หากคุณเป็นคนที่ฟังเพลงบ่อย ๆ หรือติดตามชาร์ตเพลงอย่างต่อเนื่อง คุณจะรู้ว่าศิลปินแต่ละคนจะมีเส้นทางหรือแนวเพลงที่ถนัดแตกต่างกันออกไป อย่างถ้าเป็นสายดีว่า (Diva) จ๋า ๆ ร้องเพลงฮิตโน้ตสูง ๆ ก็จะมี Mariah Carey หรือ Christina Aguilera ส่วนทางด้านนักร้องสาย R&B ก็อาจจะเป็น Ariana Grande, The Weeknd หรือ Sza ซึ่งจะเห็นได้ว่าแต่ละคนจะโดดเด่นไปตามดนตรีที่ตัวเองถนัด แต่จะมีศิลปินหนึ่งคนที่มีความสามารถ ร้องเพลงได้หลายแนวนั่นคือ ‘Doja Cat’ โดยเธอร้องได้ทั้ง Pop และ R&B ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังแรปได้อีกด้วย
ดังนั้นถ้าใครติดตามผลงานของโดจา ‘Doja Cat’ อยู่ จะเห็นเลยว่าในเพลงของโดจาจะมีทั้งการแรปและร้องควบคู่กันไป ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ปล่อยซิงเกิลอะไรออกมาก็ขึ้นชาร์ตอยู่เสมอ แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยผ่านหูผ่านตาผลงานของโดจากันมาบ้าง แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ชีวประวัติและเบื้องหลังของงานเพลง ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากจะมาแชร์ ‘ประวัติและผลงานเพลง Doja Cat’ ให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้น
ประวัติ Doja Cat (โดจา แคต)
ในวงการเพลงแน่นอนว่าเรารู้จักเธอในชื่อ Doja Cat แต่จริง ๆ แล้วเธอมีจริงว่า ‘Amala Ratna Zandile Dlamini’ โดจาเกิดและเติบโตมาในครอบครัวศิลปินแบบ 100% เพราะคุณแม่ของเธอเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ ในขณะที่คุณพ่อเป็นชาวแอฟริกาใต้มีอาชีพเป็นนักแสดงชาวซูลู (ชนเผ่ากลุ่มหนึ่งซึ่งมีประชากรกว่า 11 ล้านคน) หลังจากนั้นคุณพ่อของเธอก็ย้ายประเทศมาอยู่ในสหรัฐอเมริกาในปี 2007 และได้มีโอกาสเข้าไปแสดงละครเวทีและภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง
ครอบครัวและโดจาพักอาศัยอยู่ภายในรัฐ New York ด้วยครอบครัวของเธอเป็นสายศิลปิน จึงมีโอกาสในการฝึกฝนทางด้านการร้องเพลงและการเต้นอยู่ตลอดเวลา แม้แต่การเต้นรำสไตล์อินเดียหรือฮินดูเธอก็เคยทำมาแล้ว ในช่วงวัยเด็กโดจาไม่ค่อยชอบไปโรงเรียนสักเท่าไหร่นัก เพราะเธอและพี่ชายจะโดนเหยียดเชื้อชาติอยู่เสมอ เนื่องจากทั้งคู่เป็นลูกครึ่งแอฟริกัน-อเมริกัน

โดจาในช่วงวัยเด็ดถือได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านการเต้นเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่เธอเดินสายประกวดเต้นไปทั่วลอสแอนเจลิสเลยทีเดียว และด้วยป้าของเธอเป็นโค้ชสอนร้องเพลงก็เลยทำให้โดจาได้เรียนร้องเพลงควบคู่กันไปด้วย ทั้งนี้ในช่วงวัยมัธยมโดจาเป็นเด็กที่โดดเรียนค่อนข้างบ่อย เพราะเธอไม่ชอบการโดนเหยียดและรู้สึกเบื่อกับการเรียนมาก ๆ ในใจของเธอมีเพียงการโชว์และเพลงเท่านั้น เมื่ออายุ 16 ปี เธอจึงตัดสินใจดร็อปเรียนทันที
