ในปี 2023 มีศิลปินเรียงแถวปล่อยซิงเกิลและอัลบั้มกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น SZA, The Weeknd, Selena Gomez และอีกคนหนึ่งที่หลายคนต่างรอคอยในการกลับมาผงาดในวงการเพลงอีกครั้งคือ ‘Miley Cyrus’ โดยก่อนหน้านี้ไมลีย์เคยสร้างประวัติศาสตร์ทั้งชาร์ตและยอดขายเอาไว้เยอะมากในอัลบั้มสุดฮิตอย่าง ‘Bangerz’ ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นเธอจะปล่อยอัลบั้มและซิงเกิลออกมาปล่อยให้แฟนเพลงฟัง แต่ก็ยังไม่มีเพลงไหนทำให้เธอกลับไปอยู่ในจุดสูงสุดได้เหมือนกับ Bangerz ถึงขณะที่เธอเองก็บอกว่าการกลับไปในจุดนั้นอีกครั้งเป็นเรื่องยากมาก

แต่หลังจากนั้นเธอปล่อยเพลง Flowers ออกมาในช่วงต้นปีต้นเดือนมกราคมของปี 2023 ไฟที่ปลายอุโมงค์ก็กลับมาส่องสว่างอีกครั้ง เพราะซิงเกิลนี้สามารถไต่ขึ้นไปบนชาร์ตอันดับ 1 ของ Billboard Hot 100 นานกว่า 6 สัปดาห์ อีกทั้งยังมียอดสตรีมมิ่งใน Spotify ช่วงสัปดาห์แรกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ดังนั้นหลายคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอกันว่าอัลบั้มของเธอจะมาในสไตล์ไหน ซึ่งในวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมาเธอก็ได้ปล่อยอัลบั้ม ‘Endless Summer Vacation’ ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟัง ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากจะมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกันครับ ซึ่งความเห็นทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน และอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเทสเพลงแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นถ้าหากทำให้ใครไม่ถูกใจก็ขออภัยไว้ก่อนในเบื้องต้นครับ

1. Flowers

คะแนน 10/10

เปิดมาด้วยเพลง Flowers ถือเป็น Lead Single ที่ฉลาดมาก เพราะตัวเพลงมีความสนุกอยู่ในตัว ตามปกติของ Disco Pop ผสมกับ Funk ทำให้ปรับมู้ดของผู้ฟังให้รู้สึกประทับใจสนุกและรู้สึกอยากฟังต่อไป ส่วนเนื้อเพลงก็เรียกว่าแอบแซ่บอยู่พอตัว เป็นการนำเอาความสัมพันธ์เกี่ยวกับอดีตคนรักมาเปิดให้แฟนเพลงได้ฟังว่าเธอมูฟออนและรู้จักรักตัวเองมากขึ้น มีการแซะแฟนหนุ่มคนเก่าแบบกรุบกริบ แต่ทำเอาหัวร้อนจนเกินการฟ้องร้องกันเลยทีเดียว 😛 โดยรวมแล้วเอาไปเลย 10/10 นัวตั้งแต่ดนตรียันเนื้อเพลง

อ่านเพิ่มเติม แปลเพลง Flower ของ Miley Cyrus

2. Jaded

คะแนน 9/10

Jaded มาในเพลงช้าแนว Pop Punk มีบีทที่ค่อนข้างหนักเร้าใจ แต่เนื้อเพลงค่อนข้างคอนทราส (ตรงข้าม) กับดนตรีอยู่พอสมควร เพราะเพลงนี้บอกเล่าถึงความปวดใจและความรู้สึกสูญเสียโอกาสในชีวิตจากความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว เป็นเพลงที่เผยในอีกมุมหนึ่งของทางไมลีย์ว่าจะมูฟออนไปได้ แต่เบื้องหลังเธอก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดกับความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวเหมือนกับมนุษย์คนอื่นทั่วไป ที่ไม่ได้ดังใจหวังก็ต้องมีเศร้ากันเป็นธรรมดา โดยตัวผู้เขียนรู้สึกว่าไมลีย์ปูทางสตอรี่ในอัลบั้มมาได้ดีและจริงใจในการแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง อีกทั้งดนตรีก็ตรงตามธีมอัลบั้มที่จะมีความเป็น Summer เหมาะกับการฟังตอนไปเที่ยวหรือฟังตอนชมวิวสุด ๆ

