ผมเชื่อว่าทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วเกี่ยวกับการป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ โควิด 19 ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดคือการล้างมือทุกครั้งที่มีการสัมผัสด้วย สเปรย์, สบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ รวมไปถึงอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อจำเป็นที่จะต้องออกจากบ้านนั่นคือ ‘หน้ากากอนามัย’ ซึ่งเมื่อพูดถึงหน้ากากอนามัยแล้ว แน่นอนว่ามันก็มีหลากหลายชนิดและหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากผ้า, หน้ากากทางการแพทย์ หรือ หน้ากาก N95 ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าการ “ใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น“ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด 19 ได้มากกว่าการใส่เพียงแค่ชั้นเดียว แต่ก็ยังมีคนตั้งคำถามว่า “มันจะช่วยจริง ๆ เหรอ ?” หรือ “ควรจะใส่สองชั้นไหม ?” วันนี้ผมมีความรู้และคำตอบมาไขข้อข้องใจให้กับทุกคนครับ
ใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันได้มากน้อยแค่ไหน ?
CDC หรือ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐฯ ได้มีการทดลองใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น (1) เพื่อทดสอบว่าการใส่หน้ากากอนามัยในลักษณะนี้สามารถป้องกันได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการทดลองนั้นจะทดสอบการป้องกันจากการไอและการหายใจ โดยผลลัพธ์จากการทดลองที่ได้เป็นดังนี้
1. การป้องกันเชื้อจากการไอ
ในการทดสอบการป้องกันจากการไอจะมีการทดลองอยู่ 3 แบบนั่นคือ
- หน้ากากผ้าเพียง 1 ชั้น
- หน้ากากทางการแพทย์เพียง 1 ชั้น
- หน้ากากทางการแพทย์ 1 ชั้นและคลุมด้วยหน้ากากผ้าอีก 1 ชั้น
โดยผลการทดลองที่ออกมาพบว่าการใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้นในแบบที่ 3 สามารถป้องกันการรับเชื้อจากการไอได้ถึง 85.4% ในขณะที่การใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากทางการแพทย์เพียงหนึ่งชั้นสามารถป้องกันเชื้อได้ 51.4% และ 56.1% เท่านั้น
2. การป้องกันเชื้อจากการหายใจ
สำหรับผลการทดลองนี้ตรวจสอบแล้วพบว่า
- หากผู้ติดเชื้อมีการสวมใส่หน้ากาก 2 ชั้น (หน้ากากทางการแพทย์และหน้ากากผ้า) ในขณะพูดคุยกับผู้ที่ไม่ติดเชื้อที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย จะสามารถหยุดการแพร่กระจายเชื้อได้กว่า 82.2%
- หากผู้ไม่ติดเชื้อใส่หน้ากาก 2 ชั้น (หน้ากากทางการแพทย์และหน้ากากผ้า) ในขณะพูดคุยกับผู้ติดเชื้อที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย จะสามารถป้องกันเชื้อได้กว่า 83%
- หากทั้งผู้ติดเชื้อและผู้ไม่ติดเชื้อใส่หน้ากาก 2 ชั้น (หน้ากากทางการแพทย์และหน้ากากผ้า) จะสามารถหยุดการแพร่เชื้อได้สูงถึง 96.4% เลยทีเดียว
ข้อดีอื่น ๆ ของการใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น
1. ความฟิต
