Beyoncé (บียอนเซ่) – เปิดประวัติ และผลงานเพลง [อัปเดต ธ.ค. 63]

ผู้ใหญ่ในยุค 2020 ทุกคนคงผ่านการเป็นวัยรุ่นในยุค 90s กันมาก่อนทั้งนั้น ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งบันเทิงทั้งภาพยนตร์และผลงานเพลงของศิลปินนั้นเป็นสิ่งหนึ่งซึ่งเติบโตมาพร้อมกับเรา โดยถ้าหากย้อนกลับไปในช่วงนั้นถือได้ว่ามีศิลปินมากหน้าหลายตาที่มีอิทธิพลต่อเราเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Spice Girls, Backstreet Boys, Mariah Carey, Celine Dion, Britney Spears, Christina Aguila หรืออีกคนหนึ่งที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นคือ ‘Beyoncé (บียอนเซ่)

ซึ่งหลายคนพอนึกถึง Beyonce แล้วคงพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าเธอเป็นนักร้องที่มีความสามารถคนหนึ่งของวงการ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเต้นที่มีมูฟเม้นเป๊ะทุกกระเบียดนิ้วหรือเสียงร้องอันทรงพลังที่ใครก็ยากจะเปรียบเทียบ แม้แต่นักร้องในวงการเพลงยังชื่นชมเธอในเรื่องนี้ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงยืนหยัดในวงการเพลงได้อย่างยาวนาน โดยที่กระแสของเธอไม่เคยลดลงแม้แต่อย่างใด ทุก ๆ ครั้งที่ปล่อยอัลบั้มออกมาเพลงของเธอจะต้องขึ้นชาร์ตและมีคนสตรีมมิ่งเพลงเป็นล้านครั้ง อย่างไรก็ดีหลายคนก็อาจจะรู้แค่เบื้องหน้าว่าเธอนั้นประสบความสำเร็จมากมายขนาดไหน แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคนไม่เคยทราบประวัติก่อนที่เธอจะดัง รวมถึงเพลงฮิตและผลงาน masterpiece ของเธอ ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบข้อมูลของ ‘Beyoncé (บียอนเซ่) – เปิดประวัติ และผลงานเพลง’ มาฝากกันครับ

ประวัติของ Beyoncé (บียอนเซ่)

Beyonce (บียอนเซ่) เป็นชาวอเมริกาที่เกิดในรัฐ Texas โดยคุณพ่อของเธอชื่อว่า ‘Mathew Knowles’ มีอาชีพเป็นฝ่ายขายให้กับบริษัท Xerox ในขณะที่คุณแม่ของเธอ ‘Tina Knowles’ เป็นช่างผมและเจ้าของซาลอน นอกจากนี้บียอนเซ่ยังมีน้องสาวที่เป็นนักร้องมืออาชีพเช่นกันนั่นคือ ‘Solange Knowles’ โดยจุดเริ่มต้นของบียอนเซ่ที่ทำให้เธอได้รู้ว่าเธอมีความสามารถและมีพรสวรรค์ในการร้องเพลงเป็นอย่างมาก คือการที่เธอได้ไปเรียนเต้นและได้พบกับครูสอนเต้นคนหนึ่ง ซึ่งในระหว่างที่เธอเต้นไปนั้นเธอก็ได้ฮัมเพลงไปเรื่อย ๆ

สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

Beyoncé (บียอนเซ่)

แต่ความพิเศษคือทุกการฮัมเพลงของเธอนั้นสามารถฮิตโน้ตสูงได้ถึงคีย์ทุกตัว ชนิดที่ครูสอนเต้นมั่นใจทันทีว่าเธอมีพรสวรรค์ในด้านนี้ หลังจากนั้นเธอจึงไปเรียนร้องเพลงและแสดงโชว์อย่างจริงจัง จนกระทั่งเมื่อเธออายุ 8 ขวบ เธอก็เริ่มไปออดิชั่นกับตามที่ต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรายการดังอย่าง ‘Star Search’ ที่เป็นการประกวดการร้องเพลงเวทีใหญ่สำหรับเด็กเลยก็ว่าได้ เพราะนักร้องดังในปัจจุบันหลายคนที่เคยไปประกวดเวทีแห่งนี้ อย่างเช่น Christina Aguila หรือ Britney Spears โดยบียอนเซ่นั้นไปประกวดในฐานะนักร้องกลุ่ม แต่น่าเสียดายที่เธอตกรอบ


