับ
- ผักตามชอบ
- กระเทียม
- ผงปรุงรส
- ซีอิ๊วขาว
- พริกไทยป่น
- น้ำเปล่า
วิธีทำต้มจืดหมูสับ
อันดับแรกเริ่มจากการล้างผักก่อนเลย ใส่ผักอะไรก็ได้ที่ชอบเลยค่ะ ล้างให้สะอาด ผักใบก็ล้างแบบน้ำไหลผ่านสารเคมีต่าง ๆ จะได้ไหลไปกับน้ำจนหมดเกลี้ยง ส่วนผักที่เป็นหัวก็ปอกเปลือกหั่นชิ้นให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็ตั้งหม้อใส่น้ำให้เดือด ใส่ผักที่มีความแข็งลงไปต้มก่อนเลย
หันมาจัดการกับน้องหมูสับกันบ้าง เพื่อน ๆ สามารถใส่น้ำเปล่าในอัตรา 1:3 แล้วผสมจนน้ำและเนื้อหมูเนียนเป็นเนื้อเดียวกันเพื่อเพิ่มความฉ่ำและหมูของเราจะไม่แน่นจนเกินไป หลังจากนั้นก็ปรุงรสด้วยผงปรุงรสและพริกไทยป่น คนให้เข้ากัน
น้ำเดือดแล้วก็ทุบกระเทียมสักกลีบสองกลีบใส่ลงไปเลยค่ะ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเพิ่มความหอม หลังจากนั้นปั้นหมูเป็นก้อนแล้วใส่ลงไปในหม้อซุป รอให้หมูสุกลอยก็ตามด้วยผักที่เหลือ คนอีกสองสามครั้งให้ผักสุกก็ปิดเตาจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ
6. ซาลาเปาผักกาด
เริ่มต้นกันด้วยเมนูน่ารัก ๆ และดีต่อสุขภาพค่ะ สำหรับบ้านไหนที่กำลังประสบปัญหาเด็ก ๆ ไม่ยอมกินผักต้องลองทำเมนูนี้ดู เพราะกลิ่นหอมและความเด้งของหมูสับเข้ากับรสชาติหวานของผักกาดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เมนูนี้ยังใช้เครื่องปรุงรสแค่ชนิดเดียวดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าคลีนและปลอดภัยแน่นอน ?
วัตถุดิบซาลาเปาผักกาด
- หมูสับ
- ผักกาดขาว
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำเปล่า
วิธีทำซาลาเปาผักกาด
ล้างผักกาดขาวให้สะอาดและฉีกเป็นใบรอไว้ก่อนค่ะ หลังจากนั้นก็ต้มน้ำให้เดือดและลวกใบผักกาดให้นิ่ม พักไว้ให้เย็น
เลือกหมูสับแบบละเอียดที่มีมันผสมน้อยที่สุด นำมาผสมกับน้ำเปล่าในอัตรา 1:3 แล้วขยำหรือคลุกเคล้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน วิธีนี้จะช่วยให้เนื้อหมูเด้งและฉ่ำมากเลยค่ะ หลังจากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเล็กน้อยให้พอมีรสชาติ ส่วนเนื้อหมูมันน้อยจะช่วยให้ซาลาเปาของเรารสชาติดีและไม่เลี่ยน เสร็จแล้วก็ตั้งหม้อนึ่งเตรียมไว้
นำผักกาดลวกมาเรียงใส่ถ้วยเป็นชั้น วางเนื้อหมูหมักลงไปและเกลี่ยให้บางจนทั่วและวางผักกาดลวกทับอีกชั้นหนึ่ง ทำสลับกันจนเต็มถ้วย ปิดท้ายด้วยใบผักกาดคลุมเนื้อหมูให้มิดชิดเลยนะคะ
หลังจากน้ำในหม้อนึ่งที่เตรียมไว้เดือดได้ที่แล้วก็วางถ้วยผักกาดหมูที่เราทำไว้เลยค่ะ ปิดฝานึ่งประมาณ 5-10 นาที แล้วยกลง คว่ำถ้วยใส่จานอีกหนึ่งใบ แค่นี้ซาลาเปาผักกาดหอมอร่อยก็พร้อมทานแล้วค่ะ ยิ่งถ้าเพื่อน ๆ มีหม้อนึ่งไฟฟ้าก็ยิ่งสะดวกเลยเพราะเราสามารถนึ่งอาหารได้หลายชนิดในครั้งเดียว ประหยัดเวลามาก ๆ
