หากใครชื่นชอบในการฟังเพลงหรืออัพเดทผลงานในวงการเพลงอยู่บ่อย ๆ น่าจะทราบกันดีว่าดนตรีนั้นมีความแตกต่างและแบ่งแยกไปได้อยู่หลายแขนง อีกทั้งนักร้องแต่ละคนก็จะมีความถนัดในแนวเพลงและเทคนิคการร้องที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) ศิลปินชายมากความสามารถที่เขาจะถนัดแนวเพลง R&B หรือจะเป็น เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่จะเน้นการทำดนตรีคันทรี่และป๊อปเป็นหลัก
ทั้งนี้ยังมีศิลปินวัยรุ่นอีกหนึ่งคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักร้องเสียงดีอันดับต้น ๆ ของนักร้องเจเนอเรชั่นใหม่ในยุคนี้ ซึ่งคนที่กล่าวถึงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคนนั้นคือ ‘Ariana Grande (อารีอานา กรานเด)’ นั่นเอง โดยศิลปินหญิงอย่างอารีอานาในช่วงที่ผ่านมาได้ถูกเปรียบเทียบกับนักร้องระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจ รวมถึงสถิติที่ใครก็ยากจะทัดเทียมได้อย่าง ‘Mariah Carey (มารายห์ แครี่)’ เสมอมา เพราะด้วยความหวานของเสียงและเทคนิคการร้องที่ค่อนข้างคล้ายกัน
ซึ่งตัวอารีอานาเองก็ยอมรับว่าเธอมีมารายห์เป็นไอดอล แต่ตัวเธอเองก็พยายามพิสูจน์ด้วยผลงานและความสามารถที่เธอมีให้โดดเด้งออกมา จนในที่สุดเธอก็ทำได้สำเร็จจนตอนนี้อารีอานาได้กลายเป็นศิลปินที่ยอมรับในวงการ อีกทั้งยังได้ร่วมงานกับไอดอลในดวงใจอย่าง มารายห์ แครี่ในผลงานเพลง ‘Oh Santa!’ ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนอีกด้วย แต่หลายคนที่เพิ่งติดตามหรืออาจจะไม่ทราบว่าประวัติของอารีอานานั้นเป็นมาอย่างไร วันนี้เราจึงรวบรวมประวัติย่อและผลงานเพลงที่น่าสนใจของเธอมาฝากกันครับ
ประวัติของ Ariana Grande (อารีอานา กรานเด)
Ariana Grande (อารีอานา กรานเด) หรือชื่อเต็มว่า ‘Ariana Grande-Butera’ เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 1993 โดยเธอเป็นคนอเมริกาที่มีเชื้อสายอิตาลี ทั้งนี้ในช่วงวัยเด็กของนักร้องหญิงคนนี้ก็จะวนเวียนอยู่กับการร้องเพลง การแสดงมิวซิคัล หรือละครบรอดเวย์อยู่เสมอ ด้วยความสามารถและสกิลการร้องเพลงที่เก่งเกินวัย จึงทำให้อารีอานาได้รับโอกาสในการร้องเพลงชาติอเมริกาที่ถ่ายทอดผ่านทีวีไปทั่วสหรัฐตั้งแต่อายุเพียงแค่ 8 ขวบเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้เธอเริ่มมีชื่อเสียงและเริ่มเป็นที่รู้จักจริง ๆ ก็น่าจะเป็นช่วงที่เธอได้รับบทบาท Cat Valentine ในซิทคอมชื่อดังอย่าง ‘Victorious’ ผ่านทางช่อง Nickelodeon ซึ่งถือเป็นช่องเด็กและวัยรุ่นที่มีผู้ชมจำนวนมาก อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าอารีอานาจะมีความสุขและสนุกกับการเป็นนักแสดง แต่ลึก ๆ แล้วเธอก็มีความฝันที่อยากจะเป็นนักร้องและอยากใช้ความสามารถที่ตัวเองมีให้เกิดประโยชน์ จนในที่สุดโชคก็เข้าข้างเธอ เมื่อเพื่อนของผู้บริหารในค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Republic Records ได้เข้าไปเจอคลิปที่เธอ Cover เพลงในยูทูปและเกิดความประทับใจในเสียงของเธอ จนในที่สุดก็ได้เรียกเธอมาเพื่อที่จะเซ็นสัญญา และไม่นานนักก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลและอัลบั้ม ‘Yours Truly’ ซึ่งเรียกว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก หลังจากนั้นเธอก็ได้อัดเสียงและปล่อยผลงานออกมาจำนวนมาก จนตอนนี้เธอกลายเป็นนักร้องชั้นนำของโลกที่มีเพลงอันดับ 1 ใน Billboard Hot 100 ถึง 5 เพลงและมีเพลง Top 10 ถึง 18 เพลงเลยทีเดียว
10 ผลงานเพลงที่น่าสนใจของ Ariana Grande
1. เพลง 7 Rings
คลิป 7 rings โพสต์โดย คุณ Ariana Grande
แนวเพลง: | Trap-pop, hip hop และ R&B |
ค่ายเพลง: | Republic |
ผู้แต่งเพลง: | Ariana Grande, Victoria Monét, Tayla Parx, Njomza Vitia, Kimberly Krysiuk, Tommy Brown, Michael Foster, Charles Anderson, Richard Rodgers และ Oscar Hammerstein II |
โปรดิวเซอร์: | Tommy Brown, Charles Anderson และ Michael Foster |
เพลงในปี: | 2019 |
เพลงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิตการเป็นศิลปินของ Ariana คือ ‘7 Rings’ เพราะด้วยจังหวะเพลงสนุกที่สามารถโยกไปได้ตามเพลง ตามสไตล์ดนตรี Trap-pop รวมไปถึงการผสมด้วย R&B ซึ่งเป็นแนวทางที่อารีอานาค่อนข้างถนัด และความพิเศษสุด ๆ นั่นคือเธอ Rap โชว์ในเพลงอีกด้วย ทำให้เพลงนี้ถึงแม้จะดูฟังง่าย แต่แท้จริงแล้วมีหลายมิติ ทำให้คุณฟังทั้งเพลงได้แบบไม่เบื่อ นอกจากนี้เนื้อเพลงยังมีการประชดประชันผ่านเนื้อหาถึงเหล่าเฮตเตอร์ (Hater) หรือกลุ่มคนที่ไม่ชอบเธอ โดยเธอสื่อสารออกมาประมาณว่าชีวิตของเธอประสบความสำเร็จร่ำรวยเงินทอง อยากซื้ออะไรก็ซื้อได้ คนที่บอกว่าเงินไม่สามารถซื้อได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็เพราะว่าเขาคงไม่มีเงินมากพอที่จะจ่าย ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเนื้อหาที่แซ่บและเสียดสีคนที่เกลียดชังเธออยู่พอตัว ทั้งนี้ในอีกแง่หนึ่ง เพลงนี้ก็สามารถตีความได้ในแง่ของการซัพพอร์ตเพื่อนสนิท จนเพลงนี้ถูกยกให้เป็น ‘Friendship Anthem’ หรือเพลงชาติสำหรับเพื่อน ที่เหมาะแก่การเปิดในงานปาร์ตี้สุด ๆ
2. เพลง Problem ft. Iggy Azalea
คลิป Problem ft. Iggy Azalea โพสต์โดย คุณ Ariana Grande
แนวเพลง: | Dance-pop และ R&B |
ค่ายเพลง: | Republic |
ผู้แต่งเพลง: | Max Martin, Savan Kotecha, Ilya Salmanzadeh, Amethyst Kelly และ Ariana Grande |
โปรดิวเซอร์: | Martin, Shellback, Ilya และ Peter Carlsson |