คลิป Independent Women โพสต์โดย Destiny’s Child

เนื่องจากเพลงที่เลือกไปนั้นไม่สามารถทำให้กลุ่มของเธอปล่อยของออกมาได้มากพอ อย่างไรก็ดีเส้นทางของเธอไม่ได้จบเพียงเท่านั้นอย่างแน่นอน เพราะพ่อของเธอมีไอเดียในการสร้างเกิร์ลกรุ๊ปจนในที่สุด กรุ๊ปของเธอก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายยักษ์ และตั้งชื่อวงว่า Destiny’s Child (เดสทินีส์ไชลด์) ที่มีสมาชิกด้วยกันทั้งหมดสามคน (Beyoncé Knowles, Kelly Rowland และ Michelle Williams) ซึ่งดังไปทั่วโลก มีผลงานเพลงฮิตติดชาร์ตมากมายและหนึ่งในนั้นก็คือ เพลง Independent Women เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์นางฟ้าชาร์ลีหรือ Charlie’s Angels หลังจากนั้นประมาณ 5 ปี บียอนเซ่ก็เลือกที่จะมาเป็นนักร้องโซโล่ และแน่นอนว่าการตัดสินใจของเธอนั่นไม่ผิด เพราะเธอกลับดังขึ้นมากกว่าเดิม จนกลายเป็นนักร้องแนวหน้าที่ทั้งแฟนเพลงและคนในวงการเพลงต่างนับถือถึงความสามารถ

ผลงานเพลงที่น่าสนใจของ Beyoncé (บียอนเซ่)

1. Love On Top

คลิป Love On Top โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง R&B
ค่ายเพลง Columbia
ผู้แต่งเพลง Beyoncé Knowles, Terius Nash และ Shea Taylor
โปรดิวเซอร์ Taylor และ Knowles
เพลงในปี 2011

Love On Top เป็นเพลงที่คนไทยหลายคนน่าจะเคยได้ฟังผ่านหูกันมาบ้าง เนื่องจากเพลงนี้ถูก Cover ด้วยศิลปินไทยในรายการต่าง ๆ เพราะความสนุกของเพลงที่ใช้ดนตรีในช่วงยุค 80s รวมไปถึงการร้องในสไตล์ R&B ซึ่งทำให้คนฟังเหมือนได้ย้อนอดีตนั่งไทม์แมคชีนกลับไปในยุคที่ Stevie หรือ Whitney กำลังรุ่งเรืองและรุ่งโรจน์ในขณะนั้น โดยกลิ่นอายความคลาสสิกทำให้เพลงนี้ดูมีความน่าสนใจและแตกต่างจากเพลงอื่นในชาร์ตช่วงปี 2011 และยิ่งเป็นกระแสมากขึ้นเมื่อเธอนำเพลงนี้ไปร้องในงานประกาศรางวัลชื่อดังอย่าง MTV เพื่อประกาศว่าเธอได้ท้องลูกคนแรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องบอกว่านั่นคืออีกโชว์หนึ่งในตำนานที่แฟนเพลงน่าจะจำกันได้ดี ทั้งนี้ถึงแม้ในเพลงนี้จะไต่อันดับขึ้นมาได้เพียงแค่อันดับที่ 20 ใน Billboard Hot 100 แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความจดจำและความคลาสสิกทำให้ทุกวันนี้ยังคงมีคนเปิดและอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน


2. Crazy in Love

คลิป Crazy in Love โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง Pop, funk และ R&B
ค่ายเพลง Columbia และ Music World
ผู้แต่งเพลง Rich Harrison, Beyoncé Knowles, Eugene Record และ Shawn Carter
โปรดิวเซอร์ Rich Harrison และ Beyoncé Knowles
เพลงในปี 2003

