Best Review Asia
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ
No Result
View All Result
Best Review Asia
No Result
View All Result

Home » ยานยนต์และอุปกรณ์ » กระบะแค็บ รุ่นไหนดี ปี 2022

กระบะแค็บ รุ่นไหนดี ปี 2022

กระบะตอนครึ่ง หรือกระบะแค็บ รถอเนกประสงค์ ราคาประหยัด รุ่นยอดนิยม !

Palm PN โดย Palm PN
May 22, 2022
ใน ยานยนต์และอุปกรณ์
กระบะแค็บ รุ่นไหนดี ปี 2021
Share on FacebookShare on Twitter

สารบัญ

  • เลือก รถกระบะ รุ่นไหนดี ?
    • 1. กระบะตอนเดียว
    • 2. กระบะตอนครึ่ง หรือกระบะแค็บ
    • 3. กระบะดับเบิ้ลแค็บ หรือกระบะสองตอน
  • 1. Isuzu D-Max
  • 2. Toyota Hilux Revo
  • 3. Mitsubishi Triton
  • 4. Ford Ranger Open Cab
  • 5. Nissan Navara King Cab
  • 6. All-New Mazda BT-50 Freestyle Cab
  • บทส่งท้าย

“รถกระบะ” กับ “ประเทศไทย” ถือเป็นประเภทรถที่ดูเหมาะสมกันมาก ๆ ครับ โดยประเทศไทยของเรานั้น ถือเป็นประเทศที่มีการใช้รถกระบะมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ โลก อาจเป็นเพราะไลฟ์สไตล์การทำงานของคนไหทยส่วนใหญ่ที่มีอาชีพเป็นเกษตรกร เนื่องจากในอดีตรถกระบะคือรถที่เน้นใช้งานหนัก ๆ ส่วนรถเก๋งก็คือรถที่ใช้สำหรับนั่งโดยสาร ซึ่งแน่นอนว่าการใช้งานมันต่างกันมาก ๆ แต่ในปัจจุบันรถกระบะได้เปลี่ยนไปจากเดิมที่สร้างขึ้นมาเป็นรถใช้งานแบบสมบุกสมบัน เพราะในตอนนี้มันมาพร้อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ทั้งเร็วทั้งแรง ให้การขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะ ออพชั่นอัดแน่น มีความแกร่ง สามารถบุกตะลุยได้ทุกสภาพเส้นทาง ทั้งยังมีความนุ่มสบาย และมีความใช้งานได้อเนกประสงค์ด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันถูกรวมไว้ใน รถกระบะของยุคสมัยใหม่ ครับ

แม้ว่าในปัจจุบันตลาดรถยนต์ในบ้านเราจะมีความหลากหลายมากขึ้น มีทั้ง รถยนต์นั่งขนาดเล็ก, อีโค่คาร์, รถอเนกประสงค์ Crossover SUVs, รถครอบครัวขนาดเล็ก, รถตู้ครอบครัว (MPV), รถอเนกประสงค์ (PPV) และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งถ้าเรามองที่ความคุ้มค่า คุณก็จะเห็นว่า “รถกระบะ” สามารถตอบโจทย์ทั้งการเดินทาง, การบรรทุกข้าวของ, การบุกตะลุยในเส้นทางวิบากทั้งขึ้นเขาลงเขาหรือเส้นทางเรียบ ๆ รถกระบะสามารถผ่านไปได้หมด ดังนั้นด้วยความที่คนไทยชอบอะไรที่คุ้มค่ามากที่สุด มันจึงไม่แปลกที่รถกระบะจะได้ใจคนไทยไปเต็ม ๆ และเป็นที่นิยมมากขนาดนี้ ซึ่งในปัจจุบันรถบระจึงมีตัวเลือกมากมาย จนทำให้หลาย ๆ คนไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ?

สำหรับวันนี้ เราขอพาทุกคนมาส่อง “รถกระบะ ในปี 2021” กันครับ ซึ่งเป็นรถที่มีความอเนกประสงค์ สารพัดประโยชน์ รองรับการใช้งานด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี มีความอึด ถึก ทน ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานภายในเมือง และการบุกตะลุย เข้าสวน, เข้าป่า, ลุยทางวิบาก หรือลุยน้ำ มันก็พร้อมที่จะพาคุณไปทุก ๆ ที่ครับ หากคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกรถกระบะรุ่นไหนดี ? บทความนี้อาจช่วยคุณได้ครับ

เลือก รถกระบะ รุ่นไหนดี ?

