Miley Cyrus (ไมลีย์ ไซรัส) – ประวัติ และผลงาน

ดิสนีย์เป็นค่ายเพลงที่ผลิตนักแสดงและศิลปินนักร้องระดับโลกมาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Britney Spears, Christina Aguilera, Selena Gomez, Demi Lovato และอีกหนึ่งคนที่กำลังมาแรงในช่วงต้นปี 2023 ตอนนี้คือ ‘Miley Cyrus (ไมลีย์ ไซรัส)’ โดยไมลีย์เป็นศิลปินที่ขึ้นชื่อว่ามีเสียงเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ มีความแหบเสน่ห์แต่แฝงไปด้วยความทรงพลัง

ถึงแม้ว่าภาพลักษณ์ของเธอจะเป็นนักร้องที่ดูแรง แต่ในอีกด้านหนึ่งไมลีย์จัดว่าเป็นนักร้องเสียงดีซึ่งสามารถฮิตโน้ตสูง ๆ ได้สบาย และเพลงที่ปล่อยออกมาก็ดีมาก ไมลีย์มีการชิมลางแนวเพลงใหม่อยู่เสมอ ตั้งแต่ป๊อปใสไปจนถึง Rock, R&B, Disco และ Country ดังนั้นในวันนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำศิลปินดังและคุณภาพระดับโลกมาให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้นครับ

ประวัติของ Miley Cyrus (ไมลีย์ ไซรัส)

ไมลีย์เกิดและเติบโตในรัฐเทนเนสซี เธอมีคุณแม่ชื่อ ‘Tish Cyrus’ ซึ่งมีอาชีพเป็นโปรดิวเซอร์ตามรายการทีวี ส่วนคุณพ่อของเธอชื่อ ‘Billy Ray Cyrus’ เป็นนักร้องคันทรี่มืออาชีพที่มีชื่อเสียงในวงการเพลง (เพลงดังของคุณพ่อเธอ คือเพลง Achy Breaky Heart) โดยตอนเกิดไมลีย์มาพร้อมกับโรค SVT หรือหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะที่หัวใจห้องบน ส่วนชื่อแรกที่คุณพ่อและคุณแม่ตั้งชื่อให้กับเธอคือ ‘Destiny Hope’ และมีชื่อเล่นสุดน่ารักนั่นคือน้อง ‘Smiley’ เนื่องจากครอบครัวของเธออยากให้เธอเจริญเติบโตด้วยความโชคดีไปพร้อมกับรอยยิ้ม

สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้
Miley Cyrus
Miley Cyrus

ด้วยความที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต่างอยู่ในวงการบันเทิงทั้งคู่ จึงทำให้ไมลีย์ได้รับการสนับสนุนและผลักดันแบบเต็มที่ โดยในช่วงอายุ 8 ขวบ เธอจำเป็นต้องย้ายที่อยู่ไปในประเทศแคนาดาเพราะคุณพ่อมีคิวถ่ายซีรีส์ และการเดินทางในครั้งนี้ทำให้เธอค้นพบว่าความฝันสูงสุดคือการเป็นนักแสดง ซึ่งตรงนี้ทำให้ไมลีย์เข้าไปเรียนร้องเพลงและเรียนการแสดงอย่างจริงจังเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงอายุ 13 ขวบ เธอก็ได้รับการติดต่อจากดิสนีย์ในการรับบทนักแสดงนำของซีรีส์ Hannah Montana หลังจากได้ไปแคสติ้งเอาไว้

