เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในปัจจุบัน แน่นอนครับว่า มันส่งผลกระทบต่อทุกคนเป็นอย่างมาก คนส่วนใหญ่ต้องทำงานจากที่บ้าน ส่วนสถานศึกษาต่าง ๆ จำเป็นต้องจัดการเรียนการสอนทางออนไลน์ เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม ช่วยป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้ในปัจจุบันนี้ อินเทอร์เน็ต ทั้งเน็ตบ้าน และเน็ตมือถือ คือ สิ่งที่เราทุกคนขาดไม่ได้ครับ

ซึ่งหากเราพูดถึง เน็ตบ้าน สำหรับคนที่มีบ้านหลังใหญ่ การปล่อยสัญญาณ WiFi ด้วยเราเตอร์เพียงตัวเดียว มันไม่ทั่วถึงอย่างแน่นอนครับ ต้องมีจุดที่สัญญาณอ่อน ไม่เสถียร และจุดที่อับสัญญาณทำให้หลุดไปซะดื้อ ๆ ด้วยเหตุนี้ หลาย ๆ คนจึงจำใจต้อง WFH แบบอุดอู้ อยู่แต่ในห้องทำงาน และยิ่งถ้าห้องทำงานของคุณ อากาศถ่ายเทไม่สะดวกด้วยล่ะก็ มันก็จะส่งผลต่อการทำงานของคุณโดยตรงครับ ดังนั้นหากคุณต้องการเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน คุณก็จะต้องจัดการกับสัญญาณไวไฟก่อนครับ
หลาย ๆ คนแก้ปัญหาสัญญาณไวไฟ ด้วยการซื้อ Access Point มาขยายสัญญาณ ซึ่งคุณต้องเดินสายแลนไปต่อกับ Access Point โดยตรง แน่นอนครับถ้ายิ่งไกล มันก็จะยิ่งยุ่งยาก วุ่นวายครับ ส่วนบางคนแก้ปัญหาด้วย Wi-Fi Extender ที่ติดตั้งแบบไร้สายได้ ซึ่งถ้าติดตั้งตัวเดียว มันไม่มีปัญหาครับ แต่หากคุณต้องการติดตั้งให้สัญญาณครอบคลุมทั่วทั้งบ้านมันต้องใช้หลายตัว ซึ่งถือเป็นงานที่ค่อนข้างหนักเลยทีเดียว หรือบางคนก็เลือกซื้อ Wi-Fi Router มาเพิ่ม ซึ่งแน่นอนครับวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ มันสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ เพียงแต่มันไม่เหมาะสำหรับบ้านหลังใหญ่ครับ เพราะมันมี ทั้ง ความยุ่งยาก ซับซ้อน และยังต้องใช้งบประมาณที่สูงด้วย ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ วิธีที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ทุกคนมารู้จักกับ Mesh WiFi กันครับ
ซึ่ง Mesh WiFi เป็นระบบเครือข่าย WiFi ในบ้านที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้น เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ที่เป็นจุดอับสัญญาณภายในบ้าน ช่วยให้การกระจายสัญญาณ WiFi ให้ครอบคลุมทุก ๆ พื้นที่ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณ WiFi ที่ดีขึ้นกว่าตัวขยายสัญญาณแบบเดิม สำหรับในบทความนี้เราขอพาทุก ๆ คนไปทำความรู้จักกับ Mesh WiFi ว่า มันคืออะไร ? เหมาะสำหรับใคร ? และจะสามารถเลือกซื้อให้เหมาะสมได้อย่างไร ? บนความนี้มีคำตอบครับ
Mesh WiFi คืออะไร ?
อุปกรณ์เน็ตเวิร์คอะไรก็ตาม ที่มีคำว่า Mesh ติดมาด้วย มันหมายถึง ระบบเครือข่ายแบบตาข่าย (Mesh Networking) ครับ ซึ่งเป็นระบบเครือข่ายที่เราเตอร์สามารถสื่อสารกับเราเตอร์ตัวอื่น ๆ ในเครือข่ายได้อัตโนมัติ เพื่อทำให้เราเตอร์ทุก ๆ ตัวในเครือข่าย ร่วมไม้ร่วมมือกันกระจายสัญญาณ Wi-Fi ส่งผลทำให้สัญญาณที่ปล่อยออกมา ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ และยังช่วยลดจุดอับสัญญาณที่เกิดจากสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เป็นอย่างดีอีกด้วยครับ
ดังนั้น Mesh WiFi ก็เป็น Mesh Networking เช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน Wireless Mesh Network (WMN) แปลแบบตรงตัว ก็คือ เครือข่ายตาข่ายไร้สาย นั่นเอง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาจุดอับสัญญาณ WiFi โดยเฉพาะ
ถ้าพูดง่าย ๆ Mesh WiFi ก็คือ เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันเหมือนใยแมงมุม หรือตาข่ายตามชื่อของมันนั่นเอง โดยจะประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ก็คือ เราเตอร์ และ อุปกรณ์ขยายสัญญาณ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า โหนด (Node) ครับ ให้ภายในชุด Mesh WiFi จะมีอุปกรณ์ 2 ส่วน มาในกล่อง ซึ่งจำนวนขึ้นอยู่กับรุ่นของมันครับ ส่งผลให้คุณไม่ต้องซื้ออุปกรณ์อะไรเพิ่มอีกแล้ว เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ชุดเดียวกัน และทั้งหมดทำงานภายใต้ระบบเครือข่ายเดียวกันอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังช่วยให้มีการควบคุมที่ง่ายขึ้น เพราะมันใช้ SSID และรหัสผ่านเดียวกันทั้งเครือข่าย ดังนั้นเปิดแอปฯ เดียวก็ควบคุมการทำงานของโหนดได้ทั้งหมด
Mesh WiFi รุ่นไหนเหมาะกับคุณ ?
