Bruno Mars (บรูโน มาส์) – เปิดประวัติ และผลงานเพลง [อัปเดต พ.ค. 64]

ถ้าให้ลิสต์รายชื่อนักร้องชายและหญิงที่ไม่ว่าจะปล่อยซิงเกิ้ลหรืออัลบั้มไหนออกมาก็ไม่แต่คนสนใจและดังเป็นพลุแตกอยู่เสมอ ผมคิดว่าหลายคนน่าจะนึกถึง จัสติน บีเบอร์, อารีอานา กรานเด, เทย์เลอร์ สวิฟต์ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ‘Bruno Mars (บรูโน มาส์)’ เพราะด้วยความสามารถที่ครบด้าน ทั้งการเล่นดนตรีและการร้องเพลง ที่มีเทคนิคเหนือชั้นบวกกับเนื้อเสียงที่หล่อละมุน ทุกครั้งที่เขาปล่อยเสียงออกมาจะสามารถสะกดคนฟังได้แบบอยู่หมัด นอกจากนี้เพลงของบรูโน มาส์ ยังมีเนื้อเพลงที่กินใจและตรงกับประสบการณ์เกี่ยวกับความรักขอใครหลายคน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาคือนักร้องชายที่เป็นเบอร์ต้น ๆ ของวงการเพลงโลกในตอนนี้ และถึงแม้ว่าจะยืนระยะมานับสิบปี แต่กระแสของเขาก็แทบจะไม่เคยตกเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นวันนี้เว็บไซต์ของเราจึงมาเจาะลึกประวัติชีวิตและผลงานเพลงให้ทุกคนได้รู้จักเขามากกว่าเดิม




ประวัติของ Bruno Mars (บรูโน มาส์)

บรูโน มาส์ เกิดและเติบโตในฮาวาย โดยคุณพ่อของเขาเป็นลูกครึ่งเปอร์โตริโก้และชาวยิวอัชเคนาซิ ในขณะที่คุณแม่เป็นผู้อพยพที่มาจากประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีเชื้อสายสเปน ทั้งนี้คุณพ่อและคุณแม่ของบรูโนพบรักกันในงานแสดง เพราะคุณแม่เป็นนักเต้น Hula ในขณะที่คุณพ่อเป็นนักดนตรีที่เล่นกลอง (ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าความสามารถทางด้านศิลปินได้มาจากใคร)

ด้วยครอบครัวสายเลือดศิลปินทำให้บรูโนได้ซึมซับและเติบโตมากับดนตรีหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น Rock, R&B, Raggae หรือ Hip-hop แน่นอนว่าจุดเริ่มต้นการเข้าสู่เส้นทางสายดนตรีของเขาถือว่าเริ่มต้นอย่างรวดเร็วมาก เพราะอายุเพียง 3 ขวบ เขาก็ได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นเวทีและแน่นอนว่าเขาทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

Bruno Mars

สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

หลังจากนั้นเพียงแค่ 1 ปี เขาก็ได้ร่วมแสดงในวงของครอบครัวอย่างเต็มตัวและมีชื่อเสียงมากในฮาวายตอนนั้น จนในที่สุดเขาก็เติบโตในฐานะศิลปินขึ้นเรื่อย ๆ จนได้ไปแสดงในการแข่งขัน Aloha Bowl ปี 1990 และมีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์ รวมไปถึงออกสัมภาษณ์สื่อช่องดังอย่าง MTV อีกด้วย แต่จะบอกว่าความสามารถของเขาไม่ได้มีเพียงแค่การแสดงเท่านั้น เพราะเขาได้สายเลือดการเล่นดนตรีของพ่อมาด้วย โดยเขาเล่นได้ทั้งกีตาร์ เปียโน และกลองได้ตั้งแต่ยังเด็ก

แต่แล้วความยากลำบากก็เกิดขึ้นเมื่อคุณพ่อและคุณแม่เกิดการหย่าร้าง ซึ่งทำให้ธุรกิจภายในครอบครัวหลายอย่างต้องจบตัวลง โดยในช่วงเวลานั้นคุณพ่อไม่สามารถทำรายได้เข้ากระเป๋าเลยแม้แต่น้อย ชนิดที่ครอบครัวต้องย้ายไปอยู่สลัมแห่งหนึ่งในฮาวาย อีกทั้งบรูโนจำเป็นต้องย้ายโรงเรียนและเกิดปัญหาการโดนบูลลี่ แต่ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในที่สุดเพื่อน ๆ ภายในโรงเรียนก็ยอมรับ จนเขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ของโรงเรียน