นี่น่าจะเป็นคำถามที่อยู่ในหัวของทุก ๆ คนที่กำลังมองหารถกระบะสักคันนึงมาใช้งาน เนื่องจากในปัจจุบันค่ายรถยนต์ในบ้านเราหลายๆ ค่าย ไม่ว่าจะเป็น Mazda, Toyota, Isuzu, Nissan, Ford หรือ MG ได้มีโมเดลรถกระบะเปิดตัวออกมากันหมดแล้ว ในส่วน Honda ก็มีข่าวโมเดลรถกระบะเช่นกัน แต่ยังไม่ได้มาไทย ดังนั้นถ้าจะถามว่า เลือกรถกระบะค่ายไหนดี ? อันดับแรกคุณต้องกำหนดให้ได้ก่อนว่า คุณต้องการรถกระบะประเภทไหน? และต้องการนำไปใช้งานอย่างไร? ซึ่งปัจจุบันรถกระบะก็มีให้เลือกอยู่ 3 รูปแบบ หลัก ๆ ได้แก่

1. กระบะตอนเดียว

เป็นรถกระบะที่เน้นการใช้งานหนักโดยเฉพาะ ซึ่งตัวถังจะมีแต่หัวเดี่ยว 2 ประตู มีพื้นที่ให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านข้างเท่านั้น ซึ่งการที่ตัวถังมีหัวเดี่ยวนั้นก็ทำให้มันมีพื้นที่กระบะที่กว้างขึ้น จึงเหมาะสำหรับใช้งานในเชิงพาณิชย์มากกว่า โดยเน้นการบรรทุกในปริมาณมาก ๆ ส่วนใหญ่มักนำไปติดตู้ทึบ หรือคอก (โครงเหล็ก) ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในห้องโดยสารก็จะถูกตัดออกไปทั้งหมดเหลือไว้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ทำให้ รถกระบะตอนเดียว มีราคาประหยัดที่สุด

2. กระบะตอนครึ่ง หรือกระบะแค็บ

เป็นรถกระบะที่มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารเพิ่มขึ้น ซึ่งตัวถังยังคงมี 2 ประตูอยู่ แต่จะมีการเพิ่มที่นั่งผู้โดยสารแถวที่สองขึ้นมา โดยในรุ่นเก่า ๆ อาจจะใช้การพับเบาะ เพื่อเข้าไปแถวสอง แต่ปัจจุบันมีการทำประตูลับเอาไว้ โดยต้องเปิดประตูคู่หน้าก่อน จึงจะสามารถเปิดประตูส่วนที่เหลือได้ และด้วยความที่พื้นที่ห้องโดยสารมันเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่กระบะท้ายลดลงเล็กน้อย ในส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องโดยสารก็จะมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นรถกระบะตอนครึ่ง หรือกระบะแค็บ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความอเนกประสงค์ ใช้งานบรรทุกได้ทั้งผู้โดยสาร และข้าวของ ถือเป็นตัวถังสารพัดประโยชน์ ทำให้ รถกระบะแค็บ มีราคากลาง ๆ 

3. กระบะดับเบิ้ลแค็บ หรือกระบะสองตอน

กระบะดับเบิ้ลแค็บ หรือกระบะสี่ประตู ถือเป็นรถกระบะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมันเป็นรถที่เน้นพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง มีทั้งหมด 4 ประตู ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารก็มีครบครัน ไม่ต่างไปจากรถเก๋งเลย แต่แน่นอนเมื่อพื้นที่ห้องโดยสารเพิ่มขึ้น พื้นที่กระบะท้ายก็จะลดลงด้วย ทำให้มันมีพื้นที่ขนของน้อยลง และในส่วนภาษีรถยนต์ก็จะมีความแตกต่างกันด้วย เนื่องจากมันได้รับการออกแบบมาให้เป็นรถยนต์นั่งมากกว่ารถยนต์บรรทุก ทำให้ กระบะดับเบิ้ลแค็บ มีราคาสูงที่สุด ครับ

นอกจากนี้ก็ยังมีการแยกในรูปแบบอื่น ๆ ให้เลือกอีกทั้งตัวยกสูง และตัวเตี้ย หรือระบบขับเคลื่อนที่มีทั้ง ขับ 2WD และขับ 4WD ซึ่งคุณสามารถเลือกรูปแบบของรถกระบะที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ง่ายๆ ได้ตามรูปแบบที่เราได้กล่าวไปครับ โดยเลือกจากการใช้งานจะคุ้มค่าที่สุดครับ


ซึ่งหากคุณกำลังมองหารถกระบะที่มีราคาไม่สูงมาก เน้นความอึด ถึก และทน มีความสารพัดประโยชน์ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณจะนำไปใช้ในด้านไหนก็ตามครับ สำหรับในวันนี้เราได้รวบรวม รถกระบะแค็บ รุ่นต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ มาแนะนำ เพื่อที่คุณจะได้เห็นถึงความแตกต่างในแต่ละรุ่น ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นครับ ซึ่งในวันนี้เราจะหยิบยกรถกระบะแค็บรุ่นอะไรมาบ้าง ? ตามไปดูกันเลยครับ

