ตั้งแต่ BTS และ Blackpink เปิดประตู K-Pop ให้ดังขึ้นในวงการเพลงอเมริกาและอังกฤษ เพลงเกาหลีไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่ในเอเชียเท่านั้น แต่ในตอนนี้สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า K-Pop กำลังดังไปทั่วโลก รวมไปถึงในทุกวันนี้ก็มีทั้งศิลปินเดี่ยวและศิลปินกลุ่มจำนวนมากกำลังไต่ชาร์ตบน Billboard Hot 100 ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนต้องบอกว่าแทบจะไม่มีใครทำได้เลยครับ มีเพียงแค่ Psy (เพลงกังนัมสไตล์)ซึ่งสามารถสร้างปรากฎการณ์ได้ ในขณะที่ตอนนี้ถ้าหากพูดว่าศิลปินคนไหนบ้างที่ยืนอยู่ในระดับโลก ต้องบอกว่านับแทบไม่ได้เพราะเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Jung Kook, Fifty Fifty, Lisa Blackpink หรือ Jimin ดังนั้นในบทความนี้ผมจะมาเอาใจแฟนเพลง K-Pop ด้วยการแนะนำ ‘10 อันดับเพลงเกาหลีแห่งปี 2023’ ให้ทุกคนได้ไปฟังกันครับ
1. Jung Kook – Seven ft. Latto
แนวเพลง | UK garage และ pop |
ค่ายเพลง | Big Hit |
ผู้แต่งเพลง | Andrew Watt, Cirkut, Jon Bellion, Latto และ Theron Makiel Thomas |
โปรดิวเซอร์ | Watt และ Cirkut |
ในเรื่องเทคนิกการร้องและคุณภาพเสียงของ Jung Kook ไม่ทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว เพราะเป็นสาย Vocalist ของวง แต่ที่ทำให้ผมค่อนข้างเซอร์ไพร์สอยู่พอสมควรคือการทำดนตรีที่ Inter และมีความ Catchy มาก ฟังแล้วเพราะแบบไม่ต้องคิดเยอะ ทั้งนี้ด้วยความเป็น K-Pop แน่นอนว่าเพลงก็ยังคงความสนุกด้วยการใช้ดนตรี Pop และ UK Garage ที่ผสมผสานระหว่าง Pop และ R&B มีจังหวะในสไตล์ Dance-Pop สนุกไปได้ตลอดทั้งเพลง เหมาะกับการเปิดในงานปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อน ๆ มาก ผมยกให้เป็นหนึ่งในเพลงที่ดีที่สุดของปีนี้เลยครับ
2. FIFTY FIFTY – Cupid
แนวเพลง | K-pop, disco-pop, synth-pop และ bubblegum |
ค่ายเพลง | Attrakt |
ผู้แต่งเพลง | SIAHN, AHIN, Keenavon Mentzer, Felländer-Tsai และ Udin |
โปรดิวเซอร์ | SIAHN, von Mentzer, Felländer-Tsai และ Udin |
ต้องยอมรับว่าหลังจากได้ฟังในครั้งแรกผมคิดว่าเพลงนี้เป็นเพลงอินเตอร์ซะด้วยซ้ำ เพราะด้วย Vibe รวมไปถึงดนตรีและการเข้าไปยืนอยู่ใน Top 20 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ทำให้ไม่ได้คิดเลยว่าเป็น K-Pop แต่จริง ๆ แล้วเพลงนี้เป็นเพลงของทางวงเกิร์ลกรุ๊ป Fifty Fifty จากเกาหลี โดยเพลงนี้เมื่อฟังแล้วจะรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางเมฆสีชมพูให้ความผ่อนคลายเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ ในขณะเดียวกันเสียงประสานหรือที่เรียกว่าการ Harmony ต้องบอกว่าเพราะสุด ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพลงนี้ถึงดังได้ทั่วโลกและเป็นกระแสมากใน Tiktok และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ หากใครได้ฟังในช่วงที่กำลังเครียดเพลงนี้จะเยียวยาหัวใจคุณได้ดีเลยละครับ
3. NewJeans – OMG
แนวเพลง | R&B, hip hop และ pop |
ค่ายเพลง | ADOR |
ผู้แต่งเพลง | Gigi, Ylva Dimberg และ Hanni |
โปรดิวเซอร์ | Park Jin-su |