ความเจิดจรัสทางด้านดนตรีทางด้านดนตรีของเขาทำให้บรูโนเดินทางสายดนตรีและการร้องเพลงมาเรื่อย ๆ จนในที่สุดเวลาและโชคชะตาอันดีงามก็มาถึง เมื่อเขาย้ายเมืองไปอยู่ Los Angeles และเซ็นสัญญากับค่ายเพลง จากนั้นก็ปล่อยเพลงมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ 2004 จนเมื่อถึงปี 2010 ที่เขาได้ปล่อยซิงเกิ้ลตำนานอย่าง ‘Just The Way You Are’ แน่นอนว่าเขาดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลกและกลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมเพลง ทั้งยังมีแฟนคลับอยู่หนาแน่นในทั่วมุมโลก

1. Mark Ronson – Uptown Funk ft. Bruno Mars

Mark Ronson - Uptown Funk ft. Bruno Mars
Mark Ronson – Uptown Funk ft. Bruno Mars
แนวเพลง Funk-pop, soul, boogie, disco-pop และ Minneapolis sound
ค่ายเพลง Royal, Zelig Studios, Cherry Beach Sound, Armoury, Levcon Studios และ Daptone
ผู้แต่งเพลง Mark Ronson, Bruno Mars, Philip Lawrence, Jeff Bhasker, Nicholas Williams, Devon Gallaspy, Charles Wilson, Robert Wilson, Ronnie Wilson, Rudolph Taylor และ Lonnie Simmons
โปรดิวเซอร์ Mark Ronson, Jeff Bhasker และ Bruno Mars
เพลงในปี 2014

ปรากฎการณ์ของ ‘Uptown Funk’ หลังจากที่ปล่อยออกมาออกมาในคลื่นวิทยุและช่องทางสตรีมต่าง ๆ ต้องบอกเลยว่ามันแมสมาก ชนิดที่ไม่ว่าจะเดินไปในห้างไหนก็จะได้ยินแต่เพลงนี้ตลอด ถ้าให้ไขกุญแจว่าทำไมเพลงนี้ถึงโด่งดังจนติดชาร์ตอันดับ 1 บน Billboard ได้นานกว่า 14 สัปดาห์ ก็เพราะว่าเพลงนี้สามารถทำให้คนฟังรู้สึก ‘Feel Good’ ทุกครั้งเมื่อได้ฟัง ยิ่งดนตรีที่เป็น Funk ผสมความสนุกของ Disco ที่เป็นกลิ่นอายของยุค 80’s แน่นอนว่าความสนุกของดนตรีนั้นอัดแน่นในทุกโน้ต ซึ่งต้องยกเครดิตให้ Mark Ronson ที่ทำดนตรีออกมาได้ดีขนาดนี้ อีกทั้งการดึงเจ้าพ่อ R&B อย่าง Bruno เข้ามาเติมเต็มก็เป็นช้อยส์ที่ลงตัวสุด ๆ เหมือนกับต่อโดมิโน่ถูกตัว ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเพลงนี้ถึงดังเป็นพรุแตกได้ขนาดนี้


2. That’s What I Like

That’s What I Like
That’s What I Like
แนวเพลง Hip hop, soul, new jack swing, R&B และ funk
ค่ายเพลง Atlantic
ผู้แต่งเพลง Bruno Mars, Philip Lawrence, Christopher Brody Brown, James Fauntleroy, Johnathan Yip, Ray Romulus, Jeremy Reeves และ Ray McCullough II
โปรดิวเซอร์ Shampoo Press & Curl และ The Stereotypes (co.)
เพลงในปี 2017

‘That’s What I Like’ เป็นหนึ่งในซิงเกิ้ลที่อยู่ในอัลบั้มของ 24K Magic โดยเพลงนี้ถือว่าประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของรางวัลและยอดขายที่ดีมาก เพราะตัวเพลงสามารถเข้าชิงรางวัล Grammy Awards ได้ถึง 3 สาขา รวมไปถึงยอดขายในปี 2017 ที่มีคนซื้อไปกว่า 9.7 ล้านยูนิต แน่นอนว่าเพลงนี้พุ่งทะยานกลายเป็นหนึ่งในเพลงตำนานของ Bruno Mars เลยก็ว่าได้ โดยจุดเด่นของเพลงนี้จะอยู่ที่ความโมเดิร์นของตัวเพลงที่คนยุคใหม่น่าจะชอบ และเสียงของบรูโนที่เข้ากับจังหวะกลอง Trap ได้แบบลงตัวสุด ต้องบอกว่าบรูโนงัดท่าไม้ตายทางเทคนิคการร้องทุกอย่างของเขาใส่ลงไปในเพลงแบบเต็มอิ่ม หากใครชอบเพลงลูกผสมแบบ R&B และ Funk หรือเพลงสนุก ๆ ที่เต้นตามได้ตลอดทั้งเพลง บอกเลยว่าไม่ควรพลาดเพลงนี้ครับ


3. Just The Way You Are

Just The Way You Are – Bruno Mars
Just The Way You Are – Bruno Mars
แนวเพลง Pop, soft rock และ R&B
ค่ายเพลง Elektra และ Atlantic
ผู้แต่งเพลง Bruno Mars, Philip Lawrence, Ari Levine, Khalil Walton และ Khari Cain
โปรดิวเซอร์ The Smeezingtons และ Needlz
เพลงในปี 2010

เพลงนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทำให้คนไทยรู้จัก Bruno Mars มากขึ้น และต้องบอกว่า ‘Just The Way You Are’ คือตัวเลือกของผู้ชายหลายคนที่ใช้ในการจีบสาว เพราะความหมายของเพลงที่โรแมนติกมาก ๆ หากมีใครส่งให้คงจะต้องเขินไปตาม ๆ กัน อีกทั้งเสียงของบรูโนที่ค่อนข้างละมุนและนุ่ม ผสมเข้ากับเทคนิคการร้องของเขาที่เป็นตัวท็อปของอุตสาหกรรมเพลงทางด้าน Vocal อยู่แล้ว ต้องบอกเลยว่าเพลงนี้เพอร์เฟคมาก สำหรับใครที่อยากฟังเพลงช้าที่มีความโรแมนติกที่มีความหมายไม่ลึกมาก สามารถเข้าถึงได้ง่าย เพลงนี้ถือว่าน่าสนใจครับ


4. Grenade

Grenade
Grenade
แนวเพลง Pop
ค่ายเพลง Elektra
ผู้แต่งเพลง Bruno Mars, Philip Lawrence, Ari Levine, Brody Brown, Claude Kelly และ Andrew Wyatt
โปรดิวเซอร์ The Smeezingtons
เพลงในปี 2010

‘Grenade’ คือหนึ่งในเพลงเศร้าระดับตำนานที่ในทุกวันนี้ยังคงมีคนฟังและนำไปประกวดร้องเพลงกันเยอะมาก โดยเพลงนี้ได้ถูกถ่ายทอดออกมาจากประสบการณ์จริงของบรูโนโดยตรง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนฟังถึงสัมผัสความเศร้าของเขาผ่านตัวเพลงได้แบบเต็ม ๆ ทั้งนี้ตัวเพลงเป็นการเล่าถึงความรักของบรูโนที่มอบให้คนที่เขารักจนหมดใจ แต่ในขณะเดียวกันผู้หญิงคนนั้นไม่เคยมองเห็นหรือมอบอะไรกลับมาให้เลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าจุดจบของความรักคือการที่เขาต้องเดินถอยหลังพร้อมกับความเศร้าหมอง ยิ่งตัวเพลงที่เป็นป็อปบัลลาด ยิ่งทำให้อารมณ์ดิ่งไปมากกว่าเดิม หากใครมีประสบการณ์คล้ายกับตัวเพลงต้องมีน้ำตาไหลกันไม่มากก็น้อย ซึ่งใครที่เป็นสายฟังเพลงเศร้า อย่าลืมที่จะเพิ่มเพลงนี้ลงไปในเพลย์ลิสต์ของคุณครับ


5. When I Was Your Man

When I Was Your Man
When I Was Your Man
แนวเพลง Pop
ค่ายเพลง Atlantic
ผู้แต่งเพลง Bruno Mars, Philip Lawrence, Ari Levine และ Andrew Wyatt
โปรดิวเซอร์ The Smeezingtons
เพลงในปี 2013