หนึ่งเพลงที่เชิดหน้าชูตาและเป็นตำนานจนทำให้บียอนเซ่สามารถพิสูจน์ให้แฟนเพลงเห็นได้ว่าเธอสามารถยืนเป็นนักร้องโซโล่ได้อย่างเต็มตัว โดยเพลงนี้ได้แซมเปิ้ลมาจากเพลงในยุค 70s ซึ่งคงไม่ต้องแปลใจกันว่าทำไมเพลงนี้ถึงมีความคลาสสิกในตัวค่อนข้างสูง อีกทั้งการทำใช้ดนตรี Pop และ Funk ผสมผสานเข้ากับการร้องในลักษณะ R&B ที่เธอถนัดนั้นถือว่าเป็นไอเดียและการครีเอทที่สร้างสรรค์เลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้แก่ Harrison และ Beyonce ที่ช่วยกันร้อยเรียงดนตรีและการร้องออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งการดึง Jay-z เข้ามาเสริมในเพลงก็ทำให้เพลงดูมีมิติมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเพลงนี้สามารถชนะรางวัล Grammy Awards และเก็บสถิติเพลงอันดับ 1 ให้แก่บียอนเซ่ได้


3. Formation

คลิป Formation โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง Trap และ bounce
ค่ายเพลง Parkwood และ Columbia
ผู้แต่งเพลง Beyoncé Knowles, Rae Sremmurd, Asheton Hogan และ Michael Len Williams II
โปรดิวเซอร์ Mike Will Made It และ BeyoncéPluss
เพลงในปี 2016

เรื่องชนชาติสีผิวหรือความเท่าเทียมยังคงเป็นประเด็นที่เกิดการโต้เถียงกันไปทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่เกิดดราม่าในเรื่องของการเหยียดและการเลือกปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกันในเรื่องของสีผิว ซึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยนั่นคือ Black Live Matter ทั้งนี้ไม่ใช่มีเพียงแต่ประชาชนธรรมดาเท่านั้นที่พยายามรณรงค์ให้เกิดความเท่าเทียมกัน เพราะนักร้องชื่อดังอย่าง Beyonce ก็เป็นหนึ่งในศิลปินที่แต่งเพลงและเป็นกระบอกเสียงใหญ่ให้แก่คนผิวสีอยู่เสมอมา อย่างที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือเพลง ‘Formation’ ที่เธอได้ถ่ายทอดความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาในรูปแบบเพลง อีกทั้งในแง่ของดนตรีและแนวเพลงที่ใช้ Trap และ bounce ก็ทำให้เพลงดูมีความขลังและสัมผัสสิ่งที่ถือต้องการจะสื่อสารได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น หากใครได้ฟังเพลงนี้จะรู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณที่บียอนเซ่ได้ใส่เข้าไปในเพลง


4. 7/11

คลิป 7/11 โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง Hip hop และ trap
ค่ายเพลง Parkwood และ Columbia
ผู้แต่งเพลง Beyoncé Knowles, Noel Fisher และ Bobby Johnson
โปรดิวเซอร์ Bobby Johnson, Beyoncé Detail และ Sidney Swift
เพลงในปี 2014

ใครที่ชอบเพลงสนุก ๆ อย่าง Hip hop และ trap ไว้ใช้เปิดในงานสังสรรค์กับเพื่อนน่าจะชอบเพลงนี้ครับ โดยเพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ค่อนข้างครีเอทและแตกต่างออกไปจากเพลงอื่นที่ Beyonce เคยได้ทำมา เพราะเธอมีการใช้ Autotune ทำให้เพลงดูมีความอิเล็กโทรและมีความจัดจ้านอยู่ แต่ในขณะเดียวกันในด้านเทคนิคการร้องก็ยังมีความบียอนเซ่อยู่เช่นกัน ทั้งความหนักแน่นและความเป็นเอกลักษณ์ของเสียงตามแบบฉบับของเธอ


5. Drunk in Love ft. JAY-Z

คลิป Drunk in Love ft. JAY-Z โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง Hip hop, trap และ R&B
ค่ายเพลง Parkwood และ Columbia
ผู้แต่งเพลง Beyoncé Knowles, Noel Fisher, Shawn Carter, Andre Eric Proctor, Rasool Diaz, Brian Soko, Timothy Mosley และ Jerome Harmon
โปรดิวเซอร์ Detail, Knowles, Timbaland, J-Roc, Boots, Dre Moon, Soko และ Diaz
เพลงในปี 2013

อีกหนึ่งเพลงดังที่เธอได้ร่วมทำกับสามีคือ ‘Drunk in Love’ โดยเพลงนี้อยู่ในอัลบั้มที่ชื่อว่า ‘Beyoncé’ ที่เธอได้ตัดปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ล ความน่าสนใจของเพลงนี้อยู่ที่เนื้อหาและแนวเพลงที่เธอถนัดมากอย่าง R&B ซึ่งเนื้อหาเพลงนั้นก็ตามชื่อของเพลงเลยครับคือเกี่ยวกับความรักที่แอบมีติดเรทสักเล็กน้อย เพิ่มความเร้าร้อนภายในเพลง ทำให้หลายคนนึกหวนกลับไปอยู่ในช่วง Crazy in Love อีกครั้ง นอกจากนี้การใช้ดนตรีแบบ Hip hop และ Trap ก็ทำให้เพลงมีจังหวะที่น่าค้นหาและกลมกลืนไปกับเนื้อเพลงได้เป็นอย่างดี ถ้าถามว่าเพลงไหนบ้างเป็น Masterpiece ของ Beyonce ผมถือว่าเพลงนี้เป็นหนึ่งในรายชื่อเหล่านั้นครับ


6. Hold Up

คลิป Hold Up โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง Reggae
ค่ายเพลง Parkwood และ Columbia
ผู้แต่งเพลง Thomas Pentz, Ezra Koenig, Beyoncé Knowles, Emile Haynie, Josh Tillman, Uzoechi Emenike, MeLo-X, Doc Pomus, Mort Shuman, DeAndre Way, Antonio Randolph, Kelvin McConnell,
Karen Orzolek, Brian Chase และ Nick Zinner
โปรดิวเซอร์ Diplo, Beyoncé และ Ezra Koenig
เพลงในปี 2016

การเข้าชิง Grammy Awards ในสาขา Best Pop Solo Performance รวมไปถึง Billboard ยังได้ยกให้เพลงนี้ติด 1 ใน 100 เพลงป็อปที่ดีที่สุดของปี 2016 ซึ่งก็น่าจะเป็นการการันตีถึงคุณภาพของเพลงนี้ได้ในระดับหนึ่ง โดยความพิเศษของเพลงนี้คือเธอเป็นคนแต่งเพลงและทำเมโลดี้เกือบทั้งหมดภายในเพลง ดังนั้นจิตวิญญาณหรือความรู้สึกที่ใส่ไปในเพลงจะมีความเรียลอยู่ค่อนข้างสูง หากใครเป็นแฟนเพลงของเธอน่าจะสัมผัสในเรื่องนี้ได้ดี เพราะเธอถ่ายทอดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอและแฟนหนุ่มกับ Jay Z แบบไม่หมกเม็ด ซึ่งนี่แหละคือเสน่ห์ของศิลปินที่เขียนเนื้อเพลงจากประสบการณ์จริง ๆ หากใครยังไม่เคยฟังลองไปฟังกันดูครับแล้วเชื่อผมว่าเพลงนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงโปรดของคุณไปโดยปริยาย


7. XO

คลิป XO โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง Power pop และ R&B
ค่ายเพลง Parkwood และ Columbia
ผู้แต่งเพลง Ryan Tedder, Terius Nash และ Beyoncé Knowles
โปรดิวเซอร์ Tedder, The-Dream, Knowles, Hit-Boy และ HazeBanga
เพลงในปี 2013

