สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ และวันนี้เราก็กลับมาพร้อมกลับเมนูอาหารเด็ด ๆ เช่นเคยค่ะ ซึ่งวัตถุดิบหลักของเราในวันนี้ก็คือ “กุ้ง” นั่นเอง กุ้งคงจะเป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คนอยู่แล้วเพราะไม่ว่าจะเอามาทำเมนูไหนก็อร่อยเข้ากันไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด หุง อุ่น ตุ๋น ต้ม นึ่ง ก็เข้ากั๊นเข้ากัน โดยเฉพาะเมนูกุ้งเผานี่แค่คิดก็น้ำลายสอแล้วค่ะ หลายคนคงจะนึกไม่ออกใช่ไหมล่ะคะว่านอกจากเผาและดองแล้วกุ้งยังเอาไปทำอะไรได้อีก
วันนี้เราจึงเอาเมนูที่มีกุ้งเป็นวัตถุดิบหลักมาแบ่งปันเพื่อน ๆ กันค่ะ รับรองว่าทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อแน่นอน
1. กุ้งแช่น้ำปลา

เปิดเมนูแรกกันแบบแซ่บซี๊ดถึงใจกับเมนูกุ้งแช่น้ำปลา ตั้งวงเมื่อไหร่ต้องมีเมื่อนั้น สูตรของเราเนื้อกุ้งจะสด หวาน กรอบ เด้งดึ๋งดั๋ง ใส่มาครบเครื่องทั้งกะหล่ำปลี, มะระ, สะระแหน่ และกระเทียม ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้เป็นตัวช่วยลดกลิ่นคาวชั้นดีทำให้เราเอนจอยกับกุ้งสดมากขึ้น เพิ่มความซี๊ดซ๊าดด้วยน้ำจิ้มสุกี้รับรองว่าอร่อยถึงใจแน่นอน
วัตถุดิบกุ้งแช่น้ำปลา
- กุ้งสด
- มะระจีน
- ใบสะระแหน่
- กะหล่ำปลี
- กระเทียม
- พริกสด
- มะนาว
- โซดา
- เกลือป่น
- น้ำปลา
- น้ำตาลปี๊บ
- น้ำแข็ง
วิธีทำกุ้งแช่น้ำปลา
เริ่มจากล้างทำความสะอาดกุ้งด้วยเกลือป่นเพื่อดับคาว ตัดหัว, แกะเปลือก และผ่าหลังเอาเส้นดำกุ้งออกก่อนค่ะ หลังจากนั้นแซ่น้ำโซดาเย็นจัดและโปะน้ำแข็งทับไว้ประมาณ 10 – 15 นาทีให้เนื้อกุ้งเด้งกรอบ ครบเวลาแล้วคลุกน้ำปลาและแช่ฟรีซพักไว้
หันมาทำความสะอาดผักกันบ้าง เด็ดใบสะระแหน่, ซอยกะหล่ำปลี, ฝานกระเทียมบาง ๆ และหั่นมะระแช่น้ำเกลือ 10 นาทีเพื่อลดขม หลังจากนั้นแช่น้ำเปล่าอีกหนึ่งรอบ ส่วนมะนาวฝานและคั้นน้ำรอไว้ได้เลยค่ะ
ทำน้ำจิ้มโดยการนำพริกสด, กระเทียม, น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาวไปปั่นผสมให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นนำกุ้งออกมาจากฟรีซ
จัดเรียงโดยการวางกะหล่ำปลีฝอยเป็นฐาน เรียงกุ้งและมะระแว่น หยิบกระเทียมและใบสะระแหน่วางบนตัวกุ้งอีกชั้น ปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บราดลงไปด้วยความบรรจง
2. กุ้งอบวุ้นเส้น