ถึงแม้ว่าภาพลักษณ์และดนตรีของบรูโนที่ติดตาหลายคนจะเป็นความสนุกในสาย Funk หรือ Pop ชวนเต้น แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าจริง ๆ แล้วเขาคือนักร้องชายที่เสียงดีคนหนึ่งของยุคนี้ และแน่นอนว่าตัวเขาเองถึงแม้ว่าจะพยายามฉีกกฎเพื่อทำอะไรใหม่ ๆ หรือพยายามจะไม่ร้องเพลงบัลลาดโชว์เสียง แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็กลับมาทำดนตรีแนวนี้อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่ามันดีและกินใจจนพาเพลง ‘When I Was Your Man’ ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ทได้อย่างไม่ยากเย็น เพียงแค่เปียโนและเสียงบรูโนก็สะกดคนฟังได้อย่างอยู่หมัด อีกทั้งเนื้อหาของเพลงที่บาดลึกมากชนิดที่เปิดมาท่อนแรกที่ร้องว่า “Same bed but it feels just a little bigger now” ก็ทำให้จุกอกไปตาม ๆ กัน


6. Locked Out Of Heaven

Locked Out Of Heaven
Locked Out Of Heaven
แนวเพลง Reggae rock และ pop rock
ค่ายเพลง Atlantic
ผู้แต่งเพลง Bruno Mars, Philip Lawrence และ Ari Levine
โปรดิวเซอร์ The Smeezingtons, Mark Ronson, Jeff Bhasker และ Emile Haynie
เพลงในปี 2012

‘Locked Out Of Heaven’ คืออีกหนึ่งเพลงคุณภาพที่อยากให้ได้ไปฟังเพลง เพียงแค่รายชื่อผู้แต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ก็เป็นการการันตีได้ดีอยู่แล้ว อย่าง Philip ที่เขียนเพลงให้นักร้องชื่อดังมานักต่อนักไม่ว่าจะเป็น Beyonce, Lady Gaga หรือ Coldplay ส่วนโปรดิวเซอร์ก็ดังไม่แพ้กัน เพราะทั้ง The Smeezingtons, Mark, Jeff หรือ Emile ต่างก็เป็นโปรดิวเซอร์คู่บุญของบรูโนอยู่แล้ว ดังนั้นเพลงที่ออกมามีความเป็นบรูโน มาส์สูงมาก โดยการนำเอา Raggae rock มาหลอมรวมเข้ากับ Pop rock ถือเป็นไอเดียที่ขอใข้คำว่า “โครตลงตัว” เพราะถึงแม้ดนตรีจะไม่หนักเหมือนกับ Rock แต่ในทุกโน้ตนั้นชวนให้คนฟังกระโดดตามได้ตลอดเวลา เหมาะสำหรับการเปิดในงานปาร์ตี้มาก


7. Bruno Mars, Anderson .Paak, Silk Sonic – Leave the Door Open

Bruno Mars, Anderson .Paak, Silk Sonic - Leave the Door Open
Bruno Mars, Anderson .Paak, Silk Sonic – Leave the Door Open
แนวเพลง R&B และ soul
ค่ายเพลง Aftermath และ Atlantic
ผู้แต่งเพลง Bruno Mars, Brandon Anderson, Dernst Emile II, Christopher และ Brody Brown
โปรดิวเซอร์ Bruno Mars และ D’Mile
เพลงในปี 2021

เพลงใหม่ล่าสุดี่เพิ่งปล่อยออกมาในปีนี้เลยคือ ‘Leave The Door Open’ ซึ่งเมื่อปล่อยออกมาก็เกิดกระแสทันที เนื่องจากดนตรีและเนื้อเพลงที่ทำออกมาได้อย่างละเอียดและประณีตมาก ในทุกท่อนของเพลงเรียกว่าละมุนและกลมกล่อมตามแบบฉบับของบรูโน ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คงเหมือนหมอกที่ลอยอยู่บนน้ำ หากใครชอบการร้องและดนตรีในแนววินเทจ R&B และ Soul ที่เหมาะสำหรับการเปิดจิบชายามเช้า เพลงนี้เหมาะมากจริง ๆ ครับ


8. 24K Magic

24K Magic
24K Magic
แนวเพลง Funk, disco และ R&B
ค่ายเพลง Atlantic
ผู้แต่งเพลง Bruno Mars, Philip Lawrence และ Christopher Brody Brown
โปรดิวเซอร์ Shampoo Press & Curl และ The Stereotypes (add.)
เพลงในปี 2016