7. ลาบหมูสับทอด

ลาบหมูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเพราะน้องคนนี้เขามาพร้อมกับความกรุบกรอบรสชาติเข้มข้นถึงใจ อัดแน่นไปด้วยความหอมหวนชวนรับประทาน เมนูนี้เอาใจสายดื่มสายก๊งโดยเฉพาะ ยิ่งช่วงปีใหม่แล้วยิ่งเข้ากั๊นเข้ากันสุด ๆ เป็นเมนูที่ทำง่าย อร่อย และใช้เวลาไม่นานค่ะ
วัตถุดิบลาบทอด
- หมูสับ
- ใบมะกรูด
- ผักชีฝรั่ง
- หอมแดง
- พริกแห้ง
- แป้งทอดกรอบ
- ผงปรุงรสลาบ
- ข้าวคั่ว
- น้ำมันพืช
วิธีทำลาบทอด
เริ่มจากการเลือกหมูสับติดมันชนิดหยาบเพราะน้ำมันในเนื้อหมูจะทำให้ลาบของเราชุ่มฉ่ำค่ะ หลังจากนั้นซอยใบมะกรูด, ผักชีฝรั่ง และหอมแดง เสร็จแล้วนำมาผสมกับหมูสับ ปรุงรสด้วยผงปรุงรสลาบ เพิ่มความกรุบกรอบด้วยแป้งทอดกรอบและข้าวคั่วอีกหน่อย คลุกเคล้าให้ส่วนผสมสมานฉันท์สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
หันมาตั้งกระทะไฟกลาง เทน้ำมันพืชรอร้อน น้ำมันได้ที่แล้วเราก็จัดการปั้นลาบหมูของเราเป็นก้อนและนำลงทอดเลย ทอดจนสุกหอมก็ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันอีกหน่อย หลังจากนั้นเพื่อน ๆ นำพริกแห้งและใบมะกรูดลงทอดต่อให้สุกประมาณ 80% ค่ะ ตักขึ้นมาพักจนเย็นจะสุกกรอบพอดีเป๊ะแล้วก็จัดจานพร้อมเสิร์ฟ
8. เกี๊ยวน้ำใส ใส่หมูสับ

เปลี่ยนมาเป็นเมนูเบาๆ กับวันฝนตกกันบ้างกับเกี๊ยวน้ำใสสูตรของเรา ใช้แผ่นเกี๊ยวบาง ๆ อัดแน่นไปด้วยหมูสับนุ่มเด้ง พร้อมน้ำซุปอุ่น ๆ รสชาติกลมกล่อมและไชเท้าหวาน ๆ ซดร้อน ๆ นั่งดูหมอกชิล ๆ รับรองว่าอุ่นท้องสบายไปทั้งวันแน่นอนค่ะ ส่วนวิธีการทำก็ง่ายแสนง่าย ไปดูกันเลย ?
วัตถุดิบเกี๊ยวน้ำใส
- แผ่นเกี๊ยว
- หมูสับ
- ผักกวางตุ้ง
- หัวไชเท้า
- ผักชี
- ต้นหอม
- พริกไทยดำ
- กระเทียม
- เบกกิ้งโซดา
- ผงปรุงรส
- ซีอิ๊วขาว
- ซอสหอยนางรม
- น้ำมันงา
- น้ำเปล่า
วิธีทำเกี๊ยวน้ำใส
ขั้นตอนแรกเรานำของสดมาล้างทำความสะอาด ปอกเปลือกไชเท้าหั่นชิ้นให้เรียบร้อย ตามด้วยซอยต้นหอมผักชี แล้วก็โขลกกระเทียม, พริกไทย และรากผักชีรอไว้ค่ะ สิ่งนี้เรียกว่าสามเกลอ เสร็จแล้วตั้งหม้อต้มน้ำรอเดือด ใส่ไชเท้าลงไปต้ม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว หลังจากนั้นหันมาหมักหมูด้วยสามเกลอ, ผงปรุงรส, ซอสหอยนางรม, น้ำมันงา และเบกกิ้งโซดา คลุกเคล้าผสมจนทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เบกกิ้งโซดาไม่ต้องใส่เยอะนะคะเดี๋ยวหมูของเราเสียรสชาติ
