ถึงแม้ว่าประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกาจะใช้ภาษาเดียวกัน แต่ในแง่ของวงการเพลงต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าทั้งสองประเทศนี้ค่อนข้างแตกต่างกันอยู่พอสมควร ซึ่งถ้าหากพูดถึงศิลปินจากทางฝากเกาะอังกฤษซึ่งตีตลาดอเมริกาและดังไปทั่วโลกก็จะมีที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี อย่างเช่น Elton John, Adele, Jessie J, Ed Sheeran, Harry Styles, Dua Lipa และอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังดังมากในตอนนี้คือ ‘Sam Smith’ นักร้องเสียงทรงพลังที่ร้องได้ทั้ง Soul, Jazz และ Pop ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศิลปินที่ร้องดีคนหนึ่งของวงการ ทั้งยังสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนเพลงอยู่เสมอ วันนี้เราจะมาเปิด ‘ประวัติและผลงานเพลง Sam Smith’ ให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้นครับ
ประวัติของ Sam Smith (แซม สมิธ)
Sam Smith (แซม สมิธ) หรือชื่อเต็มว่า ‘Samuel Frederick Smith’ เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษซึ่งมีชื่อเสียงและมาแรงมากในยุคนี้ โดยเบื้องหลังก่อนจะมาเป็นนักร้องระดับโลกในทุกวันนี้ แซม สมิธ มีเบื้องหลังและชีวิตที่น่าสนใจมาก อย่างแรกเลยคือแซมเกิดกลางกรุงลอนดอนซึ่งเป็นเมืองหลวงของอังกฤษ มีคุณพ่อชื่อว่า ‘Frederick Smith’ และ คุณแม่ชื่อว่า ‘Kate Cassidy’
จริง ๆ แล้วแซมก็เป็นเหมือนกับเด็กทั่วไปที่เติบโตและเข้าโรงเรียนไปเรียนหนังสือ แต่การไปโรงเรียนของเขาอาจไม่ได้สนุกเหมือนกับเด็กคนอื่น เพราะเมื่อก้าวเข้าสู่สังคมโรงเรียนกลับกลายเป็นว่าแซมโดนบูลลี่ทุกวัน เนื่องจากกายภาพที่มีหน้าท้องและหน้าอก แตกต่างออกไปจากนักเรียนชายคนอื่น ความเจ็บปวดจากการโดนบูลลี่ทำให้แซมต้องเข้ารับการดูดไขมันในช่วงอายุเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น

หลังจากนั้นเขาก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และเจอทางที่ตัวเองชอบนั่นคือการร้องเพลง เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองมีความสามารถทางด้านนี้ แซมเลยหาโอกาสให้ตัวเองด้วยการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Youth Music Theatre UK ได้ไปแสดงละครเพลง ทั้งยังได้ฝึกการร้องเพลงและการเขียนเพลงกับนักดนตรีมืออาชีพอย่าง ‘Joanna Eden’ รวมไปถึงการเข้าวงคอรัสตั้งแต่อายุยังน้อย
เมื่อเก็บสะสมประสบการณ์แซมก็เริ่มเข้าไปเซ็นสัญญากับค่ายเพลง พร้อมกับปล่อยซิงเกิ้ลออกมาในช่วงปี 2008 แต่ในตอนนั้นยังไม่ได้ประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่นัก เพราะยังไม่มีฐานแฟนคลับรวมไปถึงการโปรโมทต่าง ๆ แต่ไม่นานโอกาสก็มาถึงเมื่อทาง Disclosure ติดต่อกับแซมเพื่อทำเพลง ด้วยความที่ดนตรี EDM ดังมากในช่วง 2012 และการร้องของแซมที่เข้ากันกับดนตรีได้เป็นอย่างดี ทำให้เพลงประสบความสำเร็จ สามารถไต่ขึ้นไปได้สูงถึงอันดับ 11 ในประเทศอังกฤษ
เมื่อกระแสของแซมเริ่มมา ทางค่ายเพลงก็ทำการปล่อยซิงเกิ้ลฮิตอย่าง ‘Lay Me Down’ ออกมา ซึ่งแน่นอนว่าประสบความสำเร็จมาก จากนั้นก็ปล่อยอัลบั้มที่ทำให้เขากลายเป็นนักร้องชั้นนำของโลกอย่าง ‘In the Lonely Hour’ มีซิงเกิ้ลฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Stay With Me หรือ Money On My Mind โดยอัลบั้มนี้สามารถคว้ารางวัล Grammy Awards ในสาขา Album of the Year และ Best Pop Vocal Album มาครองได้อีกด้วย