ถึงแม้ว่าผลงานในชาร์ตของเพลง ‘XO’ จะไต่ไม่ได้สูงเท่ากับมาตรฐานของบียอนเซ่ แต่ต้องบอกว่าเพลงนี้ความพิเศษแฝงอยู่นั้นมากมาย โดยสิ่งแรกเธอครีเอทคือการนำเสียงนักอวกาศพูดก่อนที่กระสวยจะระเบิดจนตกทะเลมาใส่ไว้ในอินโทรของเพลง ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้เป็นการซ้ำเติมแต่เธอต้องการสื่อเพียงแค่ว่าทุกเหตุการณ์สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดฝัน ดังนั้นทุกคนจงใช้ชีวิตทุกนาทีให้มีค่ามากที่สุด อีกทั้งยังเป็นการให้เกียรติและสร้างทำให้ทุกคนจดจำถึงพวกเขาที่เสียสละในการออกไปปฏิบัติการ นอกจากนี้ในแง่ของตัวเพลง Power pop และ R&B รวมไปถึงการใช้เครื่องดนตรีต่าง ๆ ก็ทำให้เพลง XO ดูลงตัวและสมบูรณ์แบบมาก


8. Halo

คลิป Halo โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง Pop และ R&B
ค่ายเพลง Columbia
ผู้แต่งเพลง Ryan Tedder, Evan Bogart และ Beyoncé Knowles
โปรดิวเซอร์ Ryan Tedder และ Beyoncé Knowles
เพลงในปี 2009

Halo คือเพลงที่ถูกนำเอาไปแข่งประกวดร้องเพลงและเปิดตามงานแต่งกันเป็นจำนวนมาก เพราะด้วยเทคนิคการร้องของ Beyonce ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ทุกเทคนิคอย่างละเมียดละไม ทั้งนี้ด้วยแนวเพลงที่เป็น Pop และ R&B แบบบัลลาด ทำให้เธอสามารถโชว์เสียงได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งเนื้อหาเพลงที่เกี่ยวกับความรักที่เธอถ่ายทอดออกมาจากก้นบึ้งในหัวใจและประสบการณ์ของเธอก็ทำให้เพลงนี้ดูมีพลัง ซึ่งแน่นอนว่าเพลงนี้ประสบความสำเร็จทั้งในชาร์ตที่สามารถไต่ขึ้นไปได้สูงถึง Top 5 ใน Billbaord Hot 100 และยังได้เข้าชิง Grammy Awards ในสาขา Best Song รวมไปชนะรางวัลในสาขา Best Female Pop Vocal Performance


9. Single Ladies (Put a Ring on It)


คลิป Single Ladies (Put a Ring on It) โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง Dance-pop และ R&B
ค่ายเพลง Columbia
ผู้แต่งเพลง Beyoncé Knowles, Christopher “Tricky” Stewart, Terius “The-Dream” Nash และ Thaddis Harrell
โปรดิวเซอร์ Stewart, Nash และ Beyoncé Knowles
เพลงในปี 2008

Single Ladies คือหนึ่งในเพลงตำนานที่สร้างชื่อเสียงให้บียอนเซ่และสร้างความทรงจำให้กับใครหลายคน เพราะด้วยจังหวะและเมโลดี้ที่ค่อนข้างสนุกสนาน ทั้งนี้ดนตรีแบบ Dance-pop สามารถเพิ่มความเร้าใจให้กับเพลงได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งทีมงานที่เข้ามาร่วมทำเพลงให้เธอ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่ทำงานในวงการเพลงมาอย่างยาวนาน อย่าง The-Dream ที่เคยสร้างเพลงฮิตให้กับศิลปินจำนวนมาก ไม่ว่าเป็น Justin Bieber, Mariah Carey หรือ Britney Spears ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเพลงถึงออกมาดีขนาดนี้