จุดประสงค์ของบรูโนในการแต่งและร้องเพลง ‘24K Magic’ ก็เพื่อให้แฟนเพลงได้เอ็นจอยและเต้นไปพร้อมกับเพลง โดยดนตรีของเพลงนี้จะได้รับอิทธิพลมาจาก R&B ยุค 90 ซึ่งเป็นช่วงวัยเด็กที่บรูโนกำลังอินและซึมซับความเป็นศิลปิน ส่วนทางด้านเนื้อหาของเพลงก็ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในเพลงที่อวดร่ำอวดรวยจนน่าหมั่นไส้ แต่ก็ต้องบอกว่ามันทำให้เราเพลินไปได้ทั้งเพลง หากใครเป็นสายปาร์ตี้ แนะนำเลยว่าเพลงนี้ควรเป็นหนึ่งในเพลงที่จะต้องเปิดในงานของคุณ เพื่อสร้างบรรยากาศสุดสนุกภายในงาน


9. It Will Rain

It Will Rain
It Will Rain
แนวเพลง Pop และ pop-soul
ค่ายเพลง Chop Shop, Elektra และ Atlantic Records
ผู้แต่งเพลง Bruno Mars, Philip Lawrence และ Ari Levine
โปรดิวเซอร์ The Smeezingtons
เพลงในปี 2011

ด้วยยอดขายที่ทำได้ถึง 5 ล้านยูนิตในอเมริกาและการขึ้นชาร์ทเพลงได้ถึงอันดับที่ 3 ทำให้เพลง ‘It Will Rain’ คืออีกหนึ่งเพลงคุณภาพของบรูโน โดยเนื้อหาของเพลงจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขาและแฟนสาว ตั้งแต่การเริ่มต้นสวีทหวานไปจนถึงความเศร้า และท้ายที่สุดก็ต้องจบความสัมพันธ์ ดังนั้นใครที่มีประสบการณ์ทางด้านความรักก็จะต้องอินตามกันไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ในแง่ของของดนตรีที่เป็น Pop Soul ก็ทำให้เป็นเพลงเศร้าที่ไม่จืดชืดหรือซ้ำจำเจจนเกินไป เพราะยังมีกลิ่นอายของความเป็นป็อปอยู่


10. Please Me With Cardi B

Please Me With Cardi B
Please Me With Cardi B
แนวเพลง R&B, hip hop และ soul
ค่ายเพลง Atlantic
ผู้แต่งเพลง Belcalis Almanzar, Bruno Mars, James Fauntleroy, Jonathan Yip, Ray Romulus, Jeremy Reeves และ Ray McCullough II
โปรดิวเซอร์ Bruno Mars และ The Stereotypes
เพลงในปี 2019

การร่วมงานระหว่าง Bruno กับ Cardi B เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากในช่วงนั้น เพราะ Cardi ถือว่าเป็นแรปเปอร์สาวดาวรุ่งพุ่งแรงสุด ๆ บวกกับบารมีของบรูโน ดังนั้นการปล่อยเพลงนี้ออกมาถือว่าเซอร์ไพรส์ใครหลายคน ซึ่งบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะการผสมระหว่า Hip-hop กับ R&B ถือว่าลงตัว นอกจากนี้ยิ่งการปล่อยมาในช่วงวันวาเลนไทน์ก็ถือว่าเหมาะมาก เพราะเพลงมีความโรแมนติก แต่ก็แซมความแซ่บลงไปด้วย ถ้าเปรียบกับอาหารก็คงเป็นต้มยำกุ้งที่มีความกลมกล่อม






เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับประวัติและผลงานเพลงของ Bruno Mars ผมหวังว่าคุณจะได้รู้จักเขามากกว่าเดิม และได้เพลงคุณภาพไปเพิ่มลงไปในเพลย์ลิสต์ของตัวเอง ทั้งนี้สำหรับใครที่ชื่นชอบศิลปินยุค 80’s หรือ 90’s ผมก็เคยเขียนประวัติและผลงานของศิลปินในยุคนี้หลายคน ไม่ว่าจะเป็น Beyonce, Mariah Carey, Christina Aguilera หรือ Michael Jackson ถ้าหากใครอยากรู้จักศิลปินเหล่านี้มากขึ้นกว่าเดิม ก็สามารถเข้าไปอ่านกันได้ครับ

Lolipop

Lolipop

Create article about music and news with heart

Next Post