หลังจากดร็อปเรียนโดจาให้สัมภาษณ์ว่าวัน ๆ เธอนอนอยู่กับพื้นและเสิร์ชอินเตอร์เน็ตเพื่อหาบีทและดนตรีเพลงในการนำมาทำเพลงของตัวเอง โดยในตอนนั้นเธออัดเพลงด้วยการใช้ GarageBand เมื่อทำเสร็จแล้วก็อัพโหลดลงไปใน Soundcloud เพื่อให้คนอื่นได้มาฟังผลงาน เมื่อปล่อยไปในระยะเวลาหนึ่งก็ทำให้เพลงของโดจาไปเข้าหูโปรดิวเซอร์และค่ายเพลงเยอะมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ได้เข้าไปเซ็นสัญญากับค่ายดังอย่าง RCA
ช่วงปี 2012 ไปจนถึง 2017 เธอก็ยังไม่ได้ดังเปรี้ยงอะไรมากมาย มีแฟนเพลงรู้จักเธอแบบเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่เมื่อเริ่มเข้าสู้ปี 2018 ซิงเกิ้ลอย่าง Amala ก็เข้าไปในชาร์ต Billboard Hot 100 และ Moo! ก็เป็นกระแสมากจนเป็นไวรัล ยอดวิวของ MV สูงถึง 3 ล้านวิวโดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งการที่เธอเริ่มมีกระแสก็ทำให้ทางค่ายเริ่มกลับมาโฟกัสและดันเธออีกครั้ง
เส้นทางเดินของเธอในอุตสาหกรรมเพลงเริ่มสดใสขึ้น เพราะอัลบั้มและซิงเกิลขายได้มากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเพลง ‘Juicy’ ที่เธอได้มีโอกาสร่วมงานกับ Tyga โดยเพลงนี้สามารถไต่ขึ้นชาร์ตได้ในอันดับที่ 83 แต่เพลงที่ปังและทำให้เธอดังเปรี้ยงแบบฉุดไม่อยู่นั่นคือ ‘Say So’ เพราะมันเป็นซิงเกิลแรกของโดจา ซึ่งสามารถขึ้นอันดับ 1 บน Billboard Hot 100 ได้สำเร็จ
เมื่อเพลงของเธอดังไปทั่วโลกแน่นอนว่าสปอตไลต์ก็ส่องลงมา ทำให้ศิลปินชั้นนำดึงตัวไปร่วมงานเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Ariana Grande, Post Malone, Saweetie, SZA, Nicki Minaj และศิลปินอีกมากมาย จนทุกวันนี้เธอได้รับการยอมรับทั้งแฟนเพลงและศิลปินหลายคนในเรื่องของความสามารถทั้งการร้องและการทำเพลง อีกทั้งยังมีรางวัลอย่าง Grammy Awards การันตีอีกด้วย ถ้าหากพูดชื่อ ‘Doja Cat’ ในยุคนี้รับรองว่าไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน
1. Say So
แนวเพลง | Pop, disco และ pop-rap |
ค่ายเพลง | Kemosabe และ RCA |
ผู้แต่งเพลง | Amala Dlamini, Lukasz Gottwald และ Lydia Asrat |
โปรดิวเซอร์ | Tyson Trax |
เพลงในปี | 2020 |
Say So เป็นเพลงแรกของทาง Doja Cat ที่สามารถไต่อันดับ 1 ของชาร์ตได้สำเร็จ โดยเพลงนี้โดจาเป็นคนลงมือทำทั้งเองทั้งในส่วนของเมโลดี้และเนื้อเพลง ซึ่งดนตรีจะได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงยุค 70 มีความวินเทจตามสไตล์ของ Retro Disco Pop โดยอย่างที่ทราบกันว่าดนตรีสายนี้มีความสนุกอยู่ในตัว การที่โดจาหยิบเอามาใช้ก็ทำให้เพลงมีเสน่ห์โดดออกมาจากเพลงในยุคนี้ แต่ยังคงความสนุกและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ ที่ร้องและแรปได้ทั้งสองอย่าง ยิ่งในเวอร์ชัน Remix ที่ได้เชิญนิกกี้เข้ามาร่วมร้องก็ทำให้เพลงสนุกขึ้นไปอีกเท่าตัว จนเพลงนี้กลายเป็นเพลงในความทรงจำของใครหลายคน
2. 34+35
แนวเพลง | Pop และ R&B |
ค่ายเพลง | Republic |
ผู้แต่งเพลง | Ariana Grande, Tayla Parx, Victoria Monét และ Scott Nicholson |
โปรดิวเซอร์ | Peter Lee Johnson และ Tommy Brown |