- Mesh Wi-Fi 6 ที่ดีที่สุด ให้สัญญาณที่แรง และเสถียรทั้ง 3 ย่านความถี่ เหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่ที่ต้องการความเร็วเน็ตสูง ๆ: Netgear Orbi Tri-Band Mesh Wi-Fi 6 System เราเตอร์ Mesh ที่ดีที่สุด (RBK852)
- Mesh WI-FI 6 ที่ทั้งแรง และราคาคุ้มค่าที่สุด มอบประสิทธิภาพความเร็วระดับแนวหน้า เหมาะสำหรับการสตรีม การเล่นเกม และกิจกรรมออนไลน์อื่น ๆ: Asus ZenWiFi AX Mesh Router WI-FI 6 AX6600 (XT8)
- Mesh Wi-Fi ที่ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างที่สุด พร้อมฟีเจอร์อีกมากมาย เหมาะมาก ๆ สำหรับบ้านขนาดใหญ่ ที่มีหลายชั้น หลายห้องนอน: Linksys Velop Intelligent Mesh WiFi System (AC2200 Tri-Band)
- Mesh Wi-Fi ที่อเนกประสงค์ที่สุด นำระบบ Mesh มารวมกับ Google Assistant ช่วยให้ทำได้มากกว่าการกระจาย Wi-Fi เหมาะกับบ้านที่เป็น Smart Home: Google Nest Wifi (2nd Gen) Router Mesh ขยายสัญญาณได้ครอบคลุมทั้งบ้าน
- Mesh Wi-Fi ระดับกลางที่ดี และคุ้มค่าที่สุด สัญญาณ Wi-Fi แรง ทะละได้ดี มีความเสถียร และสามารถครอบคลุมได้ทั้งบ้าน พร้อมประกันตลอดอายุการใช้งาน: TP-Link Deco M9 Plus AC2200 Smart Home Mesh WiFi System
- Mesh Wi-Fi ระดับเริ่มต้นที่ดี และคุ้มค่าที่สุด ราคาประหยัด ที่ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างที่สุด เหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่ที่เน้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่ว ๆ ไป : Tenda nova MW5s AC1200 ระบบเราเตอร์ Wi-Fi แบบตาข่าย ทั้งบ้าน
- Mesh Wi-Fi ระดับเริ่มต้นที่เหมาะกับมือใหม่มากที่สุด ประสิทธิภาพกำลังดี ในราคาเบา ๆ จากแบรนด์ชั้นนำในวงการที่น่าเชื่อถือ: TP-Link Deco M4 AC1200 เราเตอร์ Mesh Wi-Fi ราคาเบา ๆ (2-Pack)
Mesh WiFi ทำงานอย่างไร ?
ซึ่ง Mesh WiFi หรือ ระบบเครือข่ายตาข่ายไร้สาย สามารถช่วยให้เราเตอร์มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น กระจายสัญญาณไวไฟได้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้นด้วย ในขณะที่เราเตอร์แบบเดิม มีการกระจายสัญญาณไวไฟได้จากจุดเดียว คือ จุดที่ติดตั้งเราเตอร์อยู่ แต่ Mesh WiFi มันสามารถปล่อยสัญญาณ WiFi เชื่อมต่อได้หลายจุด เมื่ออุปกรณ์ขยายสัญญาณตัวหนึ่งเชื่อมโยงกับโมเด็มหรือเราเตอร์จากผู้ให้บริการ อุปกรณ์ขยายสัญญาณตัวนั้น มันจะกลายเป็นตัวหลัก และอุปกรณ์ขยายสัญญาณตัวอื่น ๆ (Node) มันจะจับสัญญาณจากอุปกรณ์ขยายสัญญาณตัวหลัก แล้วปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตออกมา ผลลัพธ์ที่ได้คือเครือข่ายไร้สายที่มีประสิทธิภาพซึ่งให้ส่งสัญญาณครอบคลุมไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน
Wi-Fi Range Extender และ Mesh WiFi ต่างกันอย่างไร ?
สำหรับ Wi-Fi Range Extender และ Mesh WiFi ทั้งคู่เป็นอุปกรณ์ขยายสัญญาณไร้สายถูกพัฒนามาเพื่อช่วยในการกระจายสัญญาณ Wi-Fi เหมือนกันครับ โดยจุดประสงค์หลัก ๆ ก็คือขยายความครอบคลุมการกระจายสัญญาณภายในบ้าน แต่จะต่างกันตรงที่ Wi-Fi Extender มีการสร้างเครือข่ายใหม่แยกออกมาจากเครือข่ายหลัก ทำให้มีข้อจำกัดที่คุณจำเป็นต้องสลับการเชื่อมต่อเครือข่าย WiFi ไปมาอยู่เสมอ เนื่องจาก Wi-Fi Extender หลาย ๆ รุ่นยังไม่มีฟังก์ชันการ Roaming หรือการสลับเครือข่ายที่ดีที่สุดอัตโนมัติ มันจึงไม่เหมาะสำหรับบ้านที่มีขนาดใหญ่ครับ
แต่ในส่วนของ Mesh WiFi จะเป็นระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ครับ โดยในชุดจะมาพร้อมกับเราเตอร์หลัก 1 เครื่อง และมีอุปกรณ์ขยายสัญญาณหรือเรียกสั้น ๆ ว่าโหนด อีก 2-3 เครื่อง (ซึ่งจำนวนนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น Mesh WiFi ที่คุณเลือก) โดยทั้งหมดจะทำงานอยู่บนเครือข่ายเดียวกัน ไม่มีการแยกเครือข่ายเหมือนกับ Wi-Fi Extender ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องคอยสลับเครือข่ายไปมา อีกทั้ง Mesh WiFi จะมีการจัดระเบียบอัตโนมัติโดยเปลี่ยนไปเชื่อมต่อกับโหนดที่อยู่ใกล้ที่สุดเสมอ ส่งผลทำให้สัญญาณ Wi-Fi ที่คุณเชื่อมต่ออยู่แรงอยู่เสมอและไม่มีจุดอับสัญญาณอีกต่อไป นอกจากนี้ถ้าหากโหนดไหนมีปัญหา Mesh WiFi จะย้ายไปเชื่อมโหนดที่อยู่ถัดไปทันที
รีวิว Tenda nova MW5s AC1200 ระบบเราเตอร์ Wi-Fi แบบตาข่าย ทั้งบ้าน