เมนูยืนหนึ่งในดวงใจชายคนไหนก็แทนที่ไม่ได้ของเราเองค่ะ วุ้นเส้นเหนียวนุ่มหมักซอสหอม ๆ เค็มๆ ทานกับเนื้อกุ้งหวานฉ่ำ เคี้ยวโดนพริกไทยเผ็ด ๆ พอมีเท็กเจอร์ ยิ่งนึกถึงตอนเปิดฝาหม้อแล้วควันลอยกรุ่นขึ้นมาพร้อมกลิ่นหอมของน้ำมันงาผสมกับกลิ่นเครื่องปรุงเข้มข้นยิ่งฟิน ไปทานอาหารนอกบ้านทีไรต้องสั่งเมนูนี้ตลอด กลิ่นหอมจนต้องเอาสูตรมาแชร์เพื่อน ๆ
วัตถุดิบกุ้งอบวุ้นเส้น
- กุ้งสด
- มันหมู
- วุ้นเส้นแบบแห้ง
- ข่าแก่
- พริกไทยดำเม็ด
- รากผักชี
- กระเทียม
- ขึ้นฉ่าย
- เกลือ
- ซอสหอยนางรม
- ซอสปรุงรส
- ซีอิ๊วขาว
- ซีอิ๊วดำ
- น้ำตาลทราย
- น้ำมันงา
- น้ำเปล่า
วิธีทำกุ้งอบวุ้นเส้น
ขั้นตอนแรกเรานำวุ้นเส้นแบบแห้งไปแช่น้ำก่อนเลยค่ะ แล้วก็มาจัดการล้าง ตัดกรีกุ้ง และดึงเส้นดำออกโดยการนำไม้จิ้มฟันแทงตรงเปลือกข้อที่สองและข้อก่อนสุดท้ายของกุ้งแล้วงัดขึ้น เส้นดำจะติดมาด้วยเราก็ดึงออกมาเลยค่ะ วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถเอาเส้นดำออกได้โดยที่ไม่ต้องปอกเปลือกเลย
จัดการกุ้งเสร็จแล้วก็มาเตรียมน้ำราดกันต่อ นำน้ำตาล, เกลือ, ซอสหอยนางรม, ซอสปรุงรส, ซีอิ๊วขาว, ซีอิ๊วดำ และน้ำมันงาผสมเข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลละลายและเติมน้ำเปล่าเพื่อเจือจาง หลังจากนั้นนำวุ้นเส้นลงไปแช่เลยค่ะ
ตั้งหม้อที่จะใช้อบบนเตา นำมันหมูลงไปผัดจนมีน้ำมันออกมาแล้วตามด้วยพริกไทยเม็ด, รากผักชีทุบ, กระเทียมทุบ และข่าหั่นแว่นลงไปผัดต่อให้หอม หลังจากนั้นปิดเตาก่อนค่ะ นำกุ้งลงไปเรียงให้สวยงาม ตามด้วยวุ้นเส้นที่แช่ไว้ ราดน้ำที่เราผสมลงไปปิดท้าย ปิดฝาและเปิดเตาอีกครั้ง อบไปเรื่อย ๆ จนกุ้งสุกเลยค่ะ ระหว่างรอก็หั่นขึ้นฉ่ายเตรียมไว้ ส่วนหม้ออบเราสามารถเปลี่ยนเป็นหม้อหุงข้าวก็ได้ค่ะ สะดวกดี
กุ้งสุกได้ที่แล้วก็ปิดเตาเลยค่ะ ปิดฝาโรยขึ้นฉ่ายลงไปสวย ๆ แล้วปิดฝารออีกหน่อย ประมาณ 3 นาทีก็พอค่ะ ขึ้นฉ่ายโดนความร้อนแล้วจะยิ่งเสริมให้กลิ่นของเมนูนี้หอมน่ารับประทานมากขึ้น แค่นี้กุ้งอบวุ้นเส้นก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
3. ทอดมันกุ้ง

เปลี่ยนมาทำเมนูเอาใจเด็กน้อยเด็กโตกันบ้างกับเมนูทอดมันกุ้ง ความอร่อยอยู่ที่เนื้อทอดมันเด้ง ๆ คลุกแป้งกรอบเกรียว สัมผัสด้านในนุ่มเด้งเพราะการผสมผสานระหว่างหมูสับและเนื้อกุ้งสด ปรุงรสด้วยความพิถีพิถัน นำลงทอดในน้ำมันร้อนพอดีทำให้ทอดมันไม่อมน้ำมัน ยังคงความกรอบไว้ได้อย่างดีเยี่ยม จิ้มน้ำจิ้มบ๊วยรสเปรี้ยวหวานนิดหน่อย อร่อยลงตัว
วัตถุดิบทอดมันกุ้ง
- เนื้อกุ้งสด
- หมูสับ
- ไข่ไก่
- รากผักชี
- กระเทียม
- พริกไทย
- แป้งทอดกรอบ
- เกล็ดขนมปัง
- เกลือ
- ซอสหอยนางรม
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาลทราย
- น้ำมันพืช
วิธีทำทอดมันกุ้ง
ขั้นตอนแรกเรานำเนื้อกุ้งและหมูสับเข้าเครื่องผสมอาหารก่อนค่ะ ปั่นจนกุ้งและหมูเนียนเป็นเนื้อเดียวกันเลย ปั่นได้ที่แล้วก็เอาออกมาเทใส่ภาชนะผสม หันมาตำกระเทียม, รากผักชี และพริกไทยให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำไปผสมกับเนื้อกุ้งปั่น ปรุงรสชาติด้วยซอสหอยนางรม, ซีอิ๊วขาว, เกลือ, น้ำตาลทราย และแป้งทอดกรอบส่วนหนึ่ง คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที
![]() | เครื่องบดสับแบบมือดึง ขนาด 1 ลิตร | |
![]() | Loftydom เครื่องบดเนื้อไฟฟ้า เครื่องบดสับอเนกประสงค์ โถสแตนเลส ขนาด 2 ลิตร |
ระหว่างรอเราก็ตอกไข่ใส่ชามเลยค่ะ ตีให้ไข่แตกเข้ากัน ส่วนเกล็ดขนมปังและแป้งทอดกรอบก็เทใส่ชามรอไว้ให้เรียบร้อย แป้งไม่ต้องผสมน้ำนะคะเราใช้แบบแห้ง หันมาตั้งกระทะใส่น้ำมันท่วม เปิดเตารอได้เลยค่ะ ใช้ไฟกลาง
นำเนื้อทอดมันออกจากตู้เย็น ใช้น้ำมันพืชทามือเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้เนื้อทอดมันเหนียวติดมือ หลังจากนั้นให้เราบรรจงใช้มือปั้นเนื้อทอดมันให้เป็นทรงกลม ตบให้แบนนิดนึง ทำรูตรงกลางอีกหน่อยจะได้สุกทั่วถึง หลังจากนั้นนำไปคลุกแป้งทอดกรอบ ตามด้วยไข่ไก่ และเกล็ดขนมปังปิดท้าย นำลงทอด
ขณะทอดหมั่นพลิกทอดมันไปมาด้วยนะคะ ทอดจนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามสวยงามแล้วก็ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันเลยค่ะ จัดใส่จานเสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศหรือน้ำจิ้มบ๊วย
4. ยำกุ้งสด