เพลงในปี: | 2014 |
Problem คือการปูพรหมแดงและประตูที่เปิดทางให้อาเรียนาขึ้นไปเป็นศิลปินแนวหน้าในวงการเพลงของสหรัฐและของโลกก็ว่าได้ เนื่องจากหลังจากที่ปล่อยเพลงนี้ออกมา เพลงสามารถขึ้นไปแตะอันดับ 1 ในไอจูนได้อย่างไม่ยากเย็น อีกทั้งยอดขายในสัปดาห์แรกยังมียอดที่สูงถึง 4 แสนกว่าก็อปปี้ ซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ โดยไม่แปลกใจว่าทำไมเพลงนี้ถึงเปิดตัวได้ดีในอันดับที่ 3 ของชาร์ต Billboard Hot 100 ทั้งนี้ในแง่ของดนตรีและแนวเพลงของเพลงนี้จะมีความ 90’s เมื่อฟังแล้วจะรู้สึกเหมือนย้อนอดีตเล็ก ๆ ตั้งแต่ช่วงอินโทรของเพลงซึ่งเปิดมาด้วยดนตรี Jazz และที่พิเศษมากคือการนำเอาแรปเปอร์สุดฮ็อตอย่าง Iggy Azalea ในมาร่วมแรปในเพลง ซึ่งเป็นารผสมผสานที่ลงตัวมาก จนทำให้เพลงนี้ออกมากลมกล่อมและสร้างเครดิตให้อารีอานาสามารถไต่เลเวลความดังมาได้จนถึงทุกวันนี้
3. เพลง Thank U, Next
คลิป Thank U, Next โพสต์โดย คุณ Ariana Grande
แนวเพลง: | Pop และ R&B |
ค่ายเพลง: | Republic |
ผู้แต่งเพลง: | Ariana Grande, Victoria Monét, Tayla Parx, Njomza Vitia, Kimberly Krysiuk, Tommy Brown, Michael Foster และ Charles Anderson |
โปรดิวเซอร์: | Tommy Brown, Michael Foster, Charles Anderson, Ariana Grande และ Victoria Monét |
เพลงในปี: | 2018 |
Thank U, Next น่าจะเป็นเพลงที่หลายคนเคยผ่านหูมาไม่มากก็น้อย เนื่องจากเพลงนี้เป็นสามารถตีตลาดและติดชาร์ตเพลงฮิตไปทั่วโลก เพราะเพลงได้ถูกร้อยเรียงทั้งดนตรีและเนื้อหาออกมาได้เพอร์เฟค โดยเนื้อหาภายในเพลงก็เป็นการบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์เกี่ยวกับอดีตแฟนของเธอทุกคนแบบหมดเปลือก ถึงแม้ว่าดนตรี Pop จะทำให้เพลงดูสนุกสนานและทำให้เรารู้สึกว่าเธอมูฟออนจากความสัมพันธ์ในอดีตโดยไม่สนใจใยดี แต่ในอีกมุมหนึ่งผมก็สามารถสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าจากน้ำเสียงที่เธอถ่ายทอดออกมาแบบจริงใจและไม่ปรุงแต่งกับความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ดังนั้นทุกครั้งที่ฟังคุณจะทัชหรือพูดง่าย ๆ ว่าอินไปกับเนื้อเพลงได้ทันทีที่ฟัง
4. เพลง Lady Gaga, Ariana Grande – Rain On Me
คลิป Lady Gaga, Ariana Grande – Rain On Me โพสต์โดย คุณ Lady Gaga
แนวเพลง: | Dance-pop, house และ disco electropop |
ค่ายเพลง: | Interscope |
ผู้แต่งเพลง: | Lady Gaga, BloodPop, Ariana Grande, Matthew Burns, Nija Charles, Rami Yacoub, Martin Bresso และ Alexander Ridha |
โปรดิวเซอร์: | BloodPop และ Burns |
เพลงในปี: | 2020 |