ราคา 2,890 บาท*

ข้อดี
- มีราคาที่เป็นมิตร เข้าถึงง่าย สำหรับระบบ Mesh WiFi ที่มาพร้อมเราเตอร์และโหนดรวมกันถึง 3 ตัว
- ดีไซน์เน้นความเรียบง่าย ขนาดกะทัดรัด จัดวางเข้ากับทุกมุมของบ้าน
- สัญญาณ Wi-Fi มีความเสถียรเป็นอย่างมาก สามารถทะลุผ่านสิ่งกีดขวางได้เป็นอย่างดี
- เป็นระบบ Plug and Play ช่วยให้ติดตั้งได้ง่ายผ่าน ๆ แอปพลิเคชั่น Tenda WIFI
- มีเทคโนโลยีการซ้อนสัญญาณ (MRC) ช่วยให้เราเตอร์สามารถทำให้สมาร์ทโฟนได้รับสัญญาณที่แรงขึ้น
- มีการรับประกันยาวนานถึง 5 ปี
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีอินเทอร์เฟซบนเว็บเบราว์เซอร์ สำหรับการดูแลระบบ
- ไม่มีฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครอง
- รองรับการเพิ่มโหนดได้สูงสุด 6 ตัว
จำนวนอุปกรณ์ | 3 ตัว |
---|---|
เทคโนโลยี | AC1200 Wi-Fi 5 (IEEE 802.11ac/n/a) |
ความเร็ว |
|
เสาสัญญาณ | 2 × เสา (ภายใน) |
ครอบคลุมพื้นที่ | 325 ตร.ม. |
เชื่อมต่อสูงสุด | 60 อุปกรณ์ |
พอร์ต / โหนด |
|
การรับประกัน | 5 ปี |
ขนาดเครื่อง | 91 × 91 × 93 mm. |
น้ำหนัก | N/a |
รีวิว TP-Link Deco M4 AC1200 เราเตอร์ Mesh Wi-Fi ราคาเบา ๆ (2-Pack)

ราคา 2,990 บาท*
ถือเป็นเราเตอร์ตาข่ายรุ่นเริ่มต้นที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ เหมาะสำหรับบ้านขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ด้วยราคาที่เป็นมิตร มันก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย โดย Deco M4 มาในดีไซน์สุดเรียบง่าย ขนาดกะทัดรัด เข้ากับบ้านทุกสไตล์ มีการออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาจุดอับสัญญาณไวไฟในบ้านโดยเฉพาะ โดยสามารถปล่อยสัญญาณครอบคลุมพื้นที่กว้างถึง 260 ตร.ม. ด้วยสัญญาณที่เสถียร ไม่มีขาดหาย ช่วยให้คุณสามารถเดินเล่นได้ทั่วทั้งบ้านและคุณยังสามารถใช้งาน Deco E4 ร่วมกับ Deco รุ่นอื่น ๆ ได้ด้วย ส่งผลทำให้คุณสามารถขยายเครือข่ายไวไฟนี้ได้ในอนาคต หากคุณต้องการ

โดย Deco E4 เป็นได้ทั้ง เราเตอร์ และตัวขยายสัญญาณ Wi-Fi เป็นแบบ Dual Band โดยที่ความถี่ 2.4GHz รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 300 Mbps และที่ความถี่ 5GHz รองรับการถ่ายโอนสูงสุดถึง 867 Mbps ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วกับการใช้งานทั่วไป มีการติดตั้งที่ง่ายดาย ผ่านแอปพลิเคชัน Deco และแถมยังมีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มาให้ด้วย แม้ว่ามันจะมีไม่มากก็ตาม เช่น มีการ กำหนดเวลาการใช้งานเน็ตฯ, การบล็อคเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม หรือการสั่งงานเสียง ด้วย amazon Alexa เป็นต้น สำหรับรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่เหมาะมาก ๆ กับบ้านขนาดเล็กถึงกลาง เน้นใช้ท่องเน็ตฯ เล่นโซเชียลมีเดีย หรือเล่นเกมมือถือ
ข้อดี
- มีราคาที่เป็นมิตร เข้าถึงง่าย สำหรับระบบ Mesh WiFi
- ดีไซน์เน้นความเรียบง่าย และความสง่างาม จัดวางเข้ากับทุกมุมของบ้าน
- สัญญาณ Wi-Fi มีความเสถียรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในย่านความถี่ 5 GHz
- ติดตั้งง่ายผ่าน แอปพลิเคชั่น TP-Link Deco
- มีฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครองที่มีประโยชน์ ซึ่งใช้งานง่าย
- สามารถใช้ควบคู่กับอุปกรณ์ Deco รุ่นอื่น ๆ ได้ด้วย
- มันถูกรวมเข้ากับ Amazon Alexa และ IFTTT
- มีการรับประกันตลอดการใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีอินเทอร์เฟซบนเว็บเบราว์เซอร์ สำหรับการดูแลระบบ
- มีคุณสมบัติน้อยกว่า Deco อื่น ๆ เพื่อชดเชยความแตกต่างของราคา
จำนวนอุปกรณ์ | 2 ตัว |
---|---|
เทคโนโลยี | Wi-Fi 5 (IEEE 802.11ac/n/a) |
ความเร็ว |
|
เสาสัญญาณ | 2 × เสา (ภายใน) |
ครอบคลุมพื้นที่ | 260 ตร.ม. |
เชื่อมต่อสูงสุด | 100 อุปกรณ์ |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 2 × Gigabit Ports |
การรับประกัน | ตลอดการใช้งาน |
ขนาดเครื่อง | 90.7 × 90.7 × 190 mm. |
น้ำหนัก | 800 g. |
รีวิว TP-Link Deco M9 Plus AC2200 Smart Home Mesh WiFi System

ราคา 5,690 บาท*