ตามมาติด ๆ กับเมนูเด็ด ยำกุ้งสดนัว ๆ เนื้อกุ้งแน่น ๆ หวานกรุบ ทานพร้อมน้ำยำแซ่บซี๊ดเผ็ดปากเบิร์น เปรี้ยวเค็มถึงใจ ชอบรสไหนเน้นรสนั้น จะเพิ่มทอปปิ้งปลาร้าหรือเนื้อที่ชอบก็จัดไปไม่ต้องกั๊ก ทานพร้อมผักสดสักไร่และเส้นขนมจีนสักเข่ง ไม่ต้องบรรยายมากมาย บอกเลยว่าเป็นตาแซ่บบบบบ
วัตถุดิบยำกุ้งสด
- กุ้งสด
- พริกจินดาแดง
- พริกแห้ง
- มะนาว
- มะเขือเทศ
- ผักชีฝรั่ง
- หอมแขก
- ผงชูรส
- โซดา
- น้ำปลา
- น้ำตาล
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำแข็ง
วิธีทำยำกุ้งสด
เริ่มต้นความแซ่บกันด้วยการล้างทำความสะอาดกุ้ง แกะเปลือก, ผ่าหลัง และดึงเส้นดำให้พร้อม แช่โซดาน้ำแข็งเย็นจัด ๆ พักไว้ก่อน หันมาล้างทำความสะอาดผักกันต่อ ล้างผักให้สะอาดหมดจดเลยนะคะเพราะเราจะทานดิบกัน
ตำพริกแห้ง, พริกจินดาแดง และกระเทียมให้แหลก ตามด้วยซอยหอมแขก ฝานมะเขือเทศ, มะนาว และผักชีฝรั่ง นำมาผสมกับพริกกระเทียมที่ตำไว้ก่อนหน้า ผสมน้ำยำด้วยน้ำตาล, น้ำมะขามเปียก, น้ำมะนาว, น้ำปลา และผงชูรสนัว ๆ ละลายส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดีและเติมผักยำลงไปเลยค่ะ ผสมคลุกเค้าให้เข้ากันละชิมรสชาติให้มีความเผ็ด, เปรี้ยว, เค็ม และหวานครบรส ถ้าชอบรสไหนเป็นพิเศษก็เพิ่มส่วนนั้นลงไป ถ้าเพื่อน ๆ ชอบปลาร้าก็ใส่น้ำปลาร้าในขั้นตอนนี้ได้เลย ได้น้ำยำแล้วเราก็มาล้างกุ้งสดอีกสักรอบ เทกุ้งลงไปคลุกเคล้าน้ำยำให้ทั่ว เอาให้ความแซ่บมันแทรกซึมเข้าไปในเนื้อกุ้งให้เต็มที่ หลังจากนั้นเทใส่ภาชนะและเสิร์ฟพร้อมผักสดได้เลยค่ะ
5. ขนมจีบกุ้ง