หนึ่งในการ Collaboration หรือการร่วมงานของศิลปินเบอร์ใหญ่ในปีนี้คงต้องยกให้ Rain On Me เพราะเพลงนี้เป็นการคัมแบคหรือการกลับมาของเลดี้ กาก้าในการทำเพลงป๊อปอย่างเต็มตัวอีกครั้ง หลังจากที่เธอห่างหายไปนานกับการทำเพลงแจ๊สและการแสดงภาพยนตร์ อีกทั้งการที่เธอชวนอารีอานานักร้องเจเนอเรชันใหม่ที่มาแรงของยุคนี้มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานเพลง ก็ทำให้เพลงนี้เกิดกระแสจนแฟนคลับของศิลปินทั้ง 2 คนต่างรอคอย และแน่นอนว่าเมื่อปล่อยเพลงออกมาแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะเพลงการใช้ดนตรี Disco และ Dance-pop นั้นมีความสนุกในตัวของมันเองอยู่แล้ว อีกทั้งโปรดิวเซอร์ก็สามารถดีไซน์การร้องและคีย์ถนัดของอารีอานาและกาก้าให้เบลนเข้ากันได้แบบพอดีและลงตัว ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะมีโทนเสียงที่ต่างกันก็ตาม นอกจากนี้เพลงยังถูกการันตีคุณภาพด้วยการเข้าชิงรางวัล Grammy Awards สาขา Best Pop Duo/Group Performance
5. เพลง No Tears Left to Cry
คลิป No Tears Left to Cry โพสต์โดย คุณ Ariana Grande
แนวเพลง: | Dance-pop, disco และ dance-R&B |
ค่ายเพลง: | Republic |
ผู้แต่งเพลง: | Ariana Grande, Max Martin, Savan Kotecha และ Ilya Salmanzadeh |
โปรดิวเซอร์: | Max Martin และ Ilya |
เพลงในปี: | 2018 |
No Tears Left to Cry ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงคุณภาพของ Ariana Grande ที่ผมยกให้ขึ้นหิ้งว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง หลังจากที่ได้ฟังครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจในทั้งการใช้ดนตรี R&B และ Pop Dance ได้อย่างชาญฉลาดและเบลนเข้ากันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีการใช้ Disco เพิ่มเข้าไปซึ่งทำให้รู้สึกถึงความคลาสสิก ทุกครั้งที่ฟังจะรู้สึกว่าเคลิบเคลิ้มไปกับจังหวะดนตรีและเทคนิคการร้องอารีอานาแบบเพลินหู ถ้าจะบอกว่าเพลงนี้ยกระดับอัลบั้ม Sweetener จนชนะรางวัล Grammy Awards สาขา Best Pop Vocal Album ได้ก็คงจะไม่ผิด ใครอยากฟังเพลงแนว Easy Listening เพลิน ๆ เพลงนี้น่าจะตอบโจทย์คุณได้ดีเลยครับ
6. เพลง One Last Time
คลิป One Last Time โพสต์โดย คุณ Ariana Grande
แนวเพลง: | Dance-pop และ EDM |
ค่ายเพลง: | Republic |
ผู้แต่งเพลง: | David Guetta, Savan Kotecha, Giorgio Tuinfort, Rami Yacoub และ Carl Falk |
โปรดิวเซอร์: | Carl Falk, Rami, Ilya (co.), Giorgio Tuinfort (co.) และ Savan Kotecha (voc.) |
เพลงในปี: | 2015 |