ตั้งหม้ออีกใบใส่น้ำรอให้เดือดเลยค่ะ ตักหมูวางตรงกลางแผ่นเกี๊ยว เแตะขอบข้าง ๆ ด้วยน้ำเปล่าห่อปิดให้สวยงาม ไม่ต้องใส่หมูเยอะมากนะคะเดี๋ยวตอนสุกหมูจะพองตัวขึ้นอีก หลังจากนั้นเอาเกี๊ยวลงไปต้ม แผ่นเกี๊ยวลอยแล้วรออีกสี่ห้านาทีให้หมูสุกก็ตักขึ้นมาพักไว้ได้เลยค่ะ ส่วนน้ำต้มที่เหลือก็ใช้ลวกผักกวางตุ้ง หันมาดูน้ำซุปของเรากันบ้าง สังเกตุให้หัวไชเท้าสุกใสและนิ่มแล้วก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ ชิมรสชาติให้ออกเค็ม ๆ หวาน ๆ กลมกล่อม จัดวางเกี๊ยวและผักกวางตุ้งลงในถ้วยแล้วตักน้ำซุปพร้อมไชเท้าราดลงไปให้สวยงาม เกี๊ยวน้ำใสร้อน ๆ คล่องคอพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
9. ซุปกิมจิ

ถ้าเพื่อน ๆ ชอบดูซีรีส์เกาหลีต้องรู้จักซุปยอดฮิตจากประเทศเกาหลีใต้ที่ต้องมีอยู่ในซีรีส์ทุกเรื่องอย่างซุปกิมจิแน่นอน ยิ่งเรื่องอิแทวอนคลาสนี่บอกเลยว่าดูไปหิวไปจนอยากลุกไปหาซุปร้อน ๆ สักถ้วยมาทานแก้หิว แน่นอนว่าอยากกินต้องได้กิน วันนี้เราได้สูตรซุปกิมจิจากครัวทันบัมมาแบ่งปันเพื่อน ๆ จะมีวัตถุดิบอะไรบ้างไปดูกันเลย ?
วัตถุดิบซุปกิมจิ
- กิมจิ
- เต้าหู้
- หมูสับ
- เห็ดเข็มทอง
- โคชูจัง
- พริกป่นเกาหลี
- ต้นหอม
- หอมใหญ่
- พริกไทยป่น
- เกลือ
- น้ำตาลทราย
- น้ำเปล่า
- น้ำมันพืช
วิธีทำซุปกิมจิ
วิธีทำก็ง่ายแสนง่ายค่ะ เริ่มต้นจากการเอาผักทั้งหมดไปล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นซอยหอมใหญ่และต้นหอม ถ้าเพื่อน ๆ ใช้ต้นหอมญี่ปุ่นก็จะยิ่งได้ฟีลเกาหลีมากขึ้นนะคะ ซอยหอมแล้วก็หั่นเต้าหู้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาตามต้องการเลย เพื่อน ๆ จะใช้เต้าหู้อ่อนหรือเต้าหู้แข็งก็ได้นะ เลือกตามที่เราชอบเลย หั่นเต้าหู้แล้วก็ล้างเห็ดตัดโคนให้เรียบร้อย
ตั้งหม้อแล้วใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยค่ะ นำหอมใหญ่กับหมูสับลงไปผัดให้หอม ปรุงรสด้วยน้ำตาล, เกลือ และพริกไทยป่น ไม่ต้องใส่เยอะมากนะคะ เอาแค่พอได้กลิ่น หมูสุกแล้วก็ตามด้วยกิมจิและน้ำเปล่าตามที่ต้องการเลยปล่อยให้น้ำเดือดก็ใส่โคชูจังตามลงไป ชิมรสให้ออกเปรี้ยว หวาน เผ็ด ปกติโคชูจังไม่เผ็ดมากนะคะแค่พริกมีสีแดงเข้มเท่านั้นเอง แต่ถ้าเพื่อน ๆ ชอบทานรสเผ็ดก็เพิ่มพริกป่นเกาหลีลงไปอีกได้ค่ะ
ซุปเดือดและมีรสชาติที่ใช่ก็จัดการใส่เต้าหู้และเห็ดเข็มทองของเราลงไปเลย ตรงขั้นตอนนี้แซะ ๆ ให้น้องเต้าหู้โดนน้ำซุปให้ทั่วถึงนะคะ แต่อย่าคนบ่อยเพราะเต้าหู้เละและจะไม่สวย ปิดฝารอเต้าหู้สุกอีกแปปนึงก็ตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยต้นหอมซอยแค่นี้ก็พร้อมทานแล้วค่ะนูน่า
10. หมูโสร่ง

เมนูเด็ดมัดใจสามีของแม่นายการะเกศจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส สแน็คฉบับไทยโบราณ หมูสับคลุกเคล้าด้วยสมุนไพรและเครื่องปรุงชั้นดี รสชาติกลมกล่อมลงตัว เพิ่มเท็กเจอร์ด้วยเส้นหมี่สั้วกรุบ ๆ ได้อรรถรส เมนูหมูโสร่งสูตรของเราส่งตรงมาจากอโยธยาเลยค่ะ รับรองว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้รสมือแม่หญิงการะเกดแน่นอน ?