เปลี่ยนเมนูแซ่บ ๆ เป็นเมนูง่าย ๆ สบาย ๆ กันบ้าง เพื่อน ๆ หลายคนที่ซื้อขนมจีบมาทานอาจจะเคยเจอปัญหาขนมจีบเนื้อน้อยบ้าง เกี๊ยวแข็งกระด้างบ้าง บางครั้งสั่งจีบกุ้งดันได้แต่ไส้หมูล้วน ไม่ต้องทำหน้าบึ้งค่ะเพราะวันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ ทำขนมจับกุ้งลูกโตทานกัน จีบกุ้งของเราเนี่ยรับประกันงานเนียน งานละเอียด เนื้อขนมจีบเด้ง รสกลมกล่อม มีกลิ่นหอมเตะจมูก จะทำลูกใหญ่แค่ไหนก็แล้วแต่ความต้องการเลยจ้า
วัตถุดิบขนมจีบกุ้ง
- เนื้อกุ้งสด
- หมูสับ
- กระเทียม
- แผ่นเกี๊ยวสด
- สามเกลอ
- พริกไทยป่น
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาลทราย
- น้ำมันงา
- น้ำมันพืช
- น้ำเปล่า
วิธีทำขนมจีบกุ้ง
ทำกระเทียมเจียวกันก่อนโดยการสับกระเทียบทั้งเปลือกแล้วนำไปทอดจนสีเหลืองทอง ไม่ต้องรอให้สีเข้มนะคะเพราะตอนตักขึ้นความร้อนที่ยังเหลืออยู่จะทำให้กระเทียมสุกต่อจนพอดี
ต่อมานำเนื้อกุ้งสดและหมูสับมาเข้าเครื่องผสมอาหาร ปั่นจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นนำออกมาปรุงรสด้วยสามเกลอ, น้ำตาล, พริกไทยป่น, ซีอิ๊วขาว และน้ำมันงา นวดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน หลังจากนั้นก็นำเนื้อขนมจีบฟาดในภาชนะผสมหลาย ๆ ครั้งจนเนื้อมีความเหนียวมากขึ้น นำไปพักในตู้เย็นและหันไปเตรียมอุปกรณ์นึ่งให้พร้อม
ขั้นตอนไปเราเทน้ำใส่ถ้วยเล็ก ๆ สักใบแล้วทำการหยิบแผ่นเกี๊ยวขึ้นมาค่ะ หั่นมุม 4 ด้านให้เรียบร้อย หลังจากนั้นอันเชิญเนื้อขนมจีบออกมาจากตู้เย็น ชุบแผ่นเกี๊ยวลงในถ้วยที่มีน้ำเพื่อล้างแป้งที่เกาะอยู่ ขั้นตอนนี้เพื่อน ๆ อย่าชุบนานนะคะเดี๋ยวแป้งจะเปื่อย วางแผ่นเกี๊ยวลงบนฝ่ามือหนึ่งข้าง ตักเนื้อแล้วเกลี่ยบนแผ่นให้ทั่ว ค่อย ๆ ใช้นิ้วอันเรียวยาวของเราบรรจงห่อเกี๊ยวพร้อมทั้งบีบให้ได้ขนาดตามต้องการเลยค่ะ ถ้าเนื้อล้นออกมาก็ตักออก
หลังจากทำครบจนหมดแล้วก็หันไปเช็กหม้อนึ่งกันบ้าง ถ้าน้ำเดือดได้ที่แล้วก็หาภาชนะแบน ๆ หรือใบตองมารอง ทาน้ำมันลงบนหน้าสักหน่อยขนมจีบจะได้ไม่ติดภาชนะ แล้วก็เรียงขนมจีบลงไปด้วยความสวยงาม เว้นระยะห่างนิดหน่อยแบบ social distancing ปิดฝานึ่งให้สุก ตักขึ้นมาใส่ภาชนะ ราดกระเทียมเจียวและน้ำมันกระเทียมลงไปนิดหน่อย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่ชอบได้เลยค่ะ
6. ต้มยำกุ้ง