ผลงานเพลงน่าสนใจของ Sam Smith (แซม สมิธ)
1. Unholy (With Kim Petras)
แนวเพลง | Synth-pop และ electropop |
ค่ายเพลง | Capitol และ EMI |
ผู้แต่งเพลง | Sam Smith, Kim Petras, James Napier, Ilya Salmanzadeh, Henry Walter, Blake Slatkin และ Omer Fedi |
โปรดิวเซอร์ | Sam Smith, Kim Petras, Ilya, Cirkut, Slatkin, Fedi และ Jimmy Napes |
เพลงในปี | 2022 |
Unholy เป็นดนตรีในสายป๊อปสังเคราะห์ที่มีจังหวะบีทหนัก ๆ มีจังหวะให้คนฟังได้เต้นไปตามดนตรี เหมาะมากสำหรับงานปาร์ตี้และการโคฟเวอร์ลง Tiktok ถือว่าเป็นการฉีกแนวดนตรีของแซมไปเยอะมาก เพราะแฟนเพลงส่วนใหญ่จะจำภาพแซมในการร้อง Soul ซะมากกว่า ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเพลงนี้ถึงได้เป็นไวรัลและประสบความสำเร็จทั้งยอดขายและชาร์ทเพลง เป็นเพลงแรกของทางแซมและคิมที่สามารถขึ้นอันดับ 1 บน Billbaord 100 อีกทั้งยังคว้ารางวัล Best Pop Duo/Group Performance มาได้อีกด้วย
2. Stay With Me
แนวเพลง | Soul |
ค่ายเพลง | Capitol |
ผู้แต่งเพลง | Sam Smith, James Napier, William Phillips, Tom Petty และ Jeff Lynne |
โปรดิวเซอร์ | Sam Smith, Jimmy Napes, Steve Fitzmaurice และ Rodney Jerkins |
เพลงในปี | 2014 |
Stay With Me ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในทางบวกมากทั้งทางการเทคนิคการร้องและดนตรีที่แมตช์กันมาก ๆ เพราะเนื้อเสียงของแซมมีพาวเวอร์เมื่อร้องเข้าไปในดนตรีโซล มันทำให้ดีฟและเข้าถึงอารมณ์เพลงดีมาก ! โดยจริง ๆ แล้วเพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ One Night Stand เป็นฟีลลิ่งที่ต้องการความรักอันแท้จริง แต่ท้ายที่สุดแล้วความสัมพันธ์ก็เป็นเพียงแค่ความรักข้ามคืน ถือว่าเป็นความจริงใจของตัวศิลปินทำให้คนฟังเข้าถึงเพลงง่ายและเป็นเพลงที่ทำให้แซมเป็นศิลปินที่คนรู้จักกันทั่วโลก
3. Too Good At Goodbyes
แนวเพลง | Orchestral pop |
ค่ายเพลง | Capitol |
ผู้แต่งเพลง | James Napier, Tor Hermansen, Mikkel Eriksen และ Sam Smith |
โปรดิวเซอร์ | Jimmy Napes, Steve Fitzmaurice และ StarGate |
เพลงในปี | 2017 |
Too Good At Goodbyes ถือเป็นเพลงหนึ่งที่แซมโชว์เนื้อเสียงและเทคนิคการร้องอย่างเต็มที่ ร้องในสไตล์ Orchestral คลอไปกับเปียโน ทำให้ฟังแล้วรูสึกเข้าถึงความรู้สึกของเพลงที่ถ่ายทอดออกมา ซึ่งเนื้อเพลงเป็นการบอกเล่าเรื่องราวก่อนการจบความสัมพันธ์ บอกเล่าเกี่ยวกับการเริ่มหมดรัก แม้ว่าในอดีตจะรักถวายหัวมากเท่าไหร่ แต่ในปัจจุบันเริ่มเฉยชามากขึ้น ต่อให้ทะเลาะหรือเดินห่างกันมากแค่ไหน ก็ไม่ได้สะทกสะท้านจิตใจเหมือนเก่า นอกจากจะไม่รู้สึกอะไรแล้วยังหมดรักขึ้นทุกวัน
4. I’m Not The Only One
แนวเพลง | Soul |
ค่ายเพลง | Capitol |
ผู้แต่งเพลง | Sam Smith และ James Napier |
โปรดิวเซอร์ | Jimmy Napes และ Steve Fitzmaurice |
เพลงในปี | 2014 |
I’m Not The Only One ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา เพราะสามารถเข้าชาร์ตเพลงในอันดับ Top 10 ได้ทั้งสองประเทศ โดยเพลงนี้ทางด้านของแซมเองไม่ได้หวังให้ดังเปรี้ยงอะไรมากมาย แต่ต้องการให้เพลงมีความคลาสสิกสามารถฟังได้เรื่อย ๆ ซึ่งก็ถือว่าแซมทำได้ตรงตามที่คาดไว้ เพราะดนตรี Soul กับเนื้อเสียงแแน่น ๆ และการร้องสไตล์บัลลาดของแซมเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยอยู่แล้ว ทำให้เพลงนี้ลงตัวฟังกี่ครั้งก็ไม่เบื่อถึงแม้ว่าจะเป็นเพลงช้าก็ตาม