10. Countdown

คลิป Countdown โพสต์โดย คุณ Beyoncé

แนวเพลง R&B
ค่ายเพลง Columbia
ผู้แต่งเพลง Terius “The-Dream” Nash, Shea Taylor, Ester Dean, Cainon Lamb, Julie Frost, Beyoncé Knowles, Nathan Morris, Wanya Morris และ Michael Bivins
โปรดิวเซอร์ Knowles, Taylor และ Lamb
เพลงในปี 2011

Countdown เป็นการผสมผสานกันระหว่างดนตรี 2 ยุคนั่นคือ 70s และ 90s ดังนั้นถ้าฟังกันแบบละเอียดจริง ๆ คุณจะสัมผัสได้ถึงความคลาสสิก เนื่องจาก Countdown ได้แซมเปิ้ลของเพลงมาจาก “Uhh Ahh” by Boyz II Men วงบอยแบนด์ชื่อดังในอดีต นอกจากนี้แนวเพลงที่เป็น R&B ก็เป็นแนวถนัดของ Beyonce ดังนั้นจึงไม่สงสัยว่าทำไมเพลงนั้นทำออกมาได้ลงตัว อีกทั้งนักวิจารณ์ในสำนักใหญ่อย่าง The Guardian และ Rolling Stone ก็ได้ยกให้เพลงติดหนึ่งในรายชื่อเพลงคุณภาพแห่งปีเลยทีเดียว


11. Megan Thee Stallion – Savage Remix (feat. Beyoncé)

คลิป Megan Thee Stallion – Savage Remix (feat. Beyoncé) โพสต์โดย คุณ Megan Thee Stallion

แนวเพลง Hip hop
ค่ายเพลง 1501 Certified และ 300
ผู้แต่งเพลง Beyoncé Knowles-Carter, Megan Pete, Anthony White, Bobby Session, Jr. Derrick Milano, Terius Youngdell Nash, Jordan Kyle Lanier Thorpe, Shawn Corey Carter และ Brittany Starrah Hazzard
โปรดิวเซอร์ J. White Did It
เพลงในปี 2020

เพลงฮิปฮอปที่ถูกเปิดฟังมากที่สุดในปีนี้คงจะต้องยกให้ ‘Savage’ ของแรปเปอร์สาว Megan Thee Stallion นักร้องหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงคนหนึ่งของวงการในตอนนี้ ด้วยน้ำเสียงและจังหวะการแรปรวมไปถึงดนตรีที่ดุดัน ทำให้เมื่อคนฟังสามารถฟังได้ไม่มีเบื่อ ในตอนแรกที่เพลงนี้ปล่อยออกมาก็ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะใน Tiktok ที่คนนำเพลงเอาไปเต้นกันเป็นจำนวนมาก จนเมื่อปล่อยเวอร์ชัน Remix ที่ร่วมงานกับ Beyonce ออกมา เพลงนี้ก็เหมือนยิ่งเพิ่มทวีคูณความดังไปในอีกระดับ เนื่องจากเสียงของบียอนเซ่สามารถเบลนเข้ากับดนตรีได้อย่างกลมกล่อม จนทำให้เพลงนี้ขึ้นไปแตะอันดับ 1 ใน Billboard Hot 100 ได้สำเร็จ หากใครยังไม่เคยต้องรีบไปฟังโดยด่วนครับ


เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับประวัติและผลงานของนักร้องมากความสามารถอย่าง ‘Beyoncé (บียอนเซ่)’ ผมหวังว่าข้อมูลข้างต้นจะทำให้คุณได้รู้จักตัวเธอได้มากขึ้นและได้เพลงใหม่ ๆ เข้าไปประดับในเพลย์ลิสต์เพลงโปรดของคุณ ทั้งนี้นอกจากบียอนเซ่ที่เราได้เขียนไปแล้ว ทางเว็บไซต์ของเรายังเคยเขียน ประวัติและผลงานเพลงของ Justin Bieber, Taylor Swift และ Ariana Grande ซึ่งคุณสามารถเข้าไปอ่านกันได้ครับ

Lolipop

Lolipop

Create article about music and news with heart

Next Post