พูดถึงกุ้งคงจะข้ามเมนูนี้ไปไม่ได้ เพราะต้มยำกุ้งถือว่าเป็นอาหารที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ความเผ็ด เปรี้ยว เค็ม เข้มข้นจัดเต็มเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดีจนติดโผอาหารไทยที่ฝรั่งชื่นชอบ เพราะนอกจากรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์แล้ว ต้มยำกุ้งยังเป็นอาหารที่มีกลิ่นหอมเตะจมูกด้วยข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดที่เป็นสมุนไพรใกล้ตัวของเราค่ะ
วัตถุดิบต้มยำกุ้ง
- กุ้งสด
- เห็ดฟาง
- พริกขี้หนูสด
- หอมแดง
- ข่า
- ตะไคร้
- ใบมะกรูด
- ผักชีฝรั่ง
- รากผักชี
- มะนาว
- น้ำตาล
- น้ำพริกเผา
- น้ำปลา
- น้ำเปล่า
วิธีทำต้มยำกุ้ง
เตรียมกุ้งโดยการล้างทำความสะอาด, แกะเปลือก และผ่าหลังดึงเส้นดำ ถ้าเพื่อน ๆ ใช้กุ้งแม่น้ำก็เว้นเปลือกส่วนหัวไว้นะคะ อย่าลืมตัดเท้า, หนวด และก้ามกุ้งให้เรียบร้อยด้วย ส่วนเปลือกกุ้งเก็บไว้ก่อนอย่าเพิ่งทิ้งค่ะ หลังจากนั้นหั่นเห็ดฟาง, ทุบหอมแดง, ฉีกใบมะกรูด, หั่นแฉลบตะไคร้, ฝานมะนาวและคั้นน้ำ, หั่นและทุบข่า, ซอยผักชีฝรั่ง และทุบรากผักชีและพริกขี้หนูให้พอแตก
ตั้งหม้อบนเตาและเทเปลือกกุ้งที่เราเก็บไว้ก่อนหน้านี้ลงไปค่ะ คั่วให้สุกหอม อาจจะเติมเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติอีกหน่อยก็ได้นะคะ หลังจากเปลือกกุ้งสุกแล้วเราก็เติมน้ำเปล่าและต้มทิ้งไว้ 10 – 20 นาทีก็พอค่ะ ระหว่างนี้ก็คอยตักฟองออกด้วย หลังจากน้ำเดือดแล้วเทกรองเอาแต่น้ำ เราจะได้น้ำสต๊อกกุ้งสำหรับต้มยำ
เทน้ำสต๊อกลงในหม้อใบเดิม ตามด้วยข่า, หอมแดง, ตะไคร้ และรากผักชี แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล, น้ำปลา และน้ำพริกเผา ต้มให้น้ำเดือดและสุกหอมแล้วใส่เห็ดฟางลงไปเลยค่ะ คน ๆ นิดหน่อยและดูพอเห็ดเริ่มสุกก็ตามด้วยกุ้ง กุ้งเริ่มเปลี่ยนสีก็ขยำใบมะกรูดใส่ลงไป คนอีกนิดหน่อย ถ้าเพื่อน ๆ อยากทำต้มยำน้ำข้นก็ใส่นมข้นจืดในขั้นตอนนี้เลยค่ะ
หลังจากน้ำเดือดอีกครั้งก็ปิดเตาแล้วใส่พริกขี้หนู ตามด้วยน้ำมะนาวและผักชีฝรั่ง คลุกเคล้านิดหน่อย ชิมรสชาติให้มีความเผ็ด เปรี้ยว เค็ม เข้มข้นก็ถือว่าใช้ได้ ต้มยำกุ้งของเราพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
7. แกงส้มชะอมกุ้ง

ตามมาติด ๆ กับเมนูแกงง่าย ๆ ใช้เวลาทำแค่ไม่กี่นาที กับเมนูแกงส้มชะอมกุ้ง แกงส้มหรือที่หลายคนเรียกว่าแกงเหลืองนั่นเองค่ะ เรานำกุ้งสดเนื้อหวานมารวมกับไข่เจียวชะอมที่มีความนุ่มหอม พอไข่เจียวได้ซึมซับน้ำแกงที่มีความเผ็ดเปรี้ยวแล้วยิ่งทำให้เมนูนี้ลงตัว น้ำแกงจะแทรกซึมอยู่ในทุกอณูของชิ้นไข่จนมีความฉ่ำ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์เพราะไข่เจียวของเราแทบจะไม่มีกลิ่นชะอมมาคอยกวนใจเลยค่ะ
วัตถุดิบแกงส้มชะอมกุ้ง
- กุ้งสด
- ไข่ไก่สด
- ชะอมสด
- มะนาว
- พริกแกงเหลือง
- น้ำปลา
- น้ำเปล่า
- น้ำมันพืช
วิธีทำแกงส้มชะอมกุ้ง
ตอกไข่ใส่ชามกันก่อน ปรุงรสด้วยน้ำปลานิดหน่อยแล้วตีให้เข้ากัน จากนั้นล้างชะอมแล้วเด็ดเอาเฉพาะยอดอ่อนใส่ในชามเดียวกับไข่ ตอนเด็ดชะอมเพื่อน ๆ ควรตั้งสติและเด็ดด้วยความระมัดระวังนะคะเพราะชะอมมีหนาม เจ็บน้อยแต่เจ็บนะ เด็ดชะอมจนหมดแล้วก็ตีให้เข้ากันอีกครั้งและพักไว้ก่อนค่ะ
ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอประมาณ หลังจากน้ำมันเริ่มร้อนแล้วใส่ไข่ชะอมของเราลงไปเลยค่ะ เกลี่ยให้ชะอมกระจายทั่วทั้งแผ่นและคอยแซะด้านล่างของไข่ให้โดนน้ำมันทั่วถึง รอให้แน่ใจว่าไข่ด้านล่างสุกแล้วแน่นอนก็ค่อย ๆ พลิกด้วยความระมัดระวังค่ะ ทอดจนอีกด้านสุกดีก็ตักขึ้นมาพักไว้และหั่นเป็นชิ้น
ได้ไข่มาแล้วเราก็จัดการแกงเหลืองกันต่อ ตั้งหม้อใส่น้ำและละลายพริกแกงรอให้เดือด ระหว่างนั้นก็หันมาล้างทำความสะอาดกุ้ง, ปอกเปลือกเว้นหาง และผ่าหลังเอาเส้นดำออกให้เรียบร้อย ส่วนมะนาวก็ฝานและบีบน้ำรอไว้เลยค่ะ
หันไปเช็กหม้อแกงส้มอีกครั้ง น้ำเดือดแล้วใส่ไข่ชะอมลงไปก่อน ตามด้วยกุ้งสด กุ้งเริ่มเปลี่ยนสีแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา ต้มต่อจนน้ำเดือดและกุ้งสุกก็ปิดเตาได้เลยค่ะ เติมน้ำมะนาวเป็นอย่างสุดท้าย คนอีกนิดหน่อยให้เข้ากัน ชิมให้มีรสเผ็ด, เปรี้ยว และเค็ม ๆ ส่วนรสหวานเราจะได้จากเนื้อกุ้งนะคะ หลังจากรสชาติโอเคแล้วก็ตักใส่ถ้วยพร้อมทานได้เลยค่ะ
8. ข้าวผัดกุ้ง