ทั้งนี้ในตอนแรกทางค่ายปฎิเสธไม่ให้เธอรับบทดังกล่าว เนื่องจากเธอเด็กและตัวเล็กจนเกินไป แต่ด้วยฝีมือการแสดงและทักษะการร้องเพลงอันยอดเยี่ยมซึ่งได้มาจาก DNA ของคุณพ่อ จึงทำให้เธอได้รับบทนักแสดงนำอย่างเต็มตัว จนซีรีส์ดังกล่าวได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นเธอก็ได้โอกาสในการปล่อยซิงเกิ้ลเพลงออกมาเยอะมาก มียอดขายอัลบั้มหลักล้านจากทั่วมุมโลก และเปิดตัวด้วยอันดับสูงสุดบน Billboard 200 ซึ่งถือว่าเป็นใบเบิกทางทำให้เธอกลายเป็นนักร้องมืออาชีพที่มีชื่อเสียงจนมาถึงทุกวันนี้ครับ

ผลงานเพลงของ Miley Cyrus (ไมลีย์ ไซรัส)

1. Wrecking Ball

แนว Pop
ค่ายเพลง RCA
ผู้แต่งเพลง Maureen McDonald, Stephan Moccio, Sacha Skarbek, David Kim, Lukasz Gottwald และ Cirkut
โปรดิวเซอร์ Dr. Luke และ Cirkut
เพลงในปี 2013

แน่นอนว่าภาพจำ Miley Cyrus ของใครหลายคนคงนึกถึงความเป็น Pop หวานใสในช่วงอัลบั้มแรก ๆ แต่ด้วยกาลเวลาที่ผ่านไปทำให้เธอเติบโตขึ้นและเริ่มชิมลางกับดนตรีแนวใหม่ ซึ่ง Wrecking Ball เป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าไมลีย์คือศิลปินคุณภาพคนหนึ่งของวงการ โดยเพลงนี้มาในแนวของ Pop บัลลาดซึ่งเน้นโชว์เสียง แต่ยังคงความเป็นป๊อปโมเดิร์นสมัยใหม่เอาไว้ ดังนั้นตัวเพลงจึงเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม ซึ่งต้องบอกว่าเธอเอาเพลงนี้อยู่มาก สามารถฮิตโน้ตและใส่อารมณ์ได้ถึงพริกถึงขิงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่แตกร้าว ทำให้แฟนเพลงในช่วงนั้นเปิดวนและขอเพลงกันเข้ามามากในสถานีวิทยุของอเมริกา จนเพลงเปรี้ยงและคว้าอันดับ 1 บน Billboard Hot 100 ซึ่งเป็นเพลงแรกในวงการเพลงที่ไมลีย์สามารถทำได้


2. Flowers

แนว Dance-pop, nu-disco และ funk rock
ค่ายเพลง Columbia
ผู้แต่งเพลง Miley Cyrus, Gregory Aldae Hein และ Michael Pollack
โปรดิวเซอร์ Kid Harpoon และ Tyler Johnson
เพลงในปี 2023

ในอดีตเพลงของไมลีย์อาจทำเกี่ยวกับเพลงเศร้าอยู่บ่อย ๆ เพราะชีวิตรักของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบสักเท่าไหร่นัก แต่แน่นอนว่าประสบการณ์ในชีวิตทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม จนเธอได้แต่งเพลง Flowers ออกมาสร้างเอเนอร์จี้และพลังบวกให้กับแฟนเพลง โดยเนื้อหาภายในเพลงนี้เป็นการเล่าถึงการมูฟออนจากความสัมพันธ์แย่ ๆ ถึงแม้ว่าความรักจะจบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหาความสุขในขีวิตไม่ได้ เพราะเธอยังสามารถเขียนชื่อตัวเองไว้บนทรายในชายหาด และซื้อดอกไม้ให้กับตัวเองโดยไม่ต้องไปง้อผู้ชายคนไหนให้มาซื้อให้ ทั้งนี้ด้วยความที่ดนตรีเป็นแนวแดนซ์ป๊อปผสมกับความเป็นดิสโก้ จึงทำให้เพลงฟังแล้วสนุก เปิดฟังและเต้นตามเพลงไปได้เรื่อย ๆ ถือว่าเป็นอีกเพลงหนึ่งที่ทุกคนควรฟัง ! สำหรับคนที่ต้องการอยากรู้คำแปลของเพลงนี้ สามารถอ่านได้ที่ แปลเพลง Flowers – Miley Cyrus