1. Isuzu D-Max

Isuzu D-max SPACECAB (ซ้าย) และ D-max HI-LANDER (ขวา)
Isuzu D-max SPACECAB (ซ้าย) และ D-max HI-LANDER (ขวา)

แน่นอนครับครับ หากเราจะพูดถึงรถกระบะ หลาย ๆ คนต้องนึกถึง Isuzu D-max ก่อนเสมอ เนื่องจากมันเป็นรถกระบะขวัญใจที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งในครั้งนี้ D-max ก็มาพร้อมการปรับโฉมครั้งใหญ่ภายใต้แนวคิด “Bold but Emotional บึกบึน ปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา” โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Vision Bi-LED พร้อมด้วยไฟเดย์ไลท์ในตัว ซึ่งดูเฉียบคม สอดรับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ เพิ่มความสปอร์ตและดุดัน ส่วนไฟท้ายเป็น Dual-Sonic LCD แบบ Clear Lens ที่ดูโดดเด่นไม่แพ้กัน โดยกระบะแค็บของ Isuzu จะมีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่นยกสูง Isuzu D-Max Hi-Lander และรุ่นตัวเตี้ย Isuzu D-MAX Space Cab ครับ

Isuzu D-Max Hi-Lander (ยกสูง)

Isuzu D-Max Hi-Lander
Isuzu D-Max Hi-Lander
รุ่น ราคา
1.9 L DA 723,000 บาท
1.9 Z 788,000 บาท
1.9 Z AT 816,000 บาท
1.9 Z-Prestige 848,000 บาท
3.0 Z-Prestige 885,000 บาท
1.9 Z-Prestige AT 883,000 บาท
Isuzu D-MAX Space Cab (ตัวเตี้ย)

Isuzu D-MAX Space Cab
Isuzu D-MAX Space Cab
รุ่น ราคา
1.9 S 605,000 บาท
3.0 S 635,000 บาท
1.9 S AT 640,000 บาท
1.9 L DA 688,000 บาท
1.9 Z 742,000 บาท

สำหรับภายใน Isuzu D-max ใช้หน้าปัดเรือนไมล์ Smart MID ที่สวยงาม ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ในส่วนของคอนโซลกลางได้ใช้ระบบ Ultimate Entertainment มีหน้าจอสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว มาพร้อมกับฟังก์ชันมากมาย ระบบเสียงรอบทิศทาง Dynamic Surround Sound ด้วยลำโพงทั้งหมด 8 ตำแหน่ง ให้เสียงกระหึ่มหนักแน่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันดีไซน์สปอร์ต ซึ่งใช้งานง่าย เบาะนั่งคู่หน้าใช้เทคโนโลยี AVEC สามารถช่วยซับแรงสั่นสะเทือน ซึ่งเป็นการลดอาการเมื่อยล้า ช่วยให้คุณนั่งสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติใหม่แบบแยกซ้ายขวา พร้อมช่องอเนกประสงค์ทั่วทั้งห้องโดยสาร

ภายในห้องโดยสารและเครื่องยนต์ของ Isuzu D-max
ภายในห้องโดยสารและเครื่องยนต์ของ Isuzu D-max

ในด้านขุมพลัง Isuzu D-max จะมีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ประกอบด้วย

  • เครื่องยนต์ 3.0L Ddi Blue Power ซึ่งให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที
  • เครื่องยนต์ 1.9L Ddi Blue Power Gen 2 ให้กำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที

ในส่วนของระบบส่งกำลังมี 2 แบบ เช่นกัน ประกอบด้วย เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่สามารถการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวล และราบรื่น มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นเกียร์ธรรมดาได้ โดยเกียร์จะมีความแม่นยําและก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ และ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่สามารถถ่ายทอดพลังได้เต็มสมรรถนะด้วยช่วงชักที่สั้น เข้าเกียร์ง่าย มีความแม่นยํายิ่งขึ้น ช่วยให้คุณขับสนุก ด้วยสมรรถนะที่ดีเยี่ยม


2. Toyota Hilux Revo

Z-Edition Smart Cab (ซ้าย), Pre-Runner Smart Cab (กลาง) และ Rocco Smart Cab (ขวา)
Z-Edition Smart Cab (ซ้าย), Pre-Runner Smart Cab (กลาง) และ Rocco Smart Cab (ขวา)