มีหน้ากากอนามัยอยู่หลายประเภทที่เมื่อใส่ไปแล้วไม่สามารถฟิตเข้ากับหน้าของเราได้ดี ดังนั้นเมื่อคนที่ติดเชื้อใส่หน้ากากไปแล้ว เชื้อไวรัสยังสามารถแพร่กระจายออกมาได้ เนื่องจากมันมีช่องว่างระหว่างผิวหน้ากับหน้ากากอนามัย ในขณะเดียวกันคนที่ไม่ติดเชื้อแต่ใส่หน้ากากที่ไม่ค่อยจะฟิต ก็สามารถรับเชื้อไวรัสได้เช่นกัน ซึ่งการแก้ปัญหานี้ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้นถือเป็นตัวเลือกที่ดีครับ

2. การกรองเชื้อไวรัส
การแพร่กระจายเชื้อส่วนใหญ่แล้วก็มาจากเหตุผลหลัก ๆ อยู่ประมาณ 3 อย่าง นั่นคือ การพูดคุย, การไอ และการจาม ซึ่งการใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้นจะช่วยกรองเชื้อไวรัสให้เราได้มากกว่าเดิม เพราะเมื่อไวรัสหลุดรอดเข้าไปยังชั้นแรกได้ แต่อย่างน้อยก็ยังมีชั้นที่ 2 ที่ยังสามารถช่วยกรองให้เราได้อยู่ ดังนั้นทาง CDC จึงได้แนะนำให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยอย่างน้อย 2 – 3 ชั้นครับ (2)
วิธีการใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้นแบบถูกต้อง
หลังจากที่ทราบถึงข้อดีของการใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้นกันไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงการใส่ที่ถูกต้องกันบ้าง เพราะการใส่ที่ถูกต้องจะทำให้หน้ากากอนามัยช่วยป้องกันเชื้อโควิด 19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดครับ
1. เลือกชนิดของหน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง

การใส่หน้ากาก 2 ชั้นที่ถูกต้องควรจะใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ในชั้นแรก หลังจากนั้นจึงนำหน้ากากผ้ามาคลุมทับอีกหนึ่งชั้น (3)
2. หลีกเลี่ยงการใช้หน้ากากอนามัยที่ผิดชนิด
หน้ากากอนามัยบางชนิดไม่สามารถใส่ร่วมกันได้ครับ เพราะมันอาจจะไม่ฟิตพอทำให้เกิดช่องว่างที่เชื้อสามารถเข้าไปได้ รวมไปถึงการหายใจที่อาจจะลำบากมากกว่าเดิม ดังนั้นการใส่หน้ากาก 2 ชั้นที่ควรจะหลีกเลี่ยงมีดังนี้
- ใส่หน้ากากทางการแพทย์ทั้ง 2 ชั้น
- ใส่หน้ากาก KN95 ร่วมกับหน้ากากชนิดอื่น
- ใส่หน้ากาก N95 ร่วมกับหน้ากากชนิดอื่น
3. ทดลองใส่ก่อนภายในบ้าน
ก่อนที่จะออกจากบ้านคุณควรเตรียมตัวใส่หน้ากากไว้ให้เรียบร้อยเลยครับ เพราะจะทดสอบความฟิต, การหายใจ และการมองเห็นด้วย
- ความฟิต คุณต้องมั่นใจว่าหน้ากากชั้นที่ 2 สามารถแนบสนิทกับผิวหน้าของเราได้แบบไม่มีช่องว่างให้เชื้อสามารถเข้าไปได้ ยิ่งโดยเฉพาะบริเวณส่วนของสันจมูก คุณควรจะซีลให้ดีเลยครับ
- การหายใจ แน่นอนว่าการหายใจในหน้ากากอนามัยอาจจะต้องลำบากสักเล็กน้อย แต่การใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ควรจะไม่ให้หายใจลำบากมากกว่าหรือแตกต่างไปกว่าชั้นเดียวครับ
- การมองเห็น การใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ไม่ควรที่จะไปบดบังการมองเห็นของคุณ
4. ใส่ทุกครั้งเมื่อไปในสถานที่ที่มีคนเยอะ
แน่นอนว่าในบางสถานที่อาจจะเว้นระยะทางสังคมค่อนข้างลำบาก อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล, การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ หรือออฟฟิศ ดังนั้นก่อนที่จะไปตามสถานที่นั้น ๆ คุณควรจะเตรียมใส่หน้ากากแบบ 2 ชั้นไปเลยครับ
References: