วิธี ดูแลผิวหน้าผู้ชาย ให้ดูอ่อนเยาว์

ผู้ชายหลายคนไม่ค่อยใส่ใจที่จะดูแลผิวหน้าสักเท่าไหร่นัก เพราะมองว่าการทากันแดดหรือการทาครีมเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับผู้ชาย แต่จริง ๆ แล้วนั่นเป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะเมื่อเราไม่ได้ใส่ใจที่จะดูแลผิวหน้าเป็นระยะเวลานาน เมื่อส่องกระจกดูอีกทีก็พบว่าตนเองมีรอยเหี่ยวย่นหรือผิวหน้าแก่ก่อนวัยชนิดที่สายเกินที่จะแก้ไขไปซะแล้ว

ดังนั้นวันนี้ผมจึงนำเคล็ดลับดี ๆ ในการ ดูแลผิวหน้าสำหรับผู้ชาย ให้ดูอ่อนเยาว์และไม่แก่เกินอายุ มาฝากไว้ให้อ่านและทำตาม ฉะนั้นตอนนี้หากใครที่กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ที่ยังไม่เหี่ยวย่นชนิดที่สายเกินแก้ก็สามารถนำวิธีด้านล่างนี้ไปทำตามกันได้เพื่อคงผิวหน้าและความหล่อให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ครับ

1. ทาครีมกันแดด

ผู้ชายส่วนใหญ่ต้องมีการออกจากบ้านเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าคุณอาจจะต้องพบเจอกับมลพิษและแสงแดด โดยการที่จะป้องกันรังสีอันตรายจากแสงพระอาทิตย์ได้ดีที่สุดคือการใช้ครีมกันแดด เพื่อป้องกันผิวหนังของเราไม่ให้โดน UVA และ UVB ทำร้าย (1) เพราะหากเราปล่อยผิวหน้าให้โดนแดดโดยตรง นอกจากที่ผิวหน้าของเราจะเกิดความหมองคล้ำ ยังทำให้เราเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย ดังนั้นก่อนออกจากบ้านคุณควรที่จะทาครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป เพื่อที่จะสามารถป้องกันมะเร็งและผิวหนังแก่ก่อนวัย (2,3)

2. ทาเซรั่มบำรุงผิวและไนท์ครีม

การทาครีมหรือเซรั่มอาจดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับผู้ชายหลายคน แต่จริง ๆ แล้วผมจะบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ว่าเพศไหนก็ควรที่จะทำให้ชินจนเป็นนิสัย ไม่ต่างจากการรับประทานอาหารเช้าหรืออาหารมื้อเย็นครับ เพราะเซรั่มและไนท์ครีมจะทำให้ผิวของเราได้รับสารอาหารที่ดีต่อผิวหน้า ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย, เพิ่มความชุ่มชื้น (4) , ลดเลือนรอยดำใต้ตา, ทำให้ผิวฟื้นตัว  (4) และ แก้ไขปัญหาสิว โดยเมื่อเราทาเซรั่มและครีมอย่างต่อเนื่อง จะทำให้หน้าของเราดูอ่อนเยาว์และป้องกันหน้าผิวหน้าแก่ก่อนวัยได้อีกด้วยครับ (5)

3. พักผ่อนให้เพียงพอ (6)

การพักผ่อนถือว่าสำคัญที่สุด เพราะในระหว่างการนอนร่างกายของเราจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ซึ่งรวมไปถึงผิวหน้าของเราด้วย ทั้งนี้ยังมีงานวิจัยพบว่าคนที่ไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอนั้นจะเกิดปัญหาเกิดขึ้นกับผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอยร่องลึก, จุดด่างดำ และ ผิวหน้าขาดความยืดหยุ่น แต่ในขณะเดียวกันคนที่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายซ่อมแซมให้ผิวได้กลับมาชุ่มชื่น เพราะร่างกายจะผลิตโกรทฮอร์โมน (เป็นการปรับปรุงและพัฒนาเซลล์), ลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย (ไม่ให้ไปทำลายคอลลาเจนในร่างกาย) และ ลดอาการอักเสบของผิวหน้า (ไม่ทำให้เกิดสิวและหน้าแห้ง)



4. กินอาหารที่มีประโยชน์

อาหารฟาสฟู้ดและของหวานอาจมีรสชาติที่อร่อยจนหยุดกินไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้เช่นกัน เพราะอาหารเหล่านี้มีไขมันและความหวานค่อนข้างมาก ซึ่งเมื่อร่างกายของเรารับสิ่งเหล่านี้มากเกินไปจะทำให้ร่างกายและผิวหน้าของเรานั้นดูแก่กว่าวัยอันควร ทั้งนี้ยังมีการรายงานอีกว่าหากเรารับของหวานมาก ๆ อาจทำให้เราพบความเสี่ยงต่อความแก่ก่อนวัยมากกว่าการโดนแสงอาทิตย์อีกตังหาก ฉะนั้นทางที่ดีเราควรเลือกทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพราะผักหรือผลไม้อาจเข้าไปช่วยบำรุงผิวของเราได้ เช่น มะละกอ (11) หรือ พริกหยวก (12) แต่อย่างไรก็ดีด้วยปัจจุบันที่มีการใช้สารเคมีในการเกษตรมากขึ้น ดังนั้นเราควรทราบ วิธี ล้างผลไม้ และผักสด เพื่อลดสารตกค้าง ที่ถูกต้องครับ