TP-Link Deco M9 Plus ระบบ Smart Home Mesh WiFi ประสิทธิภาพคุ้มค่าคุ้มราคา มาพร้อมขั้นตอนการตั้งค่าที่รวดเร็ว และความสามารถในการให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ซึ่งช่วยให้คุณได้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เสถียร และครอบคลุมทุก ๆ จุดภายในบ้าน ทุกคนในครอบครัวจะได้สนุกกับอินเตอร์เน็ตที่เร็วและเสถียรกับทุกอุปกรณ์ภายในบ้าน โดย Deco M9 Plus พร้อมมอบการกระจายสัญญาณที่ครอบคลุมพื้นที่ได้สูงสุดถึง 4,500 ตร.ฟุต หรือประมาณ 420 ตร.ม. มั่นใจกับอินเตอร์เน็ตที่มีถึง 3 ย่านความถี่ ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวล แม้จะมีการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกัน พร้อมทั้งฟีเจอร์การเชื่อมต่อ และควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้ทุกประเภท โดยที่ไม่ต้องเพิ่มฮับ ทั้งหมดนี้อัดแน่นอยู่ในดีไซน์ที่มีขนาดกะทัดรัด ที่ง่ายต่อการซ่อน หรือติดตั้งบนผนัง
Deco M9 Plus มีสิ่งอำนวยความสะดวกในตัว ไม่ว่าจะเป็น การรักษาความปลอดภัย การป้องกันการบุกรุก ตัวกรองเนื้อหาที่เป็นอันตราย และรวมไปถึงการกักกันอุปกรณ์ที่ติดไวรัส ช่วยให้ง่ายต่อการดูแลและจัดการเครือข่ายในบ้านของคุณ ทำงานด้วยคลื่นความถี่ 3 ย่าน ช่วยมอบการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รวดเร็ว และมีความเสถียร ครอบคลุมทั่วทั้งบ้านของคุณ ซึ่งแบนด์วิธที่มากขึ้น ช่วยให้คุณบอกลาปัญญหาเน็ตช้าไปได้เลย โดย Deco M9Plus ขยายสัญญาณระดับ AC2200 มอบย่านความถี่ 5GHz โดยทั้ง 2 คลื่น มีความเร็วสูงสุดถึง 867Mbps และย่านความถี่คลื่น 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 400Mbps ซึ่งประสิทธิภาพโดยรวมนั้นอยู่ในระดับกลาง ๆ อาจจะมีปัญหาเมื่อระบบจะเจอกับกำแพง ผนังหนา ๆ หรือเพดาน
ข้อดี
- ดีไซน์มีความเรียบง่าย รูปทรงกลม ช่วยให้มันสามารถติดตั้งได้หลายรูปแบบ
- กระจายสัญญาณได้ครอบคลุม มีความรวดเร็ว และเสถียร
- มีระบบการป้องกันมัลแวร์ และการป้องกันไวรัส
- ติดตั้งง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น Deco App
- รองรับการเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมประเภทต่าง ๆ
- TP-Link HomeCare ฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครองที่มีประโยชน์ เพื่อปกป้องลูก ๆ ของคุณ
- มีพอร์ต LAN Gigabit Ethernet ให้มาถึง 2 พอร์ต และพอร์ต USB 2.0
- รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ Amazon Alexa และ IFTTT
- มีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน (EOL+3)
ข้อควรพิจารณา
- พอร์ต USB 2.0 ค่อนข้างเก่าแล้ว ทำให้การใช้งานจริง มันค่อนข้างช้า
จำนวนอุปกรณ์ | 2 ตัว |
---|---|
เทคโนโลยี | AC2200 Wi-Fi 5 (IEEE 802.11ac/n/a) |
ความเร็ว |
|
เสาสัญญาณ | 8 × เสา (ภายใน) |
ครอบคลุมพื้นที่ | 418 ตร.ม. |
เชื่อมต่อสูงสุด | 100 อุปกรณ์ |
พอร์ต / โหนด |
|
การรับประกัน | ตลอดอายุการใช้งาน (EOL+3) |
ขนาดเครื่อง | 144 × 144 × 46 mm. |
น้ำหนัก | 900 g. |
รีวิว Linksys Velop Intelligent Mesh WiFi System (AC2200 Tri-Band)

ราคา 9,990 บาท*
Linksys Velop ระบบตาข่าย Wi-Fi แบบ Tri-Band ที่พร้อมมอบสัญญาณ Wi-Fi แบบ 100% ที่ครอบคลุม ทั่วทั้งบ้านของคุณพร้อมกับการโรมมิ่งที่ราบรื่น ไม่มีสะดุด บนเครือข่ายเดียว ตัวโหนดมาในรูปทรงสี่เหลี่ยม ทรงกระบอก ดีไซน์เรียบหรู ดูมีสไตล์ ถูกออกแบบมาให้สามารถติดตั้งได้ง่าย ๆ ใน 4 ขั้นตอน และจัดการได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน Linksys ที่คุณสามารถใช้ควบคุมระยะไกลได้ด้วย ในระบบประกอบด้วยโหนด 3 ตัว แต่ละตัวสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้สูงถึง 185 ตร.ม. ซึ่งหมายความว่า Linksys Velop ให้การครอบคลุม Wi-Fi ที่สูงถึง 557 ตร.ม. เลยทีเดียว และยังขยายเครือข่ายของคุณออกไปได้อีก
โดย Velop ใช้โซลูชัน Wi-Fi แบบ Tri-Band Mesh ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Tri-band Velop ซึ่งมอบความเร็วที่เร็วขึ้นผ่านการรวมสัญญาณ Wi-Fi ทั้ง 3 ตัวเข้าด้วยกัน โดยจะเป็นเราเตอร์ AC2200 ในย่านความถี่ 2.4GHz ให้ความเร็วสูงสุด 400Mbps และในย่านความถี่ 5GHz ทั้ง 2 ตัว ให้ความเร็วสูงสุดตัวละ 867Mbps พร้อมกับการออกแบบโมดูลาร์ใหม่ที่ทำงานได้ดีกับบ้านทุกประเภท ทำให้ไม่ว่าคุณจะสตรีมเนื้อหา 4K สตรีมเกมหรือวิดีโอแชท รุ่นนี้ก็พร้อมมอบ Wi-Fi ที่เร็วเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครองที่คุณกำหนดเวลาใช้งานของเด็ก ๆ ได้จากทุกที่ด้วยแอปพลิเคชั่น และยังมีฟีเจอร์การเข้าถึงเครือข่ายของผู้มาเยือน ที่คุณสามารถสร้างเครือข่ายใหม่ และตั้งรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกันให้เพื่อนคุณ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในเครือข่ายของคุณ
