ถ้าหากพูดถึงศิลปินที่มาในสายของเพลง Pop แน่นอนว่าในยุคก่อนจะมีตัวแม่อย่าง Madonna ที่สร้างรากฐานเอาไว้ ทำให้เพลงป๊อปและศิลปินหญิงสายนี้กลับมามีบทบาทในอุตสาหกรรมเพลงอีกครั้ง หลังจากนั้นก็จะมี Britney Spears ซึ่งถือว่าเป็นลูกรักของมาดอนนาและหลายคนตั้งฉายาว่าเป็นเจ้าหญิงเพลงป๊อปในช่วงปลาย 90 และยุค 2000
ส่วนในยุคนี้ก็จะมีคนนี้เราคุ้นหน้าคร่าตากันไม่ว่าจะเป็น Lady Gaga, Ariana Grande และอีกหนึ่งคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ‘Dua Lipa’ ซึ่งเป็นศิลปินจากเกาะอังกฤษอีกคนที่สามารถตีตลาดในอเมริกาแตก และก้าวเข้าสู่การเป็นศิลปินแนวหน้าของโลกได้
Dua Lipa ได้สร้างเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘New Rules’ หรือ ‘Levitating’ ที่แม้แต่คนไทยก็ต้องเคยผ่านหูมาแล้วแทบทุกคน แต่หลายคนก็อาจจะไม่ทราบว่าก่อนที่เธอจะมาถึงจุดนี้ได้ ดูอาเคยโดนสบประมาทจากครูในวงคอรัสว่าเธอเป็นคนที่ร้องเพลงไม่ได้ และยังมีเรื่องราวน่าสนใจอีกมากมายที่เราอยากจะมาแชร์ ‘ประวัติและผลงานเพลง Dua Lipa’ ให้ทุกคนได้รู้จักเธอมากขึ้นครับ
ประวัติของ Dua Lipa
Dua Lipa (ดูอา ลิป้า) เป็นคนเชื้อสายแอลเบเนียที่เกิดและเติบโตในลอนดอน โดยดูอาเป็นพี่สาวคนโตของครอบครัว เธอเป็นเด็กที่ชื่นชอบการร้องเพลงและดนตรีมาตั้งแต่เล็ก เนื่องจากคุณพ่อของเธอเคยเป็นนักร้องนำและนักร้องกีตาร์ของวงร็อก ดังนั้นในทุกวันดูอาจะเห็นคุณพ่อฝึกฝนการร้องและดนตรีในบ้านเป็นประจำ ทำให้ดูอาได้ซึมซับความเป็นศิลปินจากคุณพ่อแบบเต็ม ๆ นอกจากนี้เธอยังได้มีโอกาสฟังศิลปินจากเพลงที่คุณพ่อเปิดเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Bob Dylan, Stereophonics หรือ David Bowie
การได้รับอิทธิพลและมีคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจทำให้ ด.ญ.ดูอา เริ่มร้องเพลงตั้งแต่อายุเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้น จากนั้นเมื่อเธอเริ่มเข้าโรงเรียนในชั้นประถมศึกษา ดูอาก็มุ่งตรงเข้าไปร่วมวงคอรัสของโรงเรียนทันที แต่เธอก็ได้รับความผิดหวังครั้งใหญ่จากคุณครูสอนคอรัสกับประโยคที่ว่า “เธอร้องเพลงไม่ได้หรอก” ประโยคนี้อาจฟังดูแรงอยู่สมควร แต่มันก็เป็นแรงผลักดันให้เธอมากขึ้น เพราะหลังจากนั้นดูอาเริ่มฝึกร้องเพลงอย่างจริงจังในโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับการร้องเพลงโดยตรงในช่วงอายุ 9 ขวบ

เมื่อก้าวเข้าสู่วัยอายุ 15 ปี เธอก็เริ่มโคฟเวอร์เพลงศิลปินดังลงบน SoundCloud และ Youtube ให้คนทั่วไปได้เข้ามาฟังกัน อย่างเช่น Beautiful ของ Christina Aguilera หรือ Alicia Keys ของ If I Ain’t Got You หลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าไปเซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งและมีโอกาสในการอัดเสียงโฆษณา ในช่วงเวลานั้นดูอาต้องทำงานประจำควบคู่กัน โดยตอนนั้นเธอเป็นพนักงานเสิร์ฟค็อกเทลบาร์เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง
แต่ไม่นานนักโอกาสทองของดูอาก็มาถึง เพราะทนายของเธอได้แนะนำดูอาให้กับทางค่ายเพลง ทั้งยังยื่นข้อเสนอในการให้เงินเดือนกับดูอา เพื่อให้เธอได้โฟกัสกับงานเพลงอย่างจริงจัง ซึ่งเธอก็ตอบรับข้อตกลงนี้และเซ็นสัญญากับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Bros. Records เมื่อลุยงานเพลงไปได้ประมาณ 1 ปี เธอก็เริ่มปล่อยซิงเกิลแรกนั่นคือ New Love และซิงเกิลสองอย่าง Be The One โดยทั้งสองเพลงนี้ประสบความสำเร็จมากในโซนยุโรป
เมื่อทางค่ายเห็นว่าดูอาสามารถขายเพลงได้และมีแฟนคลับมากขึ้น ทางค่ายจึงผลักดันให้เธอมีอัลบั้มแรกเป็นของตัวเอง ชื่ออัลบั้มว่า ‘Dua Lipa’ ซึ่งเป็นชื่อจริงของทางดูอา โดยหลังจากปล่อยซิงเกิลยอดฮิตอย่าง ‘New Rules’ ออกมา ดูอาก็กลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่คนรู้จักกันทั่วโลก ในประเทศอังกฤษเพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 และมียอดขายทำลายสถิติมากมาย ไม่เพียงเท่านั้นทางด้านฝั่งอเมริกาก็ไต่ไปได้ถึงอันดับ 6
ความโด่งดังและเพลงคุณภาพที่ปล่อยออกมา ทำให้ดูอาคว้ารางวัลใหญ่ทั้ง Brit Awards และ Grammy Awards หลังจากนั้นไม่ว่าจะปล่อยเพลงอะไรออกมา ก็จะต้องมีแฟนเพลงคอยรอฟังในทุกครั้ง ทั้งยังขึ้นชาร์ตเป็นกระแสในทุกเพลง จากศิลปินหน้าใหม่เมื่อ 4 – 5 ปีก่อน ตอนนี้เธอกลายเป็นศิลปินที่ได้รับการยอมรับและเป็นแนวหน้าในยุคนี้ไปแล้วเรียบร้อย
ต่อไปเราไปดูผลงานเพลงของ Dua Lipa กันครับ
ผลงานเพลงของ Dua Lipa
1. Levitating
แนวเพลง | Electro-disco, nu-disco, pop-funk และ space rock |
ค่ายเพลง | Warner |
ผู้แต่งเพลง | Dua Lipa, Clarence Coffee Jr., Sarah Hudson, Stephen Kozmeniuk และ DaBaby |
โปรดิวเซอร์ | Stephen Kozmeniuk และ Stuart Price |
เพลงในปี | 2020 |
ดนตรีของ Levitating มาในสไตล์ Disco ผสมกับ Pop และแซมความเป็น Funk เข้าไปเล็กน้อย ทำให้ฟังแล้วตัวเพลงมีความกลมกล่อม มีทั้งความสนุกและความคลาสสิกเหมือนกับหลุดเข้าไปในยุค 70’s – 80’s ทั้งนี้ด้วยเพลงมีความเป็น Dance-Floor เลยทำให้หลายคนใช้ได้ฟังเพลงนี้คลายเครียดและเต้นกันใน TikTok ทำให้เพลงนี้ทำยอดสตรีมมิ่งและยอดขายพุ่งทะยานไปแตะอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 อีกทั้งนักวิจารณ์เพลงยังยกให้เป็นเพลงที่ดีที่สุดของดูอาตั้งแต่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมเพลงเลยครับ
2. Don’t Start Now
แนวเพลง | Nu-disco |
ค่ายเพลง | Warner |
ผู้แต่งเพลง | Dua Lipa, Caroline Ailin, Emily Warren และ Ian Kirkpatrick |
โปรดิวเซอร์ | Ian Kirkpatrick |
เพลงในปี | 2019 |
‘Don’t Start Now’ ได้รับการโปรดิวซ์และเขียนเพลงโดยทีมงานของทาง Ian Kirkpatrick ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าทำเพลงดี ทำเพลงฮิตให้กับศิลปินมาแล้วหลายคน โดยเพลงนี้เขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มีการใช้ดนตรีสาย Nu-disco และได้รับแรงบันดาลใจในการทำดนตรี Funk มาจาก Draft Punk และ Bee Gee นอกจากนี้ยังใส่ซาวด์สังเคราะห์และคาวบอยลงไปเพิ่มความสนุกทำให้เพลงมีมิติมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงของดูอาที่สนุกมากเลยครับ
3. New Rules