3. Party In The U.S.A.

แนว Pop
ค่ายเพลง Hollywood
ผู้แต่งเพลง Lukasz Gottwald, Jessica Cornish และ Claude Kelly
โปรดิวเซอร์ Dr. Luke
เพลงในปี 2009

‘Party In The U.S.A’ เรียกได้ว่าเป็นเพลงเปิดทางให้กับไมลีย์ได้มีจุดยืนและเป็นที่สนใจในวงการมากขึ้น เพราะเพลงนี้ฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองและดังสุด ๆ ในสหรัฐอเมริกา โดยเหตุผลก็คงเพราะเพลงนี้เป็น Pop Modern ซึ่งฟังง่ายและด้วยเนื้อเพลงที่มีความไลฟ์ลี่ ฟังแล้วผ่อนคลายในวันสบาย ๆ ก็ยิ่งทำให้คนเมืองเปิดคลายเครียดกันเยอะ ทั้งนี้หลายคนอาจไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้วเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นโดยนักร้องดังจากฝากฝั่งของเกาะอังกฤษนั่นคือ ‘Jessie J’ แต่เธอตัดสินใจยกเลิกการอัดเพลงและสุดท้ายก็ตกเป็นของไมลีย์ในที่สุด


4. We Can’t Stop

แนว Pop, R&B และ electropop
ค่ายเพลง RCA
ผู้แต่งเพลง Mike L. Williams II, Pierre Ramon Slaughter,Timothy Thomas, Theron Thomas, Miley Cyrus, Douglas Davis และ Ricky Walters
โปรดิวเซอร์ Mike Will Made It, P-Nasty และ Rock City
เพลงในปี 2013

หลายคนตกใจมากหลังจาก ‘We Can’t Stop’ ถูกปล่อยออกมาเพราะทั้งเนื้อเพลงและตัว MV แรงอยู่พอตัวหากเปรียบเทียบกับความหวานในของ ‘Party In The U.S.A’ โดยเนื้อหาของเพลงจะพูดเกี่ยวกับการปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยง ทั้งนี้ความแรงและการเปลี่ยนลุคแบบสุดขั้วทำให้ตัวเพลงเป็นที่พูดถึงเป็น Talk of the town ส่งให้เพลงนี้พุ่งทะยานไปแตะได้ถึงอันดับ 2 บนชาร์ต อีกทั้งด้วยเพลงมีความสนุกของดนตรีอิเล็กโทรและป๊อป ก็สนุกเหมาะแก่การเปิดในงานปาร์ตี้ เรียกได้ว่าคลับในช่วงนั้นไม่มีที่ไหนไม่เปิดเพลงไมลีย์เลยก็ว่าได้


5. The Climb

แนว Country pop และ country rock
ค่ายเพลง Hollywood และ Walt Disney
ผู้แต่งเพลง Jessi Alexander และ Jon Mabe
โปรดิวเซอร์ John Shanks
เพลงในปี 2009

ไมลีย์เติบโตมาจากการเป็นศิลปินของ Disney ดังนั้นเธอจึงได้มีโอกาสทั้งการร้องเพลงควบคู่ไปกับการแสดง ซึ่งภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอเป็นอย่างมากคือ ‘Hannah Montana’ และแน่นอนว่าเธอก็ได้รับโอกาสในการเพลงประกอบหนังด้วยเช่นกันนั่นคือ ‘The Climb’ ซึ่งตัวเพลงมาในสายของ Country บัลลาดช้า ๆ และเสียงแหบเสน่ห์ทำให้ตัวเพลงเพราะสมบูรณ์แบบมาก ทั้งนี้หลายคนอาจไม่ทราบว่าคุณพ่อเธอเองก็เป็นนักร้องสายคันทรี่เหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมไมลีย์ถึงร้องคันทรี่ดีมาก! เรียกว่า DNA ศิลปินตกมาถึงรุ่นต่อรุ่นจริง ๆ