มี D-max แล้วก็ต้องมี Toyota ครับ มาต่อกันที่ Toyota Hilux Revo ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมของสังเวียนกระบะเมืองไทย และเป็นรถกระบะอีกรุ่นหนึ่ง ที่เป็นขวัญใจของคนไทย โดยในรุ่นกระบะแค็บ ทาง Toyota มีตัวเลือกให้มากถึง 3 รุ่น เลยทีเดียว ประกอบด้วย Z-Edition Smart Cab, Pre-Runner Smart Cab และ Rocco Smart Cab มีครบทั้ง ตัวเตี้ย, ตัวยกสูง และตัวแต่ง (ตามลำดับ) ถือเป็นกระบะพันธุ์แกร่ง โดดเด่นเรื่องความอึด ถึก และทน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน มาในดีไซน์ที่สปอร์ตที่ดูดุดัน ด้วยกระจังหน้าแบบใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ไฟหน้าขนาดใหญ่แบบ Bi-LED มีไฟเดย์ไลท์ในตัว พร้อมไฟท้าย LED นอกจากนี้มีการตีโป่งล้อรอบคัน ทำให้ดูบึกบึนมากยิ่งขึ้น พร้อมลุยทุกอุปสรรค จะขับเดิม ๆ ก็สวย หรือจะนำไปแต่งก็เท่

Toyota Hilux Revo Z-Edition Smart Cab (ตัวเตี้ย)

Hilux Revo Z-Edition Smart Cab (ตัวเตี้ย)
Hilux Revo Z-Edition Smart Cab (ตัวเตี้ย)
รุ่น ราคา
2.4 Entry MT 612,000 บาท
2.4 Entry AT 662,000 บาท
2.4 MID MT 686,000 บาท
2.4 MID AT 736,000 บาท
Toyota Hilux Revo Pre-Runner Smart Cab (ตัวสูง)

Hilux Revo Pre-Runner Smart Cab (ตัวสูง)
Hilux Revo Pre-Runner Smart Cab (ตัวสูง)
รุ่น ราคา
2.4 Entry MT 707,000 บาท
2.4 Entry AT 757,000 บาท
2.4 MID MT 787,000 บาท
2.4 MID AT 837,000 บาท
2.4 HIGH MT 864,000 บาท
2.4 HIGH AT 914,000 บาท
2.4 MID MT 4WD 862,000 บาท
2.8 HIGH MT 4WD 959,000 บาท
Toyota Hilux Revo Rocco Smart Cab (ตัวแต่ง)

Hilux Revo Rocco Smart Cab (ตัวแต่ง)
Hilux Revo Rocco Smart Cab (ตัวแต่ง)
รุ่น ราคา
2.4 AT 1,079,000 บาท
2.8 AT 4WD 1,239,000 บาท

สำหรับภายในห้องโดยสารของ Toyota Hilux Revo มาพร้อมกับความกว้างขวางและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายในมีความพรีเมี่ยม หรูหรา ตกแต่งด้วยโทนสีดำ เพิ่มความดุดันมากยิ่งขึ้น มีการใช้หน้าปัดเรือนไมล์แบบ TFT ที่คมชัดสวยงามและสามารถแสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างครบครัน ในส่วนระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple car play มีสวิตช์ปรับรูปแบบการขับขี่ มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แบบปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมกับปุ่มการใช้ที่งานครบครัน และฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย

ภายในห้องโดยสาร และเครื่องยนต์ของ Toyota Hilux Revo Rocco Smart Cab
ภายในห้องโดยสาร และเครื่องยนต์ของ Toyota Hilux Revo Rocco Smart Cab

สำหรับขุมพลังของ Toyota Hilux Revo ก็จะมีอยู่ 2 เครื่องยนต์ หลัก ๆ ครับ โดยจะประกอบด้วย เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร และเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เราขอแยกเป็นรุ่น ดังนี้

→ Z-Edition Smart Cab (ตัวเตี้ย) จะมีเครื่องยนต์เพียงตัวเดียว นั่นก็คือ เครื่องยนต์ ดีเซล ความจุ 2.4 ลิตร แต่จะมีระบบส่งกำลังให้เลือก 2 แบบ ซึ่งสามารถมอบพละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที เท่ากัน แต่มีแรงบิดต่างกัน ดังนี้

  • เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที
  • เกียร์ธรรมดา 6 สปีด  มีแรงบิด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,800 รอบ/นาที

→ Pre-Runner Smart Cab (ตัวสูง) จะมีเครื่องยนต์ 3 แบบ ให้เลือก ดังนี้

  • 2.8L เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที
  • 2.8L เกียร์ธรรมดา iMT 6 สปีด ให้พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ-นาที มีแรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,400 รอบ/นาที
  • 2.4L เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที

→ Revo Rocco Smart Cab (ตัวแต่ง) จะมีเครื่องยนต์ 2 ขนาด ทั้งคู่ส่งกำลังด้วย เกี่ยร์อัตโนมัติ 6 สปีด ดังนี้