แนวเพลง | Electropop และ tropical house |
ค่ายเพลง | Warner Bros |
ผู้แต่งเพลง | Caroline Ailin, Emily Warren และ Ian Kirkpatrick |
โปรดิวเซอร์ | Ian Kirkpatrick |
เพลงในปี | 2017 |
‘New Rules’ เป็นเพลงแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของดูอา เพราะตัวเพลงสามารถทำลายสถิติได้ทั้งทางอังกฤษและอเมริกา โดยในอังกฤษเพลงนี้มียอดสตรีมมิ่งสูงที่สุดในฐานะศิลปินหญิง ส่วนทางฝั่งของอเมริกาเพลงนี้สามารถไต่ขึ้นได้ถึงอันดับ 6 ของ Billboard Hot 100 ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับศิลปินเกาะอังกฤษที่จะทำยอดขายและยอดฟังได้เยอะในอเมริกา ทั้งนี้เหตุผลที่เพลงนี้ฮิตแบบทั่วบ้านทั่วเมืองก็เพราะดนตรีเป็นอิเล็กโทรป๊อป ซึ่งถือว่าเป็นเพลงตลาดที่ฟังง่ายและสนุกในยุคนี้ ส่วนเนื้อเพลงเองก็แซ่บนัวตรงกับประสบการณ์ของใครหลายคนที่บอกว่าเลิก สุดท้ายพอโดนง้อสักหน่อยก็วนกลับไปเข้าอิหรอบเดิม เป็นเหมือนเพลงดึงสติให้กับใครหลาย ๆ คนว่าอย่าวนไปอ่านหนังสือรักเล่มเก่า
4. Cold Heart (PNAU Remix) with Elton John
แนวเพลง | Dance, dance-pop, pop และ synth-pop |
ค่ายเพลง | EMI และ Mercury |
ผู้แต่งเพลง | Elton John, Andrew Meecham, Bernie Taupin, Dean Meredith และ Pnau |
โปรดิวเซอร์ | Pnau |
เพลงในปี | 2021 |
‘Cold Heart’ ค่อนข้างเซอร์ไพรส์สำหรับใครหลายคนอยู่พอสมควร เพราะการร่วมงานในครั้งนี้เป็นเหมือนกับการร่วมงานกันข้ามเจเนอร์เรชัน เพราะ Elton John (เอลตัน จอห์น) เป็นศิลปินระดับตำนานที่ดังมาก ๆ ในช่วงยุค 70 – 80 ส่วนทางด้านของดูอาก็เป็นศิลปินวัย 27 ปีที่กำลังดัง ดังนั้นเมื่อทั้งคู่โคจรมาร่วมงานกันก็ทำเอาหลายคนตั้งหน้าตาตั้งรอกันพอสมควรว่าเพลงจะออกมาเป็นแนวไหน ซึ่งเมื่อปล่อยออกมาแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ทำให้ผิดหวังเลยครับ
ถึงแม้ว่าดนตรีจะคลาสสิกเมื่อฟังแล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในช่วงยุค 80 แต่ทางโปรดิวเซอร์อย่าง Pnau ก็หยิบเอาดนตรีป๊อปสังเคราะห์ลงไป เหมือนเป็นการผสมผสานของดนตรียุคเก่าและยุคใหม่ ซึ่งต้องบอกว่าลงตัวจริง ๆ ครับ นอกจากนี้เสียงของเอลตันกับดูอาก็เบลนเข้ากันได้แบบเพอร์เฟค ต่างคนต่างมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ทับไลน์หรือพยายามเด่น โดยคุณภาพของเพลงที่ดีมากทำให้นักวิจารณ์เพลงยกให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ดีที่สุดของปีเลยทีเดียว
5. Break My Heart
แนวเพลง | Dance-pop และ disco-funk |
ค่ายเพลง | Warner |
ผู้แต่งเพลง | Dua Lipa, Melissa Webb, Andrew Wotman, Ali Tamposi, Stefan Johnson, Jordan K. Johnson, Andrew Farriss และ Michael Hutchence |
โปรดิวเซอร์ | Andrew Watt และ The Monsters & Strangerz |
เพลงในปี | 2020 |
‘Break My Heart’ เป็นหนึ่งในซิงเกิลจากอัลบั้ม Future Nostalgia ดังนั้นดนตรีก็จะคงคอนเซ็ปต์ของ Disco เอาไว้ แต่มีการใส่บีทของ Dance-pop ลงไป ทำให้เพลงมีบีทที่สามารถเต้นได้และความสมูทของดนตรีก็ทำให้ติดหูง่าย ๆ มาก เป็นเพลงที่สนุกแต่ยังคงความสบายอยู่ในตัว ฟังแล้วคลายเครียดได้ดีมาก อีกทั้งในช่วงที่ดูอาปล่อยเพลงนี้ออกมาก็เป็นช่วงของการกักตอนในสถานการณ์โควิด ทำให้ในตอนนั้นหลายคนเปิดเพลงของเธอกันเยอะมาก จนเพลงนี้ประสบความสำเร็จ ทำได้ดีทั้งยอดขายและชาร์ตเพลง