เปลี่ยนมาทำเมนูขวัญใจลูกเล็กเด็กแดงกันบ้าง เมนูนี้ทำง่ายและรับรองความอร่อยระดับสิบดาว กุ้งของเราจะมีความหวาน กรอบ เนื้อเด้งหนุบหนับ ส่วนข้าวผัดไม่ต้องพูดถึงค่ะเพราะสิ่งแรกที่คุณจะสัมผัสได้คือความร้อน…ล้อเล่นนนน เอกลักษณ์ของข้าวผัดจานนี้คือกลิ่นคั่วกระทะและเนื้อไข่ที่ผัดจนเกรียมและไหม้เล็กน้อย มาพร้อมกับข้าวสวยเมล็ดร่วน ราดพริกน้ำปลาลงไปอีกสักช้อน รสชาติกลมกล่อมจนบรรยายไม่ได้เลยค่ะ
วัตถุดิบข้าวผัดกุ้ง
- ข้าวสวย
- กุ้งสด
- ไข่ไก่สด
- ผักชี
- หอมใหญ่
- กระเทียม
- พริกไทยป่น
- เกลือป่น
- ผงปรุงรส
- ซอสปรุงรส
- โซดา
- น้ำตาล
- น้ำมันพืช
วิธีทำข้าวผัดกุ้ง
เริ่มต้นด้วยกุ้งกันก่อนเลยค่ะ นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด, ปอกเปลือกเว้นหาง และดึงเส้นดำออกให้เรียบร้อย หลังจากนั้นนำไปแช่ในน้ำโซดาเย็นจัดผสมเกลือป่น ขยำให้กลิ่นคาวกุ้งออกมาแล้วล้างน้ำเปล่า พักไว้ก่อน การแช่น้ำโซดาจะช่วยลดกลิ่นคาวและทำให้เนื้อกุ้งเด้งน่ารับประทาน เสร็จแล้วหันไปสับกระเทียมให้ละเอียด ตามด้วยซอยหอมใหญ่และต้นหอม ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช น้ำมันเริ่มร้อนแล้วนำกระเทียมลงไปผัดให้หอมเลยค่ะ ตามด้วยเนื้อกุ้งที่เตรียมไว้ ผัด ๆ คน ๆ ให้กุ้งเริ่มสุกก็ตักขึ้นมาพักไว้ก่อน
ใช้กระทะใบเดิมเพิ่มน้ำมันนิดหน่อย น้ำมันเริ่มร้อนแล้วใส่หอมใหญ่ลงไปผัดให้สุกใส หลังจากนั้นตอกไข่และยีให้แตก ผัดจนไข่สุกเกียมก็ตามด้วยข้าวสวย แนะนำให้ใช้ข้าวหุงสุกข้ามคืนนะคะ อาจจะใส่ภาชนะแล้วแช่เย็นไว้ก็ได้ค่ะ ใส่ข้าวลงในกระทะแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล, ผงปรุงรส และซอสปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน เคล็ดลับคือพยายามราดซอสปรุงรสให้โดนขอบกระทะให้มีเสียงซู่ ๆ ซ่า ๆ กลิ่นซอสจะหอมมากขึ้นค่ะ
หลังจากคลุกข้าวจนเข้ากันดีแล้วใส่กุ้งสุกที่เราพักไว้ลงไปเลยค่ะ ผัดอีกหนึ่งยก ชิมรสชาติให้มีความอร่อยกลมกล่อมก็ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและพริกไทยป่นให้สวยงามพร้อมเสิร์ฟ
9. แกงเลียงกุ้งสด