จุดเด่นของเพลงนี้น่าจะอยู่ที่ดนตรีเลยครับ โดยเฉพาะกลิ่นอายของ EDM ที่เป็นมนต์เสน่ห์อยู่ภายในเพลง ซึ่งก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่นักเมื่อเห็นรายชื่อของผู้แต่งเพลงอย่าง David Guetta ที่เป็น DJ และนักแต่งเพลงซึ่งโดดเด่นในสาย EDM อยู่แล้ว ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเพลงจะสามารถไต่ชาร์ตได้ถึงเพียงแค่อันดับ 13 ใน Billboard Hot 100 แต่ทุกครั้งที่เธอร้องบนคอนเสิร์ตหรือเปิดในวิทยุเพลง ทุกคนจะรู้จักเพลงนี้และรู้ได้ทันทีเลยว่านี่คือเพลงของ Ariana Grande
7. เพลง Side To Side ft. Nicki Minaj
คลิป Side To Side ft. Nicki Minaj โพสต์โดย คุณ Ariana Grande
แนวเพลง: | Reggae-pop และ R&B |
ค่ายเพลง: | Republic |
ผู้แต่งเพลง: | Max Martin, Savan Kotecha, Alexander Kronlund, Ilya Salmanzadeh, Onika Maraj และ Ariana Grande |
โปรดิวเซอร์: | Max Martin และ Ilya |
เพลงในปี: | 2016 |
ในช่วงปี 2016 หากใครไม่เคยได้ฟังเพลงนี้ถือว่าเชยมากเลยครับ ยิ่งโดยเฉพาะงานไหนที่มีปาร์ตี้หรือสถานบันเทิง เพลงนี้จะต้องถูกบรรจุอยู่ในเพลย์ลิสต์อย่างแน่นอน เพราะด้วยความเผ็ดร้อนของเนื้อหาเพลงที่ค่อนข้าง 18+ สักเล็กน้อย ผนวกเข้ากับดนตรีป๊อปเรกเก้จังหวะโจ๊ะ ๆ ที่ทำให้คุณลุกขึ้นมาเต้นได้ทันทีที่ฟัง อีกทั้งการชวน Nicki Minaj เข้ามาร่วมแต่งและแรปภายในเพลงก็ยิ่งช่วยทำให้เพลิงนี้สนุกมากขึ้นไปแบบทวีคูณ ทั้งนี้ด้วยความสนุกของตัวเพลงทำให้แฟนเพลงต่างสตรีมมิ่งและซื้อเพลงกันมาเปิดฟังเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลงนี้สามารถขึ้น Top 5 บนชาร์ตเพลงได้ทั้งในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ หากใครกำลังหาเพลงสนุก ๆ ฟัง ผมแนะนำเพลงนี้เลยครับ
8. เพลง Break Up with Your Girlfriend, I’m Bored
คลิป Break Up with Your Girlfriend, I’m Bored โพสต์โดย คุณ Ariana Grande
แนวเพลง: | Pop, trap-pop และ R&B |
ค่ายเพลง: | Republic |
ผู้แต่งเพลง: | Ariana Grande, Max Martin, Ilya Salmanzadeh, Savan Kotecha, Kandi Burruss และ Kevin Briggs |
โปรดิวเซอร์: | Max Martin และ Ilya |
เพลงในปี: | 2019 |
Break Up with Your Girlfriend, I’m Bored เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้มที่ดังที่สุดของอารีอานานั่นคือ Thank U, Next โดยเพลงนี้ได้แรงบันดาลมาจากวงบอยแบนด์ชื่อดังในอดีตอย่าง NSYNC โดยเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาหลังจากเพลงฮิต ‘7 Rings’ ซึ่งบุญมีแต่กรรมบังเพราะเพลงนี้เปิดตัวด้วยอันดับ 2 โดยถูกเพลง 7 Rings กั้นไว้ไม่ให้ขึ้นอันดับ 1 หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเพลงบล็อกกันเอง จนถึงขึ้นที่แฟนคลับของเธอมีการรณรงค์ให้เลิกฟัง 7 Rings แล้วหันมาสตรีมเพลง ‘Break Up with Your Girlfriend, I’m Bored’ เพื่อให้เพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 กันเลยทีเดียว ทั้งนี้เพลงที่เป็นดนตรี Trap-pop ก็เป็นจังหวะสนุกและฟังเพลิน เหมาะกับการฟังคลายเครียดในช่วงวันหยุดมาก ๆ