3. Rose Colored Lenses

คะแนน 8.5/10

หลังจากเศร้า ๆ ซึม ๆ ไปบ้างกับซิงเกิลที่ 2 ไมลีย์ก็เริ่มพาคนดูออกจากหลุมดำกลับมาเติมความชุ่มฉ่ำด้วยเพลงโรแมนติกกันบ้าง เป็นเพลงที่พูดถึงความรักของคู่รักในช่วงหวานฉ่ำและอยากให้ความรักยังคงเป็นแบบนี้ตลอดไป ถ้าหากใครกำลังอยู่ในช่วงอินเลิฟกับแฟนแล้วได้ฟังเพลงนี้ด้วยกันคงจะต้องมีเขินตัวบิดกันบ้าง ส่วนดนตรีก็ยังคงความเป็นซัมเมอร์เหมือนกับ Jaded เพียงแต่ฟังนี้จะมีความ Easy Listening มากขึ้น ฟังสบายหวานใสสมกับเพลงโรแมนติกทั่วไป ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย

4. Thousand Miles Feat. Brandi Carlile

คะแนน 9.5/10

ด้วยไมลีย์เติบโตมากับดนตรีคันทรีของคุณพ่อและมีศิลปินตนแบบ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เธอจะเอาความเป็นคันทรีลงมาใส่ในเพลงนี้ อีกทั้งการเลือก Brandi มาร้องด้วยก็ยิ่งทำให้เพลงน่าสนใจมากขึ้น เพราะถ้าหากใครตามวงการเพลงฮอลีวูดจะรู้ดีว่า Brandi เป็นศิลปินคุณภาพ ชนะแกรมมี่มาแล้วกว่า 9 ครั้ง ดังนั้นการดึงศิลปินเก่งขนาดนี้เป็นการยกระดับอัลบั้มไปอีกขั้นหนึ่ง ทำให้ซิงเกิลแซทความเป็นคันทรี่ลงไป แตกต่างไปจาก Tracking อื่นในอัลบั้ม

5. You

คะแนน 10/10

เปิดมาเพียงแค่ท่อนแรกก็ชอบเลยครับ ผมยกให้เป็น Masterpiece ของอัลบั้มนี้ เพราะอินเนอร์และเทคนิคการร้องของ Miley งัดออกมาใส่ในเพลงนี้ทั้งหมด เพียงแค่ร้องคลอไปกับเปียโนก็เพอร์เฟคแล้ว ส่วนดนตรีก็จะให้ความคลาสสิกฟิลลิ่งเหมือนกับย้อนไปในช่วง 80 ในฐานะของคนที่ชอบฟังในช่วง 80’s – 90’s บอกเลยว่าเพลงนี้ลงตัวสุด ๆ ดนตรีไม่ต้องเยอะอะไรมากมาย แต่เน้นไปที่เสียงของนักร้องซึ่งต้องบอกว่าไมลีย์ทำออกมาได้ดีมากก! ห้ามขาด Tracking นี้โดยเด็ดขาด

6. Handstand

คะแนน 7.5/10

เพลงนี้จะเน้นไปในเรื่องของบีทดนตรี ใส่ความเป็น Rectro กับ Electro ลงไป เป็นดนตรีที่ให้ฟิลลิ่งเหมือนกับลอยอยู่บนอากาศ แต่ฟังไปฟังมาก็ยังคงคอนเซปต์ของอัลบั้มที่มีความ Summer Vibes อยู่ในตัวครับ เพลงเหมาะกับการฟังระหว่างชมวิวทะเลหรือนั่งอยู่ริมระเบียงจิบเครื่องดื่มในช่วงวันหยุดครับ แต่ด้วยตัวผู้เขียนเองไม่ได้เป็นแฟนเพลงกับดนตรีสายนี้สักเท่าไหร่นัก เลยขอหักคะแนนออกสักเล็กน้อยครับ