6. Sweetest Pie with Megan Thee Stallion
แนวเพลง | Pop rap |
ค่ายเพลง | 1501 Certified และ 300 |
ผู้แต่งเพลง | Megan Pete และ Nija Aisha-Alayja Charles |
โปรดิวเซอร์ | OG Parker, Romano และ Platinum Library |
เพลงในปี | 2022 |
‘Sweetest Pie’ มาในแนวเพลงของ Pop rap ที่ทาง Meghan ได้ดึงดูอาเข้ามาร่วมทำเพลงด้วยกัน ซึ่งเบื้องลึกเบื้องหลังก่อนร่วมงานกัน ทางดูอาได้มีการโพสอินสตราแกรมว่าเธออยากร่วมงานกับเมแกน ที่ในช่วงนั้นกำลังฮอตมาก หลังจากนั้นไม่นานเรื่องนี้ก็ไปเข้าหูเมแกน ซึ่งแน่นอนว่าเมแกนก็ไม่รอช้าในการร้องเพลงกับดูอา เพราะสายดนตรีป๊อปและแร็ปสามารถแมตช์เข้ากันได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ดนตรีจะมีความเป็นซัมเมอร์ในช่วงยุค 90 เหมาะสำหรับการฟังในวันสบาย ๆ ฟังได้เรื่อย ๆ แบบไม่มีเบื่อ
7. One Kiss
แนวเพลง | Dance-pop, diva house และ tropical house |
ค่ายเพลง | Columbia และ Sony |
ผู้แต่งเพลง | Adam Wiles, Jessie Reyez และ Dua Lipa |
โปรดิวเซอร์ | Calvin Harris |
เพลงในปี | 2018 |
แม้ว่าเพลงนี้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงในอเมริกา แต่สามารถขึ้นอันดับ 1 ได้ทั้งในประเทศอังกฤษและอีกกว่า 32 ประเทศ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะโปรดิวเซอร์หรือ DJ อย่าง Calvin Harris เป็นคนทำดนตรีนี้ขึ้นมากับมือ อีกทั้งดูอาเองก็รับผิดชอบในเรื่องของเนื้อเพลง ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าความสามารถในการทำเพลงของทั้งคู่ขึ้นชื่อลือชา หลังจากปล่อยซิงเกิลออกมา เพลงนี้ก็ติดหูคนฟังไปทั่วโลก เพราะบีทดนตรีมาในแนว Dance-pop ผสมกับความเป็น Tropical house เรียกว่าเปิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ต้องมีลุกขึ้นมาโยกเอวกันบ้าง ค่อนข้างเหมาะสำหรับการเปิดในคลับหรืองานปาร์ตี้ ต้องบอกว่าในช่วงนั้นคลับทุกประเทศทั่วโลกจะต้องมีเพลงนี้อยู่ในเพลย์ลิสต์เลยละครับ
8. We’re Good
แนวเพลง | Tropical-pop |
ค่ายเพลง | Warner |
ผู้แต่งเพลง | Dua Lipa, Sylvester Willy Sivertsen, Emily Warren และ Scott Harris |
โปรดิวเซอร์ | Sly |
เพลงในปี | 2011 |
ดนตรีที่ใส่ลงไปในเพลงนี้จะมีทั้งหมด 3 สายดนตรี ไม่ว่าจะเป็น Raggae Rock, Pop และ Funk ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าดนตรีอย่าง Funk และ Raggae จะมีความโจ๊ะ พูดง่าย ๆ คือบีทแน่นและมีจังหวะให้ได้เต้นไปตามเพลง เปิดขึ้นมาก็รู้สึกสนุกในทุกครั้ง ส่วนเนื้อเพลงก็จะพูดถึงในเรื่องของการมูฟออนจากความสัมพันธ์ แม้ว่าจะเห็นคนรักเก่าไปเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่กับใคร ก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดหรืออยากย้อนอดีตกลับไปแล้ว ทิ้งความเจ็บปวดทั้งหมดไว้ข้างหลังและเดินไปข้างหน้า เรียกว่าเป็นเพลงสำหรับฮีลใจคนอกหักได้มาก ๆ