เพลงในปี | 2020 |
สำหรับเพลง 34+35 เป็นเพลงที่ทาง Ariana ได้ดึงโดจาและเมแกนเข้ามาสร้างสีสันให้กับเพลงด้วยการแรป ทำให้เพลงมีมิติมากขึ้น ซึ่งดนตรีในสาย Pop และ R&B เป็นอะไรที่ทั้งสามคนถนัดอยู่แล้ว ดังนั้นเพลงนี้จึงทำออกได้อย่างกลมกล่อม ถ้าให้เปรียบกับอาหารก็คงเหมือนกับส้มตำหรือต้มยำกุ้ง เพราะนอกจากจะมีความเค็ม, เปรี้ยว และหวานแล้ว ยังแกมไปด้วยความเผ็ดแซ่บของเนื้อเพลง ซึ่งต้องบอกว่าแรงมาก !!! ถ้าหากใครอยากรู้ก็ลองไปเสิร์ชดูนะจ๊ะ
3. I Like You (A Happier Song)
แนวเพลง | Pop-rap |
ค่ายเพลง | Republic และ Mercury |
ผู้แต่งเพลง | Austin Post, Amala Dlamini, Louis Bell, Jasper Harris และ William Walsh |
โปรดิวเซอร์ | Bell และ Harris |
เพลงในปี | 2022 |
ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงที่โรแมนติกและทำให้หลายคนยิ้มไปตาม ๆ กัน เนื้อหาของเพลงบอกเล่าถึงความรักระหว่างกัน คอยซัพพอร์ตและแชร์สิ่งดี ๆ ให้กันเสมอ ทั้งนี้ด้วยความที่ทั้งสองคนเป็นนักร้องในสายของ Hip-hop แต่สามารถร้องเพลงได้ทั้งคู่ ดังนั้นดนตรีจะมาในสายของ Pop ผสมกับความเป็น Rap อยู่ในตัว คือมีความใสแบบ Pop แต่ยังคงความสนุกและบีทหนักตามสไตล์ของ Hip-Hop ทำให้เพลงนี้ฟังได้เรื่อย ๆ ทั้งนี้ต้องบอกว่าเสียงประสานของทั้งคู่เพราะมาก ช่วยเสริมให้เพลงนี้หวานขึ้นไปแบบทวีคูณ ถ้าหากใครมีคู่แล้วเปิดกันฟังกันสองคนต้องมีเขินบ้างละ
4. Kiss Me More
แนวเพลง | Pop, bubblegum pop, dance-pop, pop rap และ R&B |
ค่ายเพลง | Kemosabe และ RCA |
ผู้แต่งเพลง | Amala Dlamini, Solána Rowe, Stephen Kipner, Terry Shaddick, Carter Lang,David Sprecher และ Gerard A. Powell |
โปรดิวเซอร์ | Rogét Chahayed, Yeti Beats และ Tizhimself |
เพลงในปี | 2021 |
‘Kiss Me More’ จัดอยู่ในเพลงฮิตระดับตำนานของโดจา เพราะเพลงนี้สามารถคว้ารางวัล Grammy Awards ซึ่งเป็นรางวัลแรกในรายการนี้ที่โดจาได้มา หลังจากชวดมาหลายต่อหลายครั้ง โดยสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของเพลงนี้จะอยู่ในส่วนของดนตรีและการเลือกนักร้องมาร่วมงานเพลง ซึ่งเพลงนี้โดจาได้เชิญ SZA มารับหน้าที่ในในพาร์ทของการร้อง R&B ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ทำให้เพลงมีความสมูธ ส่วนพาร์ทของโดจาก็จะเป็นการแรปและร้องป๊อปใส ๆ ดังนั้นเพลงนี้จะกลมกล่อมทั้งความหวาน ความสนุก และความแซ่บนัว สามารถไต่ขึ้นชาร์ตเพลงได้สูงถึงอันดับที่ 3
5. Woman
แนวเพลง | Afrobeats, pop, R&B, Reggae และ Hip-hop |
ค่ายเพลง | Kemosabe และ RCA |
ผู้แต่งเพลง | Amala Zandile Dlamini, Jidenna Mobisson, Lydia Asrat, David Sprecher, LindenJay, Aaron Horn และ Ainsley Jones |
โปรดิวเซอร์ | soundtrack.com, Linden Jay, Aynzli Jones และ Crate Classics |
เพลงในปี | 2021 |