7. River

คะแนน 9/10

River เป็นเพลงแนว Pop ช่วงยุค 2000 และ 2010 มีความคลาสสิกอยู่ในตัว แต่ด้วยความที่เป็น Synth-Pop ทำให้ตัวเพลงยังคงความโมเดิร์นและมีจังหวะให้เราได้โยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเพลง เสียงยูนีคของไมลีย์ก็เบลนเข้าไปดนตรีได้ลงตัวสุด ๆ ส่วนเนื้อเพลงเองก็แซ่บนัวตามสไตล์ของไมลีย์ ถ้ารู้ความหมายจริง ๆ แล้วอาจมีช็อกตาค้างกันบ้าง (อิอิ) หากใครอยากรู้ว่าความหมายของเพลงคืออะไรแวะไปอ่านกันได้ในบทความ แปลเพลง River – Miley Cyrus

8. Violet Chemistry

คะแนน 9.5/10

‘Violet Chemistry’ คืออีกหนึ่งเพลงรักในอัลบั้มนี้ โดยดนตรีจะต่อเนื่องมาจากซิงเกิล River ที่มาในสไตล์ของ Synth-Pop ซึ่งผมถือว่าเรียงเพลงมาได้ดีเลย ทำให้เราสนุกได้ต่อเนื่องจาก Tracking ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ตัวเพลงก็เหมือนกับดึงเราเข้าไปนั่งไทม์แมคชีนย้อนกลับไปในช่วงยุค 80’s เป็นอีกหนึ่งซิงเกิลที่เอาใจวัยรุ่น Y2K เพลงมีความ Easy Listening ฟังได้เรื่อย ๆ แบบไม่มีเบื่อ ถึงแม้ว่าตัวเพลงจะตีตลาดยากในแง่ของชาร์ตเพลง แต่ถ้าเจาะจงเฉพาะคุณภาพเพลง เพลงนี้ผมยกให้เป็นเพลง Top 3 ของอัลบั้มเลยครับ

9. Muddy Feet Feat. Sia

คะแนน 8/10

Tracking นี้เซอร์ไพรส์ตั้งแต่ชื่อของศิลปินที่เข้ามาร่วมทำงานเพลงแล้ว เพราะไมลีย์ดึงศิลปินคุณภาพคับแก้วคนหนึ่งของวงการเพลงโลกอย่าง Sia เข้ามาเพิ่มสีสันให้กับเพลง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วตัวผมเองรู้สึกว่าแอบคาดหวังไว้ค่อนข้างเยอะหลังจากเห็นชื่อศิลปิน แต่เมื่อฟังแล้วก็แอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะ Sia เหมือนกับมาร้องคอรัสให้มากกว่า ไม่มีเนื้อเพลงให้ร้อง แต่ถ้าในแง่ของดนตรีทำออกมาได้เพอร์เฟคเลยละครับ มีความเป็น Pop ผสมกับ Rock ซึ่งเข้าทางเสียงของไมลีย์ที่พลังเยอะ ฟังแล้วสนุกเร้าใจยิ่งบีทแน่น ๆ ก็ทำให้เราตื่นเต้นไปได้ตลอดทั้งเพลง