ทำเมนูซดน้ำร้อน ๆ คล่องคอทานกันบ้างดีกว่า แกงเลียงของเราเป็นสูตรน้ำใส ส่วนผสมมีแค่ไม่กี่อย่าง เพื่อน ๆ สามารถใส่ผักได้ตามชอบ ชอบทานผักชนิดไหนเป็นพิเศษก็ใส่ลงไปเยอะ ๆ หน่อย ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกุ้งตัวโตเนื้อหวานฉ่ำที่ชะช่วยให้แกงเลียงของเราสมบูรณ์แบบ เพื่อน ๆ อาจจะเคยทานแกงเลียงที่มีรสเผ็ดและกลิ่นสมุนไพรเตะจมูก แต่สูตรของเราจะมีรสกลมกล่อม ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ อยากให้ลองทำดูนะคะ
วัตถุดิบแกงเลียงกุ้งสด
- กุ้งสด
- ผักสด
- กะปิ
- เกลือ
- ผงปรุงรส
- น้ำตาล
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงเลียงกุ้งสด
ขั้นตอนแรกเหมือนเดิมเลยค่ะ แกะเปลือกกุ้ง ครั้งนี้เว้นหรือไม่เว้นหางก็ได้ค่ะ ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ส่วนเปลือกเก็บไว้ เสร็จแล้วก็หันมาล้างทำความสะอาดและหั่นผักที่เราจะใส่ในแกงเลียงต่อ
ตั้งหม้อใส่เปลือกกุ้งลงไปเลยค่ะ คั่วให้หอมและใส่น้ำเปล่า ต้มทิ้งไว้ 20 นาทีเพื่อทำน้ำสต๊อกค่ะ ครบเวลาแล้วก็กรองเอาเปลือกออกให้หมด
นำน้ำสต๊อกขึ้นตั้งไฟ ใส่กะปิ, เกลือ, น้ำตาล และผงปรุงรส ละลายกะปิและรอจนน้ำเดือด ใส่ผักแข็งลงไปก่อนเลยค่ะ หลังจากผักแข็งเริ่มนิ่มแล้วก็ตามด้วยผักชนิดอื่น ๆ ปิดท้ายด้วยกุ้งสด ต้มต่อจนน้ำเดือดและเนื้อกุ้งสุก ชิมรสชาติให้มีความเค็ม ๆ กลมกล่อมก็เปิดเตาตักเสิร์ฟได้แล้วค่ะ
10. แสร้งว่ากุ้ง

หญิงไทยใจงามกับเสน่ห์ปลายจวักเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ดังนั้นวันนี้แม่หญิงจักมาเปิดเผยเคล็ดลับเมนูแสร้งว่ากุ้ง อาหารสำรับห้องเครื่องในวังที่น้อยคนนักจักทำออกมาได้เพอร์เฟ็ค ซึ่งชื่อแสร้งว่ากุ้งก็มาจากกระบวนการทำที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเมนูยำนั่นเองเจ้าค่ะ ส่วนรสชาติจะประกอบไปด้วยความหอมจากเครื่องสมุนไพร มีรสหวาน รสเค็ม รสเปรี้ยว และรสเผ็ดปลายลิ้นไม่มาก
วัตถุดิบแสร้งว่ากุ้ง
- กุ้งสด
- ตะไคร้
- ขิงอ่อน
- หอมแดง
- พริกขี้หนูสด
- ใบมะกรูด
- น้ำมะนาว
- น้ำตาล
- น้ำปลา
วิธีทำแสร้งว่ากุ้ง
ขั้นตอนแรกนำกุ้งสดไปย่างไฟให้สุกหอม ยกลงมาบีบเอามันกุ้งแยกไว้ ส่วนตัวกุ้งก็ปอกเปลือกและหั่นเนื้อกุ้งเป็นชิ้น
![]() | กระทะปิ้งย่าง เตาปิ้งย่างไฟฟ้า หม้อสุกี้ กระทะไฟฟ้า zl-2462 | |
![]() | AIKO เตาปิ้งย่าง กระทะย่างไฟฟ้า BBQ พร้อมหม้อชาบู 2 ช่อง รุ่น BL-K6230 |
ต่อมาซอยตะไคร้, ขิงอ่อน, หอมแดง, พริกขี้หนู และใบมะกรูดเป็นเส้นฝอย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว, น้ำตาล และน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำเนื้อกุ้งและมันกุ้งลงไปผสม คลุกเคล้าเบา ๆ ให้เนื้อกุ้งซึมซับรสชาติของน้ำ จากนั้นตักใส่ภาชนะสำหรับเสิร์ฟ
กุ้งมีกี่ชนิด แล้วชนิดไหนเหมาะกับเมนูอะไรบ้าง
1. กุ้งขาว
กุ้งชนิดนี้เป็นที่นิยมในร้านอาหารทั่วไปค่ะ เพราะกุ้งขาวมีราคาถูก สามารถเพาะเลี้ยงได้ทั่วไป ลักษณะของกุ้งขาวจะมีลำตัวสีใส ปลายหางแดง และเปลือกบาง ควรเลือกซื้อกุ้งขนาดกลาง ตัวไม่เล็กเกินไป ส่วนตัวและส่วนหัวต้องติดกัน ไม่มีเมือกหรือกลิ่น กุ้งชนิดนี้เหมาะกับเมนูที่สามารถทานได้ทั้งเปลือกอย่างเมนูผัด ทอด