  • 2.8L ให้พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที
  • 2.4L ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที

3. Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton Mega Cab Plus (ซ้าย) และ Mitsubishi Triton Mega Cab 2WD (ขวา)
Mitsubishi Triton Mega Cab Plus (ซ้าย) และ Mitsubishi Triton Mega Cab 2WD (ขวา)

มาต่อกันที่กระบะสายลุยอย่าง Mitsubishi Triton ที่มาพร้อมกับหน้าตาที่ดูล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น มีความแข็งแกร่ง บึกบึน แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายของอารมณ์สปอร์ตเอาไว้ และยังคงใช้การออกแบบด้านหน้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Advanced Dynamic Shield Design” ซึ่งก็คือคอนเซ็ปต์การออกแบบในส่วนหน้ารถทั้งหมด ทำให้กระบะไทรทันมีเอกลักษณ์ที่เด่นชัดมาก ดูไม่เหมือนใคร สำหรับ Mitsubishi Triton มีรถกระบะแค็บให้เลือกอยู่ 2 รุ่น ด้วยกัน ได้แก่ Mitsubishi Triton Mega Cab 2WD (ตัวเตี้ย) และ Mitsubishi Triton Mega Cab Plus (ตัวสูง) ครับ

Mitsubishi Triton Mega Cab 2WD (ตัวเตี้ย)

Mitsubishi Triton Mega Cab 2WD (ตัวเตี้ย)
Mitsubishi Triton Mega Cab 2WD (ตัวเตี้ย)
รุ่น ราคา
2.5 GL 5MT 602,000 บาท
2.5 GLX 5MT 637,000 บาท
2.5 GLX LIMITED EDITION 647,000 บาท
2WD GLX RUKKIT Edition 647,000 บาท
Mitsubishi Triton Mega Cab Plus (ตัวสูง)

Mitsubishi Triton Mega Cab Plus (ตัวสูง)
Mitsubishi Triton Mega Cab Plus (ตัวสูง)
รุ่น ราคา
2.4 GLX 6MT 694,000 บาท
2.4 GLS 6MT 734,000 บาท
2.4 GT 6MT 748,000 บาท
2.4 GT 6AT 834,000 บาท

สำหรับดีไซน์ภายใน Mitsubishi Triton ก็มาพร้อมกับพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน ซึ่งมีการออกแบบห้องโดยสารโดยใช้โทนสีเข้ม ช่วยเพิ่มความดุดัน และพรีเมี่ยม ตัวเบาะนั่งมีการโอบกระชับรับกับทุก ๆ สรีระ ช่วยให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมกับมีระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารตอนหลัง นอกจากนี้ภายในยังมีการใช้วัสดุเก็บเสียง รวมไปถึงวัสดุกันสะเทือนอีกด้วย ช่วยให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ภายในห้องโดยสาร และเครื่องยนต์ของ Mitsubishi Triton Mega Cab Plus
ภายในห้องโดยสาร และเครื่องยนต์ของ Mitsubishi Triton Mega Cab Plus

ขุมพลังของ Mitsubishi Triton จะมีเครื่องยนต์ 2 แบบให้เลือก ได้แก่

  • ในรุ่น Mega Cab 2WD จะใช้ เครื่องยนต์ ดีเซล 2.5L 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และทำแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที มีการส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
  • ในรุ่น Mega Cab Plus จะใช้ เครื่องยนต์ ดีเซล 2.4L 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ มอบกำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที ส่วนระบบส่งกำลังก็มีทั้ง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อมกับพร้อม Sport Mode และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้เลือกครับ

4. Ford Ranger Open Cab

Ford Ranger Open Cab
Ford Ranger Open Cab

หากคุณชอบความใหญ่ หรือชอบรถที่เหมือนมีกล้าม ก็ต้อง Ford Ranger กระบะออฟโรด ที่มาพร้อมกับความบึกบึน แข็งแกร่ง และดูทนทาน พร้อมลุยไปกันคุณได้ทุกที่ โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความพิเศษ ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่มีช่องดักลมซ้ายขวาเหมือนรูจมูก มีดวงตาที่เฉียบคมและเมื่อรวมกับกล้ามเนื้อรอบคันแล้ว ทำให้เรานึกถึงสัตว์ป่าที่ดุร้าย สำหรับ Ford Ranger ก็ยังคงเป็นกระบะที่มีสมรรถนะอยู่ในอันดับต้น ๆ ของบ้านเรา ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงพาณิชย์ เกษตรกรรม หรือการใช้งานทั่วไป