วัตถุดิบหมูโสร่ง
- เส้นหมี่สั้ว
- หมูสับ
- กระเทียม
- รากผักชี
- พริกไทย
- ไข่ดิบ
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำเปล่า
- น้ำมันพืช
วิธีทำหมูโสร่ง
เริ่มต้นด้วยการลวกเส้นหมี่สั้วกันก่อนเลยค่ะ ลวกแค่พอสุกนิ่มไม่ต้องถึงกับเละนะคะ ไม่งั้นเวลานำมาประกอบร่างเราจะลำบากกว่าเดิมค่ะ เส้นสุกพอดีแล้วก็นำไปผึ่งให้แห้ง ตำกระเทียม, พริกไทย และรากผักชีให้เข้ากัน นำมาผสมกับหมูสับและไข่ดิบ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว หลังจากนั้นคลุกเคล้าให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกันเลยค่ะ
หมูของเราเนียนได้ที่แล้วก็จัดการปั้นเป็นก้อนแล้วหยิบเส้นหมี่สั้วสักสามสี่เส้นมาประกบติดกันแล้วพันหมูปั้นของเราให้ทั่วเลย ขั้นตอนนี้อาจจะใช้ความอดทนและเวลานานหน่อยนะคะ สู้ ๆ ค่ะ
หลังจากพันหมูกับหมี่สั้วเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็ตั้งกระทะเติมน้ำมันให้ท่วมเลยค่ะ หลังจากน้ำมันร้อนแล้วก็ทอดไฟกลางจนเส้นหมี่สั้วเหลืองทองน่ารับประทานก็ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่หรือน้ำจิ้มบ๊วยก็อร่อยนะออเจ้า
11. ข้าวโพดทอดหมูสับ
ปิดท้ายกันด้วยเมนูทานเล่นอร่อย ๆ ที่เต็มไปด้วยสารอาหาร กับเมนู ข้าวโพดทอดหมูสับ เป็นการเอาหมูสับไปหมักกับเครื่องเทศจนหอมกรุ่น ทอดพร้อมข้าวโพดเม็ดโตหวาน ๆ เป็นการผสมผสานที่ดูเหมือนจะไม่ใช่แต่เข้ากันอย่างน่าเหลือเชื่อเลยค่ะ ส่วนวัตถุดิบและวิธีทำก็ไม่ยุ่งยากเลย ไปดูกันดีกว่าว่าเมนูนี้จะมีส่วนผสมอะไรบ้าง ?
วัตถุดิบข้าวโพดทอดหมูสับ
- หมูสับ
- ข้าวโพด
- วุ้นเส้น
- กระเทียม
- พริกไทย
- รากผักชี
- แป้งทอดกรอบ
- ผงปรุงรส
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาล
- น้ำมันพืช
วิธีทำข้าวโพดทอดหมูสับ
ขั้นตอนแรกเราฝานข้างโพดก่อนค่ะ หลังจากนั้นตำดระเทียม, พริกไทย และรากผักชีให้เนียนละเอียด น้ำไปผสมกับหมูสับและข้าวโพดทอด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว, ผงปรุงรส และน้ำตาล ปิดท้ายด้วยวุ้นเส้นหั่นท่อนสั้น ๆ คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันและหมักทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วคลุกแป้งทอดกรอบ
ตั้งกระทะรอน้ำมันร้อนก็ปั้นหมูหมักลงไปทอดเลยค่ะ ทอดไฟกลางจนหมูสุกเหลืองก็ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่หรือทานเปล่า ๆ ก็อร่อยนะคะ เป็นเมนูทานเล่นที่ทำง่ายและรวดเร็วมาก ๆ เลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ กับเมนูหมูสับที่เรานำมาฝากวันนี้ แต่ละเมนูนี่หน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลยใช่ไหมคะ แถมวิธีทำก็ไม่ได้ยากอย่างที่เราคิด ถ้าเพื่อน ๆ กำลังฝึกทำอาหารหรือมองหาเมนูใหม่ ๆ ก็สามารถลองทำตามสูตรของเราได้นะ รับรองว่าอร่อยติดใจแน่นอนค่ะ หากใครอยากลองเมนูอื่น ๆ อย่าง หมูสามชั้นหรือหมูกรอบ เรามีเคล็ดไม่ลับมาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย แต่สำหรับวันนี้ต้องขอตัวก่อนแล้วนะคะ ไว้เจอกันใหม่ สวัสดีค่ะ