ไฮไลท์ของเพลงนี้นอกจากจะเป็นเสียงของสาว ๆ NewJeans ที่เพราะและน่ารักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมต้องยกเครดิตให้กับทางทีมโปรดิวเซอร์และทีมเขียนเพลงเบื้องหลังทุกคน เพราะการใช้ดนตรีแนว Trap เข้ามาทำให้ท่อนของเพลงติดหูแบบสลัดออกจากหัวไม่ได้เลย ยิ่งท่อนที่ “Oh my Oh my God..” เป็นอะไรที่น่าจดจำมาก ถือเป็นการเบลนและการปรุงเพลงแบบครบรส เป็นอีกเพลงหนึ่งที่เข้าไปตีตลาดในประเทศอังกฤษได้อย่างสวยงาม หากเปิดเพลงนี้ขึ้นมาในปี 2023 เชื่อว่าทุกคนต้องร้องท่อนฮุคและจอยไปกับเพลงได้แบบไม่ยาก ถ้าให้คะแนนคงต้องบอกว่า 10/10 ครับ
4. JISOO – FLOWER
แนวเพลง | Pop, dance และ trap |
ค่ายเพลง | The Black Label |
ผู้แต่งเพลง | YG และ Interscope |
โปรดิวเซอร์ | 24 ท่าน |
มีนักวิจารณ์เพลงชั้นนำระดับโลกหลายคนยกให้เพลง ‘Flower’ ของ Jisoo เป็นเพลง K-pop ที่ดีที่สุดของปีนี้ เนื่องจากดนตรีมีความโมเดิร์นในสไตล์ Pop และใส่ความเป็น Trap ลงไปช่วยให้เพลงสนุกขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเสียงของ JISOO อาจจะไม่ได้เป็นแนว Powerful หรือมีเทคนิกระดับดีว่า แต่เนื้อเสียงสามารถเบลนไปกับดนตรีได้แบบเพอร์เฟคฟังครั้งแรกก็รู้สึกว่าเพราะเลยครับ เป็นอีกหนึ่งเสียงที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน นอกจากนี้ด้วยเพลงมาในความเร็วระดับ Mid-Tempo คือเป็นเพลงกึ่งช้ากึ่งเร็วก็ทำให้ทุกคนสามารถร้องและเต้นไปตามเพลงกันได้อย่างสนุก ซึ่งเพลงนี้มียอดสตรีมมากกว่า 100 กว่าล้านครั้งทั่วโลก และเข้าเป็นอันดับ 2 บน Billboard Global 200 อีกด้วยครับ
5. IVE – I Am
แนวเพลง | K-Pop |
ค่ายเพลง | Starship, Kakao และ Columbia |
ผู้แต่งเพลง | Ryan S. Jhun, Kristin Marie Skolem, Audun Agnar Guldbrandsen และ Eline Noelia Myreng |
โปรดิวเซอร์ | ไม่ระบุ |
‘I Am’ มาในจังหวะที่เร้าใจเป็น Pop สังเคราะห์และมีกลิ่นอายของ Rock อยู่ในเพลงอีกด้วย ซึ่งดนตรีในสไตล์นี้รับประกันได้เลยว่าสนุกแน่นอน แต่ที่ผมชอบมากกว่าความตื่นเต้นและจังหวะดนตรีสาย Dance คือเนื้อเพลงที่ให้กำลังใจในการก้าวเดินในชีวิต พูดถึงความมั่นใจและการยืนด้วยลำแข้งของตัวเองพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน ถือเป็น Strong Message ที่ปลุกใจแฟนเพลงได้ดีมาก ฟังแล้วได้รับเอเนอร์จี้ดี ๆ ทั้งยังจอยไปกับเพลงเพราะได้ตลอด 3 นาที อีกอย่างหนึ่งที่ชอบแพ้กันคือเสียงร้องที่สูงทะลุเพดาน สำหรับผมแล้ววงนี้ถือเป็นอีกวงหนึ่งที่เมมเบอร์เสียงดีมากเลยครับ
6. (G)I-DLE – Queencard
แนวเพลง | Pop |
ค่ายเพลง | Cube และ Kakao |
ผู้แต่งเพลง | Soyeon, Pop Time, Daily และ Likey |
โปรดิวเซอร์ | Soyeon |
(G)I-DLE เป็นเพลงที่ให้พลังงานทางบวกดี ๆ (Positive Energy) ครับ เพราะเนื้อหาของเพลงพูดถึงความมั่นใจในตัวเอง (Self-Confidence) ความสวยไม่ได้มีเพียงแค่หน้าตาแต่ความเป็นจริงแล้วความสวยมาจากด้านในต่างหาก ทั้งนี้ด้วยสไตล์ดนตรีมาในแนว Pop จ๋า ๆ บวกกับการร้องในแนว Light (ร้องด้วยเสียงใส ๆ ใส่เทคนิกไม่เยอะ) ทำให้ฟิลลิ่งของเพลงนี้ดีมาก มีทั้งความสนุกและเนื้อหาที่ดี เหมาะมากสำหรับการเปิดในช่วงเช้าเพื่อเพิ่มพลังความมั่นใจหรือใช้ ‘Queencard’ ในการออกไปใช้ชีวิตข้างนอกครับ
7. Le Sserafim – Unforgiven
แนวเพลง | Hip hop |
ค่ายเพลง | Source, YG Plus, EMI และ Universal Japan |
ผู้แต่งเพลง | Score (13), Megatone (13) และอื่น ๆ |
โปรดิวเซอร์ | 13 ท่าน |