Ford Ranger Open Cab

Ford Ranger Open Cab
Ford Ranger Open Cab
รุ่น ราคา
2.2L XL 6MT 632,000 บาท
2.2L XL+ Hi-Rider 6MT 663,000 บาท
2.2L XLS 6MT 659,000 บาท
2.2L XLS Hi-Rider 6MT 699,000 บาท
2.2L XLS Hi-Rider 6AT 739,000 บาท
2.2L XLT Hi-Rider 6MT 757,000 บาท
2.2L XLT Hi-Rider 6AT 797,000 บาท
2.2L XLT 4×4 6MT 807,000 บาท
2.0L Turbo Limited 4×4 6MT 889,000 บาท

มาต่อกันที่ภายในห้องโดยสารของ Ford Ranger ซึ่งมาในสไตล์ดิบ ๆ ตกแต่งแบบทูโทน เพิ่มความสปอร์ต เหมาะมากสำหรับสายลุย ๆ มีการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้มากมาย เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุอย่างดี โดยฝั่งผู้ขับขี่สามารถปรับระดับด้วยมือ 6 ทิศทาง ส่วนฝั่งผู้โดยสารสามารถปรับระดับได้ 4 ทิศทาง พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น แบบ 4 ก้าน ที่มีปุ่มควบควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ พร้อมปุ่มควบคุมระบบ Cruise Control ในส่วนของหน้าปัดเรือนไมล์ก็ยังคงใช้ดีไซน์จากรุ่นเดิมที่เป็นหน้าจอ MID แสดงผลด้วยสี ขนาด 4.2 นิ้ว ที่บอกรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน คมชัด แถมมีความสวยงามอีกด้วย

ภายในห้องโดยสารของ Ford Ranger Open Cab
ภายในห้องโดยสารของ Ford Ranger Open Cab

สำหรับขุมพลังของ Ford Ranger Open Cab ส่วนใหญ่ใช้ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2L 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว มีระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ พร้อมกับอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิด 385 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้เลือกครับ

ส่วนในรุ่น 2.0L Turbo Limited 4×4 6MT จะใช้ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0L 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว VG ใช้เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มอบกำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที และแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที


5. Nissan Navara King Cab

Nissan Navara King Cab
Nissan Navara King Cab

มาต่อกันที่ Nissan Navara King Cab กระบะดีไซน์เรียบง่าย ดูแข็งแกร่ง บึกบึน กระบะที่มีราคาคุ้มค่ามาก ๆ แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร ด้านหน้ามาพร้อมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ ตัดด้วยโครเมี่ยม ช่วยเพิ่มความปอร์ตมากยิ่งขึ้น ไฟหน้า LED 8 ดวง พร้อมไฟเดย์ไลท์ในตัว ส่วนไฟท้ายเป็น LED ช่วยส่องสว่างได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ช่วงล่างมีการปรับแต่งให้พร้อมลุยทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์อบบไหน Navara ก็สามารถพาคุณผ่านไปได้

Nissan Navara King Cab

Nissan Navara King Cab
Nissan Navara King Cab
รุ่น ราคา
KC S 6MT 599,000 บาท
KC SL 6MT 609,000 บาท
KC E 6MT 689,000 บาท
KC CALIBRE E 6MT 765,000 บาท
KC CALIBRE V 6MT 809,000 บาท
KC CALIBRE E 7AT 815,000 บาท
KC CALIBRE V 7AT 859,000 บาท

ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อให้มันตอบโจทย์ทุก ๆ การใช้งาน มีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ทำให้คุณได้ห้องโดยสารที่กว้างมากยิ่งขึ้น มีการจัดสรรพื้นที่เก็บของให้คุณอีกหลายจุด อาทิเช่น ช่องเก็บของหน้ารถ, ช่องเก็บของใต้ช่องแอร์, ช่องเก็บของคอนโซลกลาง และอื่น ๆ มีช่องชาร์จ USB ที่ซ่อนไว้เป็นอย่างดี หน้าปัดเรือนไมล์ใช้หน้าจออัจฉริยะ TFT ที่แสดงผลได้อย่างคมชัด มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง NissanConnect ส่งตรงมาจากนิสสัน ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ และยังมีระบบอื่น ๆ อีกมากมาย ถือเป็นรถกระบะที่ให้ฟังก์ชันมาเยอะมาก ๆ ในราคาที่คุ้มค่าเช่นกัน

ภายในห้องโดยสารของ Nissan Navara King Cab
ภายในห้องโดยสารของ Nissan Navara King Cab

Nissan Navara มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รูปแบบ ให้เลือก ดังนี้

  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.3L เทอร์โบคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที
  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.3L เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที

6. All-New Mazda BT-50 Freestyle Cab

All-New Mazda BT-50 Freestyle Cab
All-New Mazda BT-50 Freestyle Cab

ปิดท้ายกันที่กระบะน้องใหม่อย่าง All-New Mazda BT-50 กระบะที่เน้นความเรียบหรูและพรีเมี่ยม มิติใหม่ของปิกอัพในสไตล์เอสยูวี โดยที่ BT-50 ได้ใส่เอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้าลงไปด้วย ตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ (KODO Design) ส่งผลให้ เป็นการถ่ายทอดผ่านเส้นสายที่มีความเรียบง่าย แต่งดงาม หรูหรา ทั้งภายนอกไปจนถึงภายในห้องโดยสาร เช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของมาสด้า ฉีกแนวระกระบะแบบเดิมๆ สร้างความแตกต่างในตลาดกระบะบ้านเราได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ ตามสไตล์มาสด้า ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED และไฟเดย์ไลท์ แบบ LED Signature สอดรับกับเส้นสายต่าง ๆ รอบตัวรถ ทำให้หน้าตามันดูสปอร์ตมากกว่าดุดันครับ

All-New Mazda BT-50 Freestyle Cab

All-New Mazda BT-50 Freestyle Cab
All-New Mazda BT-50 Freestyle Cab
รุ่น ราคา
1.9 C 679,000 บาท
1.9 C Hi-Racer 714,000 บาท
1.9 C Hi-Racer 6AT 768,000 บาท
1.9 S Hi-Racer 787,000 บาท
1.9 S Hi-Racer 6AT 832,000 บาท

แน่นอนว่ามาสด้านั้นขึ้นชื่อเรื่องการเลือกใช้วัสดุอยู่แล้ว แม้ว่าภายในห้องโดยสารจะไม่ได้เน้นพื้นทีที่กว้างขวาง แต่มาสด้าจงใจเน้นไปที่ ความเรียบหรู ความพรีเมี่ยม และมอบสัมผัสที่น่าประทับใจ ภายในห้องโดยสารคุมโทนสีดำ ถูกดีไซน์มาเพื่อประโยชน์สูงสุด โดยเน้นไปที่ผู้ขับขี่เป็นสำคัญ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน พร้อมพื้นที่เก็บของต่าง ๆ ซึ่งก็มีอยู่หลายตำแหน่ง เพลิดเพลินด้วยหน้าจอแบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto เพื่อให้คุณเติมเต็มความสุขตลอดเส้นทาง

ภายในห้องโดยสาร และเครื่องยนต์ของ All-New Mazda BT-50 Freestyle Cab
ภายในห้องโดยสาร และเครื่องยนต์ของ All-New Mazda BT-50 Freestyle Cab

สำหรับ Mazda BT-50 Freestyle Cab มีเครื่องยนต์เพียงตัวเดียวเท่านั้น คือ เครื่องยนต์ดีเซล 1.9L 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มอบแรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ส่วนระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และก็มีเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้เลือกด้วย หากคุณอยากแตกต่าง All-New Mazda BT-50 อาจเป็นคำตอบของคุณครับ

เช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคม

บทส่งท้าย

สำหรับ รถกระบะแค็บ ถือเป็นรถยนต์ที่อเนกประสงค์มาก ๆ ครับ มีทั้ง เครื่องยนต์สมรรถนะสูง ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย ฟังก์ชันต่าง ๆ ครบ ไม่ต่างไปจากรถเก๋งเลย กระบะท้ายสามารถบรรทุกของได้อีก อีกทั้งรถกระบะมันก็ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ฉะนั้นคุณสามารถขับขี่ไปได้ทุกสภาพถนน ไม่ว่าถนนนั่นจะย่ำแย่ขนาดไหน เว้นแต่ว่าคุณได้เปลี่ยนล้อไปเป็นขอบ 17 นิ้ว ดังนั้นคุณก็สามารถใช้รถกระบะในชีวิตประจำวันได้ ในปัจจุบันกระบะมีทางเลือกมากมาย ซึ่ง กระบะแค็บ ถือเป็นตัวเลือกที่อยู่กลาง ๆ โดยมีราคาไม่สูงมาก เหมาะสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือจะใช้เป็นรถครอบครัวก็ยังได้

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลของ รถกระบะแค็บ รุ่นยอดนิยม ที่เราได้รวบรวมมาในวันนี้ ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราได้พูดถึงไป บางอย่างอาจจะมีอยู่ในรถบางรุ่นเท่านั้นนะครับ เนื่องจากสเปคบางอย่างก็จะถูกลดหลั่นกันลงไปตามราคา ฉะนั้นหากคุณสนใจกระบะแค็บรุ่นไหนเป็นพิเศษจริงๆ เราก็ขอแนะนำให้คุณเดินทางไปดูรถด้วยตนเองที่ศูนย์บริการจะเป็นการดีที่สุดครับ เพื่อให้คุณได้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ ของรถแต่ละรุ่นได้มากขึ้นครับ ซึ่งแน่นอนครับว่ามันดีกว่าการเห็นแต่ในภาพหรือวิดีโอรีวิวต่าง ๆ