6. Can’t Be Tamed

แนว EDM
ค่ายเพลง Hollywood
ผู้แต่งเพลง Miley Cyrus, Antonina Armato,Tim James, Marek Pompetzki และ Paul NZA
โปรดิวเซอร์ Rock Mafia
เพลงในปี 2010

‘Can’t Be Tamed’ ถือว่าได้รับการวิพากย์วิจารณ์ในแง่บวกค่อนข้างดีจากนักวิจารณ์เพลง เพราะในช่วงปี 2010 ดนตรีสาย EDM กำลังเติบโตในวงการเพลง และตัวเพลงก็เป็นการโชว์ว่าไมลีย์เริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำเพลงมากยิ่งขึ้น เพราะเธอลงมือเขียนบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์เกี่ยวกับความรักด้วยตัวเอง ส่วนดนตรีจะเป็นแบบสังเคราะห์และใส่ออโต้จูนเข้าไปในเสียงให้กลมกลืนไปกับเพลง ทำให้เพลงนี้สนุกและเป็นไอคอนเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเพลงนี้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จที่สุดของไมลีย์ แต่ก็ทำให้หลายคนรู้จักเธอจากเพลงนี้


7. 7 Things

แนว Pop-punk
ค่ายเพลง Hollywood
ผู้แต่งเพลง Miley Cyrus, Antonina Armato และ Tim James
โปรดิวเซอร์ John Fields
เพลงในปี 2008

แรงบันดาลใจในการทำเพลง ‘7 Things’ มาจากอดีตแฟนหนุ่มอย่าง Nick Jonas โดยเธอเปิดเผยว่าในช่วงแต่งเพลงอารมณ์ของเธอผันผวนมาก และเธอก็ยอมรับว่าเธอแต่งเพลงนี้มาเพื่อแซะอดีตแฟนหนุ่มโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเพลงถึงมีความแซ่บอยู่พอตัวและยิ่งการใช้ดนตรีสไตล์ Pop-punk ก็ทำให้เพลงดุเดือดเข้าไปใหญ่ หากใครมูฟออนจากความสัมพันธ์ครั้งเก่าแล้ว บอกได้เลยว่าเพลงนี้ถูกใจคุณอย่างแน่นอน


8. Malibu

แนว Pop rock และ soft rock
ค่ายเพลง RCA
ผู้แต่งเพลง Miley Cyrus และ Oren Yoel
โปรดิวเซอร์ Miley Cyrus
เพลงในปี 2017

หลังจาก Miley Cyrus ทำดนตรีสายแดนซ์มาค่อนข้างเยอะ เธอก็เริ่มกลับมาทำดนตรีสายชิลลิ่งอีกครั้งในเพลง ‘Malibu’ โดยเนื้อหาในเพลงนี้ไมลีย์ต้องการจะแชร์ประสบการณ์ความรักที่ดีระหว่างเธอและแฟนหนุ่มสุดหล่ออย่าง Liam Hemsworth ให้กับแฟนเพลงของเธอได้ฟัง ทั้งนี้ดนตรีจะมีความซอฟต์ในสไตล์ของ Pop และ Rock ใส ๆ ก็ทำให้สามารถฟังได้เรื่อย ๆ ยิ่งถ้าได้ฟังกับแฟนบอกเลยว่าโรแมนติกสุด ๆ ครับ


ใส่โค้ด BSET2311 นี้เพื่อรับส่วนลด ในแอปช้อปปี้

  • ลดสูงสุด 300 บาท
  • เริ่ม 11/11/2023 เวลา 0:00:00
  • หมดเขต 11/30/2023 เวลา 23:59:59

หมายเหตุ : โค้ดส่วนลดมีจำนวนจำกัดการใช้ 1 คน/ครั้ง/เครื่อง และใช้ผ่านแอป

Lolipop

Lolipop

Create article about music and news with heart

Next Post