ธีมเพลงของ ‘Woman’ มีนัยยะแฝงและต้องการพูดถึงเกี่ยวกับ Feminism ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์และสิ่งที่ผู้หญิงต้องพบเจอ ทั้งนี้ดนตรีที่ใช้จะเป็น Afrobeats ผสมเข้ากับ Ragge, R&B และ Hip-Hop ดังนั้นดนตรีก็จะมีความเร้าใจฟังแล้วสนุกสามารถโยกไปได้ตามเพลง แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยการเรียกร้องเพื่อนสิทธิเพื่อนสตรีด้วยกัน ถือเป็นอีกเพลงหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลงคุณภาพของ Doja Cat
6. Need To Know
แนวเพลง | Trap-pop |
ค่ายเพลง | Kemosabe และ RCA |
ผู้แต่งเพลง | Amala Dlamini และ Lukasz Gottwald |
โปรดิวเซอร์ | Dr. Luke |
เพลงในปี | 2021 |
‘Need To Know’ มีบีทที่ค่อนข้างหนัก จังหวะของเพลงจะดังตุ๊บ ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้นไปตลอดเพลง ซึ่งดนตรีเบลนเข้ากันกับเนื้อหาของเพลงที่ค่อนข้างเผ็ดร้อน มีความ Sexual อยู่ในตัวคือฟังแล้วเซ็กซี่สุด ๆ ความสนุกและการโปรดิวซ์เพลงของ Dr.Luke รวมไปถึงเสียงเพราะ ๆ ของโดจา ทำให้นักวิจารณ์ต่างชื่นชมและบางสำนักถึงขนาดยกให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ดีที่สุดของปี 2021 เลยทีเดียว
7. Vegas
แนวเพลง | Hip hop |
ค่ายเพลง | Kemosabe และ RCA |
ผู้แต่งเพลง | Amala Dlamini, Rogét Chahayed, David Sprecher, Jerry Leiber และ Mike Stoller |
โปรดิวเซอร์ | Chahayed และ Yeti Beats |
เพลงในปี | 2022 |
‘Vegas’ ค่อนข้างท้าทายความสามารถของโดจาอยู่พอสมควร เพราะเพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Elvis ซึ่งดนตรีและเนื้อหาเพลงจะมีความ Historical คือพูดง่าย ๆ ว่าเพลงต้องมีความขลังให้เหมาะกับหนังชีวประวัติ ถ้าหากเปรียบเทียบกับซิงเกิลที่โดจาปล่อยออกมาหน้านี้ก็ต้องบอกว่าคนละสายเพลงและจินตนาการไม่ออกเลย แต่เมื่อปล่อยออกมาแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะเธอสามารถเบลนความเป็นตัวเองเข้าไปได้อย่างพอดี ถือว่าเป็นเพลง Hip-hop ที่ฟังแล้วขลัง แตกต่างไปจากเพลงอื่น คุณภาพของเพลงจัดว่าเป็นผลงาน Masterpiece ก็ว่าได้
8. You Right
แนวเพลง | R&B |
ค่ายเพลง | Kemosabe และ RCA |
ผู้แต่งเพลง | Amala Dlamini, Abel Tesfaye และ Lukasz Gottwald |
โปรดิวเซอร์ | Dr. Luke |
เพลงในปี | 2021 |
‘You Right’ อาจจะไม่ใช่เพลงที่ดังที่สุดของโดจา แต่ต้องยอมรับว่าเพลงนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างเพอร์เฟคมาก เป็นเพลง R&B ช้า ๆ ฟังได้เรื่อย ๆ ไม่เพียงเท่านั้นยังได้ The Weeknd เข้ามาร่วมร้องและเขียนเพลงอีกด้วย ซึ่งหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าถ้าเพลงมาในสาย R&B อเบลจะไม่ทำให้เราผิดหวังอย่างแน่นอน ด้วยความที่เสียงของทั้งคู่เพราะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้เพลงนี้ฟังแล้วเคลิ้มเหมือนล่องลอยในอากาศ อีกทั้งยังมีความคลาสสิก คล้าย ๆ กับไวน์ที่ยิ่งบ่มให้นานเท่าไหร่ รสชาติยิ่งเข้มยิ่งกลมกล่อม ไม่ว่าจะฟังในยุคไหนก็ยังคงเพราะอยู่เสมอ