ข้อดี
- กระจายสัญญาณครอบคลุมพื้นที่สูงสุดถึง 557 ตร.ม. และรองรับการเพิ่มโหนด เพื่อขยายสัญญาณได้อีก
- แอปพลิเคชัน Linksys ออกแบบมาเป็นอย่างดี ใช้งานง่าย
- การติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมปรับแต่งและจัดการเครือข่าย Wi-Fi ของคุณได้ง่าย ๆ บนมือถือ
- มีฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครอง เพื่อสอดส่องลูก ๆ ของคุณตลอดเวลา
- มีฟีเจอร์การเข้าถึงของแขก โดยสร้างเครือข่าย Wi-Fi ที่ป้องกันด้วยรหัสผ่านที่แยกต่างหาก
- มีฟีเจอร์จัดลำดับความสำคัญของอุปกรณ์ พร้อมเลือกสัญญาณที่ดีที่สุดให้อุปกรณ์ของคุณโดยอัตโนมัติ
- สามารถขจัดความแออัดของอุปกรณ์ ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว
- มีพอร์ต LAN Gigabit Ethernet ให้มาถึง 2 พอร์ต ต่อโหนด
- รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ Amazon Alexa
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีพอร์ต USB มาให้
จำนวนอุปกรณ์ | 3 ตัว |
---|---|
เทคโนโลยี | Wi-Fi 5 AC2200 (IEEE 802.11ac/n/a) |
ความเร็ว |
|
เสาสัญญาณ | 6 × เสา (ภายใน) |
ครอบคลุมพื้นที่ | 557 ตร.ม. |
เชื่อมต่อสูงสุด | N/a |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 2 × Gigabit Ports / โหนด |
การรับประกัน | 3 ปี |
ขนาดเครื่อง | 78.7 × 78.7 × 185.4 mm. |
น้ำหนัก | 1,040 g. |
รีวิว Google Nest Wifi (2nd Gen) Router Mesh ขยายสัญญาณได้ครอบคลุมทั้งบ้าน

ราคา 13,490 บาท*

ข้อดี
- มีดีไซน์ที่ดูเรียบหรู และพรีเมี่ยม จัดวางในมุมต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว
- กระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้อย่างครอบคลุม มีรวดเร็ว และสัญญาณมีความเสถียรอย่างเหลือเชื่อ
- ติดตั้งและควบคุมการใช้งานง่าย ๆ ผ่าน แอปพลิเคชั่น Google Home
- Nest Wifi Point หรือโหนด เป็น Google Assistant ลำโพงอัจฉริยะในตัว ช่วยให้คุณสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างง่ายดาย
- มีฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครองที่มีประโยชน์
- มีการอัปเดตความปลอดภัยอัตโนมัติ
- ใช้งานได้กับอุปกรณ์ Google Wifi รุ่นก่อนหน้า
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีพอร์ต LAN Gigabit Ethernet ใน Nest Wifi Point (โหนด)
- ไม่มีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB มาให้
- มีราคาค่อนข้างสูง เมื่อเที่ยบกับฟีเจอร์ต่าง ๆ
จำนวนอุปกรณ์ | 2 ตัว |
---|---|
เทคโนโลยี | Wi-Fi 5 (IEEE 802.11ac/n/a) |
ความเร็ว |
|
เสาสัญญาณ | N/a |
ครอบคลุมพื้นที่ | 350 ตร.ม. |
เชื่อมต่อสูงสุด | 100+ อุปกรณ์ |
พอร์ต / โหนด | 2 × Gigabit Ports (เฉพาะตัวเราเตอร์) |
การรับประกัน | 1 ปี |
ขนาดเครื่อง | 110 × 90.4 × 90.4 mm. |
น้ำหนัก | 380 g. |
รีวิว Asus ZenWiFi AX Mesh Router WI-FI 6 AX6600 (XT8)

ราคา 19,669 บาท*
Asus ZenWiFi AX (XT8) ระบบ mesh Wi-Fi ใหม่ล่าสุดของ Asus เราเตอร์ตาข่ายที่ครอบคลุมได้ทั้งบ้านของคุณ ทำงานด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi 6 Mesh เป็นระบบไตรแบนด์ โดยในชุดมาพร้อมเราเตอร์ที่เหมือนกัน 2 เครื่อง ซึ่งสามารถกระจายสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ในบ้านได้กว้างถึง 5,500 ตร.ฟุต. ประมาณ 6 ห้องนอน ถือว่ารองรับบ้านขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ เลย ตัวเราเตอร์ออกแบบมาในรูปร่างทรงกระบอกแบน ขนาดกำลังดี ดีไซน์สวยหรู พร้อมไฟ LED แสดงสถานะที่ด้านหน้า สำหรับเจ้ารุ่นนี้อาจไม่ใช่ mesh Wi-Fi ที่เร็วที่สุด แต่เป็น mesh Wi-Fi ที่คุ้มค่าที่สุด ตอบโจทย์ได้ทั้ง ประสิทธิภาพการกระจายสัญญาณ และการรักษาความปลอดภัยในตัว