ต้องบอกว่าทีมงานเบื้องหลังของเพลงนี้ไม่ธรรมดาเลยครับ เพราะมีโปรดิวเซอร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Nile Rodgers เข้ามาช่วยในการทำเพลง ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดนตรีจึงมีกลิ่นอายของความอินเตอร์ค่อนข้างเยอะ ทั้งนี้ดนตรีที่นำมาใช้ในตัวเพลงก็มีการนำเอาแซมเปิลของ The Good, the Bad and the Ugly ในปี 1996 ให้ความคลาสสิกและมีความสนุกอยู่ในตัวเพลงเยอะมาก โดยเฉพาะการใส่ Acoustic ที่เป็นกีตาร์เพราะ ๆ ลงไปก็ช่วยให้เพลงมีมิติมากขึ้น ส่วนเนื้อหาของเพลงจะพูดเกี่ยวกับการ Break The Rule หรือการทำอะไรแปลกแหวกแนวเหนือกฎเกณฑ์ ทำอะไรที่ตัวเองอยากทำโดยไม่ต้องแคร์โลกอะไรให้มากมาย เป็นเพลงที่หลายคนบอกว่าเหมาะมากกับการเปิดในช่วงพระอาทิตย์ตก เพราะมู้ดเข้ากับบรรยากาศในช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี
8. Jimin – Like Crazy
แนวเพลง | Synth-pop |
ค่ายเพลง | Big Hit |
ผู้แต่งเพลง | Pdogg, Blvsh, Chris James, Ghstloop, Jimin, RM และ Evan |
โปรดิวเซอร์ | Pdogg และ Ghstloop |
Jimin เป็นอีกหนึ่งสมาชิกจากวง BTS ที่ได้มีโอกาสในการทำอัลบั้มโซโล่และประสบความสำเร็จมาก ๆ ในปีนี้ เพราะ Lead Single อย่าง ‘Like Crazy’ สามารถเข้าไปแตะถึงอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ซึ่งเป็นศิลปินเดี่ยวของเกาหลีคนแรกที่เข้าไปเหยียบอยู่บนจุดสูงสุดของชาร์ตนี้ได้ โดยเหตุผลที่ทำให้เพลงนี้ฮ็อตทะลุปรอทเพราะดนตรีเป็นป๊อปสังเคราะห์ มีความเซ็กซี่และจังหวะให้เต้นร้องได้ตามจังหวะเพลง ให้ฟิลลิ่งคล้าย ๆ กับเพลงของ The Weeknd เป็นดนตรีป๊อปสังเคราะห์ ที่ Catchy ติดหูและดนตรี Acoustic เพราะ ๆ เปิดได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อ
9. Tomorrow X Together – Tinnitus
แนวเพลง | Afro pop |
ค่ายเพลง | Big Hit Music |
ผู้แต่งเพลง | นักแต่งเพลง 12 คน |
โปรดิวเซอร์ | Dystinkt Beats และ Smash David |
‘Tinnitus’ อาจไม่ใช่ซิงเกิลที่มาในสไตล์ของ Dance-Pop ที่ชวนให้ลุกขึ้นมาเต้น แต่เพลงนี้เป็นเพลงช้าที่เปิดโอกาสให้ศิลปินได้โชว์พลังเสียงและเทคนิกต่าง ๆ กันอย่างเต็มที่ ถูกใจแฟนเพลงที่ชอบสาย Vocalist อย่างแน่นอน อีกทั้งเนื้อเพลงเองก็น่าจะเกี่ยวโยงกับเรื่องราวของใครหลาย ๆ คน พูดถึงเกี่ยวกับความอินโนเซ้นท์ในวัยเด็กที่ทุกอย่างบนโลกสวยงาม แต่เมื่อต้องก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่สิ่งเหล่านี้ก็ได้หายไป เพราะทุกคนต้องเดินเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง ส่วนดนตรีเองก็ทำออกมาได้ดีทั้งในส่วนของเสียงกีตาร์ พร้อมกับการแซมด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเมโลดี้แบบ Ethereal ที่แมตช์เข้ากับเพลงได้อย่างสวยงาม
10. Stray Kids – Hall of Fame
แนวเพลง | Space rock และ trap |
ค่ายเพลง | JYP, Epic Japan และ Republic |
ผู้แต่งเพลง | 3RACHA |
โปรดิวเซอร์ | VERSACHOI และ Bang Chan |
‘Hall of Fame’ คือเพลงอีกหนึ่งที่เอเนอร์จี้ในเพลงเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเพลงที่พูดเรื่อง Confident หรือความมั่นใจในตัวเอง รวมไปถึงบีทและเมโลดี้หนัก ๆ ฟังกี่ครั้งก็รู้สึกสนุกจน Replay เพลงแบบ ไม่มีเบื่อ ส่วนคุณภาพของเพลงก็พิสูจน์ได้จากยอดพรีออเดอร์ที่แตะหลัก 5 ล้าน รวมไปถึงใน Itunes เองก็ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในชาร์ต Worldwide ด้วยเช่นกันครับ หากใครอยากสนุกแบบไม่ต้องคิดเยอะ ‘Hall of Fame’ เป็นอะไรที่พร้อมเสิร์ฟความมันส์ให้ได้อย่างแน่นอน