10. Wildcard

คะแนน 9/10

Wildcard บอกเล่าถึงความรักในช่วงอินเลิฟของเธอ ด้วยไมลีย์เคยมีประสบการณ์ความรักและการแต่งงานมาก่อนหน้านี้ ทำให้เธอมีความคาดหวังถึงความสัมพันธ์รวมไปถึงการแต่งงานในอนาคต อยากประสบความสำเร็จเรื่องนี้ไม่อยากกลับไปปวดใจเหมือนกับความรักที่ผ่านมา ส่วนทางด้านของดนตรีจะเป็น POP สังเคราะห์ที่เปิดช่องให้ไมลีย์ได้ปล่อยเสียงได้เต็มที่ เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ไมลีย์โชว์เทคนิคการร้องและปล่อยอินเนอร์ได้เต็มที่ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมชอบมากครับ

11. Island

คะแนน 8.5/10

หลังจาก Tracking ก่อนหน้านี้เน้นไปที่ดนตรีและบีทหนัก ๆ ไมลีย์ก็เริ่มเทิร์นกลับมาในดนตรีชิล ๆ สไตล์ Summer Vibes อีกครั้ง โดยเพลงนี้จะมีความ Breezy และ Soft ฟังแล้วรู้สึกนิ่มนวลแต่แอบเหงาอยู่พอสมควร เพราะเนื้อเพลงนี้ไมลีย์ต้องการสื่อสารว่าชีวิตโสดของเธอทุกวันนี้มันเหมือนจะมีความสุขนะ ได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศของทะเลที่เหมือนกับอยู่บนสวรรค์ แต่อีกด้านหนึ่งความเงียบก็ทำให้เธอรู้สึกเหงาเหมือนกัน ในใจลึก ๆ ก็ยังคงมองหาความรักที่สมบูรณ์แบบให้กับตัวเอง ซึ่งในฐานะของคนโสดอย่างตัวผู้เขียนเองก็ค่อนข้างอินและชอบเพลงนี้มาก ๆ หากใครกำลังโสดอยู่เพลงนี้น่าจะเพลย์ลิสต์โปรดของคุณครับ

12. Wonder Woman

คะแนน 10/10

แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากตัวละครของ Marvel นั่นคือ ‘Wonder Woman’ ครับ โดยไมลีย์เปรียบเทียบชีวิตของเธอกับตัวละครนี้ เพราะเบื้องหน้าของไมลีย์หลายคนอาจมองว่าเธอเป็นผู้หญิงแข็งแกร่ง ไม่ว่าเจอกับปัญหาอะไรก็ก้าวผ่านปัญหาได้อยู่เสมอ แต่ความเป็นจริงแล้วเบื้องหลังของเธอก็มีมุมอ่อนไหวเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ร้องไห้ได้เป็นปกติ อีกทั้งด้วยดนตรีเป็นเปียโนแบบ 100% และการร้องของไมลีย์ที่อินและจริงใจในการถ่ายทอดความรู้สึกก็ทำให้เพลงนี้ค่อนข้างเศร้าอยู่พอสมควร ฟังแล้วเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในสตอรี่ของไมลีย์ ซึ่งถือว่าดีเลยละครับเอาไป 10/10 ฟังละน้ำตาซึมเบา ๆ

13. Flowers (Demo)

คะแนน 10/10

เนื้อเพลงทั้งหมดในเวอร์ชัน Demo จะเหมือนกับ Tracking แรกเลยครับ เพียงแต่เวอร์ชันนี้มาในเพลงช้าร้องคลอไปกับเปียโน ด้วยความที่เสียงของไมลีย์มีความ Raspy เสียงแหบโทนต่ำ ทำให้เราเข้าอารมณ์ของเพลงได้มากกว่าเดิมและยังเป็นการพิสูจน์ด้วยว่าเธอเป็นนักร้องเสียงดีคนหนึ่งของวงการ สามารถฮิตโน้ตและร้องเพราะได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Auto tune ใด ๆ เพราะเพลงแทบจะไม่ผ่านการสังเคราะห์เลยแม้แต่น้อย เป็นเสียงของไมลีย์แบบเรียล ๆ ไม่มีปรุงแต่งอะไรเพิ่มเติม ส่วนตัวผมเองแอบชอบมากกว่าเวอร์ชัน Lead Single ซะด้วยซ้ำ