9. เพลง Ariana Grande, The Weeknd – Love Me Harder
คลิป Ariana Grande, The Weeknd – Love Me Harder โพสต์โดย คุณ Ariana Grande
แนวเพลง: | Pop, synth-pop และ R&B |
ค่ายเพลง: | Republic |
ผู้แต่งเพลง: | Max Martin, Savan Kotecha, Peter Svensson, Ali Payami, Abel Tesfaye และ Ahmad Balshe |
โปรดิวเซอร์: | Ali Payami และ Peter Svensson |
เพลงในปี: | 2014 |
เสียงที่มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ของ The Weeknd ทำให้อารีอานาและทีมโปรดิวเซอร์ของเธอเลือกศิลปินหนุ่มคนนี้เข้ามาร่วมงาน ทั้งนี้การได้ Max Martin เข้ามาช่วยในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงก็ทำให้เพลงนี้มีความละมุนมากขึ้น แต่ในอีกด้านเพลงนี้มีความเร่าร้อนในและเซ็กซี่อยู่ในตัวเพลงแบบพลุ่งพล่าน นอกจากนี้การใช้แนวดนตรีที่ผสมผสานระหว่าง Pop และ R&B ก็ถือว่าเป็นแนวที่ทั้งคู่ชื่นชอบและถนัดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพลงนี้ถึงมีความลงตัวในทุก ๆ ส่วน หากใครยังไม่เคยมีโอกาสได้ฟัง ผมอยากให้ลองไปฟังกันดูครับ รับรองว่าคุณจะต้องชอบอย่างแน่นอน
10. เพลง God Is a Woman
คลิป God Is a Woman โพสต์โดย คุณ Ariana Grande
แนวเพลง: | Pop และ hip hop |
ค่ายเพลง: | Republic |
ผู้แต่งเพลง: | Ariana Grande, Ilya Salmanzadeh, Max Martin, Savan Kotecha และ Rickard Göransson |
โปรดิวเซอร์: | Ilya |
เพลงในปี: | 2018 |
ในยุคแห่งความเท่าเทียมกันเราจะเห็นได้ว่าเพศที่ถูกกดขี่และโดนข่มเหงในอดีต ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิงหรือชาว LGBTQ ต่างก็ออกมาเรียกร้องสิทธิเพื่อให้สังคมนั้นก้าวหน้าและเปลี่ยนทัศนคติที่ผิดในอดีต แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงประชาชนทั่วไปเท่านั้นที่ออกมาเป็นส่งเสียงเรียกร้อง เพราะเซเลปและศิลปินชื่อดังก็ออกมาช่วยโดยการใช้ศิลปะและแพลตฟอร์มของตนเองทำให้เสียงของประชาชนดังขึ้น ซึ่งแน่นอนหนึ่งในคนมีชื่อเสียงอย่าง ‘Ariana Grande’ ก็ใช้เพลงในการสื่อเรื่องราวเหล่านี้เช่นกัน ดังนั้น God Is a Woman คือการที่เธอต้องการจะสื่อสารว่าไม่ใช่แค่เพียงผู้ชายเท่านั้นที่จะมีอำนาจ แต่ผู้หญิงก็เป็นเพศหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งไม่แพ้กัน ทั้งนี้ในแง่ของดนตรีเพลงนี้ก็จะมีความเป็น Pop อยู่ในตัวค่อนข้างสูง ซึ่งคนที่ฟังจะสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทำให้เพลงนี้สามารถเปิดตัวได้อย่างสวยงามใน Top 10 ของ Billboard Hot 100 ฉะนั้นการสื่อสารที่เธอต้องการถ่ายทอดนั้นถือว่าประสบความสำเร็จครับ