XT8 เป็นระบบ Wi-Fi 6 AX6600 แบบ Tri-Band ทำงานด้วยซีพียู quad-core ช่วยเค้นศักยภาพสูงสุดของ Wi-Fi 6 ทำช่วยให้บนแบนด์ 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 574Mbps บนแบนด์ 5GHz (อันใดอันหนึ่ง) มีความเร็วสูงสุด 1201Mbps และแบนด์ 5GHz (ที่เหลือ) มีความเร็วสูงสุดถึง 4804Mbps ซึ่งเป็นสัญญาณที่เสถียร น่าเชื่อถือ และมีความรวดเร็ว พร้อมปกป้องคนที่คุณรักด้วย เทคโนโลยี AiProtection Pro โหมดการควบคุมโดยผู้ปกครองขั้นสูง ช่วยให้คุณอุ่นใจได้อย่างเต็มที่ โดยคุณสามารถดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ บนมือถือของคุณ นอกจากนี้การติดตั้งก็ง่ายกว่าที่เคย ด้วยการตั้งค่าง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอน ด้วยแอปพลิเคชั่น ASUS Router และยังมีเทคโนโลยี AiMesh ที่ช่วยให้คุณเพิ่มเราเตอร์ที่เข้ากันได้ในเครือข่ายได้ทุกเมื่อ
ข้อดี
- ดีไซน์มีความล้ำสมัย ดูสวยงาม
- ใช้เทคโนโลยี Wi-Fi 6 แบบ Tri-Band ให้สัญญาณ Wi-Fi ที่รวดเร็ว และมีความเสถียรอย่างเหลือเชื่อ
- ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ เหมาะมาก ๆ สำหรับบ้านขนาดใหญ่
- มีระบบการป้องกันมัลแวร์
- ติดตั้งง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน ด้วยแอปพลิเคชั่น ASUS Router
- AiMesh มอบการจัดการที่ยืดหยุ่น เพิ่มเราเตอร์ที่เข้ากันได้ ในเครือข่ายได้ง่าย ๆ
- AiProtection Pro ฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครองที่มีประโยชน์
- มีพอร์ต LAN Gigabit Ethernet ให้มาถึง 3 พอร์ต และพอร์ต USB 3.1 Gen 1 สำหรับแชร์ที่เก็บข้อมูล
- รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ Amazon Alexa และ IFTTT
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีน้ำหนัก
- การตั้งค่าขั้นสูงบางอย่างต้องใช้เว็บเบราว์เซอร์
- มีราคาค่อนข้างสูง
จำนวนอุปกรณ์ | 2 ตัว |
---|---|
เทคโนโลยี | AX6600 Tri-Band Wi-Fi 6 (802.11ax) |
ความเร็ว |
|
เสาสัญญาณ | 6 × เสา (ภายใน) |
ครอบคลุมพื้นที่ | 510 ตร.ม. |
เชื่อมต่อสูงสุด | N/a |
พอร์ต / โหนด |
|
การรับประกัน | 2 ปี |
ขนาดเครื่อง | 160.0 × 75.0 × 161.5 mm. |
น้ำหนัก | 716 g. |
รีวิว Netgear Orbi Tri-Band Mesh Wi-Fi 6 System เราเตอร์ Mesh ที่ดีที่สุด (RBK852)

ราคา 27,990 บาท*

ข้อดี
- ดีไซน์มีความล้ำสมัย ดูเรียบหรู และพรีเมี่ยม
- ใช้เทคโนโลยี Wi-Fi 6 แบบ Tri-Band ให้สัญญาณ Wi-Fi ที่รวดเร็ว และมีความเสถียรอย่างเหลือเชื่อ
- ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ เหมาะมาก ๆ สำหรับบ้านขนาดใหญ่
- ติดตั้งง่ายผ่าน แอปพลิเคชั่น Orbi
- Netgear Armor มีเกราะป้องกันภัยคุกคามทางออนไลน์
- Netgear Smart Parental Controls ฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครองที่มีประโยชน์ มีหลากหลายฟีเจอร์ให้ใช้
- เพิ่มความครอบคลุม WiFi ได้ง่าย ๆ ด้วยการซื้อ Satellite เพิ่ม ซึ่งจะขยายความครอบคลุม 230 ตร.ม./ เครื่อง
- มีพอร์ต LAN Gigabit Ethernet ให้มาถึง 4 พอร์ต
- รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ Amazon Alexa และ Google Assistant
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีน้ำหนัก
- ไม่มีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB มาให้ สำหรับแชร์ที่เก็บข้อมูล ซึ่งน่าเสียดายมาก ๆ หากเทียบกับราคาที่สูง
- มีราคาค่อนข้างสูง
จำนวนอุปกรณ์ | 2 ตัว |
---|---|
เทคโนโลยี | AX6000 Tri-Band Wi-Fi 6 |
ความเร็ว |
|
เสาสัญญาณ | 8 × เสา (ภายใน) |
ครอบคลุมพื้นที่ | 460 ตร.ม. |
เชื่อมต่อสูงสุด | 100+ อุปกรณ์ |
พอร์ต / โหนด |
|
การรับประกัน | 3 ปี |
ขนาดเครื่อง | 190 × 71.1 × 254 mm. |
น้ำหนัก | 1,297 g. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว Mesh WiFi รุ่นไหนดี ให้คุณเล่น WiFi ได้ทุกที่ภายในบ้าน ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
Tenda nova MW5s AC1200 ระบบเราเตอร์ Wi-Fi แบบตาข่าย ทั้งบ้าน |
| |||
TP-Link Deco M4 AC1200 เราเตอร์ Mesh Wi-Fi ราคาเบา ๆ (2-Pack) |
| |||
| ||||
Linksys Velop Intelligent Mesh WiFi System (AC2200 Tri-Band) |
| |||
Google Nest Wifi (2nd Gen) Router Mesh ขยายสัญญาณได้ครอบคลุมทั้งบ้าน |
| |||
| ||||
Netgear Orbi Tri-Band Mesh Wi-Fi 6 System เราเตอร์ Mesh ที่ดีที่สุด (RBK852) |
|
วิธีการเลือกซื้อ Mesh WiFi ให้เหมาะกับการใช้งาน ?