2. กุ้งแชบ๊วย
ถัดมาอีกนิด ตัวโตขึ้นมาอีกหน่อย กุ้งแชบ๊วยมีลักษณะขาวขุ่นอมเหลืองอ่อน ๆ เปลือกค่อนข้างแข็ง ควรเลือกซื้อกุ้งตัวที่หัวกับตัวติดแน่น ไม่เมือก ไม่คาว และไม่มีกลิ่นเช่นกันค่ะ เหมาะกับเมนูนึ่งหรือเมนูกุ้งสดก็อร่อย

3. กุ้งกุลาดำหรือกุ้งลายเสือ
ลวดลายก็ตามชื่อเลยค่ะ กุ้งกุลาดำมีลายสีเข้มพาดกลางหลัง ตัวโตกว่ากุ้งแชบ๊วย เพาะเลี้ยงค่อนข้างยากจึงมีราคาสูงกว่าสองชนิดด้านบน นิยมนำมาประกอบอาหารประเภทที่เน้นเนื้อกุ้งค่ะ

4. กุ้งแม่น้ำ
หลายคนอาจจะรู้จักกุ้งประเภทนี้กันดีอยู่แล้วเพราะมีลักษณะแตกต่างจากกุ้งประเภทอื่น เพราะกุ้งแม่น้ำจะมีสีออกน้ำเงินปนเขียว มีก้ามยื่นออกมาด้านหน้า และจุดเด่นก็คือมันกุ้งที่อยู่บริเวณส่วนหัว ดังนั้นวิธีเลือกซื้อกุ้งแม่น้ำก็คือ เลือกตัวที่เปลือกแข็ง โดยเฉพาะเปลือกส่วนหัวต้องแน่น สีเข้มแต่ไม่ดำจนเกินไป ไม่มีกลิ่น เมนูยอดนิยมคือการนำมาย่างหรือทำต้มยำค่ะ


5. กุ้งมังกร
แน่นอนว่าหลายคนอาจจะเคยเห็นและชื่นชอบสีสันที่งดงามของกุ้งประเภทนี้ ขนาดของตัวกุ้งจะใหญ่ เนื้อแน่น เนื้อเยอะ รสชาติหวาน และราคาสูง ดังนั้นเราแนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกซื้อกุ้งมังกรที่ยังเป็น ๆ แบบว่ายน้ำโชว์เลยค่ะ เพราะเราจะสามารถมั่นใจได้ว่ากุ้งของเราสดแน่นอน ส่วนเมนูเด็ดดีคือทานดิบแบบซาซิมิหรือนำไปย่างเนยก็หอมอร่อย

6. กุ้งล็อบสเตอร์
สุดยอดกุ้งที่มีราคาสูงพอ ๆ กับกุ้งมังกรเลยค่ะ ส่วนที่หลายคนไฝ่ฝันคงจะเป็นก้ามใหญ่ ๆ และเนื้อแน่น ๆ ดังนั้นเราควรเลือกซื้อล็อบสเตอร์ที่สีเข้มและดูสด ส่วนการประกอบอาหารก็เหมาะกับเมนูที่ไม่ต้องปรุงรสอะไรมากมายเพราะล็อบสเตอร์รสชาติอร่อยอยู่แล้วค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะกับเมนูจากกุ้งที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ แต่ละเมนูนี่ขอบอกว่าน่าทานและทำตามได้ไม่ยากเลยค่ะ โดยเฉพาะเมนูสุดท้ายที่เป็นอาหารชาววัง เมนูทรงโปรดของรัชกาลที่ 5 พอคิดว่าเป็นอาหารโบราณ อาหารชาววังแล้วหลายคนรีบโบกมือบ๊ายบายทันทีเพราะคิดว่ามันจะต้องทำนากและใช้ความวิจิตรอ่อนช้อย แต่พอเห็นวิธีการทำเมนูนี้แล้วรู้สึกว่ามันง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ ยังไงก็อย่าลืมลองทำตามกันดูนะคะ นอกจากเมนูเด็ด ๆ จากกุ้งแล้ว สูตรอาหารเมนูอื่น ๆ ของเราก็แซ่บและทำตามได้ไม่ยากเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เมนูจากขาหมู, เมนูจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, เมนูปลากระป๋อง, อาหารคาวหวานจากไข่, เมนูจากปลา, เมนูหมูสามชั้น, เมนูหมูสับ รวมไปถึงเมนูจากหมูกรอบเราก็มีค่ะ อย่าลืมกดเข้าไปอ่านดูกันนะคะ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีค่ะ