5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ความชุ่มชื้นของผิวหน้าถือเป็นสิ่งที่ใครหลายคนอาจเคยได้ยินหรือเห็นตามผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากความชุ่มชื้นนั้นสำคัญต่อผิวหน้าของเรามาก ๆ ซึ่งวิธีการที่จะเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีที่สุดคือการดื่มน้ำเปล่าที่เพียงพออย่างน้อย 8 – 10 แก้วต่อวัน (7) โดยวิธีนี้สามารถดูแลผิวของเราได้แบบธรรมชาติและไม่มีผลข้างเคียง

6. ออกกำลังกาย

มีการรายงานว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั้นจะช่วยเพิ่มเมแทบอลิซึม (8)  ซึ่งทำให้ร่างกายของเราสามารถย่อยอาหารได้ดีขึ้น ทั้งนี้ยังช่วยลดพุง, ทำให้บุคลิกภาพดี และลดเซลล์แก่หรือเซลล์ที่ชำรุดออกไปได้อีกด้วย โดยการออกกำลังกายนั้นก็มีอยู่หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการไปออกกำลังกายในฟิตเนส โดยการเล่น อุปกรณ์ฟิตเนส หรือ โฮมฟิตเนส อย่างเช่น ลูกกลิ้งบริหารหน้าท้อง, ดัมเบล, จักรยานออกกำลังกาย, ลู่วิ่งไฟฟ้า และ ครอสเทรนเนอร์ ทั้งนี้คุณอาจออกกำลังกายง่าย ๆ เช่น กระโดดเชือก หรือ หยิบ รองเท้าวิ่ง มาใส่แล้ววิ่งภายในหมู่บ้านของคุณครับ



ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

7. หลีกเลี่ยงน้ำตาลทรายขาว

หลายคนอาจเคยได้ยินใช่ไหมครับว่าการรับประทานน้ำตาลในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดโรคอ้วน, โรคหัวใจ และคอเลสเตอรอลสูง แต่แท้จริงแล้วผลเสียมีมากกว่านั้น เพราะค่าน้ำตาลในเลือดอาจทำให้มันมีผลกระทบต่อคอลลาเจนของเรา ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า ไกลเคชั่น (Glycation) (9)  ทั้งนี้เมื่อคอลลาเจนลดลงก็จะส่งผลให้ผิวหน้าของเราเกิดร่องรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของเรา แต่อย่างไรก็ดีไม่ได้หมายความว่าคุณห้ามกินน้ำตาลทรายขาวเด็ดขาด แต่ขอให้ลดปริมาณหรือหลีกเลี่ยงในการรับประทาน ถ้าสามารถทำได้ครับ

8. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็น ค็อกเทล, ไวน์ หรือเบียร์ จะทำให้ผิวหนังของไม่มีความชุ่มชื้น (10) ทั้งยังทำให้ผิวของเราดูสุขภาพไม่ดี ดังนั้นหากคุณสามารถหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ได้ ก็จะดีต่อผิวหน้าและสุขภาพของตัวคุณเองครับ

References: 

  1. Sunscreening Agents 
  2. Sun protection for preventing basal cell and squamous cell skin cancers
  3. Anti-aging and Sunscreens: Paradigm Shift in Cosmetics 
  4. Comparison of topical antiaging creams in the management of lateral canthal lines 
  5. Efficacy and Safety of an Anti-aging Technology for the Treatment of Facial Wrinkles and Skin Moisturization 
  6. Cues of Fatigue: Effects of Sleep Deprivation on Facial Appearance
  7. Water, Hydration and Health
  8. Exercise Attenuates the Major Hallmarks of Aging 
  9. The role of glycation in the pathogenesis of aging and its prevention through herbal products and physical exercise 
  10. Post-Exercise Rehydration: Effect of Consumption of Beer with Varying Alcohol Content on Fluid Balance after Mild Dehydration 
  11. Antioxidant and Immunostimulant Effect of Carica Papaya Linn. Aqueous Extract in Acrylamide Intoxicated Rats
  12. Antioxidant activities of two sweet pepper Capsicum annuum L. varieties phenolic extracts and the effects of thermal treatment
Lolipop

Lolipop

Create article about music and news with heart

Next Post
ดีลดีเบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดีเบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดีเบสท์รีวิวเลือกให้