1. ตรวจสอบจุดอับสัญญาณภายในบ้าน
ถ้าหากคุณมีบ้านหลังใหญ่ มีหลายชั้น หลายห้องนอน หลายห้องน้ำ และมีพื้นที่มากกว่า 50 ตารางเมตรขึ้นไป เราเตอร์ทั่ว ๆ ไปเพียงตัวเดียว ส่วนใหญ่จะไม่สามารถกระจายสัญญาณได้อย่างทั่วถึงแน่นอนครับ เนื่องจากเราเตอร์ทั่วไปจะกระจายสัญญาณได้ดีที่สุดในระยะ 5 เมตร หากเกินจากนี้สัญญาณจะค่อย ๆ อ่อนลงเรื่อย ๆ และยิ่งถ้าหากบ้านของคุณมีความซับซ้อน มีผนังหนากั้นหลายจุด และยังมีเฟอร์นิเจอร์อีกมากมายที่วางขวางอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เตียง, ตู้ข้างเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะทานข้าว, ชั้นวางของ, ชั้นวางหนังสือ, โต๊ะเครื่องแป้ง, โต๊ะทํางาน, ตู้โชว์, ฉากกั้น, มู่ลี่ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งกีดขวางอย่างดีที่ทำให้สัญญาณกระจายไม่ทั่วถึงครับ ดังนั้นในการเลือกซื้อ Mesh WiFi คุณควรตรวจสอบก่อนว่า Wi-Fi เดิมของคุณ มีการกระจายสัญญาณได้ดีแค่ไหน ? เพื่อเลือกซื้อให้เหมาะสมกับขนาดบ้านของคุณครับ
2. จำนวนตัวกระจายสัญญาณ (โหนด) ในชุด
เนื่องจากการกระจายสัญญาณที่ครอบคลุมมากขึ้น มันหมายถึงจำนวนโหนดที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้นก่อนที่คุณจะเลือกซื้อระบบ Mesh WiFi คุณจะต้องพิจารณาในข้อแรกก่อนว่า คุณต้องการพื้นที่กระจายสัญญาณที่ครอบคลุมมากเพียงใด โดย Mesh WiFi แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติการกระจายสัญญาณที่แตกต่างกันไป และจำไว้ว่าบ้านทุกหลังก็มีความแตกต่างกัน ทั้ง โครงสร้างต่าง ๆ ผนัง ทางเข้า-ออก ประตูหน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ และอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อการส่งสัญญาณไร้สายโดยตรง นอกจากนี้มันยังมีการรบกวนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ด้วย เช่น ไมโครเวฟ และสัญญาณโทรศัพท์
ฉะนั้นในการเลือกซื้อ Mesh WiFi คุณควรเริ่มจากแบ่งบ้านออกเป็นโซน ๆ ครับ หากบ้านของคุณโล่ง โปร่ง คุณก็ไม่จำเป็นต้องวางโหนดให้ใกล้กันมากนัก เช่น บ้าน 2 ชั้น ก็แบ่งเป็นชั้นล่าง 1 ตัว ชั้นบน 1 ตัว กลับกันถ้าหากบ้านของคุณมีผนังกั้นหลายห้อง มีความซับซ้อน และมีสิ่งกีดขวางเยอะแยะเต็มไปหมด เมื่อเดินออกห่างจากเราเตอร์ที่ติดตั้งอยู่หน้าบ้าน ไปหลังบ้าน แล้วพบว่าสัญญาณอ่อน ไม่เสถียร คุณก็ต้องแบ่งเป็นโซนหน้าบ้าน 1 ตัว โซนหลังบ้าน 1 ตัว และบนชั้น 2 คุณอาจจะติดตั้งไว้ตรงกลางอีก 1 ตัว เป็นต้น ซึ่งคุณไม่ต้องกังวลครับว่าหากซื้อมาแล้วมันจะไม่เพียงพอ เนื่องจากระบบของ Mesh WiFi คุณสามารถซื้อโหนดมาเพิ่มเข้าไปในระบบได้ (ถ้าหากจะซื้อเพิ่ม เราขอแนะนำเป็นรุ่นเดิม ยี่ห้อเดิม เพื่อลดปัญหาในการติดตั้งที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ)
3. ความเร็วสูงสุดในการเชื่อมต่อ ทั้งแบบ Wi-Fi และ LAN
สำหรับการเลือกซื้อ Mesh WiFi สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็เหมือนกับการเลือกซื้ออุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ ครับ คุณควรจะตรวจสอบความเร็วสูงสุดที่แต่ละรุ่นรองรับได้ เพื่อให้คุณสามารถเลือกได้สอดคล้องกับอุปกรณ์ที่คุณกำลังใช้งานอยู่ โดยในปัจจุบันนี้เรามีเทคโนโลยี Wi-Fi ที่นิยมใช้กันอยู่มากมายตั้งแต่ Wi-Fi 4, Wi-Fi 5 และ Wi-Fi 6 แต่ถ้าถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน ? แน่นอนครับว่า Wi-Fi 6 มันดีที่สุดแล้ว ณ ขณะนี้ เป็นมาตรฐานไร้สาย ที่ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่า Wi-Fi 5 มาก ซึ่งเราเตอร์ Wi-Fi 6 Mesh ต่างก็ทำความเร็วสูงสุดได้ดีกว่าเราเตอร์ Wi-Fi 5 Mesh 2-3 เท่า เลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตามการที่คุณจะใช้ Wi-Fi 6 ได้นั้น ก่อนอื่นอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคุณ ต้องรองรับ Wi-Fi 6 ก่อนครับ ซึ่งในปัจจุบัน เพิ่งจะเริ่มทยอยกันออกมา อาทิเช่น iPhone 12, iPhone 13, MacBook Pro หรือ PlayStation 5 (PS5) เป็นต้น หากในมือคุณมีอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่รองรับ Wi-Fi 6 ได้ และคุณมีงบประมาณมากพอ คุณก็สามารถเลือก Mesh Wi Fi 6 ได้ครับ ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่รองรับ Wi-Fi 6 คุณก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ก็จะได้ความเร็วสูงสุดตามเทคโนโลยี Wi-Fi 5 นั่นเอง ส่วนใครที่มีงบจำกัดก็สามารถเลือก Mesh Wi Fi 5 ได้ครับ เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่ยังคงใช้งานกันอยู่
4. พอร์ตการเชื่อมต่อ
แม้ว่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายจะเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องการจากชุด Mesh WiFi แต่คุณก็ต้องตรวจสอบความต้องการที่จะเชื่อมต่อแบบมีสายด้วย โดยเฉพาะพอร์ตอีเทอร์เน็ต (RJ-45) ที่ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรมากยิ่งขึ้นสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เกมคอนโซล, คอมพิวเตอร์พีซี, กล้องวงจรปิด หรือแม้แต่สมาร์ททีวี 4K และ 8K ที่ต้องการใช้แบนด์วิดธ์มากกว่าจากการรับชมความบันเทิงต่าง ๆ ที่ในปัจจุบันก็มีสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่มากมาย และพอร์ต USB ที่มันใช้งานสะดวกมาก สำหรับการเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ 3 มิติ, เครื่องปริ้นเตอร์ หรือ NAS ที่เก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ ซึ่งถ้าหากคุณไม่ต้องการใช้งานอุปกรณ์อื่น ๆ คุณก็สามารถมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปได้ครับ
5. งบประมาณ
แน่นอนครับว่า Mesh WiFi ก็เหมือนกับอุปกรณ์อื่น ๆ แม้บางรุ่นจะมีโหนดเท่ากันที่ 2 ตัว แต่ประสิทธิภาพการกระจายสัญญาณย่อมแตกต่างกันอยู่แล้วครับ บางรุ่นอาจรับและกระจายสัญญาณได้แรงกว่า ดังนั้นถ้ายิ่งแพง ประสิทธิภาพ ก็จะยิ่งสูงครับ ดังนั้นหากคุณมีงบประมาณที่มากพอคุณก็สามารถเลือกรุ่นไหนก็ได้ครับ แต่ถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด และไม่ได้ต้องการใช้งานแบนด์วิดธ์มากนัก เน้นใช้งานทั่วไป Mesh WiFi ราคาประหยัดก็เหมาะกับคุณเช่นกันครับ
คุณต้องการใช้งาน Mesh WiFi จริง ๆ หรือไม่ ?