นอกจากนี้การไปดูรถที่ศูนย์บริการคุณอาจจะโชคดีได้รับโปรโมชั่นดี ๆ จากทางศูนย์บริการก็ได้ เช่น บัตรส่วนลด, บัตรเติมน้ำมัน การเช็คระยะฟรี หรือประกันภัยรถยนต์ หรือไม่คุณก็อาจได้รับเป็นของแถมต่าง ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็น กล้องหน้ารถ, เครื่องดูดฝุ่นในรถ, ชุดปะยาง, ปั๊มลมไฟฟ้า, ผ้าคลุมรถ, ผ้าไมโครไฟเบอร์, น้ำยาล้างรถ, แว็กเคลือบสี, กล่องทิชชู่, ที่เก็บของรถยนต์, ชุดหุ้มพวงมาลัย และอื่น ๆ อีกมากมาย


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :

  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Mazda : www.mazda.co.th
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Toyota : www.toyota.co.th
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Isuzu : www.isuzu-tis.com
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Nissan : www.nissan.co.th
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Ford : www.ford.co.th
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Mitsubishi : www.mitsubishi-motors.co.th
Previous Post

รีวิว แปรงอาบน้ำ ถูหลัง ขัดตัว ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย ปี 2022

Next Post

รีวิว ที่แยกไข่แดงและไข่ขาว ที่ดีที่สุด ใช้งานง่าย ปี 2022

Palm PN

Palm PN

I with a bachelor degree in Computer Science from Songkhla Rajabhat University. I live in Songkhla. I like to write articles about in IT products and motorcycle accessories.

Next Post
รีวิว ที่แยกไข่แดงและไข่ขาว ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2021

รีวิว ที่แยกไข่แดงและไข่ขาว ที่ดีที่สุด ใช้งานง่าย ปี 2022

สินค้า ที่คุณอาจสนใจ

มอเตอร์ไซค์

รวม รถมอเตอร์ไซค์ 125 ซีซี รุ่นยอดนิยม ปี 2020

November 17, 2020
รีวิว แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2021
ยานยนต์และอุปกรณ์

รีวิว แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี คุณภาพดี เสถียร ปี 2023

January 22, 2023
ที่ยึดมือถือในรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ รุ่นไหน แบบไหนดีที่สุด ปี 2021
มอเตอร์ไซค์

รีวิว ที่ยึดมือถือในรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ รุ่นไหน แบบไหนดีที่สุด ปี 2022

July 23, 2022
รีวิว น้ำมันเบรคมอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี
มอเตอร์ไซค์

รีวิว น้ำมันเบรคมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2022

July 24, 2022
รถจักรยานยนต์ Yamaha (ยามาฮ่า) – เช็คราคา สเปค แต่ละรุ่น
มอเตอร์ไซค์

รถจักรยานยนต์ Yamaha (ยามาฮ่า) – เช็คราคา สเปค แต่ละรุ่น ปี 2021

November 30, 2021
เครื่องเสียงติดรถยนต์ 2Din Android รุ่นไหนดี ปี 2021
ยานยนต์และอุปกรณ์

เครื่องเสียงติดรถยนต์ 2Din Android รุ่นไหนดี ปี 2023

January 26, 2023

Recent Posts

  • 9 ลูกอมรสเลมอน ยี่ห้อไหนอร่อย เปรี้ยวจี๊ดถึงใจ ปี 2023
  • รีวิว 7 สมาร์ทโฟนกล้องถ่ายรูปที่ดีที่สุด ปี 2023
  • 10 น้ำหอมกลิ่นมะลิ ยี่ห้อไหนดี กลิ่นหอม เรียบหรู มีระดับ ปี 2023
  • รีวิว กระบอกกดคุกกี้ ยี่ห้อไหนดี ทั้งแบบสเตนเลส และพลาสติก ปี 2023
  • สมาร์ทวอทช์ Smartwatches ระดับพรีเมียม ที่ดีที่สุด ปี 2023

Site Navigation

  • Affiliate Policy
  • Legal
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
  • สมัครงาน
  • ติดต่อเรา
  • ต้องการให้เรารีวิวสินค้า?

Best Review Asia

เว็บไซต์ให้ข้อมูลและแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกประเภท

รีวิวสมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และครัวเรือน, อุปกรณ์สำนักงาน, อาหารเครื่องดื่ม, โรงแรม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, แนะนำร้านอาหาร รวมไปถึงคำแนะนำ (How to) และเรื่องราวข่าวสารในชีวิตประจำวัน

Follow us: |



© 2023 Best Review Asia

No Result
View All Result
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ

© 2022 Best Review Asia