5. Dancing With A Stranger With Normani
แนวเพลง | Disco, R&B และ pop |
ค่ายเพลง | Capitol |
ผู้แต่งเพลง | Sam Smith, Jimmy Napes, Mikkel S. Eriksen, Tor E. Hermansen, Normani Kordei Hamilton |
โปรดิวเซอร์ | Stargate และ Jimmy Napes |
เพลงในปี | 2019 |
Dancing With A Stranger ถือว่าเป็นการร่วมงานที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เลยทีเดียว เพราะ Normani เคยเป็นอดีตวงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง Fifth Harmony ส่วนทางด้านของ Sam เองก็เป็นนักร้องที่มีภาพจำในดรตรีสาย Soul แต่เมื่อทั้งคู่ร่วมงานกันก็ต้องบอกว่าทำออกมาได้กลมกล่อมมาก โดยดนตรีจะมาในแนว Disco R&B ในยุค 80 ผสมเข้ากับ Pop สมัยใหม่ ดังนั้นตัวเพลงจะมีความคลาสสิกสนุก แต่ยังคงแซมความโมเดิร์น ทำให้คนในยุคสมัยใหม่เข้าได้ถึง ส่วนเนื้อเสียงของทั้งคู่ก็ดีอยู่แล้ว ช่วยให้เพลงสมูทฟังแล้วไม่มีเบื่อ
6. Latch
แนวเพลง | Dance-pop |
ค่ายเพลง | PMR, Cherrytree และ Interscope |
ผู้แต่งเพลง | Guy Lawrence, Howard Lawrence,James Napier และ Sam Smith |
โปรดิวเซอร์ | Disclosure |
เพลงในปี | 2012 |
เพลงนี้เป็นการร่วมงานระหว่าง Disclosure กับ Sam Smith ด้วยความที่ทางด้านของ Disclosure เป็นโปรดิวเซอร์สายดีเจ ดังนั้นดนตรีจึงค่อนมาทาง Dance-pop หรือ EDM แต่ต้องยกความดีความชอบให้กับทางโปรดิวเซอร์ที่สามารถนำเสียงร้องของแซมเข้ามาใส่ในดนตรีได้อย่างกลมกลืน ฟังแล้วไม่ขัดหู มีการใส่ดนตรี Jazz และ Soul เข้าไปเพิ่มเป็นลูกเล่นให้กับเพลง ช่วยให้ไม่น่าเบื่อและแมตช์เข้ากับเสียงของแซมได้อย่างดีเยี่ยม หากใครอยากฟังแซมในเวอร์ชัน EDM ต้องไปลองฟังกันครับ
7. Lay Me Down
แนวเพลง | Soul และ R&B |
ค่ายเพลง | Capitol และ Method |
ผู้แต่งเพลง | Sam Smith, James Napier และ Elvin Smith |
โปรดิวเซอร์ | Jimmy Napes และ Steve Fitzmaurice |
เพลงในปี | 2013 |
หลังจากที่เพลง ‘Latch’ ทำให้แซมเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการเพลงมากขึ้น ไม่นานแซมก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลเดี่ยวของตัวเองออกมา ซึ่งเพลงนี้เองก็มาในดนตรีสไตล์ Soul และ R&B ที่เป็นทางถนัดของแซมอยู่แล้ว อีกทั้งการถ่ายทอดผ่านเนื้อเสียงของแซมก็เป็นจุดขาย ยิ่งเพลงในเชิงอกหักหรือต้องใช้อารมณ์เยอะ ๆ แซมจะทำได้ดีมากจนหลายคนยกให้ ‘Lay Me Down’ คือผลงาน Masterpiece ถ้าหากใครเปิดฟังช่วงหลังอกหักหรือช่วงเสียคนรักไปคงต้องมีน้ำตานองหน้าอย่างแน่นอน
8. How Do You Sleep ?
แนวเพลง | Pop และ dance-pop |
ค่ายเพลง | Capitol |
ผู้แต่งเพลง | Sam Smith, Savan Kotecha, Max Martin และ Ilya Salmanzadeh |
โปรดิวเซอร์ | Ilya |
เพลงในปี | 2019 |
How Do You Sleep? เป็นซิงเกิ้ลในอัลบั้ม Love Goes ที่ทางแซมเปลี่ยนแนวดนตรีจากโซลและหันเข้าสู่ความเป็นป๊อปมากขึ้น ถึงแม้ว่าเพลงนี้อาจจะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างหรือขึ้นชาร์ตอันดับ 1 แต่ในแง่ของดนตรีต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีมาก ๆ แต่ก็ไม่แปลกใจสักเท่าไหร่นักเพราะจากรายชื่อผู้แต่งเพลงและโปรดิวเซอร์อย่าง IIya และ Max Martin ก็เป็นตัวพ่อตัวแม่ในสาย Pop อยู่แล้ว ดังนั้นเพลงนี้จึงกลมกล่อมและติดหูมาก ๆ ฟังแล้วสนุกทำให้รู้สึกอารมณ์ดี เป็นอีกเพลงหนึ่งที่อยากแนะนำให้ไปฟังกัน