Mesh WiFi หรือ เครือข่ายตาข่ายไร้สาย เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดวิธีหนึ่ง สำหรับการกระจายสัญญาณ Wi-Fi ไปรอบ ๆ บ้านของคุณ แต่หากถามว่า คุณต้องการใช้งาน Mesh WiFi จริง ๆ หรือไม่ ? เราคงตอบคุณไม่ได้ครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับขนาดบ้านและความต้องการในการใช้งานของคุณ และต่อไปนี้ก็คือเหตุผลเบื้องต้นที่สามารถตอบคุณได้ว่า คุณเหมาะที่จะใช้งาน Mesh WiFi มากน้อยแค่ไหน ?
เหตุผลที่คุณเหมาะจะใช้งาน Mesh WiFi
- คุณพักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ หรือบ้านขนาดใหญ่ที่มีหลายห้องนอน มีหลายชั้น หรืออาศัยอยู่ในอาคารเก่าที่มีกำแพงหนาทึบ ซึ่งเป็นสิ่งกีดขวางสัญญาณเราเตอร์อย่างดี ทำให้มีโซนตายหรือจุดอับสัญญาณหลายจุด
- คุณเป็นคนนึงที่ใช้สมาร์ทดีไวซ์ หรืออุปกรณ์พกพาจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน (ที่มีทั้ง Android และ iOS), แท็บเล็ต (ทั้ง android, iPadOS และ Windows), แล๊ปท็อป, โน้ตบุ๊ค ฯลฯ และคุณก็เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ของคุณด้วย Wi-Fi เป็นหลัก โดยที่อุปกรณ์ของคุณกระจายอยู่ทั่วทั้งบ้าน
- คุณ หรือคนในครอบครัวของคุณ ต้องการใช้งานสัญญาณ Wi-Fi ในหลายจุดที่ต่างกัน รวมทั้งมีห้องนอนหลายห้อง และแต่ละห้องก็ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต
- คุณมีสนามรอบ ๆ บ้านขนาดใหญ่และมักจะชอบทำกิจกรรมบริเวณนั้นอยู่เสมอ แต่มันอยู่ห่างจากโมเด็มหรือเราเตอร์มากเกินไป จนไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
เหตุผลที่คุณอาจไม่ต้องการใช้งาน Mesh WiFi
- อุปกรณ์ส่วนใหญ่ของคุณใช้งานอยู่ใกล้กับโมเด็มหรือเราเตอร์อยู่แล้ว และไม่ได้ไปใช้งานในจุดอื่น ๆ บ่อยนัก
- คุณอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรือบ้านขนาดเล็ก และคุณต้องการเพิ่มสัญญาณในบางจุดของบ้านเท่านั้น เช่น บริเวณหน้าบ้าน หรือหลังบ้าน เป็นต้น
- มีคนอาศัยอยู่ในบ้าน เพียง 1-3 คน เท่านั้น และไม่ได้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากนัก ซึ่งความต้องการในการใช้งาน ยังอยู่ในขอบเขตที่ระบบเครือข่ายเดิมรองรับได้
- คุณมีการใช้งานเราเตอร์ที่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว เช่น เราเตอร์สำหรับเล่นเกม หรือเราเตอร์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถจะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านได้สบาย ๆ อยู่แล้ว
บทส่งท้าย
Mesh Technology เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้เราเตอร์สามารถเชื่อมต่อเข้าหากัน ในเวลาเดียวกันได้ ซึ่งเราเตอร์สามารถสั่งการเราเตอร์ตัวอื่น ๆ ในเครือข่าย ให้ช่วยกันกระจายสัญญาณไปยังจุดอับต่าง ๆ ได้ โดยที่เราไม่ต้องเดินสายแลน และสั่งงานทีละตัว ทั้งหมดคุณสามารถควบคุมได้ในที่เดียวหรือ แอปพลิเคชั่นเดียว นอกจากนี้ Mesh WiFi บางรุ่นก็มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง เช่น คุณสามารถนำพวกอุปกรณ์ IoT หรืออุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่าง ๆ อาทิเช่น สมาร์ทปลั๊ก, กล้องวงจรปิด, กลอนประตูดิจิตอล, สัญญาณกันขโมย, กริ่งประตูไร้สาย, ไฟเซ็นเซอร์ และลำโพงอัจฉริยะ เป็นต้น มาเชื่อมต่อในเครือข่ายเดียวกันได้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถจัดการ และควบคุมผ่านแอปฯ เดียวกันได้ ซึ่งมันสามารถช่วยลดความยุ่งยากลงไปได้ไม่น้อยทีเดียวครับ